สามีเก่าอ้อนรัก - ตอนที่ 310
บทที่ 310 งานแสดงเครื่องประดับ
ดังนั้นในช่วงเวลานี้ สิ่งที่ตนเองควรทำ คือเก็บเงินเลี้ยงดูครอบครัว ศึกษาหาความรู้ให้มากขึ้น ในระหว่างที่ดูแลตนเองและเหมียนเหมียนน้อยก็ต้องรีบพัฒนาตนเอง เพื่อจะได้มีความสามารถพาบริษัทหัวยู่นออกมาจากเซิ่งเจ๋อเฉิง
บางทีเมื่อถึงตอนนั้น หัวใจของเธอคงจะสงบสุขอย่างแท้จริงสักที
และเหมียนเหมียนน้อยที่แสนน่ารักล่ะ?
เหมียนเหมียนน้อยเพิ่งจะอายุครบสี่ขวบคิดไม่ถึงว่าจะมีงานชิ้นแรกในชีวิตของตนเอง มันเหมือนกับการชนะที่จุดเริ่มต้น ทำให้รู้สึกไม่อยากจะเชื่อ ตอนที่เสิ่นอีเวยได้รับจดหมายเชิญให้ไปเซ็นสัญญาจากเอเจนซี่ของแมวมอง เธอก็ตะลึงงันมาก
เสิ่นเหมียน ลูกสาวอายุสี่ขวบของตนเอง คิดไม่ถึงว่าในระหว่างเดินซื้อของกับตนเองจะถูกแมวมองของบริษัทการบันเทิงเฟิงสิงยอดนิยมค้นพบ หลังจากนั้นจึงชวนเสิ่นเหมียนไปเป็นนักแสดงให้กับบริษัทตนเอง เธอจึงเริ่มชีวิตนักแสดงเด็กตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา
ที่จริงเสิ่นอีเวยไม่เห็นด้วยในตอนแรก เพราะเธอไม่อยากให้ลูกสาวอายุสี่ขวบเข้าไปในวงการบันเทิงที่แสนวุ่นวาย เพราะเธอคิดว่าจะส่งผลต่อการเจริญเติบโตของเด็ก แต่สิ่งที่เสิ่นอีเวยคิดไม่ถึงก็คือ ตอนนั้นที่เหมียนเหมียนน้อยได้ยินตนเองคุยโทรศัพท์กับคนจากบริษัทการบันเทิงเฟิงสิงและด้วยความสามารถในการปะติดปะต่อเรื่องราวของเด็กอายุเพิ่งจะสี่ขวบ
เธอมองเห็นสายตาที่เป็นประกายของลูกสาว เสิ่นอีเวยก็ใจอ่อน หลังจากวางสายโทรศัพท์ เธอจึงถามเหมียนเหมียนน้อย :“หนูอยากเป็นนักแสดงเด็กไหมลูก?”
ทำไมเธอจึงถามแบบนี้ เป็นเพราะเสิ่นอีเวยรู้ว่าความสัมพันธ์ของแม่กับลูกถึงแม้จะพิเศษ แต่มันต้องมีการพูดคุยกันโดยตรง รวมถึงเหมียนเหมียนน้อยตั้งแต่เกิดจนถึงปัจจุบันไม่รู้ว่าพ่อของตนเองคือใคร ดังนั้นในฐานะที่เป็นแม่ของเหมียนเหมียนน้อย ปณิธานของเสิ่นอีเวยคือต้องการเลี้ยงเหมียนเหมียนน้อยให้เติบโตเป็นเด็กที่แข็งแรงทั้งกายและใจ
ดังนั้นถึงแม้ลูกสาวจะเพิ่งอายุสี่ขวบ อาจจะยังไม่เข้าใจเวลาผู้ใหญ่พูดคุยกัน แต่วิธีการสื่อสารของเธอกับเหมียนเหมียนน้อย แต่ไหนแต่ไรเสิ่นอีเวยไม่เคยมองข้ามหรือขี้เกียจคุย ดังนั้นในครั้งนี้ ถึงแม้ตนเองจะไม่ต้องการ แต่เธอยังต้องถามความคิดเห็นของลูกสาวเป็นอันดับแรกก่อน
แต่สิ่งที่เธอคิดไม่ถึงคือ คำตอบของเหมียนเหมียนน้อยไม่เป็นไปตามที่เธอต้องการโดยสิ้นเชิง
“อยาก! ม่ามี้หนูอยากเป็น!” เหมียนเหมียนน้อยยกมือขึ้นสูง เพราะกลัวม่ามี้จะไม่รู้ว่าตนเองอยากเป็นนักแสดงเด็กมากแค่ไหน
เสิ่นอีเวยนิ่งอึ้งไปในที่สุด:“……”
แต่อย่างไรเสียลูกสาวอายุเพียงแค่สี่ขวบ การสื่อสารต้องอาศัยความอดทนเป็นอย่างสูงจากคนที่อายุเยอะกว่า เสิ่นอีเวยนั่งยองๆลงไป สายตาเต็มไปด้วยความรักและความอบอุ่น:“ งั้นเหมียนเหมียนน้อยบอกแม่หน่อยได้ไหม เพราะอะไรหนูถึงอยากเป็นนักแสดงเด็กคะ?”
เจ้าเด็กน้อยเอียงหัวไปมา คล้ายกับว่ากำลังคิดหาคำตอบ ในที่สุดเธอก็ตอบด้วยน้ำเสียงเด็ดเดี่ยว :“เพราะเหมียนเหมียนน้อยอยากเป็นคนที่สุดยอดเหมือนแม่!”
เสิ่นอีเวยงุนงงทันที :“แต่สิ่งที่แม่ทำ กับสิ่งที่เหมียนเหมียนน้อยอยากทำ มันคนละอย่างกันนะลูก”
เจ้าเด็กน้อยพยักหน้าด้วยความน่าเอ็นดู เธอพูดว่า:“หนูรู้ค่ะ คุณแม่เป็นนักออกแบบเครื่องประดับ เหมียนเหมียนน้อยอยากเป็นนักแสดงเด็กที่สุดยอด คุณแม่เป็นนักออกแบบเครื่องประดับที่สุดยอด งั้นพวกเราก็จะกลายเป็นคนที่สุดยอด!”
มองเห็นการแสดงออกของลูกสาวที่เต็มไปด้วยความเป็นเด็กและความร่าเริง เสิ่นอีเวยรู้สึกว่าตนเองใจอ่อนไปหมด และเพียงแค่มองเจ้าเด็กน้อยคนนี้ ที่พูดว่าอยากไปเป็นนักแสดงเด็กเหมือนกับไม่ใช่เรื่องล้อเล่น ด้วยเหตุนี้เธอจึงตกลง
ถ้าพูดว่าหลังจากกลับมาในประเทศ เรื่องราวทั้งหมดในปัจจุบันที่เกิดขึ้นกับชีวิตของเสิ่นอีเวย ข้อตกลงการแต่งงานใหม่ที่เซิ่งเจ๋อเฉิงเสนอต่อเธอคือเรื่องแรกที่ไม่คาดคิด และเหมียนเหมียนน้อยได้เซ็นสัญญาเป็นนักแสดงเด็กกับเอเจนซี่วงการบันเทิงยอดนิยมคือเรื่องที่สองที่ไม่คาดคิด
แต่ตอนนี้เสิ่นอีเวยสามารถคิดได้มากขึ้น ชีวิตคนเรา มันก็เป็นแบบนี้ไม่ใช่หรอ?แผนการสามารถเปลี่ยนแปลงได้ตลอด เมื่อคนเราเจอโอกาสตรงหน้า ต้องรีบคว้าเอาไว้ ไม่งั้นหลังจากนี้อาจจะเสียดายภายหลัง ดังนั้นการที่เหมียนเหมียนน้อยกลายเป็นนักแสดงเด็ก เสิ่นอีเวยไม่มีความลังเล และเคารพการตัดสินใจของลูกสาวที่รัก จึงเซ็นสัญญากับบริษัทการบันเทิงเฟิงสิงเรียบร้อย
เวลาผ่านไปรวดเร็ว ชีวิตและการทำงานของเสิ่นอีเวยนั้นค่อนข้างกระชับ ในช่วงเวลานี้ ก็อาจเป็นไปได้ที่จะเห็นข่าวของเซิ่งเจ๋อเฉิงบนทีวีและอินเตอร์เน็ต แต่กับเธอนั้นไม่มีความเกี่ยวข้องกันแล้ว
ความโชคดีคือ หลังจากที่คราวก่อนเธอฝากคำพูดให้ซ่งลู่เหยี่ยนไปบอกเซิ่งเจ๋อเฉิง ตอนนี้ผ่านมาสามเดือนแล้ว ในช่วงนี้ก็ไม่ได้รับ“การก่อความวุ่นวาย”จากเซิ่งเจ๋อเฉิงอีก เสิ่นอีเวยรู้สึกพอใจมากกับสถานการณ์ที่สุขกายสบายใจเช่นนี้
การทำงานเต็มไปด้วยความราบรื่น เหมียนเหมียนน้อยโด่งดังจากการถ่ายโฆษณาแปรงสีฟันเด็ก จนมีชื่อเสียงมากขึ้น เพียงแค่คืนเดียวก็กลายเป็นนักแสดงเด็กที่มีคนเข้าชมมากที่สุด
สถานการณ์แบบนี้ของสองแม่ลูก มักจะทำให้เสิ่นอีเวยรู้สึกอย่างหนึ่ง นั้นคือเธอรู้สึกมีความสุขกับชีวิตของตนเอง
อาคารสูงที่ตั้งตระหง่าน ท้องฟ้าปลอดโปร่ง นี้คือศูนย์กลางทางการเงินของเมืองแห่งนี้ ผู้คนระดับสูงหลากหลายคนต่างมาพูดคุยและทำการค้าที่นี่
วันนี้มีงานแสดงเครื่องประดับ โดยจะจัดขึ้นในฮอลล์ที่สามของห้องจัดแสดงศิลปะและวัฒนธรรม ถึงแม้จะเป็น“ห้องจัดแสดง”แต่งานแสดงมีขนาดใหญ่มาก ที่นี่คือสิ่งปลูกสร้างที่เป็นสัญลักษณ์ของเมืองนี้
ไม่เพียงแต่การออกแบบเครื่องประดับ ผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมที่มีชื่อเสียงระดับโลกก็มารวมตัวกันที่นี่ และยังมีนิทรรศการเดี่ยวของนักออกแบบเครื่องประดับที่มีชื่อเสียงระดับโลกหลายคน โอกาสในการจัดนิทรรศการแบบนี้หาได้ยาก ดังนั้นเสิ่นอีเวยจึงรีบมาถึงสถานที่ตั้งแต่เนิ่นๆ
วันนี้เธอสวมชุดราตรีกำมะหยี่สีน้ำเงินสดใส เรียบง่ายแต่หรูหรา พร้อมกับรูปลักษณ์ที่สวยงามและการแต่งหน้าที่แสนประณีต ทำให้ทั้งตัวมีความเลอค่า
ความเลอค่าที่ไม่อาจแตะต้องหรือรบกวนได้ เพราะเหตุนี้ จึงทำให้คนอื่นไม่กล้าเข้าใกล้เสิ่นอีเวย
เธอก้าวเดินอย่างช้าๆในพื้นที่จัดการแสดง ค้นหางานที่ตนเองชื่นชมอย่างเงียบ ๆ งานออกแบบที่ตนเองชื่นชมและชื่นชอบนั้นมีน้อยมาก เสิ่นอีเวยถอนหายใจเบาๆอยู่ข้างใน
ที่จริงแล้วไม่ได้หมายความว่าเธอกำลังดูถูกนักออกแบบชื่อดังเหล่านี้ แต่เป็นเพราะเธอค้นพบว่ารสนิยมของตนเองค่อนข้างจู้จี้ ยิ่งกว่าเมื่อก่อนตอนที่ออกแบบชุดแต่งงาน
มีผลงานที่ยอดเยี่ยมมากมาย แต่สิ่งที่เสิ่นอีเวยชื่นชมจากหัวใจ คือผลงานที่มีสไตล์เฉพาะตัวที่แข็งแกร่งและเป็นเอกลักษณ์ สไตล์การออกแบบเป็นเหมือนแฟชั่น เมื่อเป็นที่นิยมของผู้คนมากเกินไป ก็จะเปลี่ยนไปในเวลาอันสั้น จนกลายเป็นความน่าเบื่อและราคาถูกลงอย่างง่ายดาย
งานจัดแสดงส่วนมากในวันนี้ คือสิ่งที่เสิ่นอีเวยให้ความสนใจ
เพียงแค่ เมื่อพบปัญหาแต่วิธีการแก้ไขแรกความล้มเหลว ก็ยังสามารถแก้ไขด้วยวิธีอื่นได้ อาจเห็นการเปลี่ยนแปลงที่น่าทึ่ง
พนักงานเพิ่งจะเข้ามาให้คำอธิบาย พูดถึงอีกด้านห้องแสดงนิทรรศการคือห้องจัดแสดงผลงานของแต่ละบุคคล ที่มีผลงานส่วนตัวของนักออกแบบเครื่องประดับที่มีสไตล์เป็นเอกลักษณ์อย่างยิ่ง
สไตล์ที่ทันสมัยและเฉียบคม ตอนที่เสิ่นอีเวยเรียนที่ประเทศอังกฤษ เธอค้นพบว่าตนเองหลงไหลสไตล์ของนักออกแบบคนนี้