สามีเก่าอ้อนรัก - ตอนที่ 344
บทที่ 344 ที่หนูใส่คือผงสลอด
แต่ถึงแม้ว่า เหมียนเหมียนจะไม่รู้ว่าหลินอวี้กำลังคิดไม่ตก แต่ก็พูดโดยคิดถึงแต่ตัวเองว่า: “หนูรู้นะว่า คุณคือคนของอาเซิ่งคนนั้น ก็คือผู้ช่วยของอาคนนั้นที่แม่ของหนูไม่ค่อยชอบ”
ตอนที่กลับเข้าประเทศมาในวันนั้นคุณอาเป็นคนพาตัวหนูไป ทำให้หม่ามี๊หนูเป็นห่วงตั้งนาน แต่หนูไม่โทษคุณหรอก เพราะหนูรู้คุณต้องทำตามคำสั่งอาเซิ่งคนนั้น
วินาทีนั้นหลินอวี้พูดอะไรไม่ออก เด็กผู้หญิงคนนี้อายุสี่ขวบจริงเหรอ ทำไมทุกคำที่พูดออกมาทำให้รู้สึกเหมือนผู้ใหญ่คนหนึ่ง
อีกอย่างนะคุณหนู ที่คุณหนูเรียกอาเซิ่งนั่นอีก ไม่ใช่อาแต่เขาเป็นพ่อแท้ๆของคุณหนู
เดิมทีหลินอวี้เองก็คิดจะแก้ไขความเข้าใจผิดของคุณหนู แต่พอมาคิดดูอีกที เรื่องนี้น่าจะให้ประธานเซิ่งเป็นคนจัดการด้วยตนเองจะดีกว่า
“อ้อ” เหมียนเหมียนเหมือนกับคิดอะไรได้ขึ้นมา
“ว่าแต่ อาหลินอวี้มาทำอะไรที่นี่ มาช่วยหนูเหรอ” เสียงของเหมียนเหมียนเล็กๆเง้างอน
หลินอวี้พยักหน้า
เหมียนเหมียนหลุบตาลงต่ำ พูดเสียงเรียบว่า:”อย่างนี้นี่เอง แต่ว่า พวกคุณเหมือนจะมาช้าไปหน่อย เพราะสองคนนั้นอะถูกหนูจัดการล้มลงไปแล้ว”
หลินอวี้”……”
บรรดาบอดี้การ์ด “……”
อะไรนะ พวกเขาไม่ได้ฟังผิดไปใช่มั้ย เด็กน้อยสี่ขวบคนนี้พูดว่าอะไรนะ เธอจัดการผู้ชายร่างใหญ่สองคนล้มลงไปแล้วเหรอ
หลินอวี้ได้ฟังดังนั้น เขากับบอดี้การ์ดทั้งหมดก็เข้าไปดูด้านในโกดังร้าง พวกเขายืนอึ้งดูภาพด้านในที่หน้าประตู ผู้ชายร่างกำยำสองคนเอามือกุมท้องกลิ้งไปกลิ้งมาด้วยความปวด
ถ้าไม่ได้เห็นด้วยตาตนเอง พวกเขาไม่มีทางเชื่อแน่ สิ่งที่คุณหนูพูดไม่ผิด
ตอนนี้เองมีเสียงเล็กๆดังขึ้นจากด้านหลังของพวกเขา: “อาหลิน”
หลินอวี้ได้ยินเสียงก็ตกใจเพราะยังไม่ทันได้ตั้งตัว เขารีบหันกลับไปดู สบตากับเหมียนเหมียนเข้าพอดี: “คุณหนูมีอะไรให้พวกผมรับใช้ครับ”
เหมียนเหมียนยื่นมืออวบเล็กๆออกมาปัดฝุ่นที่เกาะอยู่บนกระเป๋ากระต่าย แล้วพูดลอยๆขึ้นมาว่า:”หนูอยากจะรบกวนเรียกรถพยาบาลมาที่นี่ให้หน่อย”
หลินอวี้ได้ยินประโยคนี้ หัวใจเขาเกร็งแน่นขึ้นมาทันที คิดว่าเหมียนเหมียนบาดเจ็บตรงไหน รีบเข้าไปถามด้วยใบหน้าที่เป็นห่วงกังวล: “คุณหนูบาดเจ็บตรงไหนเหรอครับ”
เด็กน้อยเห็นท่าทีตกใจลนลานของหลินอวี้ จึงแปลกใจ :”อาหลิน ทำไมขมวดคิ้วแน่นขนาดนั้นล่ะคะ”
หลินอวี้ “……”
เขานิ่งเงียบไปเสี้ยววินาที จากนั้นจึงตอบว่า “ก็เพราะว่าตอนนี้คุณหนูคือชีวิตของประธานเซิ่งของพวกเรา หากคุณหนูเป็นอะไรไป เขาต้องมาคิดบัญชีกับผมแน่”
เด็กน้อยดูเหมือนจะฟังเข้าใจ แต่ก็เหมือนจะไม่เข้าใจ นิ่งเงียบแล้วพยักหน้า พูดว่า:”คนที่บาดเจ็บไม่ใช่หนูค่ะ แต่เป็นสองคนที่นอนกลิ้งไปกลิ้งมาบนพื้นนี่ต่างหาก”
เหมียนเหมียนพูดพลางยื่นมือชี้นิ้ว
หลินอวี้กุมขมับอีกครั้ง
“หนูใส่อะไรบางอย่างลงไปในซุปหัวหอม จากนั้นก็ป้อนให้พวกเขากินไปหลายคำ ดังนั้นตอนนี้พวกเขาคงจะปวดท้องจนแทบทนไม่ไหวแล้ว หนูคิดว่า ถึงแม้พวกเขาจะจับตัวหนูมาก็ตาม แต่หนูก็ไม่ได้คิดจะเอาชีวิตของพวกเขาหรอก ดังนั้นคุณอาช่วยฉันเรียกรถพยาบาลมาให้พวกเขาหน่อย”
ความน่ารักของเหมียนเหมียนช่างเหมือนอสูรน้อยจอมซนที่พูดประโยคนี้อย่างจริงจัง
หลินอวี้กับบรรดาบอดี้การ์ดข้างหลังต่างตะลึงอ้าปากค้างกันหมด
หลินอวี้มองลูกสาวเจ้านายอย่างไม่อยากจะเชื่อสายตา สมกับเป็นคนจริง นิสัยแบบนี้ มันสมองแบบนี้ ก็มีเพียงเจ้านายเขากับคุณเสิ่นอีเวยที่จะให้กำเนิดเด็กแบบนี้ได้
แต่ว่าเสิ่นเหมียนสั่งแล้ว เขาไม่ทำก็ไม่ได้ แต่ประธานเซิ่งก็สั่งเขาไว้เช่นกันว่าหาเด็กเจอแล้วจัดการส่งสองคนนี้ไปที่คฤหาสน์ตระกูลเซิ่งเขาจะรออยู่ที่นั่น
ดังนั้นสำหรับเรื่องนี้หลังจากนี้ เขาก็ไม่กล้าเพิกเฉยละเลยแม้แต่น้อย เขาจึงหันกลับไปสั่งพวกบอดี้การ์ด : “เรียกรถพยาบาลมาเร็ว เร็วเข้า สองคนที่นอนอยู่นี้ ประธานเซิ่งต้องการคุยกับพวกเขาด้วยตัวเอง ดังนั้นพยายามอย่าให้พวกมันเกิดเรื่อง เข้าใจมั้ย”
หลังจากรับคำสั่งแล้ว บรรดาบอดี้การ์ดต่างรับคำสั่ง :”ครับ”
พูดจบก็โทรต่อสายไปโรงพยาบาลทันที จากนั้นก็เข้าไปพยุงคน ทุกคนต่างเริ่มยุ่งส่วนทางหลินอวี้รับผิดชอบพาเสิ่นเหมียนขึ้นรถ ส่งกลับไปที่คฤหาสน์ตระกูลเซิ่งนทันที
ตอนที่หลินอวี้กับเด็กน้อยที่สูงเท่ากับต้นขาเขาสบตากัน อารมณ์บนใบหน้าของเขาอ่อนโยนลงแล้วพูดว่า: “คุณหนู พวกเราไปกันเถอะครับ”
ตอนนี้เป็นเหมียนเหมียนที่มีท่าทีสงสัย ถลึงตามองหลินอวี้ :”เราจะไปที่ไหนคะ”
“คฤหาสน์ตระกูลเซิ่ง”
สำหรับเหมียนเหมียนแล้ว เป็นชื่อสถานที่ที่ไม่เคยได้ยินมาก่อน
” ที่นั่นคือที่ไหน”
หลินอวี้คิดแล้วคิดอีกก่อนตอบว่า: “บ้านคุณพ่อกับคุณแม่ของคุณหนูไงครับ”
เหมียนเหมียนนิ่งเงียบไปชั่วครู่ แล้วเงยหน้าขึ้นมาพูดอย่างจริงจังว่า: “ไม่ คุณพูดผิดแล้ว บ้านของแม่หนูไม่ได้อยู่ที่คฤหาสน์ตระกูลเซิ่งอะไรนั่น
แต่อยู่ที่บ้านตระกูลเสิ่นต่างหาก หนูจำได้แม่น”
หลินอวี้ “…..”
เด็กผู้หญิงอายุสี่ขวบ การคิดวิเคราะห์ไม่ต้องละเอียดรอบคอบขนาดนี้ก็ได้ แล้วอย่างนี้เขาจะทำอย่างไรให้เด็กคนนี้ยอมไปกับเขาได้
สมองของหลินอวี้ครุ่นคิด สุดท้ายก็คิดคำตอบที่เขาคิดว่าดีมากออกมาได้
“แต่ว่าตอนนี้แม่ของคุณอยู่ที่นั่นนะครับ คุณหนูไม่อยากเจอเหรอ”
หลินอวี้เห็นชัดเจนเลยว่า เหมียนเหมียนได้ยินคำว่า แม่ ดวงตาโตก็เป็นประกายขึ้นมา เด็กผู้หญิงคนนี้ก็ยังสนิทสนมกับแม่มากกว่าอยู่ดี
เจ้านายครับเจ้านาย อีกหน่อยคุณคงต้องมีเรื่องปวดหัวแล้วละ หลินอวี้คิดในใจ
ระหว่างทางที่ขับรถไปคฤหาสน์ตระกูลเซิ่งนั้น เหมียนเหมียนนั่งบริเวณเบาะหลัง หลินอวี้ขับรถอย่างมีสมาธิ แม้ว่าเขาจะจดจ่อแค่ไหนแต่เขาก็ควบคุมสมาธิไว้ไม่อยู่ ถูกดึงดูดความสนใจไปที่เด็กน้อยด้านหลัง
อยู่ๆเขาก็คิดคำถามหนึ่งขึ้นมา ถามว่า: “คุณหนู คุณทำอย่างไรให้สองคนนั้นกลายเป็นแบบนั้นไปได้”
ที่เขาพูดว่า กลายเป็นแบบนั้น เพราะว่าหลินอวี้ไม่รู้ว่าเด็กน้อยที่นั่งอยู่ด้านหลังใส่อะไรไปในซุปหัวหอมกันแน่ ดูจากสภาพที่พวกเขานอนปวดกลิ้งไปมาบนพื้น น่าจะเพราะอาหารเป็นพิษ
“อาหลิน คุณคงคิดว่าพวกเขาอาหารเป็นพิษแน่ๆ”
คิดไม่ถึงว่าเธอจะดูออกว่าเขาคิดอะไร คิ้วของหลินอวี้ยกขึ้นโดยบังคับไม่ได้
” ใช่ครับ แล้วมันไม่ได้เป็นอย่างนั้นเหรอครับ “มีแววสงสัยในน้ำเสียงนั้น
เด็กน้อยที่นั่งอยู่เบาะหลังพูดอย่างคันปากว่า: ” ไม่ใช่นะ พวกเขาไม่ได้อาหารเป็นพิษ หนูเอาผงสลอดใส่ไปในซุปหัวหอมให้เขากิน”
หลินอวี้ “……”