สามีเก่าอ้อนรัก - ตอนที่ 254
บทที่ 254 ขอโทษคุณชายเซิ่ง
บริษัทเซิ่งซื่อ ฉัน 24
ในห้องทำงานที่สว่างไสว เซิ่งเจ๋อเฉิงได้มองไปยังเมื่องที่หรูหราแห่งนี้ สองมือของเขาได้วางไว้บนตักอย่างนิ่ง ๆ ดูรวม ๆ ช่างมีความสงบเรียบร้อยเหลือเกิน
ในห้องนั้นยังมีเจิ้งอวิ๋นชวนกับเจิ้งโป๋หง
เจิ้งโป๋หงไม่ได้มีท่าทีความรู้สึกอะไร แต่เจิ้งอวิ๋นชวนได้มองไปยังเซิ่งเจ๋อเฉิงที่หันหลังไปมองยังเมืองแห่งนี้และเต็มไปด้วยความโมโหแต่เก่าก่อน
“เซิ่งเจ๋อเฉิง คุณจะทำอะไรกันล่ะ ? ” เจิ้งอวิ๋นชวนในที่สุดก็ทนไม่ไหว
เซิ่งเจ๋อเฉิงที่ออกไปยังนอกหน้าต่าง เมื่อได้ยินเสียงที่สะท้อนกลับมา แล้วก็ได้ยิ้มอย่างเงียบ ๆ แล้วหันตัวกลับมา แล้วมองหน้าไปยังพ่อลูกคู่นี้
ณ เวลานี้พูดชายสามคนกำลังคิดคำนวณความคิดของฝ่ายตรงข้าม แต่สิ่งที่ไม่เหมือนก็คือเซิ่งเจ๋อเฉิงเหมือนสู้รบคนเดียว แต่สองคนพ่อลูกนั้นเป็นพันธมิตรซึ่งกันและกัน
แต่ในเวลานี้ เซิ่งเจ๋อเฉิงก็ไม่ได้มีสีหน้าท่าทางอะไรแม้แต่น้อย หากพูดตามฐานะแล้ว เจิ้งโป๋หงมีประสบการณ์มากกว่าเขาสิบกว่าปี แต่ว่าเซิ่งเจ๋อเฉิงก็ไม่ได้มีความกลัวอะไรออกมาเลย
เมื่อคำพูดของเจิ้งอวิ๋นชวนเมื่อสักครู๋นี้ ทำให้เซิ่งเจ๋อเฉิงมีอารมณ์ที่ค่อนข้างเยือกเย็นขึ้น เขาได้นั่งลงต่อหน้าสองพ่อลูก
เซิ่งเจ๋อเฉิงได้มองหน้าเจิ้งอวิ๋นชวน แล้วพูดว่า “คุณชายเจิ้ง ผมพูดชัดเจนแล้วว่า ผมจะนำเรื่องนี้ส่งตำรวจ”
ในเมื่อมีการเตรียมการเรียบร้อยแล้ว เซิ่งเจ๋อเฉิงก็ไม่ได้มีความระแวงอะไร หากในมุมมองของเจิ้งอวิ๋นชวนก็คือ เซิ่งเจ๋อเฉิงคนนี้ไม่กลัวอะไรเลยแม้แต่น้อย
เลยทำให้ในใจของเจิ้งอวิ๋นชวนนั้นโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ
เจิ้งอวิ๋นชวนได้พูดกับเซิ่งเจ๋อเฉิงอย่างเย็นชาว่า “เซิ่งเจ๋อเฉิง คุณอย่าพูดว่าเรื่องที่คุณพูดอยู่นี้เป็นเรื่องจริง ตอนที่อยู่ในร้านเหล้าวันนั้น ผมคิดว่าคุณนั้นกำลังพูดเล่น ดังนั้นเลยไม่ได้คิดเล็กคิดน้อยกับคุณ แต่ตอนนี้พูดไปแล้ว ตอนนี้คุณเหมือนจะบังคับผมหรือไม่ ? พ่อของผมก็อยู่ที่นี่ ผมให้เกียรติท่าน ผมก็เตือนคุณเป็นครั้งสุดท้าย คิดให้ดีดี! ”
คำพูดเมื่อสักครู่นี้ของเจิ้งอวิ๋นชวนที่เต็มไปด้วยการข่มขู่ ดังนั้นน้ำเสียงการพูดก็เต็มไปด้วยความไม่พอใจ ใครใช้ให้เป็นลูกคนเดียวของเจิ้งโป๋หงล่ะ ?
หากพูดถึงอำนาจของพ่อเขา ยังจะกลัวเซิ่งเจ๋อเฉิงน้อยคนนี้หรือ ?
แต่ว่าเจิ้งโป๋หงที่นั่งอยู่ตรงนั้นได้ฟังคำพูดของลูกตัวเองแล้วในใจก็เต็มไปด้วยความโกรธ “ฟู่” เหมือนไฟลุกขึ้นมา
เจิ้งโป๋หงได้วางถ้วยน้ำชาลงอย่างรุนแรง
หลังจากนั้น เจิ้งโป๋หงได้โมโหพูดกับเจิ้งอวิ๋นชวนว่า “ลูกสารเลว หุบปากตัวเองไปซะ”
ถึงแม้อายุจะมากแล้ว แต่ร่างกายยังแข็งแรงสมบูรณ์ เสียงของเจิ้งโป๋หงเต็มไปด้วยพละ จึงทำให้เจิ้งอวิ๋นชวนได้มองเซิ่งเจ๋อเฉิงอย่างดูถูกนั้น ในทันใดนั้นก็ตกใจเช่นกัน
ซึ่งเจิ้งอวิ๋นชวนไม่คิดว่าเจิ้งโป๋หงจะกล้าพูดกับเขาแบบเช่น โดยเฉพาะพูดต่อหน้าเซิ่งเจ๋อเฉิง
ในระยะเวลาหนึ่ง เจิ้งอวิ๋นชวนรู้สึกอับอายขายหน้า ใบหน้าก็แดงไปด้วยความโกรธ และคิดว่าจะอดทนที่พ่อตัวเองนั้นว่าตัวเองต่อหน้าคนอื่นได้อย่างไ
เจิ้งอวิ๋นชวนกำลังจะตอบโต้กลับ แต่กลับโดนสายตาอันน่ากลัวหยุดยั้งเอาได้ แล้วเจิ้งโป๋หงพูดต่อว่า “หุบปากไปซะ อย่าคิดว่าพ่อไม่รู้นะว่าแกทำอะไรไป แต่เรื่องนี้ใครผิดใครถูกไม่รู้อยู่แก่ใจรึ ? ที่นี่ไม่ใช่ประเทศอังกฤษ! ”
ซึ่งคำพูดเมื่อสักครู่นี้เหมือนกับการสั่งสอนอย่างหนึ่ง ซึ่งอยู่ในใจเจิ้งโป๋หงมานาน ซึ่งเขาก็รู้เรื่องที่เจิ้งอวิ๋นชวนนั้นทำทั้งหมด ในเมื่อคนเป็นพ่อ เขาก็อาจจะสั่งสอนลูกตัวเองที่ไม่ฟังคำสั่งสอน
ซึ่งเป็นสิ่งที่ตัวเองนั้นไม่อยากจะไปยุ่งด้วยเลย
เจิ้งโป๋หงในหลายวันมานี้รู้สึกผิดอย่างที่สุด รู้สึกผิดที่หลายปีที่ผ่านมานี้ที่ไม่ได้ดูแลลูกตัวเอง เพราะว่าใช้เวลาทั้งหมดในการจัดการกับธุรกิจ จนทำให้เกิดเรื่องที่ร้ายแรงขนาดนี้
เรื่องมาถึงวันนี้ จะมาครุ่นคิดอีกก็คงไม่ได้แล้ว มองดูท่าทีของเซิ่งเจ๋อเฉิง เหมือนจะตัดสินใจแล้ว เรื่องนี้ก็ไม่อาจจะหารือได้อีกแล้ว
แต่ว่า เจิ้งอวิ๋นชวนก็เป็นลูกในไส้ของตัวเอง เจิ้งอวิ๋นชวนเป็นแบบนี้ก็เพราะว่าตัวเจิ้งโป๋หงเองที่ไม่ค่อยดูแลอะไร ซึ่งเขาได้รับโทรศัพท์และนัดหมายไว้ก่อนหน้านี้แล้ว
เซิ่งเจ๋อเฉิงได้เห็นเจิ้งโป๋หง แต่ในวงการธุรกิจ เรื่องแบบนี้ก็เป็นเรื่องธรรมดา เขาไมได้คิดอะไรมากมาย
หลังจากนั้นเจิ้งโป๋หงรู้สึกตัวอีกครั้งว่าเมื่อสักครู่นี้ลืมตัวไป แต่ว่าเพราะเมื่อสักครู่นี้สภาพจิตใจย่ำแย่มาก ดังนั้นเลยมได้อธิบายอะไรให้เจิ้งอวิ๋นชวนฟัง
เขาได้ปรับอารมณ์แล้วพูดเฉย ๆว่า “ขอโทษคุณชายเซิ่ง”
ประโยคนี้เมื่อเจิ้งอวิ๋นชวนได้ยินแล้วก็ได้มองไปยังพ่อของเขาแล้วพูดอย่างไม่น่าเชื่อว่า “พ่อ เมื่อสักครู่นี้ท่านพูดอะไร ? ”
เจิ้งโป๋หงได้ยินคำนี้ ในใจโกรธเป็นอย่างที่สุด แต่ก่อนทีเขาจะโมโหอย่างไม่มีอะไรมาหยุดยั้งได้ แต่ในเมื่ออยู่ต่อหน้าเซิ่งเจ๋อเฉิง ซึ่งเขาไม่อยากจะให้เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นต่อหน้าเซิ่งเจ๋อเฉิง ก็เลยอดกลั้นเอาไว้
เขาพยายามที่บังคับอารมณ์โกรธ แล้วพูดว่า “อย่าให้พ่อได้พูดรอบที่สอง ขอโทษคุณชายเซิ่ง”
ตอนนี้ เจิ้งอวิ๋นชวนได้เข้าใจแล้ว เพียงแต่สายตาเขานั้นเต็มไปด้วยความโกรธ ชัดเจนว่า เขาไม่ได้มีความคิดที่จะทำเรื่องนี้
“ทำไมผมต้องขอโทษ ?” เจิ้งอวิ๋นชวนตอบอย่างไม่ยินยอม ด้วยเสียงที่ดัง เลยทำให้ทั้งห้องเต็มไปด้วยความสงบเงียบ
เจิ้งโป๋หงโกรธอย่างเป็นที่สุด ตอนแรกนั้นเต็มไปด้วยความโกรธอยู่แล้ว แต่เพราะว่าความโกรธเลยทำให้ใบหน้ามีความน่ากลัวอย่างไม่เคยมีมาก่อน