สามีเก่าอ้อนรัก - ตอนที่ 35
ตอนที่ 35 ฝันร้าย
จู่ๆเธอก็นึกถึงความทรงจำครั้นเมื่อเนิ่นนาน ตอนที่แม่ยังอยู่ และเคยพูดกับเธอประโยคหนึ่ง
ถ้าหากลูกรักใครคนหนึ่ง ไม่ว่าเขาจะดีหรือไม่ดีต่อลูก โปรดอย่านึกคิดถึงปฏิกิริยาตอบกลับของลูกว่าเป็นยังไง หลังจากเขาทำบางอย่างกับลูก
เพราะวินาทีที่เกิดเรื่องขึ้น ลูกจะพบว่าต่อให้ตัวเองเตรียมเส้นทางถอยหนีเป็นอย่างดี และลูกมั่นใจว่าตัวเองสามารถถดถอยจากฝ่ายตรงข้ามได้ แต่ในความเป็นจริงจะบอกลูกว่าทุกอย่างเป็นเพียงแค่ความว่างเปล่า
เพราะวินาทีที่ลูกตัดสินใจรักเขา ลูกก็กลายเป็นคนแพ้แล้ว
แต่ในตอนนี้เสิ่นอีเวยอยากบอกว่า อันที่จริงโชคชะตานั้นไม่ยุติธรรม เพราะมันแทบจะไม่ให้โอกาสให้ตัวเองตัดสินใจว่ารักเซิ่งเจ๋อเฉิงหรือเปล่า ทุกอย่างเกิดขึ้นเมื่อหลายปีก่อน โชคชะตาได้ผลักไสเธอให้กับเซิ่งเจ๋อเฉิง เมื่อเสิ่นเจ๋อเสิ่นรู้ตัวว่าตัวเองถลำลึก ทุกอย่างล้วนสายไปแล้ว
เสิ่นเจ๋อเสิ่นเกลียดชังสภาพของตัวเองในตอนนี้ แต่เธอฟังเสียงหัวใจตัวเองได้อย่างชัดเจน ในใจของเธอตอนนี้เปล่งเสียงร้องว่า”สนองเขา สนองเขา
ในดวงตาแดงระเรื่อปนเปไปด้วยคราบน้ำตา และยังแฝงไปด้วยความเจ็บปวด ไม่ยอม และทำอะไรไม่ได้ ในเมื่อโชคชะตาปฏิบัติต่อเธออย่างนี้ เช่นนั้นเธอก็––จะสนองความต้องการของโชคชะตา
ในที่สุดเหตุการณ์ก็ดำเนินไปทั้งคืน ภายใต้ความคลุ้มคลั่งของเซิ่งเจ๋อเฉิง ทำให้เธอเคลิบเคลิ้ม
ท่าทางเก้งกางของเสิ่นอีเวยได้กระตุ้นสัตว์ประหลาดที่บ้าคลั่งของเซิ่งเจ๋อเฉิงแล้ว ในหัวสมองของผู้ชายหลงเหลือเพียงสติอันน้อยนิด และเขายังพ่ายแพ้หยกเนื้ออ่อนที่หอมอุ่นอย่างราบคาบ มือที่มีพละกำลังยกขาข้างหนึ่งของเสิ่นอีเวยขึ้น
ท่วงท่าอันน่าเขินอาย และพละกำลังในการโจมตี ทำให้ผู้หญิงที่อยู่ในอ้อมอกเหมือนแมวน้อยร้องคร่ำครวญขึ้นในหูของเซิ่งเจ๋อเฉิง และยังทะลวงเข้าไปในร่างกายของผู้ชายด้วย จากนั้นการกระทำส่วนล่างของร่างกายก็ยิ่งรุนแรงเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จนทำให้เสิ่นอีเวยหายใจหอบ…
เสิ่นอีเวยที่ถูกทรมานจนหมดเรี่ยวแรงมาค่ำคืนนี้ได้ฝันยาวขึ้น ในความฝันเธอกลับไปในค่ำคืนที่เกิดเรื่องเมื่อสองปีก่อน
วันนั้นตัวเองถูกเสิ่นหุ้ยโทรตามให้มาโรงแรมแห่งหนึ่งที่มีขนาดใหญ่ที่สุดของเมืองนี้ ในสายโทรศัพท์เธอบอกว่าเซิ่งเจ๋อเฉิงดื่มเหล้าจนเมาที่โรงแรม และเสิ่นหุ้ยก็ไม่มีเวลาส่งเขากลับบ้าน
ในตอนนั้นเสิ่นหุ้นรู้สึกแปลกใจมาก เพราะสำหรับเซิ่งเจ๋อเฉิงที่เติบโตเป็นผู้ใหญ่นั้น ไม่เคยปล่อยเนื้อปล่อยตัวให้ตัวเองดื่มเหล้าจนมึนเมาได้ เเต่เพราะตัวเองชอบเซิ่งเจ๋อเฉิง เธอเลยรีบไปที่โรงแรมขณะที่ยังลังเลอยู่
แต่หลังจากเข้าห้อง เสิ่นอีเวยกลับไม่พบเซิ่งเจ๋อเฉิง เธอซักถามเสิ่นหุ้ยว่าทำไมถึงหลอกให้เธอมาที่นี้ด้วย
ทันใดนั้นบนใบหน้าของเสิ่นหุ้ยที่อยู่ในฝันก็เปลี่ยนเป็นโหดร้าย จากนั้นคางของเสิ่นอีเวยก็ถูกบีบจับอย่างแรงด้วยผู้ชายไม่กี่คน และในช่องปากและโพรงจมูกเต็มไปด้วยของเหลวที่สำลักของคนไหลออกมาจากการใช้กำลังบังคับ
เสิ่นอีเวยในตอนนั้นนึกว่าเสิ่นหุ้ยที่ไร้เดียงสาจะเกลียดชังตัวเอง เพราะเธอแอบชอบเซิ่งเจ๋อเฉิง ดังนั้นเธอแทบจะไม่รู้เลยว่าในขวดเหล้าเหล่านั้นถูกใส่ของบางอย่าง ของที่จะสามารถทำให้เปลี่ยนชีวิตเธอ
ในความฝันเธอพยายามร้องขอความช่วยเหลือกับคนที่ผ่านไปผ่านมาที่เมินเฉย…
เธอยิ่งรู้สึกปวดหัว และภาพเหตุการณ์ก็ค่อยๆเลือนราง…
ในความฝันข้างหูของเสิ่นอีเวยเต็มไปด้วยเสียงหัวเราะอันแหลมคมของผู้หญิง จากนั้นใบหน้าของเสิ่นหุ้ยก็ปรากฏคราบน้ำตาและแววตาผิดหวัง…
“ตึ้ง!”
ในความฝันมีประตูห้องบานหนึ่งถูกปิดเข้าอย่างแรง ในที่สุดฝันร้ายของเสิ่นอีเวยก็สิ้นสุด
เสิ่นอีเวยตกใจจนเหงื่อชุ่มทั่วร่างกาย จู่ๆเธอก็ลุกขึ้นนั่งจากบนเตียงด้วยความตื่นตระหนก ทำให้ผ้าห่มที่อยู่บนร่างกายร่วงตกลงมาจากบ่า คออันขาวเนียนนวลกับกระดูกไหปลาร้าเต็มไปด้วยรอยจูบทั้งเข้มและอ่อน
เสิ่นอีเวยจ้องมองเซิ่งเจ๋อเฉิงที่นอนหลับสนิทด้านข้างของตัวเอง เธอไม่ได้เห็นท่าทางนิ่งเงียบของเขามานานแล้ว เสิ่นอีเวยถามตัวเองในใจ
ตั้งแต่แต่งงานมาสองปีนั้น เซิ่งเจ๋อเฉิงเผยสีหน้าส่วนใหญ่คือเย็นชากับขุ่นเคืองต่อเสิ่นอีเวย และช่วงเวลาที่เห็นเขาหัวเราะยิ้มแย้มล้วนปฏิบัติต่อผู้อื่น ก็จริง เขาจะมีเหตุผลอะไรส่งยิ้มให้เธอล่ะ
เมื่อเสิ่นอีเวยเห็นเซิ่งเจ๋อเฉิงนอนหลับสนิท เธอก็พบว่าที่จริงตอนที่เขานิ่งเงียบเหมือนเด็กน้อยคนหนึ่งมาก อีกอย่างด้วยไรผมบนหน้าผากของเขาด้วย แสงสว่างจากแสงยามค่ำคืนสาดส่องบนใบหน้าอันหล่อเหลาของเซิ่งเจ๋อเฉิง ขนตาอันยาวของเขาเกิดเป็นเงามืดหนึ่ง เหมือนกับใบพัดสองเล่ม แต่ต่อให้เซิ่งเจ๋อเฉิงจะนอนหลับแล้ว แต่เขาก็ยังคงขมวดคิ้วอยู่ คิดไม่ถึงว่าชายหนุ่มเพิ่งอายุยี่สิบเก้าปีจะได้รับช่วงดูแลบริษัทเซิ่งซื่อได้
นับจากนั้นมา นอกจากงานที่ยุ่งหยิงไม่จบไม่สิ้นบนตัวเขา ก็เหลือแต่สังคมอุบาทบนสงครามด้านธุรกิจ เมื่อคิดถึงก็รู้สึกว่าเขาคงเหนื่อยน่าดูเลย
เพราะผ้าม่านหน้าต่างในห้องนอนเป็นสีเทาเข้ม เลยแทบจะไม่มีแสงสะท้อนเข้ามาสักนิดเดียว ดังนั้นตอนที่เสิ่นอีเวยยื่นมือหยิบโทรศัพท์มือถือบนหัวเตียง จึงพบว่าพวกเขาสองคนนอนหลับสนิทมาก เพราะตอนนี้เป็นเวลาเก้าโมงเช้ากว่าแล้ว
ทันใดนั้น โทรศัพท์ของเซิ่งเจ๋อเฉิงก็ดังขึ้น แต่เสิ่นอีเวยเห็นท่าทางเขาคงไม่ตื่น เลยหยิบขึ้นมาดู เป็นผู้ช่วยพิเศษของเซิ่งเจ๋อเฉิงโทรมา เสิ่นอีเวยลังเลสักพัก สุดท้ายก็รับสาย
“ฮาโหล”
ฝ่ายตรงข้ามนิ่งเงียบชั่วขณะ เมื่อได้ยินเสียงของเสิ่นอีเวย”เอิ่ม…คุณเสิ่นหรอครับ? อรุณสวัสดิ์ ไม่ทราบว่าท่านประธานเซิ่งอยู่ข้างกายคุณไหมครับ?”
เมื่อเสิ่นอีเวยมองเซิ่งเจ๋อเฉิงนอนหลับสนิทเสร็จ ก็พูดว่า”เขายังไม่ตื่นค่ะ รอให้เขาตื่นมาก่อน เดี่ยวฉันจะบอกให้เขาโทรกลับไปหาคุณนะค่ะ”
“ครับ รบกวนคุณเสิ่นหน่อยนะครับ”
หลังจากวางสายโทรศัพท์ เสิ่นอีเวยก็เดินเข้าไปล้างหน้าบ้วนปากในห้องน้ำ เมื่อตอนออกมาก็เห็นเซิ่งเจ๋อเฉิงตื่นแล้ว และยังยืนคุยโทรศัพท์ข้างหน้าต่างด้วย
ผ่านไปไม่นาน ก็มีเสียงเย็นชาจากข้างหลังดังขึ้น”ใครอนุญาตให้คุณมาเตะต้องโทรศัพท์มือถือของผม?”
เสิ่นอีเวยนิ่งอึ้งชั่วครู่ เมื่อเห็นใบหน้าของเซิ่งเจ๋อเฉิงมืดครึ้มที่ไม่เหมือนกับคนที่ป่าเถื่อนกับเธอ แต่แฝงด้วยความรู้สึกอบอุ่น เสิ่นอีเวยก็รู้สึกมึนงง
เป็นดั่งที่คาดคิดไว้ ยังคงเป็นเหมือนเดิม ทุกอย่างไม่เคยเปลี่ยน เซิ่งเจ๋อเฉิงยังคงเป็นเซิ่งเจ๋อเฉิงที่ใจร้ายใจดำคนเดิม
“สายโทรมาจากหลินอวี้ เพราะฉันเห็นคุณยังไม่ตื่น เลยช่วยรับสายแทนคุณ”
เซิ่งเจ๋อเฉิงแทบจะไม่สนใจคำพูดของเสิ่นอีเวยเลย เขาสวมเสื้อพลางวางมาดเมินเฉยพลาง และพูดว่า”ในโทรศัพท์ของผมมีความลับและข้อมูลมากมายที่เกี่ยวข้องกับบริษัท คุณหยิบโทรศัพท์ของผมตามอำเภอใจแบบนี้ ถ้าหากเกิดเรื่องอะไรขึ้น คุณจะรับผิดชอบไหวหรอ?”
คำพูดของเซิ่งเจ๋อเฉิงทำให้เสิ่นอีเวยโมโหแล้ว”คุณกำลังล้อเล่นหรอ? ต่อให้คุณมองบริษัทเซิ่งซื่อให้ ฉันยังไม่อยากได้เลย!”
บนใบหน้าของเซิ่งเจ๋อเฉิงเต็มไปด้วยรอยยิ้มเย้ยหยัน”ไม่เอาบริษัทเซิ่งซื่อหรอ แต่บริษัทของแม้คุณมีค่ามากนักหรอ? ผมขอบอกคุณเลยนะว่า อย่าคิดว่าการที่เซียวหันถิงถ่ายโอนบริษัทให้คุณแล้ว คุณจะกำเริบสืบสานได้ เพราะถึงยังไงหุ้นส่วนใหญ่อยู่กับผมนี่ ขอเพียงแค่ผมเปลี่ยนใจ อย่าว่าแต่คุณไม่มีวิธีการเลย แม้แต่เซียวหันถิงก็ทำอะไรไม่ได้ เพราะเขาเป็นแค่คนกลางเพียงเท่านั้น หลังจากแม่คุณตายไป ใครกันเป็นคนประคับประคองบริษัทคงอยู่ เรื่องนี้คุณคงเข้าใจแจ่มแจ้งดีนะ!”