สามีเก่าอ้อนรัก - ตอนที่ 211
บทที่ 211 คุณกล้าดียังไงมาทำร้ายชื่อเสียงของฉัน
หลังจากที่เสิ่นอีเวยได้ดื่มลงไป คนใน ณ ที่นั้นก็ลุกขึ้นยืนทั้งหมด แล้วก็ปรบมือให้
เสียงปรบมือนั้นดังเข้ามาให้หูของเสิ่นอีเวย แต่มีความรู้สึกแปลกมาก ๆ ที่เธอกลับรู้สึกว่าเสียงนั้นเดี๋ยวก็ไกลเดี๋ยวก็ใกล้ เกือบจะได้ยินไม่หมด
เสิ่นอีเวยไม่ได้ดื่มเหล้าตะวันตกหนักขนาดนี้ ถึงแม้จะต้องดื่ม แต่ก็ดื่มเพียงแค่นิดเดียวเท่านั้นเอง
ดังนั้นเธอเลยไม่เข้าใจอะไรเลยว่าเหล้าสุราพวกนี้ทำให้ลำคอของเธอเหมือนกับถูกไฟที่ร้อนแรงมาเผาใส่
เสิ่นอีเวย ได้เพียงแต่อดทนอดกลั้นกับความร้อนที่เผาอยู่ในลำคอและกระเพาะของเธอ และการดื่มเหล้าก็ยังไม่ได้หยุดแต่ดำเนินต่อ
ในตอนที่ไม่ระวัง เสิ่นอีเวยก็ถูกหยุดเอาไว้ เธอก็ทำได้เพียงแต่วางขวดเหล้าและสำลักไอออกมา
เสิ่นอีเวยได้งอตัวลง ใช้มือซ้ายของตัวเองใช้แรงดันโต๊ะเอาไว้ เพื่อไม่ให้ตัวเองเพียงเพราะรู้สึกเจ็บปวดแล้วก้มลง เธอรู้สึกเจ็บปวดจนถึงขนาดที่ว่าสามารถจะอ้วกออกมาได้ตลอดเวลา
และในตอนนี้คนที่อยู่ในเหตุการณ์นั้นที่เห็นสถานภาพเช่นนี้จึงรู้สึกว่า เรื่องจะไปกันใหญ่เสียแล้ว
แต่ว่าพอมองไปที่เจิ้งอวิ๋นชวนที่หน้าตาเลือดเย็นไร้ความรู้สึก ก็เลยทำให้ไม่มีใครกล้าจะที่จะพูดออกไป
เพราะว่าในสังคมสมัยนี้เกือบทุกคนจะต้องรักษาเอาตัวรอดเป็นยอดดี บริษัทเจิ้งซื่อถึงแม้จะมีรากฐานอยู่ที่ประเทศจีน แต่การพัฒนาก็อยู่ที่ต่างประเทศ
จึงเป็นบริษัทที่ไม่เป็นรองบริษัทเซิ่งซื่อเลย แล้วจะไม่มีใครไม่เคยได้ยินชื่อของคุณชายเจิ้งเลยหรือ ? คนธรรมดาทั่วไปเมื่อเผชิญกับอำนาจที่ยิ่งใหญ่ขนาดนี้ โดยปกติก็จะไม่มีใครกล้าที่จะต่อกรด้วย
เสิ่นอีเวยได้มองไปรอบ ๆ ในใจเต็มไปด้วยความตื่นเต้นตระหนกใจ คนในที่นี้รวมทั้งเจิ้งอวิ๋นชวนแน่นอนว่ากำลังหัวเราะเยาะเย้ยเธออยู่
แต่ว่าก็จะไม่สนใจแล้ว เพราะว่าตัดสินใจว่าจะไม่เพิ่มปัญหาให้เซิ่งเจ๋อเฉิง เสิ่นอีเวยก็เลยไมได้ไปสนใจสายตาใครอีกแล้ว
เสิ่นอีเวยก็ค่อย ๆ รวบรวมพละกำลังที่มี และใช้มือไปจับขวดเหล้าอีกครั้ง เหมือนกำลังจะใช้พลังสุดท้ายในการฉุดช่วยตัวเอง
ย้อนกลับไปถึงตอนที่เซิ่งเจ๋อเฉิงโทรศัพท์มาหาเธอ แน่นอนว่าอีกไม่นานเขาก็น่าจะมาถึง เสิ่นอีเวยก็ไม่กล้าที่จะลังเลอีกต่อไป เธอจำเป็นต้องให้เรื่องพวกนี้เสร็จก่อนที่เซิ่งเจ๋อเฉิงจะมา เลยหยิบขวดเหล้ามาแล้วดื่มต่อให้หมด
เลยทำให้เสิ่นอีเวยทำท่าทางที่ทำให้คนอื่นนั้นน่าตกใจเป็นอย่างยิ่ง และทำให้ทุกคนมองไปยังเสิ่นอีเวย ดังนั้นเลยไม่ได้มีใครสนใจว่าเจิ้งอวิ๋นชวนก็ได้มีสีหน้าที่เปลี่ยนไป
เปลี่ยนไปสุขุมลุ่มลึกกว่าเดิม อารมณ์สีหน้าสายตา ทำให้คนไม่สามารถที่จะเดาออกมาได้
เมื่อมองไปยังเสิ่นอีเวยที่ดื่มอยากไม่คิดชีวิต ในตอนนี้ถึงแม้ว่าจะไม่มีใครกล้าที่จะทำให้เจิ้งอวิ๋นชวนโกรธ แต่ก็ไม่สามารถที่จะทำจนถึงขนาดนี้มีคนตายไปต่อหน้าต่อตา
ดีกรีของเหล้าตะวันตกนั้นสูงมาก แน่นอนว่าเหล้าก็ย่อมมีความเข้มข้น หากทำตามที่เสิ่นอีเวยดื่มลงไป สุดท้ายก็จะต้องส่งไปถึงโรงพยาบาลถึงจะรอดชีวิต
ในที่สุดก็มีคนข้าง ๆ มองไม่ได้ถึงความเป็นไป เลยออกหน้ามาเพื่อที่จะสถานการณ์
“หยุดได้แล้ว อย่าดื่มได้แล้ว หากดื่มแบบคุณมันไม่ใช่วิธีที่ดีเลย”
พอคนแรกพูดออกมา แล้วก็มีคนข้าง ๆ ต่างพูดออกมาอีกหลาย ๆ คนว่า “ก็ใช่น่ะสิ หากคุณทำให้คุณชายเจิ้งนั้นไม่พอใจตรงไหน ก็รีบไปขอโทษด้วยความจริงใจเถอะ”
“ใช่แล้ว คุณชายเจิ้งเป็นผู้ใหญ่ย่อมมีความเมตตา ไม่คิดเล็กคิดน้อยกับคุณหรอก”
ความเผ็ดร้อนของเหล้าทำให้เสิ่นอีเวยไม่ได้รับรู้ถึงรสชาติอีกแล้ว ความเผ็ดร้อนของเหล้าทำให้ลำคอของเธอนั้นเหมือนกำลังถูกเผา
ตอนนี้คือสถานการณ์จริง ไม่ใช่ความฝัน
แต่ว่าเสิ่นอีเวยกลับรู้สึกว่าตัวเองนั้นเหมือนกับเข้าสู่สภาพที่ไม่จริงของเธอ ผ่านไปสักครู่ เสิ่นอีเวยรู้สึกว่าหัวยิ่งอยู่ยิ่งหนักขึ้นแต่ว่าร่างกายยิ่งอยู่ยิ่งเบา เธอจะได้ลองขยับตัวเองดู เหมือนกับเดินอยู่บนสำลีเช่นไรเช่นนั้น
ความจริงแล้วเสิ่นอีเวยรู้ว่าตอนนี้กำลังทำอะไร และรู้ว่าตัวเองนั้นกำลังดื่มเหล้าอยากทารุณ ดังนั้นเลยทำให้เธอนั้นรู้สึกว่าร่างกายตัวเองนั้นยิ่งอยู่ยิ่งอึดอัด
เหล้านั้นเป็นสิ่งที่น่าแปลกประหลาดนัก ไม่เพียงแต่ทำให้คนนั้นมึนเมา ยังทำให้ยิ่งเปลี่ยนยิ่งมีสติ
ในตอนนี้ เมื่อแสงไฟกระทบผ่านมายังใบหน้าของเสิ่นอีเวย ทำให้เธอเห็นเหล้าในขวดว่าใกล้จะหมดแล้ว
ถึงแม้กระเพาะจะมีความเจ็บปวด แต่ว่าเธอก็ไม่สามารถที่จะหยุดยั้งได้ ในที่สุดก็ใกล้จะดื่มหมดขวดแล้ว
คนในเหตุการณ์ได้เพียงแต่มองที่เสิ่นอีเวยไม่ฟังคำพูดของทุกคน ดังนั้นเลยไม่ได้สนใจอะไร เลยได้เพียงแต่นั่งมองดูแค่นั้นเอง
“เพล้ง”
ขณะที่กำลังจะดื่มหมดขวดนั้น ก็ได้ยินเสียงที่ค่อนข้างจะน่ากลัวออกมา
มีผู้ชายคนหนึ่งได้ใส่สูทสีดำอยู่หน้าประตู ด้วยสีหน้าที่ลุ่มลึกและสุขุมเยือกเย็น
ในที่สุดเหล้าหยดสุดท้ายก็เข้าปากเสิ่นอีเวย เลยทำให้เธอไม่สามารถที่จะบังคับตัวเองเลย “แค่ก ๆ ” ไอออกมา และมองไปยังหน้าประตู ในใจจึงรู้สึกมีความไม่ดีอยู่ในนั้น
เซิ่งเจ๋อเฉิง ในที่สุดคุณก็มาแล้ว
เสิ่นอีเวยไม่สามารถอธิบายความรู้สึกของตัวเองตอนนี้ได้ พอมองเห็นเซิ่งเจ๋อเฉิง เธอจึงได้เพียงแค่รู้สึกตัวว่าเมื่อสักครู่นี้ตัวเองกำลังเพิ่งจะดื่มเหล้าไปอยากหฤโหด และในตอนนี้ร่างกายภายในของเธอก็กำลังมีความเร่าร้อนอย่างมาก
ทั้งเรือนร่างเต็มไปด้วยความเร่าร้อนและน้ำตาที่ไหลไม่หยุด
เสิ่นอีเวยใช้แรงสุดท้ายของตนดันเอาไว้เพื่อไม่ให้ล้มลงไป ขวดเหล้าในมือในที่สุดก็ไม่สามารถจับไว้ได้ “เพล้ง” เสียงขวดที่ตกลงบนพื้น แต่ดีที่ว่าเท้าของเธอนั้นอยู่บนพรมที่แสนจะนุ่มนิ่มเลยไม่ได้ทำให้ขวดเหล้าแตกแต่อย่างใด
แต่เจิ้งอวิ๋นชวนที่อยู่ข้าง ๆ พอเห็นเซิ่งเจ๋อเฉิงเข้ามา ก็เริ่มรู้สึกมีความน่าละเล่นมากยิ่งขึ้น
จุดประสงค์ของเขาก็คืออยากจะให้เซิ่งเจ๋อเฉิงมาที่นี่ เลยให้ผู้ชายที่สูงศักดิ์เห็นว่า ตัวเองนั้นแท้จริงแล้วทรมานผู้หญิงอย่างไร
เสิ่นอีเวยรู้สึกว่าตัวเองนั้นกำลังเริ่มมึนขึ้นเรื่อย ๆ ไม่รู้ว่าเป็นเพราะความรู้สึกที่ผิดพลาดของตัวเองหรือเปล่า เหมือนเธอจะรู้สึกว่าเซิ่งเจ๋อเฉิงกำลังจะเดินมาหาเธอ
พอรอเดินใกล้เข้ามาอีกสักนิดหนึ่ง เธอจึงได้เห็นใบหน้าที่ชัดเจนของเขา
เสิ่นอีเวยเงยหน้าไปมองเขา มองด้วยสายตาที่มีความอ่อนโยน ทำให้คนรู้สึกถึงความใจอ่อน
“คุณ คุณมาแล้ว….”
เสิ่นอีเวยพูดอย่างตะกุกตะกัก หรือเป็นเพราะดื่มเมาแล้วอยู่ในสภาพแวดล้อมเช่นนี้ เลยทำให้เสียงเธอนั้นเต็มไปด้วยความอ่อนแอ
แต่เสิ่นอีเวยไม่รู้ว่า ในตอนนี้เซิ่งเจ๋อเฉิงในใจเขานั้นกลับเต็มไปด้วยไฟที่ร้อนแรง
สายตาของผู้ชายที่เห็นขวดเหล้าที่ตกอยู่ข้าง ๆ เธอ สีหน้าของเซิ่งเจ๋อเฉิงก็เริ่มมีความน่ากลัวมากยิ่งขึ้น
ในวินาทีต่อไป มีเสียงข้าง ๆ หูของเสิ่นอีเวยก็ดีงขึ้น
“กล้าดียังไงใช้ชื่อของผมมโกหกเช่นนี้ ความกล้าของคุณยิ่งอยู่ยิ่งเยอะเสียแล้ว”