สามีเก่าอ้อนรัก - ตอนที่ 303
บทที่ 303 มันเป็นความรับผิดชอบของคุณ
หลังจากวางสาย เสิ่นอีเวยหันไปเหลือบมองซ่งลู่เหยี่ยนหนึ่งที มองเห็นเธอหันมา ใบหน้าจากเดิมทีสงสัยรีบเปลี่ยนเป็นเด็ดเดี่ยวและหนักแน่นทันที
เสิ่นอีเวยเพียงแค่เห็นสีหน้า ก็รู้ทันทีว่าอีกฝ่ายไม่ได้คิดจะประนีประนอม เธอจึงตัดสินใจกดโทรศัพท์หาตำรวจจราจรทันที
เมื่อวางสาย เสิ่นอีเวยเขย่าโทรศัพท์ใส่เซ่งลู่เหยี่ยน พูดว่า:“ ดูให้ชัดเจนนะ ตำรวจจราจรจะมาถึงในไม่ช้า หวังว่าถึงตอนนั้นคำพูดของคุณคงจะมีเหตุผลเหมือนที่พูดก่อนหน้านี้!”
เซ่งลู่เหยี่ยนแอบยิ้มในใจอย่างมีเลศนัย เขาแอบถอนหายใจโล่งอก เป็นอย่างที่คิด ขิงยิ่งแก่ยิ่งเผ็ด ประธานเซิ่งร้ายกาจจริงๆ
วันนี้ในช่วงเช้า ตอนได้รับภารกิจนี้ ประธานเซิ่งพูดกับเขาอย่างชัดถ้อยชัดคำว่า ให้พยายามคิดหาวิธียั่วโมโหคุณนายเซิ่ง ทางที่ดีคือทำให้อีกฝ่ายแจ้งความ ถ้าอีกฝ่ายไม่ยอมตกหลุมพรางสักที งั้นเขาจะมาเอง
ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม ในตอนสุดท้ายเรื่องราวยิ่งไปกันใหญ่ จากสิ่งที่ประธานเซิ่งพูดไว้ มองดูสถานการณ์ตอนนี้ หน้าที่ของตนเองบรรลุผลไปแล้วครึ่งหนึ่ง
เวลาผ่านไปเร็วมาก ตำรวจจราจรเดินทางมาถึงสถานที่เกิดเหตุอย่างรวดเร็ว
เสิ่นอีเวยมองเห็นตำรวจจราจร เหมือนได้เห็นผู้ช่วยชีวิต เธอรีบวิ่งเข้าไปคว้าแขนเสื้อของตำรวจจราจรไว้ :“พี่ตำรวจจราจร รถของฉันโดนชน รบกวนพวกพี่ๆช่วยตัดสินให้ความเป็นธรรมด้วยค่ะ!”
โดยเสิ่นอีเวยพูดคำว่า“ความเป็นธรรม”ออกมา หน้าผากของตำรวจจราจรปรากฏรอยย่นขึ้นมาทันที ตำรวจจราจรอย่างพวกเขาโดนตัดสินว่าปฏิบัติหน้าที่อย่างไม่เป็นธรรมตั้งแต่เมื่อไหร่กัน?
ซ่งลู่เหยี่ยนมองอย่างเย็นชาอยู่ข้างๆ รอผลการตรวจสอบ แต่ไม่มีใครรู้ว่าในใจของเขากระวนกระวายมากมาย แท้จริงแล้วหลินอวี้ได้จัดการเรื่องนี้ให้หรือยังนะ……
ผ่านไปสักพัก หนึ่งในตำรวจจราจรพูดขึ้นมาเบาๆ :“คุณผู้หญิง ไม่ทราบว่าคุณแซ่อะไร ?”
เสิ่นอีเวยกระพริบตา :“ฉันแซ่เสิ่น”
“คุณเสิ่น อุบัติเหตุในวันนี้ คุณต้องเป็นคนรับผิดชอบ”
ทุกสิ่งดูเหมือนจะหยุดนิ่งชั่วครู่ ซ่งลู่เหยี่ยนโล่งอก เพราะในที่สุดก็ได้ยินคำตอบที่อยู่ในใจของตนเอง
เสิ่นอีเวยมองดูตำรวจจราจรสองคนที่อยู่ตรงหน้าด้วยความตกใจและประหลาดใจ เธอเหลือบมองซ่งลู่เหยี่ยนอีกครั้งและหันกลับมาพูด :“พี่ตำรวจจราจร พวกพี่ตรวจสอบอย่างละเอียดหรือยังคะ? ไม่งั้นพวกพี่ตรวจสอบใหม่อีกทีได้ไหม? หน้าที่รับผิดชอบควรจะเป็นของไอ้สี่ตานั้น!”
ซ่งลู่เหยี่ยน:“……”
เยี่ยม ตอนนี้ตนเองมีฉายาใหม่ จากปากภรรยาของเจ้านายตนเอง
ตำรวจจราจรมีท่าทีจริงจัง เขาถือหนังสือเล่มเล็กไว้ในมือ แล้วพูดกับเสิ่นอีเวย:“คุณเสิ่น คุณลองมาฟังพวกผมอธิบายนะครับ มา คุณต้องการเข้ามาดูด้วยตนเองไหม?รถยนต์ของคุณยังไม่มีป้ายทะเบียน ดังนั้นรถยนต์ดังกล่าวไม่ได้รับอนุญาตบนท้องถนน โดยทั่วไปคุณไม่ปฏิบัติตามกฎจราจร ดังนั้นพวกผมจึงต้องให้ฝั่งคุณเป็นผู้รับผิดชอบ เจ้าของรถคันนี้ควรได้รับค่าชดใช้จากคุณ”
ตำรวจจราจรทั้งสองคนพูดอย่างมีเหตุผล เสิ่นอีเวยเดินไปข้างหน้าไม่กี่ก้าว เหลือบมองไปที่หน้ารถ ปรากฏว่าไม่ได้ติดป้ายทะเบียนรถ เพราะรถสปอร์ตคันนี้เธอเพิ่งซื้อหลังจากกลับมา จึงหาป้ายทะเบียนรถไม่ทันจริงๆ
หากไม่ใช่เพราะวันนี้ได้รับโทรศัพท์ให้รีบไปสัมภาษณ์งาน เธอก็คงนั่งรถประจำทางไปแล้ว จะขับรถยนต์ที่ไม่มีป้ายทะเบียนได้อย่างไร?
หากรู้เร็วกว่านี้ ก็คงไม่ใจร้อนเช่นนี้ เป็นผลให้โดนตำรวจจราจรจับกุม แถมคนที่แจ้งความผ่านทางโทรศัพท์ก็คือตัวเธอเอง
เสิ่นอีเวยยกมือขึ้นมาเช็ดหน้าผาก เป็นครั้งแรกที่รู้สึกว่าตนเองซวยจริงๆ
แต่ว่า มองดูรถของคู่กรณีก็รู้ว่าไม่ใช่ถูกๆ ค่าซ่อมรถประเมินแล้วน่าจะแพงมาก ตอนนี้เธอยิ่งไม่ใช่คนมีเงิน……งั้นลองพยายามอีกสักครั้งจะดีไหม?
ลองดูอีกสักครั้ง ครั้งนี้เป็นสุดท้าย เสิ่นอีเวยให้กำลังใจตัวเองอย่างเงียบ ๆ
นึกขึ้นมาได้ว่า วันก่อนพนักงานที่ดำเนินเรื่องทะเบียนรถได้ให้ใบเสร็จกับตนเอง ใบเสร็จนั้น ไม่แน่อาจมีประโยชน์
สมองของเสิ่นอีเวยเกิดไอเดียขึ้นมา เธอจึงรีบเอื้อมมือหยิบกระเป๋าสะพาย ควานหาใบเสร็จอย่างรวดเร็ว
“ใบเสร็จล่ะ? ใบเสร็จ……พี่ตำรวจจราจรคะ ป้ายทะเบียนรถของฉันยังอยู่ระหว่างการดำเนินการ ถ้าพวกพี่ไม่เชื่อ ฉันสามารถให้พวกพี่ดูใบเสร็จได้นะคะ!”
เสิ่นอีเวยพูดไปหาไป แต่กลับหาเท่าไหร่ก็หาไม่เจอ เธอถึงนึกขึ้นมาได้ว่า ใบเสร็จนั้นเธอน่าจะลืมไว้ในกระเป๋าสักใบ
ลืมได้ยังไงเนี่ย!ทำไมวันนี้มันซวยแบบนี้!เสิ่นอีเวยตะโกนในใจ
ตำรวจจราจรสองคนที่ยืนอยู่ข้างๆมองเห็นเธอหาใบเสร็จไม่เจอ จึงไม่อดทนอีกต่อไป:“คุณเสิ่น มันเป็นความรับผิดชอบของคุณ อย่าเสียเวลาตรงนี้อีกเลย และอีกอย่าง ผมหวังว่าคุณจะให้ความร่วมมือในการปฏิบัติงานของพวกเรา ขอบคุณครับ!”
เสิ่นอีเวยมองตำรวจจราจร แววตาเต็มไปด้วยความไร้เดียงสาและหมดหนทาง
ซ่งลู่เหยี่ยนที่อยู่ข้างๆไม่หวั่นไหวด้วยแววตาของเธอ เขาก้มลงมองไปที่เอกสารในแฟ้มที่ถืออยู่ในมือ
ผ่านไปสักพักหนึ่ง เสิ่นอีเวยหาใบเสร็จไม่เจอ แต่เบื้องหน้าของเธอปรากฏสิ่งที่คล้ายกับใบเสร็จ มีลักษณะคล้ายกันมาก ด้านบนมีตัวอักษรพิมพ์ใหญ่เขียนไว้ว่า: รายละเอียดของการชดใช้ค่าเสียหาย
“คุณเสิ่น ว่าไงครับ? พี่ตำรวจจราจรก็พูดแล้ว ตอนนี้คุณจะชดใช้ค่าเสียหายได้หรือยัง?”
เสิ่นอีเวย:“……”
มองดูแล้ว วันนี้ตนเองคงจะต้องเสียเงินให้ผู้ชายใส่แว่นคนนี้
มองดูซ่งลู่เหยี่ยนอีกครั้ง ถึงแม้ว่าในใจจะรู้สึกไม่ดี แต่เมื่อต้องคุมเชิงต่อหน้าเสิ่นอีเวย เขากลับต้องเล่นไปตามน้ำ หลุดแม้แต่นิดหน่อยก็ไม่ได้เพราะจงใจทำให้อีกฝ่ายติดกับดักและรู้สึกอะอายใจ
เหตุการณ์เหล่านี้ เจ้านายของตนเองสั่งให้ทำทั้งหมด ไม่ใช่ความตั้งใจของเขา ดังนั้นอย่าโทษเขาเลย อื้ม ซ่งลู่เหยี่ยนพูดเกลี้ยกล่อมตนเองในใจ
แต่ว่า……เสิ่นอีเวยกำลังจ้องมองซ่งลู่เหยี่ยนด้วยสายตาที่แทบจะกินเลือดกินเนื้อ ยิ่งคิดยิ่งรู้สึกว่ามีบางอย่างเริ่มผิดปกติ
วันนี้ผู้ชายใส่แว่นทำให้เธอรู้สึกแปลกมากๆ รวมทั้งตำรวจจราจรทั้งสองคนก่อนหน้านี้ด้วย ถึงแม้ว่าเหตุการณ์รถชนท้ายของวันนี้เธอต้องเป็นฝ่ายรับผิดชอบ แต่ก็ไม่ควรจะพูดข้อสรุปออกมาโดยตรงแบบนี้?
อย่างน้อยที่สุดก็ควรให้เหตุผลที่ชัดเจนต่อเธอ แต่เห็นได้ชัดเจนว่าไม่มี เหมือนกับตนเองถูกลงโทษโดยไม่มีเหตุผล
ในใจของเสิ่นอีเวยเริ่มคุกรุ่น แต่เธอตัดสินใจไม่แสดงออกในทันที เธอเพียงแค่หันกลับไปมองซ่งลู่เหยี่ยน พิจารณาเขาอย่างละเอียด และมองไปที่รถหรูข้างๆอีกครั้ง
เธอเริ่มเข้าใจบางสิ่งในใจ
“รถคันนี้ เป็นของคุณหรอ ?”อยู่ดีเสิ่นอีเวยก็ถามขึ้นมา
ในใจของซ่งลู่เหยี่ยนเริ่มงงงวย แต่เขาเก็บอาการได้ดีมาก สีหน้าของไม่เปลี่ยนเลยสักนิด เขาพยักหน้าและพูดว่า:“ ใช่”
“ของคุณแน่หรอ ?”เสิ่นอีเวยถามอีกครั้ง
ซ่งลู่เหยี่ยนพยักหน้าด้วยความระแวง:“แน่สิ”
เธอถามแบบนี้ทำไม? หรือว่าเธอมองเห็นอะไร? ซ่งลู่เหยี่ยนในใจรู้สึกร้อนรน
“งั้นรถคันนี้ราคากี่หยวน? ผลิตที่ประเทศไหน? คุณซื้อจากที่ไหน?”
คำถามของเสิ่นอีเวยเหมือนปืนใหญ่ ยิงโจมตีซ่งลู่เหยี่ยนติดต่อกันสองสามครั้งไม่มีผิด