สามีเก่าอ้อนรัก - ตอนที่ 341
บทที่ 341 เสิ่นเหมียนเหมียนปะทะชายร่างใหญ่
เมื่อเห็นหนูน้อยน้ำตาร่วงแหมะ ๆ ชายร่างใหญ่ก็ทำอะไรไม่ถูก ผู้ชายที่ใช้ชีวิตหยาบ ๆ มาโดยตลอด จะเคยตกอยู่ในสถานการณ์แบบนี้ได้อย่างไร? อยู่ดี ๆ ก็ดันต้องมาตกอยู่ในสภาพแบบนี้เขาก็ไม่รู้จะทำอย่างไรต่อ
ยิ่งเห็นเหมียนเหมียนร้องไห้หนักขึ้นเรื่อย ๆ ชายร่างใหญ่ส่งสายตาขอความช่วยเหลือไปที่ “เพื่อนร่วมงาน” ที่ยืนเฝ้าอยู่ที่ประตู: “เฮ้ มานี่ที!”
ชายร่างใหญ่รีบเรียกชายอีกคน
“มีเรื่องอะไร?” ชายอีกคนถาม ชายร่างใหญ่ชี้ไปที่เหมียนเหมียน และพูดว่า: “จะทำยังไงล่ะทีนี้? เรื่องปลอบเด็กร้องไห้ฉันไม่ถนัดหรอกนะ แกมีลูกนิ น่าจะมีความคิดอะไรดี ๆ ช่วยฉันหน่อยสิ จะทำยังไงไม่ให้เด็กร้อง”
เห็นได้ชัดว่าคนที่ถูกเรียกมาก็ชักไม่ค่อยแน่ใจว่าจะทำยังไง แต่ดูจากแววตาใสแจ๋วของหนูน้อยคนนี้แล้ว ดูเหมือนว่าจะปลอบไม่ง่ายเหมือนเด็กทั่ว ๆ ไป แต่มาถึงขนาดนี้แล้ว เขาก็ไม่รู้จะใช้วิธีไหน ก็เลยต้องลองดูสักตั้ง
ชายคนนั้นนั่งยอง ๆ ตรงหน้าเหมียนเหมียน ใช้วิธีหลอกล่อเกลี้ยกล่อมเหมือนลูกชายของตัวเองที่บ้านพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนว่า: “ไม่ร้องนะเด็กดี อีกพักเดี๋ยวลุงซื้อเครื่องบินบังคับให้เล่นดีไหม ! ”
เหมียนเหมียน: “… ”
ชายร่างใหญ่: “… ”
ชายร่างใหญ่ทำท่าพูดอะไรไม่ออก ชะงักไปพักหนึ่งแล้วพูดอย่างช่วยไม่ได้: “ต้าหลิว หนูน้อยคนนี้เป็นเด็กผู้หญิงนะ ลูกแกเป็นเด็กผู้ชาย เด็กผู้หญิงกับเด็กผู้ชายจะเหมือนกันได้ยังไงเล่า? โง่หรือไงแกนี่? ”
ต้าหลิวทำหน้างง ๆ ดูออกเซ่อๆ พูดพึมพำว่า:”ก็จริง แกก็พูดถูก เด็กผู้หญิง … ฉันต้องเปลี่ยนเป็น – -”
หลังจากคิดสักพัก ต้าหลิวก็นั่งย่อง ๆ ข้างๆ เหมียนเหมียน พูดยิ้ม ๆ ว่า: “ถ้าหนูไม่งอแง เดี๋ยวลุงซื้อตุ๊กตาบาร์บี้ให้ดีไหม?”
เหมียนเหมียนที่กำลังร้องไห้กระซิก ๆ ชะงักครู่หนึ่ง แล้วมองตากับต้าหลิว อีกฝ่ายคิดว่าวิธีนี้น่าจะใช้ได้ผล กำลังจะแย้มยิ้ม แต่กลับเห็นตากลมโตของเด็กน้อยมองอย่างโมโห: “หนูไม่ชอบตุ๊กตาบาร์บี้! หนูจะหาคุณแม่! เอาคุณแม่ของหนูคืนมา ฮือ ๆ ๆ … !”
คราวนี้ ชายร่างใหญ่สองคนมองหน้ากันอย่างเงียบ ๆ : “… ”
ในขณะที่ชายร่างใหญ่ทั้งสองกำลังงงงวยอยู่ เหมียนเหมียนยื่นมือเล็ก ๆ เข้าไปในกระเป๋าสะพายรูปกระต่ายขนปุย คว้าวัตถุแข็ง ๆ รูปร่างคล้ายขวดแก้วเล็ก ๆ ในกระเป๋า
มองดูชายร่างใหญ่ทั้งสองคนทำอะไรไม่ถูก ความคิดหนูน้อยแวบเข้ามาในหัว ไม่มีใครรู้ว่า เสิ่น
เหมียนเหมียนกำลังคิดอะไรอยู่
ชายร่างใหญ่และต้าหลิวยืนอยู่ทั้งคู่ เหมียนเหมียนเงยหน้าขึ้นมองพวกเขา มองจากมุมนี้ทำให้หนูน้อยน่ารักขึ้นอีกเป็นกอง ชายร่างกำยำทั้งสองไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น จิตใจรู้สึกอ่อนโยนขึ้นมาทันที
เวลานี้ หนูน้อยทำหน้าครุ่นคิด: “ที่จริง ก็มีวิธีที่จะไม่ให้หนูร้องไห้อยู่นะ…”
“พูดสิ มีวิธีไหน? นอกจากคุณแม่ของหนู พวกเราหามาให้ได้หมดเลย”
ชายร่างใหญ่ได้ยินคำพูดของต้าหลิว รีบกระทุ้งข้อศอกไปที่ท้องของเขา: “เฮ้อ อย่ารับปากอะไรง่าย ๆ แบบนี้สิ! ต้องดูก่อนว่าเด็กต้องการอะไร แล้วเราทำให้ได้หรือเปล่าค่อยรับปากสิ?”
ต้าหลิวทำหน้าปกติพูดลอย ๆ ว่า: “เล็กตัวเล็กนิดเดียว แค่สี่ห้าขวบ อายุเท่ากันกับลูกชายของฉันจะขออะไรประหลาดๆได้ยังไงเล่า วางใจเถอะ! ”
ต้าหลิวพูดกับชายร่างใหญ่ ทำท่าให้ เหมียนเหมียนพูดต่อ: “พูดมาสิ หนูอยากได้อะไร?”
เหมียนเหมียนกลอกตารอบหนึ่ง จากนั้นแววตาที่มุ่งมั่นก็จ้องไปที่ใบหน้าของชายทั้งสอง พูดทีละคำ ๆอย่างชัดเจน: “หนูยังไม่ทันได้กินข้าวเช้า ก็โดนลุงสองคนจับตัวมา หนูอยากกินแฮมเบอร์เกอร์กับซุปครีมหัวหอม”
หลังจากเหมียนเหมียน พูดจบชายทั้งสองมองหน้ากันครู่หนึ่ง คิดว่าหูตัวเองฟังผิด สองวินาทีต่อมา ชายร่างใหญ่หัวเราะพลางพูดว่า: “หนูน้อย ฉันคิดว่าเธอจะขออะไรที่มันใหญ่กว่านี้สะอีก ก็แค่ของกินเองนิใช่ไหม? ได้ ๆ ๆ เดี๋ยวลุงไปซื้อมาให้นะดีไหม? ”
เมื่อได้ยินชายร่างใหญ่บอกว่าจะออกไปซื้อของกินมาให้ ต้าหลิวที่ยืนอยู่ข้างๆชักไม่เห็นด้วย รีบฉุดแขนชายร่างใหญ่ไว้ แล้วพูดว่า: “แกจะไปไหน? นายจ้างเขาบอกว่าให้ดูเด็กคนนี้อย่าให้คาดสายตา ไม่ใช่เหรอ? ถ้าเกิดอะไรขึ้นมาจะทำยังไง? ”
ชายร่างใหญ่ได้ยินดังนั้นรู้สึกว่าเป็นเรื่องตลก: “พูดอีกทีสิ? ไม่ใช่แล้วมั้ง ต้าหลิวนี่แกอย่าบอกนะ เด็กตัวกระเปี๊ยกแค่นี้แกเอาไม่อยู่ ถ้าอย่างนั้นจะจ้างแกมาทำอะไรวะ?”
คนที่ชื่อต้าหลิว เหมือนว่าจะไม่โกรธที่เพื่อนร่วมทีมพูดทำนองดูถูกเขา เขาแค่พิจารณาสถานการณ์โดยรวมเท่านั้น จากนั้นก็ดึงชายร่างใหญ่ไปคุยห่างจากหนูน้อยพอสมควร พูดกระซิบกระซาบว่า: “แกไม่คิดว่า เด็กคนนี้ฉลาดกว่าเด็กธรรมดาทั่วไปเหรอ? ความคิดความอ่านฉันดูยังไงก็ไม่ค่อยเหมือนเด็กอายุสี่ห้าขวบทั่ว ๆไป อีกอย่างเด็กคนนี้ก็เป็นดาราเด็กที่โด่งดัง เสิ่นเหมียนใช่ไหมล่ะ? ดาราเด็กแบบนี้มันต้องฉลาดกว่าเด็กทั่ว ๆไปอยู่แล้วไม่ใช่เหรอ? เพราะ ฉะนั้นฉันคิดว่าเราควรจะระวังเด็กคนนี้ไว้หน่อยก็ดีนะ”
ชายร่างใหญ่ได้ฟังจบ ก็หัวเราะออกมาทันที: “เด็กตัวเล็กนิดเดียว ฉลาดแค่ไหนก็ยังเป็นเด็กอยู่วันยังค่ำไม่ใช่หรือไง? จะสู้ผู้ใหญ่สองคนอย่างเราได้ยังไงกันเล่า?”
ชายร่างใหญ่ค่อนข้างมั่นใจในความแข็งแกร่งของเขา
ดูเหมือนว่าเขาจะคิดอะไรออก ชายร่างใหญ่จึงพูดเสริมว่า: “อีกอย่าง แกไม่ได้สังเกตเหรอ? เด็กคนนี้ดูท่าทางถ้าไม่ให้เขากินของอร่อยๆคงไม่หยุดร้องง่ายๆแน่ ทำไม แกไม่กลัวว่าถ้าเด็กร้องไห้ไม่หยุด เสียงดังไปถึงระแวกข้างๆมีคนได้ยินเข้า พวกเราจะไม่แย่ไปกว่าเดิมเหรอ?
ถ้ามีใครรู้ ไม่แน่เขาอาจคิดว่าเราสองคนเป็นพวกจับเด็กเรียกค่าไถ่ แจ้งตำรวจมาจับพวกเรา ถึงเวลานั้นแกกับฉันจะไปแก้ต่างกับใคร? อีทีเรื่องแบบนี้แกไม่คิด แกไปเฝ้าเด็ก เดี๋ยวฉันจะไป KFC ละแวกใกล้ๆนี้ซื้อของกินมา อย่าพูดมาก ฉันไปก่อนล่ะ!”
จริง ๆ แล้วต้าหลิวก็เห็นด้วยกับคำพูดของชายร่างใหญ่ แต่ในใจก็ยังไม่ค่อยวางใจสักเท่าไร เหมือนกับรู้สึกว่าจะเกิดเรื่องอะไรสักอย่าง แต่ก็ไม่มีทางเลือกอื่น รอจนเขารู้สึกตัว ชายร่างใหญ่ก็เดินจากไปนานแล้ว
ในช่วงเวลาที่ชายร่างใหญ่หายไป เหมียนเหมียนจ้องมองไปที่ชายที่ชื่อต้าหลิวตลอด แม้ว่าต้าหลิวจะไม่ใช่คนโหดเหี้ยมอะไร แต่หน้าตาเขาช่างดูดุร้ายยิ่งนัก บวกกับเมื่อตอนวัยรุ่นเขายกพวกชกต่อยกับคนอื่น ที่แก้มซ้ายมีรอยแผลเป็นแนวยาว ต้องเย็บแผลหลายเข็มจนกลายเป็นแผลเป็นน่ากลัว
ต้าหลิวแปลกใจมาก ว่าทำไมหนูน้อยที่อยู่ตรงหน้าไม่มีทีท่าว่าจะกลัวเขาเลยสักนิด
ในเวลาไม่นานนัก สิบนาทีต่อมาชายร่างใหญ่ก็กลับมาพร้อมกับของกินต่าง ๆ