CatNovel
  • หน้าหลัก
  • แทงหวย24
  • นิยายทั้งหมด
Advanced
  • หน้าหลัก
  • แทงหวย24
  • นิยายทั้งหมด
  • โดจิน
  • นิยายทั้งหมด
  • จบแล้ว
  • นิยายวาย Yaoi
ตอนก่อน
ตอนต่อไป
สล็อตเว็บตรง

สามีข้าคือขุนนางใหญ่ - บทที่ 388 ติดหนึบ (1)

  1. Home
  2. สามีข้าคือขุนนางใหญ่
  3. บทที่ 388 ติดหนึบ (1)
ตอนก่อน
ตอนต่อไป

บทที่ 388 ติดหนึบ (1)

อีกทางด้านหนึ่ง ฮ่องเต้ผ่านพ้นค่ำคืนอันสับสับอย่างหาใดเทียมไม่ได้ เว่ยกงกงก็ไม่กล้าเร่งพระองค์ จวบจนใกล้รุ่ง เว่ยกงกงจึงได้หอบความกล้าเดินเข้าห้องทรงอักษรมาก่อนจะเอ่ยเสียงแผ่วเบา “ฝ่าบาท จะถึงเวลาประชุมเช้าแล้วพ่ะย่ะค่ะ”

“อืม”

ฮ่องเต้ขานรับเสียงทุ้มต่ำ

เว่ยกงกงไม่อาจจินตนาการเลยว่าตลอดทั้งคืนที่ผ่านมาพระองค์จะสับสนเพียงใด จึงทำเพียงเดินตามหลังฮ่องเต้สายตาแน่วแน่ไม่ล่อกแล่ก ปรนนิบัติฮ่องเต้สรงน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นชุดคลุมมังกร

เนื่องจากไม่ได้บรรทมทั้งคืน ใต้ตาของฮ่องเต้จึงคล้ำดำเป็นวงใหญ่ทั้งสองข้าง ถึงขนาดที่ว่าพวกขุนนางแถวแรกที่อยู่ไกลลิบ ยังสังเกตเห็นได้

เจ้ากรมพระคลังถือแผ่นไม้ฮู่ป่านเหลือบมองราชครูจวงแวบหนึ่ง ก่อนจะกดเสียงกระซิบแผ่วเบา “ฝ่าบาทเป็นอะไรรึ”

ราชครูจวงกระซิบเอ่ย “คงจะราชกิจรัดตัว”

“เพราะเรื่องชายแดนหรือไม่” เจ้ากรมพระคลังถาม

หนิงอ๋องกับถังเย่ว์ซานไปปราบโจร และพบว่าชายแดนแคว้นเฉินกำลังเคลื่อนไหวที่จะก่อการร้าย กษัตริย์แคว้นเฉินประกาศกับภายนอกว่าจะแต่งตั้งฮองเฮาคนใหม่ เรียกความสนใจจากแคว้นอื่นๆ แต่ใครจะรับประกันได้ว่าแคว้นเฉินจะไม่ลอบเดินทัพมายังแคว้นเจา

เจ้ากรมพระคลังไม่รอให้ราชครูจวงได้ตอบก็จุ๊ๆ ปากเอ่ย “เชลยแคว้นเฉินยังอยู่ที่แคว้นเจาอยู่เลย พวกเขาก็อดรนทนไม่ไหวจะออกศึกแล้ว นี่ไม่สนใจความเป็นความตายของเชลยแคว้นเฉินเลยหรือไร”

ราชครูจวงคิดในใจว่า ตอนที่เซวียนผิงโหวนำทัพไปโจมตีแคว้นเฉินนั้น อันจวิ้นอ๋องก็เป็นเชลยอยู่ที่แคว้นเฉินมิใช่หรือไร

พอคิดเช่นนี้ ตอนนั้นฝ่าบาทกับเซวียนผิงโหวก็ไม่สนใจความเป็นความตายของอันจวิ้นอ๋องเลยเช่นกัน

ทว่าเซวียนผิงโหวทำศึกครานั้นได้งดงามยิ่งนัก ไม่เพียงแต่จะส่งคนไปคุ้มกันอันจวิ้นอ๋องเอาไว้ก่อนเพื่อไม่ให้เขาตกสู่เงื้อมมือแคว้นเฉินกลายเป็นเชลยศึกเท่านั้น ยังเป็นยุทธวิธีที่ทำให้ตื่นตระหนกและตกใจกลัวด้วย แทบจะพลิกวังหลวงของแคว้นเฉินเลยทีเดียว

แต่ไม่รู้ว่าแคว้นเฉินจะมีแม่ทัพที่ทั้งชาญฉลาดและกล้าหาญเช่นนี้อยู่หรือไม่

การประชุมเช้าวันนี้ไม่ได้มีอะไรพิเศษ นอกจากผู้ตรวจการบางคนที่มีเชื้อสายของราชครูจวงยื่นมติไม่ไว้วางใจขุนนางใหญ่คนสนิทของฮ่องเต้คนหนึ่ง เหตุผลคืออีกฝ่ายเข้าออกหอนางโลม ทำให้เสื่อมเสียตำแหน่งราชการ

พูดกันตามตรง โทษอย่างการเที่ยวหอนางโลมนั้นยากที่จะโค่นล้มลงได้ และมีแค่พวกผู้ตรวจการที่มองอะไรก็ขวางหูขวางตาไปหมดที่จะทำเช่นนี้ ทุกคนต่างคิดว่าฮ่องเต้คงไม่ประทับตรารับพิจารณาหรอก

ใครจะรู้ว่าฮ่องเต้จะโบกพระหัตถ์ ให้หัวหน้าศาลต้าหลี่จัดการบุคคลนี้อย่างเคร่งครัด

พวกขุนนางต่างมึนงงกันทันที

บะ…แบบนี้ก็ได้ด้วยรึ

“ฝ่าบาท!” เจ้ากรมโยธาเดินขึ้นหน้ามา แม้แต่เขาที่เป็นคนนอกยังทนมองไม่ได้ มีใครเคยใช้โทษเที่ยวหอนางโลมมายื่นมติไม่ไว้วางใจกันบ้าง หากจะว่าเช่นนี้ เซวียนผิงโหวก็ควรโดนปลดหมวกขุนนางทิ้งไปไม่รู้กี่ครั้งกี่หนแล้วสิ

“คนผู้นี้เคยดูหมิ่นไทเฮา ต่อหน้าเราก็ยังกล้าตำหนิไทเฮา ขุนนางกังฉินเช่นนี้ ต้องลงโทษอย่างเด็ดขาดโดยไม่มีการผ่อนผัน เราตัดสินใจแล้ว ขุนนางทุกท่านไม่ต้องหารือกันอีก” ฮ่องเต้ตรัสด้วยสีหน้าจริงจัง ก่อนจะหันไปมองจวงไทเฮาที่นั่งอยู่หลังม่านแวบหนึ่ง แววตาค่อนข้างตื่นเต้น ราวกับกำลังพูดว่า ‘รีบชมเราสิ รีบชมเราสิ!’

จวงไทเฮาไม่สนใจพระองค์

หลังประชุมเช้า ฮ่องเต้ก็ไล่ตามเกี้ยวหงส์ของจวงไทเฮา

จวงไทเฮากำลังมีชีวิตชีวาการเสียสละผลไม้เชื่อมห้าลูก นางข่มใจออกจากเกี้ยวหงส์มามองพระองค์ด้วยสีหน้าอ่อนโยน “ฮ่องเต้มาหาข้ามีธุระอะไรรึ”

ฮ่องเต้ตรัส “ข้ามีเรื่องอยากคุยส่วนตัวกับเสด็จแม่”

คำเรียกแทนตัวสมัยก่อนของพระองค์ไม่ใช่ ‘เรา’ แต่เป็น ‘ลูก’ แฝงไว้ด้วยความถากถาง จนใจที่จวงไทเฮาสนใจแต่ผลไม้เชื่อมห้าลูกของนาง ไม่ได้สนใจความนัยที่พระองค์เรียกแทนตัวเองเลยสักนิด

จวงไทเฮาไล่คนรับใช้ออกไป ฮ่องเต้ก็ไล่เว่ยกงกงและคนอื่นๆ ไปเช่นกัน บนถนนสายเล็กๆ อันทอดยาวจึงเหลือเพียงสองคนแม่ลูก

ฮ่องเต้ว้าวุ่นมาทั้งคืนเพิ่งจะตัดสินใจได้ว่าจะเล่าทุกอย่างให้จวงไทเฮาฟัง นางเป็นหนึ่งในผู้ถูกกระทำของเรื่องนี้ นางมีสิทธิ์จะได้รู้ความจริง

เพียงแต่อารมณ์ของพระองค์ยังคงว้าวุ่นอยู่มาก ด้วยเหตุนี้การพูดการจาจึงค่อนข้างไม่ต่อเนื่องเท่าใดนัก โชคดีที่จวงไทเฮาเข้าใจ อีกทั้งยังมองออกว่าลูกชายทึ่มๆ คนนี้ให้บัวลอยงาดำกับเซียวลิ่วหลังไปแล้ว

ทว่าความจริงก็คือความจริง เซียวลิ่วหลังไม่ได้บิดเบือนความจริง

“…ข้าก็คิดไม่ถึงว่าเสด็จแม่จิ้งจะทำเช่นนั้น…แต่เสด็จแม่วางใจได้เลย ข้าทำลายราชโองการไปแล้ว…”

พระองค์ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าตัวเองแสดงออกชัดพอหรือไม่ การแสดงออกของไทเฮาจึงได้สงบนิ่งนัก พระองค์จึงสงสัยว่านางคงยังไม่เข้าใจ

พระองค์เอ่ยต่อ “แล้วก็ความสัมพันธ์กับเสด็จแม่ในหลายปีมานี้…อันที่จริงเป็นการเข้าใจผิด…หลายปีมานี้ข้าโดน…”

“ดังนั้นจึงไม่ต้องเล่นละครต่อแล้ว”

จวงไทเฮาเอ่ยขัดฮ่องเต้ขึ้นมา

ฮ่องเต้ชะงักไปเล็กน้อย

เอ่อ…ประเด็นคือ…เรื่องนี้รึ

ไม่เล่นละครต่อก็หมายความว่าจะไม่มีผลไม้เชื่อมห้าลูกอีกแล้ว

ฮ่องเต้ที่ไม่มีผลไม้เชื่อมก็พลันหมดแรงดึงดูดไปทันที รอยยิ้มจวงไทเฮาพลันหุบลง ก่อนจะหันหลังไปอย่างรังเกียจ “ข้าไปล่ะ!”

ฮ่องเต้ “…”

พระองค์พูดออกไปแต่ได้เพียงความหว่าเว้กลับมาอย่างนั้นหรือ!

ปฏิกิริยาเย็นชาของจวงไทเฮาโจมตีฮ่องเต้เข้าอย่างจัง ฮ่องเต้ย่อมไม่มีทางนึกไปถึงตนเองไม่มีค่าพอที่จะนำไปต่อรองกับผลไม้เชื่อมห้าผลเป็นแน่ พระองค์ดื้อดึงที่จะคิดว่าจวงไทเฮากำลังโกรธพระองค์ โกรธที่พระองค์ทำร้ายนางมาหลายปีเพียงนี้

เรื่องบางเรื่องพอคิดตกแล้วก็เป็นเวลาชั่ววูบเท่านั้น

ทว่าหุบเหวบางที่กลับพังทลายมายี่สิบกว่าปีแล้ว

ฮ่องเต้เสด็จไปตรอกปี้สุ่ยอีกแล้ว

เซียวลิ่วหลังเดาไว้แล้วว่าไม่กี่วันนี้ฮ่องเต้จะไปมาที่ตรอกปี้สุ่ยบ่อยๆ แน่ จึงลาหยุดกับสำนักฮั่นหลินโดยเฉพาะ เพื่ออยู่บ้าน ‘ดูแล’ กู้เจียว

กู้เจียวนั่งอยู่บนเตียง กินดีอยู่ดีอีกทั้งยังได้ชื่นชมดวงหน้าหล่อเหลาของสามีตัวเองอีกด้วย

เซียวลิ่วหลังนั่งลงบนม้านั่งข้างเตียงพลางปอกส้มให้นาง

เขามีกระดูกข้อต่อชัดเจน นิ้วเรียวยาว และเขาก็ทำงานหนักเช่นกันแต่เกิดมาหน้าตาดี รูปงามดุจหยก

เดี๋ยวกู้เจียวมองใบหน้าเขา เดี๋ยวก็มองมือเขา

แม้ว่าเซียวลิ่วหลังจะชินชาแล้วกับการพินิจมองโต้งๆ ของนางเช่นนี้ แต่ก็อดสงสัยไม่ได้

น่ามอง…จริงๆ น่ะรึ

เขาเป็นคนพิการ อาจจะเป๋ไปตลอดชั่วชีวิตเลยก็ได้ ต้องลากร่างเป๋ๆ พิการๆ ไปตลอดชีวิต นางอยู่กับเขาก็จะโดนคนอื่นวิพากษ์วิจารณ์ตลอดไป

“กู้เจียว ข้าเป็นคนพิการนะ”

เขาไม่ทันระวังจึงโพล่งความในใจออกมา

กู้เจียวส่งเสียงอ้อออกมา “ข้ารู้อยู่แล้ว”

เซียวลิ่วหลังปอกส้มในมือต่อ “เจ้าไม่ถือสาจริงๆ น่ะรึ ข้าอาจจะ…ไม่หายเลยก็ได้ เจ้าก็เห็นแล้วว่าข้าพยายามฟื้นฟูร่างกายมาก ไม่ขาดตกแม้แต่วันเดียว แต่ข้าก็เดินไม่ได้แล้ว…เดินเหมือนอย่างพวกเจ้าไม่ได้แล้ว”

นางคงจะเกิดความหวังและเฝ้าคอยอยู่ในใจกระมัง รอคอยให้มีสักวันที่เขาจะเดินได้เหมือนอย่างคนปกติ

ทว่าเขากลัวว่าจะทำไม่ได้จริงๆ

เมื่อความอดทนของนางหมดลง นางยังจะมองเขาเหมือนอย่างตอนนี้หรือไม่

ความรู้เป็นสิ่งที่ล้ำลึก ใส่ใจมากเท่าใดก็ไร้ความมั่นใจมากเท่านั้น

เมื่อก่อนเขาก็รู้สึกว่าขาเป๋ไปข้างหนึ่งก็ไม่เห็นเป็นไร อย่างไรเสียชีวิตก็มืดมิดไปหมดแล้ว ไม่มีใครเห็น เขาเองก็มองไม่เห็น ที่มองเห็นได้เขาก็ทำเป็นว่าพวกเขามองไม่เห็น

ทว่าจู่ๆ ก็มีวันหนึ่งที่นางจุดตะเกียงให้สว่างขึ้น จุดหนทางใต้ฝ่าเท้าเขาให้สว่างขึ้น และส่องร่างกายน่าสมเพชของเขาให้สว่าง

กู้เจียวมองเขาอย่างแปลกใจ เขาไม่สนใจขาตัวเองไม่ใช่หรือ ตอนนั้นที่ผ่าตัดให้เขาเฝิงหลินยังตกใจเกือบตาย แต่เขากลับไม่ใส่ใจเลยสักนิด

เหตุใดยามนี้จึงคิดสนใจขึ้นมากันเล่า

กู้เจียวพลันเดาใจเขาไม่ออก นางครุ่นคิด ก่อนจะชี้ไปที่ตำหนิบนหน้าตัวเองพลางเอ่ย “แล้วเจ้าถือสาที่ข้าหน้าตาอัปลักษณ์เช่นนี้หรือไม่”

นางไม่รู้ว่าบนหน้านางน่ะคือจุดแดงพรหมจรรย์ นึกว่ามันจะติดตัวไปตลอดชีวิต

เซียวลิ่วหลังอ้าปากพะงาบ

เด็กโง่

เขาจะไปถือสาได้อย่างไรกันล่ะ

ยิ่งไปกว่านั้นของพรรค์นี้มันหายไปได้

พอเจ้ากลายเป็นคนสมบูรณ์แบบแล้ว ยังจะรู้สึกว่าร่างพิการๆ อย่างข้าคู่ควรกับเจ้าหรือไม่

ตอนก่อน
ตอนต่อไป

ความคิดเห็นทั้งหมดของ "บทที่ 388 ติดหนึบ (1)"

ใส่ความเห็น ยกเลิกการตอบ

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

*

*

  • อ่านนิยาย
  • แทงหวย24

© 2020 cat-novel.com
เว็บอ่านนิยาย นิยาย pdf เว็บ “cat-novel.com” เว็บอ่านนิยายสนุกๆ เพลิดเพลินไปกับนิยายต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น นิยายวาย, นิยายจีน, นิยายรัก, แฟนตาซี, กำลังภายใน, ผจญภัย สุดยอดวิชากำลังภายใน อัพเดททุกวัน พร้อมรองรับการอ่านบนมือถือ คอมพิวเตอร์ ไอแพด หรือแท็บเล็ต อ่านได้ตลอดเวลา ไม่มีโฆษณา อ่านนิยายฟรีต้อง เว็บ ”cat-novel.com”
นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์