สามีเก่าอ้อนรัก - ตอนที่ 311
บทที่ 311 ถูกเจ้าของบริษัทใหญ่ชวนคุย
ชื่อภาษาอังกฤษของนักออกแบบคนนี้คือ Arthur แต่กลับไม่มีใครรู้ว่าแท้จริงแล้วเขาคือนักออกแบบจากประเทศอะไร และไม่มีสื่อใดๆตีแผ่เกี่ยวกับชีวประวัติของเขา
เหตุผลที่เสิ่นอีเวยรู้จักนักออกแบบคนนี้ เพราะตอนที่อยู่ประเทศอังกฤษเคยมีโอกาสเข้าร่วมในนิทรรศการออกแบบในลอนดอน หนึ่งในนั้นมีผลงานของนักออกแบบคนนี้ ผลงานของเขาถูกประมูลในราคาสูงถึง 10 ล้านเหรียญสหรัฐ ทั้งอุตสาหกรรมการออกแบบเครื่องประดับถึงกับตกใจไปสักพักหนึ่ง
Authur มีสไตล์การออกแบบที่โดดเด่นและเป็นเอกลักษณ์ นอกจากหรูหราสง่างามแล้วยังมีกลิ่นอายแห่งความลึกลับ ด้วยเพราะเหตุนี้ เสิ่นอีเวยจึงสนใจอย่างลึกซึ้ง
แต่เดิมคิดว่าจะเห็นนิทรรศการผลงานของเขาในต่างประเทศเท่านั้น แต่คิดไม่ถึงว่าที่นี่ก็มี
นักออกแบบคนนี้ ไม่เคยปรากฏตัวต่อหน้าสาธารณชน ไม่เพียงแค่ผลงานที่มีความลึกลับ แม้แต่ตัวตนของเขาก็มีความลึกลับเช่นกัน คล้ายกับถูกปิดคลุมด้วยผ้าม่าน ไม่มีใครสามารถล่วงรู้ความลับข้างในได้
พื้นที่จัดแสดงนิทรรศการของAuthur มีตู้โชว์ที่สง่างามและโปร่งใส จัดแสดงโชว์สร้อยคอและเข็มกลัดที่ทำมาจากคริสทัล ดูเหมือนว่าสร้อยคอและเข็มกลัดจะอยู่ในคอลเลคชั่นเดียวกัน เสิ่นอีเวยไม่เคยรู้เลยว่า จะมีคนสามารถออกแบบตัดคริสทัลสีฟ้าออกมาได้ประณีตสวยงามและน่าหลงไหลเช่นนี้
เพชรที่แตกเป็นเศษเล็กเศษน้อยนับไม่ถ้วน พร้อมกับแสงที่ส่องลงมาจากโคมไฟบนฝ้าเพดาน ทำให้สร้อยคอและเข็มกลัดด้านบนเหมือนกับตกแต่งไปด้วยดวงดาวเต็มท้องฟ้า ท่ามกลางดวงดาวที่ส่องแสง สายตาของเสิ่นอีเวยถูกดึงดูดอย่างถอนตัวไม่ได้
เสิ่นอีเวยนึกถึงตอนอยู่ประเทศอังกฤษ เคยได้เห็นข่าวหนึ่ง เกี่ยวกับนักออกแบบเครื่องประดับ Authur เริ่มตั้งแต่การออกแบบ การเลือกวัสดุ จนถึงขึ้นตอนสุดท้ายที่ได้ผลงานออกมา ในระหว่างกระบวนการทั้งหมดเขาลงมือทำเองทุกขั้นตอน
เสิ่นอีเวยกำลังจะเดินกลับไปดูรายละเอียดที่ตู้โชว์อีกครั้ง
“อีเวย?”เสียงผู้ชายดังขึ้นมาจากด้านหลัง ความคิดของเสิ่นอีเวยถูกขัดจังหวะทันที เธอหันหลังกลับไป มองหน้าคนที่เรียกชื่อเธอ
เสิ่นอีเวยตกใจ เขาคือเจียเฉิงหวิน ทายาทของบริษัทเอเจนซี่ ลูกชายคนเดียวของประธานกรรมการเจีย
วันนี้เจียเฉิงหวินสวมใส่ชุดสูทสีเทาเข้ม ที่มีการตัดเย็บที่แสนจะประณีตเข้ากับรูปร่างสูงหล่อของเขา ทำให้เขามีความสง่างาม ทรงผมของเขาถูกหวีอย่างพิถีพิถัน เขามองเสิ่นอีเวยด้วยสายตาที่แสนอ่อนโยน
ทายาทตระกูลเจียคนนี้ ที่จริงเสิ่นอีเวยเคยเจอเขาเพียงแค่ครั้งเดียวตอนพาเหมียนเหมียนน้อยเข้าไปเซ็นสัญญากับเฟิงสิง ตอนนั้นเขาอยากเข้ามาชวนเธอคุย เลี้ยงข้าวเธอ แต่โดนเสิ่นอีเวยใช้ข้ออ้างเรื่องงานมาปฏิเสธ หลังจากนั้นก็ไม่ได้เจอเขาอีกเลย
ผ่านไปสามเดือนเต็มๆ เสิ่นอีเวยไม่คิดว่าตนเองจะบังเอิญเจอเจียเฉิงหวินที่นี่
“คุณเจีย บังเอิญจังเลยค่ะ คิดไม่ถึงว่าจะบังเอิญเจอคุณที่นี่” ใบหน้าของเสิ่นอีเวยมีรอยยิ้มบางๆ แต่แววตาของอีกฝ่ายกลับมีความสดใสและอ่อนโยน
แท้จริงแล้วเสิ่นอีเวยไม่ชอบผู้ชายคนนี้ แต่ตอนนี้เธอไม่ใช่คนที่เอาความรู้สึกเป็นที่ตั้งเหมือนในวันวาน เสิ่นอีเวยเขียนไว้บนหน้าผากคอยเตือนตนเองเสมอ อีกทั้งตอนนี้เหมียนเหมียนน้อยเซ็นสัญญาเป็นนักแสดงเด็กกับบริษัทการบันเทิงเฟิงสิง ผู้ชายคนนี้คือผู้บริหารของบริษัทการบันเทิงเฟิงสิง ดังนั้นเธอไม่ต้องการแสดงท่าทางเย็นชากับเขา
เสิ่นอีเวยคิดว่า เจียเฉิงหวินยังมีประโยชน์กับเธออยู่ ตราบใดที่ยังรักษามารยาทพื้นฐานไว้ ก็ไม่มีปัญหา
แต่เขาคือทายาทของเฟิงสิงบริษัทการบันเทิงที่กำลังเป็นที่นิยม เป็นธรรมดาที่ตนเองจะมีมาด
เป็นอย่างที่คิด เจียเฉิงหวินตอบเสิ่นอีเวยด้วยรอยยิ้ม เขาพูดว่า:“ ที่จริงไม่ใช่เรื่องบังเอิญ ผมตั้งใจมารอคุณเสิ่นที่นี่”
เสิ่นอีเวยระงับความรู้สึกไม่พอใจเอาไว้ เธอแกล้งถามด้วยความสงสัย:“ออ? ตั้งใจมารอเจอฉันที่นี่หรอคะ?”
เจียเฉิงหวินพยักหน้า:“ ผมรู้มานานแล้วว่าวันนี้คุณเสิ่นจะมาดูนิทรรศการ”
เสิ่นอีเวยพยักหน้าอย่างครุ่นคิด:“ที่แท้เป็นแบบนี้เอง งั้นคงคุณเจีย……คงลำบากแย่เลย”
ในความเป็นจริงเสิ่นอีเวยยังคงวางตัวไม่ถูก ท้ายที่สุดเธอก็ยังไม่ค่อยเก่งในการรับมือกับสถานการณ์เช่นนี้ ดังนั้นจึงอายจนหน้าแดง
และความอายจนหน้าแดง กลับถูกสายตาของเจียเฉิงหวินจับได้ จึงทำให้หัวใจของเขายิ่งเต็มไปด้วยความรักและต้องการดูแล
“คุณเสิ่นเขินหรอครับ?” เจียเฉิงหวินขยับเข้าใกล้หนึ่งก้าว
จิตใต้สำนึกของเสิ่นอีเวยบอกให้เธอเว้นระยะห่างของตนเองกับอีกฝ่ายเล็กน้อย
“เปล่าค่ะ ฉันไม่ได้เขิน เพียงแต่รู้สึกว่าคุณเจียไม่จำเป็นต้องทำแบบนี้” สายตาของเสิ่นอีเวยเริ่มจริงจังมากขึ้น
แต่ดูเหมือนว่าคนอย่างเจียเฉิงหวินจะคุ้นเคยกับมัน เขารู้สึกมีความสุขที่สุดเมื่อเห็นอีกฝ่ายเขินอาย เขาจ้องมองเสิ่นอีเวย หลังจากนั้นคนที่โดนเขามองเริ่มอยู่ไม่เป็นสุข
เสิ่นอีเวยไม่ต้องการปล่อยให้เจียเฉิงหวินทำตัวน่ารังเกียจตามอำเภอใจเช่นนี้ ดังนั้นเธอจึงไม่สนใจเขา เดินตรงออกไปด้านข้าง
แต่สิ่งที่เธอคิดไม่ถึงคือ เจียเฉิงหวินจะเดินตามตนเองมาด้วย ในใจของเสิ่นอีเวยต้องการไล่เขาออกไป เธอพยายามควบคุมจังหวะการหายใจของตนเองและก้าวเดินด้วยความมั่นคงอย่างสุดความสามารถ
ผู้ชายที่ทั้งโสดทั้งรวยคนนี้ หน้าตาและรูปร่างก็ไม่เลว ทำไมพูดออกมาแต่ละคำ ถึงทำให้คนรู้สึกเลียนแบบนี้?
เสิ่นอีเวยคิดไม่ออกจริงๆ
เมื่อเห็นเจียเฉิงหวินแบบนี้ ไม่รู้ว่าเพราะอะไร ปรากฏเงาของเซิ่งเจ๋อเฉิงขึ้นมาในความคิดของเสิ่นอีเวยทันที
ทำไมบนโลกใบนี้มีถึงได้มีคนประหลาดแบบนี้ รูปลักษณ์ภายนอกและกิริยาท่าทางของเซิ่งเจ๋อเฉิงก็โดดเด่นเช่นกัน แต่ไม่เคยทำให้คนรู้สึกเลียนแบบนี้
คนที่รักแต่ไม่ได้อยู่ร่วมกันที่ไม่มีวันลืมเลือนตลอดชีวิต???
อยู่ดีๆเสิ่นอีเวยก็คิดคำคุณศัพท์ดังกล่าวขึ้นมา เธอตกใจมากและก็รู้สึกคลื่นไส้ภายในเวลาอันรวดเร็ว
คำคุณศัพท์ไร้สาระพวกนี้ ตนเองคิดออกมาได้ยังไงเนี่ย! ออกไปจากความคิดฉันซะ!
เสิ่นอีเวยพยายามส่ายหัวไปมา การกระทำนี้ถูกเจียเฉิงหวินมองเห็นเข้าพอดี
“คุณเสิ่น คุณเป็นอะไรไปครับ?”
เสิ่นอีเวยดึงสติของตนเองกลับมาทันที เธอเหลือบมองเจียเฉิงหวิน และทำท่าสงบ :“ไม่เป็นอะไรค่ะ”
“ถ้าคุณเสิ่นบังเอิญเจอกับเรื่องอะไร พูดออกมาผมอาจจะช่วยได้นะครับ ”เจียเฉิงหวินยังคงซักไซ้ต่อไป
พี่ชาย ฉันคงไม่สามารถบอกคุณได้ว่าคุณมันเลียนเหมือนเนื้อติดมันใช่ไหม?
เสิ่นอีเวยมองบนในใจ
เจียเฉิงหวินไม่สนใจที่เสิ่นอีเวยไม่ตอบคำถาม เขามองตามสายตาของเธอ พบว่าเสิ่นอีเวยเหมือนกับว่ากำลังสนใจเข็มกลัดชิ้นนั้นอยู่มากมาย
เจียเฉิงหวินถอนสายตาตนเองกลับมา มองไปที่ใบหน้าของเสิ่นอีเวย :“คุณเสิ่นก็ชอบผลงานของนักออกแบบคนนี้ใช่ไหมครับ?”
“ใช่ค่ะ!”
นี่คือเสิ่นอีเวย ถ้าคุยหัวข้อที่ตนเองสนใจ ไม่ว่าอีกฝ่ายจะเป็นใครทำให้เธอรำคาญมากแค่ไหน เธอจะสามารถพูดคุยได้สักประโยคหรือสองประโยค
“บังเอิญจังเลย ผมก็ชอบ”
เสิ่นอีเวยเริ่มทำตัวไม่ถูก แต่ใบหน้ากลับไม่แสดงออกถึงความรู้สึกใดๆ เธอหันกลับไปมองเจียเฉิงหวิน ยิ้มให้อีกฝ่ายด้วยมารยาทหนึ่งครั้ง
แต่เจียเฉิงหวินกลับคิดว่า รอยยิ้มแบบนี้เป็นการเชื้อเชิญให้เขาพูดคุยต่อไป