สามีเก่าอ้อนรัก - ตอนที่ 171
บทที่ 171 มีลูกให้ฉันสักคน
เสิ่นอีเวยแสดงสีหน้าที่สงบนิ่งแต่ไม่มีใครรู้ว่าในใจนั้นมันเหมือนพายุในทะเลที่กำลังก่อตัวขึ้นพร้อมที่จะถาโถมเข้ามา นิสัยคนอย่างเซิ่งเจ๋อเฉิงมันทำให้คนเดาใจไม่ออกจริงๆ ยิ่งตอนอยู่ตอนหน้าหล่อนแล้วด้วย หล่อนแทบเดาไม่ออกเลยว่าเขาจะมาพลิกไพ่ใบไหนขึ้นมาเล่น
มาถึงตอนนี้ เซิ่งเจ๋อเฉิงก็ช่วยเธอแล้วด้วย สิ่งที่ขาดอยู่ก็คือสิ่งที่เขาขอร้องให้เธอทำ เธอกระวนวายใจกลัวว่าสิ่งที่เซิ่งเจ๋อเฉิงขอเธอนั้นกลัวว่าเป็นการขอร้องที่มันเป็นไปไม่ได้
ทว่าเรื่องมันจะเกิดก็ต้องเกิดจะยืดเยื้อเวลาไว้ก็ไม่มีประโยชน์ เสิ่นอีเวยสูดลมหายใจเข้า สายตาเธอดูหนักใจอยู่ไม่น้อยเลยถาม: “งั้นคุณมีเรื่องอะไรให้ฉันช่วย?”
แต่เซิ่งเจ๋อเฉิงไม่ตอบทันที เขาจ้องมองดวงตาของหล่อนอย่างเย็นชาแล้วค่อยๆลุกขึ้นจากเก้าอี้นั่งแล้วเดินมาหยุดที่ด้านหน้าของเธอ ระยะห่างของทั้งคู่ช่างใกล้กันมาก เสิ่นอีเวยรับรู้ความรู้สึกการกดดันเบาๆจากฝ่ายตรงข้าม ในใจเธอถึงกับเครียดขึ้นมา
เซิ่งเจ๋อเฉิงสูงกว่าเธอมาก ใบหน้าบอบบางเล็กๆของเสิ่นอีเวยปรากฏอยู่บนดวงตาของเขา
อะไรที่หายไปก็ควรเรียกมันกลับมา
“ช่วยมีลูกให้ฉันสักคน”
น้ำเสียงปกติธรรมดาของเซิ่งเจ๋อเฉิงมันทำให้คาดเดาไม่ออกว่าสิ่งที่เขาพูดออกมาในเวลานั้นมันหมายความว่ายังไงกันแน่
เสิ่นอีเวยตกตะลึงไปสักพัก ตกใจจนเบิกตาโตจนเหมือนลูกตาจะหลุดออกมาจากเบ้าตา หล่อนคิดว่าหล่อนฟังผิด: “เมื่อกี้คุณพูดว่าอะไรนะ?”
ในดวงตาเซิ่งเจ๋อเฉิงกลับมีความเย็นชาทอประกายออกมา เขาอ่านสิ่งที่อยู่ในใจเธออก : “เสิ่นอี
เวยเธอก็ฟังชัดแล้วนี่อย่ามาแสดงละครต่อหน้าฉัน”
หล่อนดูอากัปกิริยาเคร่งขรึมของเขาเลยรู้ว่าเขาไม่ได้ล้อเล่น
“คลอดลูดให้หนึ่งคน คุณแน่ใจแล้วหรอ?” น้ำเสียงเสิ่นอีเวยสั่นบ้าง
หล่อนพยายามที่จะบังคับอารมณ์ของตัวเอง แต่การขอร้องของเขาแบบนี้มันช่างยากแก่การหลีกเลี่ยงที่จะคิดถึงลูกของตัวเองที่เสียไป
ราวกับหัวใจกำลังถูกมือขนาดใหญ่บีบรัดเข้าแรงๆเจ็บหนักขึ้นเรื่อยๆ
หล่อนใช้เวลานานอยู่พอควรในการค่อยๆลืมและปิดล็อกเรื่องนี้ไป ในช่วงระยะเวลานี้หล่อนสามารถควบคุมตัวเองไม่ให้ไปคิดถึงลูกได้ นานมากแล้วที่หล่อนไม่ได้คิดถึงเรื่องนี้แล้ว
ทว่าตอนนี้ ผู้ชายที่อยู่ด้านหน้ากับมาคุ้ยเรื่องนี้ขึ้นมาอีก เสิ่นอีเวยรู้สึกว่าในหัวใจของเธอมันที่มันมีรอยบาดแผลยาวๆอยู่แต่กลับถูกเซิ่งเจ๋อเฉิงฉีกกระชากด้วยมือของเขาเองจนเลือดไหลออกมาเป็นทาง
ช่างโหดร้ายแสนเจ็บปวด
“ใช่ คลอดลูกให้ฉันคนหนึ่ง” เซิ่งเจ๋อเฉิงเน้นย้ำอีกรอบ
อยู่ดีๆเสิ่นอีเวยกลับหัวเราะออกมา น้ำตาเอ่อล้น: “ทำไม? ทำไมต้องฉัน?”
เซิ่งเจ๋อเฉิงแทบไม่คิดเลยว่าตัวเองจะต้องมาตอบคำถามแบบนี้เขาเงียบงันอยู่นานจนสายตาที่อบอุ่นของเขาค่อยแปรเปลี่ยนเป็นเย็นชา
“ทำไมหรอ? ฉันรู้สึกว่าเธอไม่มีคุณสมบัติพอที่ถามคำถามนี้” น้ำเสียงเซิ่งเจ๋อเฉิงช่างเยือกเย็นช่างเหมือนกับท่าทีของเขาในตอนนี้
เสิ่นอีเวยรู้สึกว่าสิ่งที่ตัวเองอยากพูดมันเริ่มควบคุมไว้ไม่ได้: “หรือเป็นเพราะว่าคุณเพิ่งจะช่วยฉันลงทุนในบริษัทของเสิ่นเหยียนชิ่งหรอ ฉันเลยต้องมามีลูกให้คุณหนึ่งคน?”
เซิ่งเจ๋อเฉิงหัวเราะร่า : “เมื่อกี้เธอพูดเองนะว่าฉันมันเป็นนักธุรกิจที่ไม่มียอมขาดทุน เธอเข้าใจฉัน เธอก็ต้องใช้กำไรที่เสมอกันมาตอบแทนฉัน”
เสิ่นอีเวยเงยหน้าขึ้นถึงแม้ว่าในดวงตาหล่อนจะเต็มไปด้วยความดื้อรั้นและความเจ็บปวด แต่ด้วยสถานการณ์ที่ตึงเครียดรอบตัวขนาดนี้ หล่อนไม่ยอมแพ้ให้กับเซิ่งเจ๋อเฉิง : “แต่ว่าท่านประธานเซิ่งดูเหมือนว่าคุณเข้าใจอะไรผิดไปเรื่องหนึ่ง เหมือนว่าฉันไม่ได้ออกปากให้คุณเข้ามาช่วยฉัน เป็นคุณเองที่ยื่นมือเข้ามาจัดการเรื่องฉันกับเสิ่นเหยียนชิ่งต่างหาก”
หลังจากฟังที่เสิ่นอีเวยพูดขึ้นมา เซิ่งเจ๋อเฉิงก็หยีตาลง ในดวงตานั่นมันแปรเปลี่ยนเป็นความอันตราย: “หรอ? ความหมายของเธอคือฉันยุ่งเรื่องของเธอเองใช่ไหม?”
เสิ่นอีเวยจ้องมองเขาอย่างเยือกเย็นก็แค่อยากจะพูดให้ตัวเองมีความสุขขึ้นมา: “ไม่ใช่ว่าคุณเข้ามายุ่งเองไม่ใช่หรอ? คุณเข้ามาคุยกับเสิ่นเหยียนชิ่งเองเลย ตอนนี้ที่จะพูดแทรกขึ้นมา คุณกลับช่วยฉันได้สวยงาม เอาเข้าจริง ฉันมันก็ยังมีประโยชน์ให้คุณได้ใช้งานต่อ คุณเลยมาขอร้องความต้องการนี้จากฉัน!”
คำพูดของเสิ่นอีเวยทำให้เซิ่งเจ๋อเฉิงโกรธจริงๆจนต้องตอกกลับเธออย่างแรง : “ใครกันที่ให้ความกล้าเธอมาบอกว่าฉันเข้าไปยุ่งเอง?”
เสิ่ยอีเวยเห็นสถานการณ์ที่แย่มากจนมาถึงขั้นนี้ ในใจที่มันแตกสลายเป็นเสียงๆ : “เซิ่งเจ๋อเฉิง ฉันคิดอยู่ตลอดว่า คนอย่างคุณทำไมถึงได้เลือดเย็นได้ขนาดนี้? ลูก น่าจะเกิดมาจากความรักของพ่อและแม่ไม่ใช่หรอ? แต่กับคุณกลับกลายเป็นผลกำไรแทน พูดจริงๆนะ ฉันรู้สึกว่าคุณมันสกปรกสิ้นดี”
อารมณ์ที่แปรปรวนของเสิ่นอีเวยทำให้หล่อนไม่สามารถควบคุมให้มือหยุดสั่นได้
ตอนนั้นเอง ดวงตาของเซิ่งเจ๋อเฉิงส่องประกายความโมโหโกรธออกมา แต่เขายังควบคุมมันไว้ได้ เสิ่นอีเวยรู้ดีว่าผู้ชายคนนี้ถูกเรียกร้องให้ต่อปากต่อคำเมื่อไหร่ เขายิ่งพยายามที่จะควบคุมความโกรธที่ซ่อนอยู่ในใจเอาไว้ อีกสักพักคู่ต่อสู้นั่นจะได้รับความเจ็บปวดมากกว่าร้อยเท่าพันเท่า
ตอนนี้ หล่อนนี่แหละคู่ต่อสู้เขา ช่างพอเหมาะพอดีที่วันนี้หล่อนได้ตำแหน่งนั้นเลยไม่กลัวอะไรอีกแล้ว
เซิ่งเจ๋อเฉิงเข้าใกล้เสิ่นอีเวยเรื่อยๆ ลมหายใจร้อนๆที่คุ้นเคยพ่นลงบริเวณใบหน้าของหล่อนอย่างแผ่วเบาจนขนอ่อนที่ต้นคอลุกพรึบขึ้นมา หล่อนคิดว่าตัวเองไม่กลัวอะไรอีกแล้ว แต่ตอนที่เซิ่งเจ๋อเฉิงเข้าใกล้ร่างกายของเธอตอนนั้น เสิ่นอีเวยรู้สึกว่าหัวใจของตัวเองเต้นแรงมาก
จากศีรษะจรดปลายเท้าของเซิ่งเจ๋อเฉิงมันแผ่ความอันตรายออกมา น้ำเสียงของเขาเหมือนแอบซ่อนมีดที่เย็นเฉียบเอาไว้ : “เธอบอกว่าฉันสกปรก? เสิ่นอีเวย ถึงยังไงฉันก็สกปรกน้อยกว่าเธอ”
ประโยคที่นี้ช่างราวกับดาบอาบยาพิษ มันเจาะเข้ากลางกระหม่อมทะลุถึงหัวใจ เจ็บจนเหมือนจะหมดลมหายใจ
เสิ่นอีเวยได้แต่อ้าปากค้าง หล่อนมีคำพูดที่จะพูดออกมา แต่พูดไม่ออก
ทั้งคู่จ้องตากันอยู่นานไม่มีใครยอมแพ้ใคร
หัวใจหล่อนเต้นหนักจนเจ็บปวดจนขมับเต้นแรง ในที่สุด หล่อนเงยหน้าตอบเขา : “คุณพูดว่าฉันสกปรกแล้วทำไมจะให้คนอย่างฉันมาคลอดลูกให้คุณหล่ะ?”
ดวงตาของเซิ่งเจ๋อเฉิงที่ส่องประกายความเยือกเย็นอยู่ มุมปากเขาแสยะยิ้ม: “ไม่ใช่ว่าฉันรักเธอเลยอยากมีลูกกับเธอ เพราะว่าฉันต้องเด็กคนหนึ่ง”
อารมณ์ทั้งหมดทั้งมวลของเธอเมื่อสักครู่นั้นแปรเปลี่ยนเป็นความประหลาดใจ หล่อนจ้องมองเซิ่งเจ๋อเฉิงอย่างไม่เชื่อสายตา หล่อนไม่รู้เลยผู้ชายที่ช่างโหดร้ายทำไมถึงพูดได้ไม่สะทกสะท้านได้ขนาดนี้
หล่อนใช้แรงผลักไปยังด้านหน้า : “ปล่อยฉัน!”
น้ำเสียงเสิ่นอีเวยแหบลงในนั้นมันมีความโกรธและอะไรหลายๆอย่างที่พูดไม่ได้
หล่อนจ้องดวงตาของเขาเหมือนกำลังเอ่ยทุกคำพูดให้เขา : “เซิ่งเจ๋อเฉิง ฉันจะบอกให้นะ ฉันไม่ใช่เครื่องจักรที่จะมาคลอดลูก คนอย่างเสิ่นอีเวยถึงจะตายก็ไม่มีวันมีลูกกับคุณ! คุณอยากจะมีลูกจริงๆก็ไปหาผู้หญิงคนอื่นมาคลอดลูกให้คุณเถอะ!”