สามีเก่าอ้อนรัก - ตอนที่ 157
บทที่ 157 ชัดเจนว่าคุณไม่ได้รักเขา
เซียวหันถิงใช้อ้อมกอดของเจ้าหญิงในการกอดเสิ่นอีเวยเอาไว้ แม้จะถอดเสื้อออกเขาก็ยังรับรู้ถึงความรู้สึกที่เร่าร้อน ความร้อนนั้นร้อนไปถึงในใจของเขา
เสิ่นอีเวยรู้สึกว่าตัวเองนั้นสะลึมสะลือ ในสถานที่ที่สว่างไสว แต่เธอกลับเห็นแสงไฟที่ริบหรี่ไม่ชัดเจน
เพราะว่าเป็นยามกลางคืน ดังนั้นในห้องโถงเลยไม่มีคนมากมายนัก เซียวหันถิงเลยได้เดินไปยังลิฟต์ เพราะว่าในใจรีบร้อนยิ่งนัก ดังนั้นเลยไม่ได้สังเกตว่าตรงที่ประตูไกลมีผู้ชายคนหนึ่งอยู่
เซียวหันถิงก็ได้เข้าไปในลิฟต์ และได้กดปุ่มไปยังห้องวีไอพี ซึ่งเป็นการขึ้นลิฟต์ที่ไม่มีการหยุดรอใคร
ร่างกายของเสิ่นอีเวยก็ได้ถูกวางลงบนเตียงอันแสนนุ่ม เซียวหันถิงได้มองคนบนเตียงนั้น รู้สึกว่าคอแห้งมาก เลยไปดื่มน้ำในแก้วนั้น เขาได้ยืนอยู่ข้าง ๆ เตียง มองเธอด้วยความรู้สึกที่หมุ่นมัว ชัดเจนว่าเหมือนได้กำลังผ่อนคลายอย่างไรอย่างนั้น
ความจริงแล้วสวีอันฉิงพูดไม่มีผิดเลย ความรู้สึกที่เขามีต่อเสีนอีเวยนั้นเหมือนกับการใช้ความดีในการเปลี่ยนแปลงคน
ตัวเองนันเป็นผู้ชายที่ประสบความสำเร็จตอนอายุสามสิบไม่ใช่ไม่รู้ว่าความใกล้ชิดของชายหญิงจะมีอิทธิพลอย่างไร แต่ทุกอย่างกลับเป็นไม้หล่นมีความหมายแต่สายน้ำไร้อาลัย นานขนาดนี้เสิ่นอีเวยกลับไม่เคยให้ความหวังเขาเลย แม้กระทั่งในมุมที่มืดมิดก็ไม่มี
เขาจึงคิดว่าตัวเขานั้นก็มีชื่อเสียงอยู่ในระดับหนึ่ง ดังนั้นไม่ว่าจะอยู่ในเหตุการณ์อะไรก็ไม่อาจจะที่จะทำอะไรเกินเลยแม้แต่นิดเดียว
แต่ครั้งนี้กลับไม่เหมือนกันทำไมช่วงนี้ที่อยู่ต่อหน้าเธอทีไรรู้สึกทำให้ใจสั่นทุกที สวีอันฉิงได้กระทำแผนการให้เธอมาอยู่ตรงหน้าขนาดนี้ ในสถานการณ์เช่นนี้ทำให้เขารู้สึกถึงว่าไม่อาจจะสามารถควบคุมได้แล้ว
พอมองไปยังเสิ่นอีเวยอีกครั้ง เพราะว่ารู้สึกลำบากเลยได้เงยคอขึ้นมาเห็นเหงื่อที่กำลังไหล เผ้าผมก็สะบัดอยู่บนใบหน้า ทำให้เห็นถึงใบหน้าที่เหมือนรูปไข่ ลมหายใจเบา ๆ ของเธอ อีกดวงตาหนึ่งคู่ของเธอ และได้เห็นเหมือนกับมีผู้ชายใส่เสื้อสีดำยืนอยู่ตรงหน้าเธอ ในระหว่างที่สะลึมสะลือนั้น และได้พูดกับผู้ชายในความทรงจำของเธอ
ริมฝีปากสีแดงของเธอ พูดว่า “เซิ่ง….”
เซียวหันถิงพอได้ยินก็ถึงแซ่สกุลนั้นขึ้นมา ใบหน้าก็เปลี่ยนไป แล้วเดินมานั่งยังบนเตียง สองมือก็ได้จับไหล่ของเธอเอาไว้ น้ำเสียงก็มีความเยือกเย็น “เมื่อกี้คุณพูดอะไรน่ะ ? คุณเรียกชื่อใคร ? “
เสิ่นอีเวยได้พูดคุยกับคนที่อยู่กับเธอ ตาก็ขยายใหญ่ขึ้น มือที่ขาวปานหยกก็ได้จับเธอเอาไว้ แล้วพูดอย่างเสียงเบา ๆ ว่า “เซิ่งเจ๋อเฉิง “
เซียวหันถิงก็เกิดความโมโหขึ้น “เชิ่ง” แล้วเขาก็เต็มไปด้วยน้ำเสียงที่โมโห “คุณก็รักเขาขนาดนี้ เขากลับไม่ได้รักคุณเลย ผมไม่อาจจะอนุญาตให้คุณเรียกชื่อเขาต่อหน้าผม “
ความโมโหของเขา ทำให้สายตานั้นเปลี่ยน มือทั้งสองข้างก็ปิดบังเอาไว้
เสื้อกันหนาวของเธอก็ถูกถอดออกมาแล้ว ข้างในก็เหลือแต่เสื้อเชิ้ตสีอ่อน ๆ แม้จะไม่รัดรูป แต่เพราะว่ามีความบาง แต่ก็สามารถเห็นเสื้อในข้างในและยกทรงได้
แม้จะในระยะเวลานั้นอันสั้นไม่สามารถที่จะให้ผู้ชายคาใจได้ แต่อย่างไรก็ตามก็สามารถทำให้ผู้ชายหันมาสนใจได้
ภาพต่อหน้าเขาในครั้งนี้ ชัดเจนว่าในท้องน้อยของเขานั้นก็กำลังจะเกิดไฟที่สุมทรวง ทำให้กระแสไฟไหลผ่านร่างกาย
กระดุมเสื้อของเธอก็ถูกผู้ชายดึงออกไป แต่ไหล่ของเธอก็ยังไม่เอาออกจากคอของเธอ ในความรู้สึกของเธอนั้นก็ชัดเจนแล้วว่าผู้ชายคนนี้คือคนที่เธอคิดเอาไว้
เซียวหันถิงก็ได้ด่าว่า “สมควรตาย”
เสื้อเชิ้ตก็ได้หลุดออกจากหัวไหล่ หัวไล่ของเธอช่างกลมเหลือเดิน ไม่มีเนื้อส่วนต่างที่มากออกมา มีความขาวสด กระดูกที่เป็นชิ้น ๆ แล้วขาวอวม ๆ เสื้อในสีดำที่มีการเก็บมิดชิด แต่ในสถานการณ์เช่นนี้กลับไม่สามารถควบคุมตนเองได้แม้แต่นิดเดียว
แต่เสิ่นอีเวยก็ยังคงกอดคอของเขาอย่างไม่ขยับ
เซียวหันถิงได้มองไปยังคนที่ขาดสติ และได้หยุดไปสักครู่ ในที่สุดกำลังจะไปสัมผัสไหล่แขนของเธอ
“ เพิง “
ประตูในห้องทันใดนั้นก็ถูกถีบเปิดออกมา เซียวหันถิงมือของเขาก็หยุดอยู่ตรงกลางอากาศ ไม่สามารถที่จะเก็บได้ทัน เขาจึงรีบหันกลับมาแล้วมองไปยังประตู
คือเซิ่งเจ๋อเฉิง
ผู้ชายเสื้อดำยืนอยู่ตรงประตู ต่อให้เมื่อสักครู่นี้จะทำกิริยาที่มากเกินกว่านี้ แต่ว่าใบหน้าก็ยังคงความสุขุมอยู่
สายตาของเขาช่างเยือกเย็น ผู้ชายสองคนทำให้อุณหภูมิในห้องรู้สึกลดลงไปหลายองศา เซิ่งเจ๋อเฉิงท่าทางปกติไม่สามารถดูออกถึงอารมณ์ใด ๆ สายตาของเขาก็ได้ขยับแล้วหันออกไปจากการมองเซียวหันถิง