สามีข้าคือขุนนางใหญ่ - บทที่ 68 พ่อลูก
ท่านโหวกู้มองกู้เจียวที่ปรากฏตัวขึ้น แล้วมองกู้เจียวจากไป โทสะในใจพลุ่งพล่านลุกโชนขึ้น
“เจ้าหยุดเดี๋ยวนี้นะ!” เขาตวาด
เฮอะ เจ้าให้ข้าหยุดก็หยุด เจ้าเป็นอะไรกับข้าอย่างนั้นรึ
กู้เจียวเดินจากไปอย่างสง่าผ่าเผย ไร้ท่าทีสะทกสะท้านต่อฐานันดรและความเดือดดาลของเขาเลยแม้แต่น้อย
ท่านโหวกู้อยู่มาค่อนชีวิตแล้วยังไม่เคยเห็นคนอวดดีเช่นนี้มาก่อน!
เขารู้จักตัวตนของนางผ่านคำบอกเล่าของลูกสาว นางเป็นเด็กจ่ายยาของหุยชุนถัง เจ้านายของนางอย่างหมอหลี่มีความดีความชอบรักษาเหยี่ยนเอ๋อร์ได้
ด้วยเหตุนี้ เขาจึงตัดสินใจไม่ถือสาที่นางไร้มารยาทในเมืองแห่งนี้
ทว่านางกลับอวดดีนัก เห็นเขาใกล้ตายอยู่ในหุบเขาลึกแต่ไม่ยอมช่วย!
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง แววตานางเมื่อครู่นี้ นึกไม่ถึงว่าชาวบ้านต้อยต่ำคนหนึ่งจะกล้ามองเหยียดท่านโหวแห่งแคว้นได้ นี่นางคงเบื่อจะมีชีวิตแล้วกระมัง จึงได้ท้าทายอำนาจของจวนติ้งอันโหวอย่างโจ่งแจ้ง!
รอให้เขาออกไปก่อนเถอะ เขาจะต้องลงโทษนางฐานความผิดดูหมิ่นเบื้องสูง!
ไม่ช่วยก็ไม่ช่วย เขาก็ออกไปเองได้เช่นกัน!
บรู้วววว
เสียงคล้ายหมาป่าหอนลอยมาจากป่าลึก
โดยปกติแล้ว หมาป่าที่โตเต็มวัยจะไม่หอนในตอนกลางวัน นี่เป็นหมาป่าเด็ก ซ้ำยังไม่อาจควบคุมสัญชาตญาณหมาป่าของตัวเองเอาไว้ให้ดีด้วย เสียงหอนแหลมที่มันร้องออกมา คงน่าจะหิวแล้ว
ไม่เกินจากที่คิดไว้ หมาป่าเต็มวัยใกล้จะต้องออกมาหาอาหารแล้ว
กู้เจียวนั่งลงใต้ต้นไม้ใหญ่ระแวกนั้น เริ่มเฝ้าต้นไม้รอหมาป่า
ท่านโหวกู้ที่อยู่ในหลุมกับดักชักกริชออกมา รูปร่างเขาสูงใหญ่ สำหรับเขาแล้วหลุมกับดักไม่ได้ลึก แต่ที่ยากก็คือขาเขาถูกกับดักสัตว์หนีบเอาไว้อยู่
เขากะว่าจะใช้กริชงัดกับดักสัตว์ออก ทว่านี่คล้ายจะไม่ใช่กับดักสัตว์ธรรมดาๆ เขางัดอยู่ครู่หนึ่งก็ไม่ขยับเลยแม้แต่น้อย
“งัดไม่ออกหรอก” กู้เจียวหยิบถุงน้ำออกมาดื่มอึกหนึ่งอย่างนิ่งๆ
กับดักสัตว์ที่นางทำสามารถปลดได้ง่ายๆ สิแปลก
ท่านโหวกู้ขมวดคิ้วมุ่น “เจ้ายังไม่ไปรึ ทำไมรึ รอดูสภาพน่าขันของข้าหรือไร”
กู้เจียวเอ่ยว่า “ท่านไม่น่าขัน และไม่น่าดูด้วย”
ท่านโหวกู้ “!!”
ไม่เข้าใจที่เขาพูดหรืออย่างไร
แล้วก็ เขาไม่น่าดูมันหมายความว่าอย่างไร
หาใช่ท่านโหวกู้ถือดี แต่เป็นความหน้าตาดีของท่านโหวกู้บดบังความสามารถของเขามาตั้งแต่เด็ก นี่เป็นครั้งแรกที่มีคนบอกว่าเขาไม่น่ามอง
หมาป่าเด็กหอนขึ้นมาอีกหลายครั้ง หมาป่าน่าจะใกล้เข้ามาแล้ว เขาไม่คิดว่าเด็กสาวคนหนึ่งจะมีปัญญาจัดการกับหมาป่าโตเต็มวัยตัวเดียวหรือกระทั่งหลายตัวได้หรอก
เขาตวาดขึ้นว่า “เจ้ามัวนิ่งเฉยอยู่ไย ยังไม่รีบคิดหาวิธีดึงข้าขึ้นไปอีก อีกเดี๋ยวหมาป่ามาแล้ว เจ้าเองก็จะไม่รอดด้วย!”
“รอเดี๋ยว” กู้เจียวเอ่ยบอก
รออะไร
รอต่อไปอีกหมาป่าคงได้มาจริงๆ แน่!
ท่านโหวกู้ร้อนรนดั่งไฟเผาทรวง
แม้ว่าเขาจะเป็นคนมีวรยุทธ แต่ก็ไม่อาจรับรองได้ว่าในสถานการณ์ที่โดนกับดักสัตว์หนีบขาไว้เช่นนี้ จะยังสามารถสังหารหมาป่าโตเต็มวัยได้
เสียงซอกแซกดังขึ้นจากในพุ่มไม้ หมาป่ามาแล้ว
กู้เจียวปีนขึ้นบนต้นไม้
ท่านโหวกู้เห็นนางไม่พูดไม่จาก็ปีนขึ้นต้นไม้ไป จึงโมโหจนเจ็บหน้าอกไปหมด
ช่วยเขาขึ้นมาก่อนแล้วค่อยปีนขึ้นต้นไม้มันจะตายหรือไร
จะทิ้งเขาไว้ในหลุมกับดักคนเดียว เพื่อรอสังเวยให้หมาป่าอย่างนั้นรึ
หมาป่าพบท่านโหวอยู่ในหลุมกับดักตามคาด ดวงตาสองข้างของมันเปล่งประกายมรกต อ้าปากที่เต็มไปด้วยเลือดออกกว้าง น้ำลายหยดติ๋งๆ ลงบนพื้น
ท่านโหวกู้กำกริชไว้ในมือแน่นไม่ขยับ
หมาป่ากระโดดลงไปในหลุมกับดักเสียงดังตุ้บ อุ้งเท้าข้างหนึ่งตะปบลงบนกริชของท่านโหวกู้ มันพุ่งไปกัดยังลำคอท่านโหวกู้อย่างแรง!
ร่างผอมบางร่างหนึ่งพุ่งลงมาจากฟ้า ดึงหัวหมาป่าเอาไว้ได้ทันเวลาอย่างหวุดหวิด เคียวด้ามหนึ่งปาดลำคอมันขาด…
เลือดสดๆ กระเด็นเปื้อนหน้าท่านโหวกู้
ท่านโหวกู้นิ่งงันไปทั้งร่าง!
ในชั่วขณะเมื่อครู่เขาคิดว่าตัวเองจะต้องตายอย่างไม่ต้องสงสัยเสียแล้ว ในพริบตาที่เลือดสดๆ กระเด็นออกมา ปฏิกิริยาแรกของเขาคือนึกว่าเป็นของตัวเอง จนกระทั่งหมาป่าตัวนั้นถูกกู้เจียวโยนลงกับพื้น เขาจึงได้รู้ว่าเป็นเลือดของหมาป่าตัวนั้น
กู้เจียวปัดมือ โน้มตัวลงใช้เคียวงัดกับดักสัตว์ให้เปิดออก
ท่านโหวกู้มองกู้เจียวที่สงบนิ่งใจเย็น จู่ๆ ก็สงสัยว่าตัวเองคงตาฝาดไป
เด็กสาวนางนี้ฆ่าหมาป่าตายไปตัวหนึ่งจริงๆ อย่างนั้นรึ ดูท่าทางนางทำเหมือนตัดผักกาดขาวไปหัวหนึ่งอย่างไรอย่างนั้น!
ชาติก่อนของกู้เจียวออกไปทำภารกิจ มีของน่ากลัวกว่าหมาป่าเยอะแยะจะตายไป หากแค่หมาป่าตัวเดียวยังฆ่าไม่ได้ นางคงตายอยู่ในภารกิจเป็นร้อยเป็นพันหนแล้วล่ะ
กู้เจียวมือหนึ่งหิ้วหมาป่า มือหนึ่งถือเชือกที่ห้อยลงมาจากต้นไม้ ก้าวออกจากหลุมกับดักไปสองสามก้าว
“จะขึ้นมาหรือไม่” กู้เจียวโยนเชือกลงไปให้เขา
ท่านโหวกู้ไม่มีทางยอมรับว่าตัวเองตกตะลึงกับเด็กสาวนางนี้ เขาคว้าเชือกมาจับอย่างนิ่งอึ้ง ปล่อยให้กู้เจียวดึงเขาขึ้นมา
กับดักสัตว์ของกู้เจียวไม่ได้แหลมคม เพียงแค่งับแน่นเฉยๆ ทว่าขาอีกข้างของเขากลับกะเผลกไป แถมบวมเสียมากด้วย
เขานั่งลงกับพื้นอยู่ครู่หนึ่งจึงได้สติขึ้น “เมื่อครู่นี้เจ้า…เอาข้ามาเป็นเหยื่อล่อใช่หรือไม่”
กู้เจียวไม่ได้ตอบคำ
ท่านโหวกู้กัดฟัน “รีบบอกมา! เอาข้ามาเป็นเหยื่อล่อใช่หรือไม่”
กู้เจียวนิ่งเฉยต่อการพินิจมองอย่างละเอียดของเขา “สถานการณ์เช่นนั้น ท่านไม่เป็นเหยื่อล่อก็คงจะโดนวิ่งไล่ล่า อีกทั้งในหลุมกับดักก็สะดวกให้ข้าฆ่ามัน บนพื้นราบนั้น ท่านคงโดนมันกัดสักคำสองคำแน่”
ท่านโหวกู้เดือดดาลจนกัดฟันกรอดๆ “ดังนั้นเจ้าจึงเอาข้ามาเป็นเหยื่อล่อ! เจ้ามันสตรีเถื่อนเหี้ยมโหด!”
กู้เจียวเอ่ยว่า “ข้าไม่ใช่สตรีเถื่อน ข้ามีพ่อมีแม่”
ท่านโหวยิ้มเย็นเอ่ยว่า “อย่างนั้นหรือ เช่นนั้นพ่อเจ้าอยู่ที่ใดเล่า”
กู้เจียวครุ่นคิดอยู่พักหนึ่ง ตอบไปอย่างจริงจังว่า “เขามาไม่ได้ แต่หากท่านกลับจะไปพบเขาได้”
ท่านโหวกู้ถลกแขนเสื้อ “ได้ เจ้าว่ามา เขาอยู่ที่ใดรึ”
ลูกไม่ดีเป็นความผิดบิดา เขาอยากจะเห็นนักว่าไอ้สารเลวคนไหนมันให้กำเนิดเด็กสาวเหี้ยมโหดเช่นนี้มา!
กู้เจียวเหลือบมองปลายเท้าเขา “เขาอยู่ใต้ดิน”
ท่านโหวกู้ “…”
กู้เจียวเก็บข้าวของเตรียมจะลงเขา
ท่านโหวกู้เอ่ยเสียงเย็นชาว่า “เจ้าจะทิ้งข้าไว้ที่นี่ไม่สนใจใยดีแล้วอย่างนั้นรึ”
กู้เจียวมองเขาด้วยความแปลกประหลาดแวบหนึ่ง
เจ้าเป็นอะไรกับข้าล่ะ ทำไมข้าต้องสนใจเจ้าด้วย
ท่านโหวกู้เจ็บหน้าอกขึ้นมาอีกแล้ว เรียกได้ว่าเขาค้นพบแล้วว่า เด็กสาวนางนี้ไม่เคยเห็นโลกมาก่อน ไม่รู้จักอำนาจของท่านโหวคนหนึ่งว่ามีมากมายเพียงใด ก็เหมือนที่โบราณว่าไว้ ลูกวัวเพิ่งเกิดไม่กลัวเสือ
ท่านโหวกู้เอ่ยด้วยสีหน้าเคร่งขรึม “โชคดีที่ข้าไม่ใช่คนกระหายเลือด”
มิฉะนั้นเจ้าได้ตายไปแล้วแน่นอน!
กู้เจียวมองเขาอย่างลุ่มลึกแวบหนึ่ง พยักหน้าเอ่ยว่า “โชคดีจริงๆ นั่นแหละ”
คนที่อยากฆ่านาง แน่นอนว่านางจะจัดการอย่างสะอาดหมดจดอยู่แล้ว
ท่านโหวกู้ เหตุใดจึงรู้สึกว่าท้าทอยมันเย็นๆ นะ…
“เจ้ารู้หรือไม่ว่าวัดใกล้ๆ นี้ไปทางไหน” ท่านโหวกู้ถามขึ้น
“ทราบ” กู้เจียวเอ่ยบอก
“นำทางไป” ท่านโหวกู้สั่ง
กู้เจียวมองศพหมาป่าบนพื้นด้วยสีหน้าลังเล
ท่านโหวกู้รู้ว่านางหักใจจากหมาป่าตัวนี้ไม่ได้ หมาป่าตัวนี้เอาไปแลกเป็นเงินที่ตลาดได้ไม่น้อย สำหรับครอบครัวชาวไร่ชาวนาที่ยากจนข้นแค้นแล้ว นี่เป็นเงินไม่ใช่น้อยๆ
เขาเอ่ยด้วยความรำคาญว่า “ข้าซื้อเอง!”
กู้เจียวไม่ปฏิเสธ “ยี่สิบตำลึง”
ท่านโหวกู้คว้าเอาตั๋วเงินยี่สิบตำลึงหนึ่งใบส่งให้นาง “ตอนนี้ก็ไปได้แล้วกระมัง”
กู้เจียวเก็บตั๋วเงินเรียบร้อยก็มองไปยังศพหมาป่าบนพื้นอีกครั้ง “ท่านคิดจะจัดการมันอย่างไร”
ท่านโหวกู้เอ่ยโดยไม่ต้องคิดว่า “โยนทิ้ง!”
“ท่านแน่ใจว่าจะโยนทิ้ง?” กู้เจียวมองเขาด้วยความฉงน
ท่านโหวกู้เอ่ยอย่างไม่แยแสว่า “หมาป่าตัวเดียวเอง ข้าทิ้งไม่ได้หรือไร ยังไม่รีบนำทางไปอีก”
“อ้อ” กู้เจียวโน้มตัวลงคว้าหมาป่าขึ้นมาแบกไว้บนบ่า “ท่านทิ้งไปแล้ว นี่ข้าเป็นคนเก็บมา อย่ามาทวงคืนจากข้าก็แล้วกัน”
ท่านโหวกู้ “!!!”