สามีเก่าอ้อนรัก - ตอนที่ 21
เราจะทยอยไล่แก้ให้ยามว่างอยากให้แก้เรื่องไหนคอมเมนต์ไว้นะคะ
แต่บางเรื่องเราก็ไม่มีไฟล์แล้วเหมือนกัน
ตอนที่ 21 ความเป็นเจ้าของที่น่าขัน
ในหัวสมองของเสิ่นอีเวยเกิดเสียง “ตึ้ง” ขึ้น ขณะที่จะอ้าปากพูดอธิบาย กลับถูกเซิ่งเจ๋อเฉิงพูดขัดจังหวะเสียก่อน
“เมื่อท่าทางเหม่อลอยของเธอยัง เสิ่นอีเวย คุณยังจะแสแสร้งไร้เดียงสากับผมอีกหรอ? ตอนนี้คุณไม่ใช่คุณหนูใหญ่ของตระกูลเสิ่นแล้วนะ! ”
เหมือนกับถูกตบแสกหน้ากลางสี่แยกชั่วขณะ ปากที่เปิดอ้าเพียงครึ่งเดียวของเสิ่นอีเวยไม่ได้เปล่งเสียงอะไรออกมา ราวกับว่านึกอะไรบางอย่างออก ส่วนดวงตาของเซิ่งเจ๋อเฉินกลับเผยแววตาขุนเคืองขึ้นมา
วินาทีต่อมา คางของเสิ่นอีเวยถูกเซิ่งเจ๋อเฉินจับไว้ พร้อมออกแรงจับคล้ายจะให้คางแตกละเอียด จู่ๆเสิ่นอีเวยก็รู้สึกเจ็บปวดแปลบ แต่เธอไม่มีปฏิกิริยาขอร้อง
เซิ่งเจ๋อเฉิงยื่นหน้าเข้ามาประชิดใกล้กับใบหน้าของเธอ ดวงตาที่ฉายความปวดร้าวและความดื้อดันของเธอ ในสายตาของเซิ่งเจ๋อเฉิงกลับเป็นการยั่วยุประเภทหนึ่ง ทำให้เขาอยากบดขยี้เธออย่างไม่เหลือเยื้อใยเลย
“ตอนนี้ถึงคราวที่ผมถามคุณบ้าง ในเมื่อคุณไม่ได้ตามผมมา แล้วทำไหมคุณถึงเห็นผมกับสวี่อันฉิงอยู่ด้วยกันที่หวยหยวนล่ะ? ว่าไง”
เสิ่นอีเวยจ้องมองดวงตาของเซิ่งเจ๋อเฉิงอย่างนี่งเงียบ และไม่ได้พูดอะไร
“ถ้าให้ผมทาย คงกำลังกินข้าวอยู่ที่นั้นกับใครสักคนแน่เลย? ฉินโม่หรือเปล่านะ? แฟนของคุณไงล่ะ?”
เสิ่นอีเวยพูดตวาดออกมาว่า “ฉันกับฉินโม่ เราเป็นแค่เพื่อนร่วมห้องเรียนทั่วไปเท่านั้น คุณพูดจาเหลวไหลอะไรของคุณ!”
เซิ่งเจ๋อเฉินยิ้มอย่างประชดประชัน แต่ภายใต้ดวงตาเผยแววตาโกรธเกี้ยว “ถ้าหากไม่อยากให้แฟนน้อยของคุณอยู่ในเมืองนี้ต่อไปไม่ได้ ผมขอแนะนำให้คุณอยู่ห่างจากเขาหน่อย”
หยุดชะงักชั่วครู่ ก่อนพูดเพิ่มเติมว่า “ไม่ ไม่เพียงแค่เขา แม้แต่ผู้ชายคนอื่นก็ด้วย”
คางถูกผลักออกไป ทำให้เสิ่นอีเวยล้มลงบนพื้น จากนั้นเซิ่งเจ๋อเฉิงก็มองเธอด้วยหางตาอย่างเย้ยหยัน และก้าวเท้าเดินออกไป
ทั่วทั้งร่างกายของเสิ่นอีเวยรู้สึกชา จนแทบจะไม่มีเรี่ยวแรงยืนขึ้นมา สำหรับเธอแล้ว เซิ่งเจ๋อเฉิงเป็นปีศาจที่ไร้ความปราณีตัวหนึ่ง เห็นได้ชัดเจนว่าเขาไม่รักตัวเอง แต่ทำไหมถึงต้องป้องกันผู้ชายคนอื่นที่อยู่ใกล้เธอด้วย?
ทันใดนั้นเสิ่นอีเวยก็ยิ้มข่มขืนขึ้น นี้ไม่ใช่ความรัก แต่เป็นความเป็นเจ้าของที่เห็นแก่ตัวเท่านั้น
เวลาต่อมา เสิ่นอีเวยยุ่งอยู่กับงานที่บริษัท เพราะก่อนหน้านี้ได้สะสมใบรายการออกแบบไว้ และด้วยงานเลี้ยงประจำปีของบริษัทกำลังใกล้เข้ามาถึง ช่วงเวลานี้เธอเลยไม่ค่อยกลับบ้าน
ดังนั้นจำนวนครั้งต่อการพบเจอกับเซิ่งเจ๋อเฉินก็น้อยลง แต่เห็นได้ชัดว่าอารมณ์ของเสิ่นอีเวยดูสงบนิ่งลงมาก
เป็นอย่างที่คาดคิดไว้ การทำให้ตัวเองยุ่งถือเป็นวิธีการที่ทำให้ตัวเองไม่คิดเพ้อเจ้อได้ดีมากที่สุด
เสิ่นอีเวยรู้สึกปลงพลางและเดินไปชงกาแฟให้ตัวเองแก้วหนึ่งพลาง เธอยืนอยู่ตรงมุมที่อยู่ใกล้หน้าต่าง เพราะอยู่ชั้นสูงมาก เธอเลยมองเห็นคนและรถราสัญจรไปมาในสายตาทั้งหมด
เสิ่นอีเวยถือเป็นคนเก่งมากในด้านการออกแบบชุดแต่งงาน จนสามารถขนานนามเธอว่าเป็นเจ้าแม่ในเรื่องนี้ได้เลย เธอหันหน้ามองใบรายการออกแบบบนโต๊ะที่ถูกวางเป็นกองภูเขา ในใจพลันเกิดความรู้สึกที่เต็มไปด้วยประสบความสำเร็จขึ้น
ทันใดนั้นก็มีเสียงเคาะประตูดังขึ้น
“เชิญเข้ามาค่ะ”
“ผู้อำนวยการเสิ่น มีคนมาหาคุณค่ะ”
เสิ่นอีเวยวางแก้วกาแฟลง “ฉันทราบแล้วค่ะ ฉันจะออกไปเดี่ยวนี้เลย”
เมื่อมาถึงห้องรับแขก เสิ่นอีเวยกลับเห็นคนที่นั่งอยู่บนโซฟาเป็นสวี่อันฉิน
เสิ่นอีเวยคิดไม่ถึงว่าหลังจากเกิดเรื่องเมื่อครั้งก่อน สวี่อันฉินจะกล้ามาปรากฏตัวเบื้องหน้าเธออีก
เมื่อเห็นรอยยิ้มอันเป็นลางของสวี่อันฉิง ใบหน้าของเสิ่นอีเวยก็เผยสีหน้าเย็นชาอย่างหยิ่งในศักดิ์ศรี เธอนั่งลงบนโซฟาตรงข้ามกับสวี่อันฉิง และเผยท่าทางหยิ่งยโสเหมือนกับหงส์สีดำตัวหนึ่ง
เมื่อสวี่อันฉิงเห็นเสิ่นอีเวยท่าทางอย่างนี้ ในใจพลันเกิดความรู้สึกขุนเคืองขึ้น
“คุณมาทำไหมหรอ?”
สวี่อันฉิงยิ้มแย้ม และหยิบรูปภาพปึกหนึ่งออกมาจากกระเป๋าต่อหน้าเสิ่นอีเวย เป็นรูปภาพที่เหมือนกับที่เซิ่งเจ๋อเฉิงให้เธอดูที่คฤหาสน์ในคืนนั้น
สีหน้าของเสิ่นอีเวยซีดเผือก และรีบกวาดตามองรอบริเวณ เมื่อมั่นใจว่าไม่มีคนมองมาทางเธอ ในใจก็ค่อยๆผ่อนคลายลง
เสิ่นอีเวยยื่นมือปัดรูปภาพเหล่านั้นร่วงตกลงจากโต๊ะ และถามอย่างสงสัยว่า “คุณหมายความว่าอะไร?”
สวี่อันฉิงยิ้มแย้มอย่างพึงพอใจ และนั่งพิงบนโซฟาอย่างวางมาด แล้วพูดว่า “คุณคิดว่าถ้าหากผมนำรูปภาพเหล่านี้ปล่อยในงานเลี้ยงประจำบริษัทของพวกคุณจะเกิดอะไรขึ้น?”