สามีเก่าอ้อนรัก - ตอนที่ 365
บทที่ 365 เหมียนเหมียนกับการถ่ายโฆษณาใหม่
เพียงแต่มีหนึ่งเรื่องที่เสิ่นอีเวยไม่รู้ เรื่องราวของบริษัทการบันเทิงเฟิงสิงที่จัดกิจกรรมให้แฟนคลับพบกับเหมียนเหมียน ซึ่งเป็นเรื่องจริง แต่เสิ่นอีเวยนั้นไม่ค่อยได้ดูทีวีสักเท่าไหร่ เข้าอินเทอร์เน็ตก็บางครั้งเท่านั้นเอง ดังนั้นเธอนั้นไม่รู้เลยว่าตอนที่เหมียนเหมียนพบกับแฟนคลับนั้นเกิดอะไรขึ้น ซึ่งมีช่วงหนึ่งที่เหมียนเหมียนขอความช่วยเหลือในการหาแฟนให้กับเธอ
แต่ข่าวนี้ ประจวบเหมาะกับเซิ่งเจ๋อเฉิงนั้นได้เห็นพอดี
ในเวลานี้ ผู้ชายที่อยู่ชั้นที่ยี่สิบสี่ของบริษัทเซิ่งซื่อนั้นก็มีสีหน้าที่สุขุม แล้วก็ได้มองไปยังทีวีที่ฉายเกี่ยวกับเด็กที่ถือไมค์แล้วประกาศหาแฟนให้กับเสิ่นอีเวย คนนั้นก็คือ เสิ่นเหมียน
ความจริงแล้วเซิ่งเจ๋อเฉิงนั้นไม่ได้โกรธอะไร เพียงแต่คิดถึงเรื่องอนาคตของหลินอวี้ ณ ตอนนั้น เลยทำให้หัวสมองของตัวเองนั้นปรากฏภาพของประธานโม่ขึ้นมา ซึ่งตัวเองนั้นเกือบจะบีบรีโมทแหลกเหลวไป
เสิ่นอีเวยก็อยู่ในงานแสดงสินค้าอัญมณีใหม่ของบริษัท ซึ่งเสร็จสิ้นไปเมื่อวานนี้ ดังนั้นในการงานที่ยุ่งยากมากมาย เสิ่นอีเวยก็ได้มีเวลาในการพักผ่อนมากยิ่งขึ้น
แล้วก็คิดได้ว่าไม่ได้มีเวลาไปหาเหมียนเหมียนที่บริษัทนานแล้ว ดังนั้นเสิ่นอีเวยก็ตัดสินใจว่าวันนี้จะไปหาสักหน่อย แล้วก็ได้ฟังจากที่หยางอันหรานรายงานเกี่ยวกับเรื่องของเหมียนเหมียน ช่วงนี้เหมียนเหมียนนั้นได้รับการโฆษณาเกี่ยวกับเด็กมากยิ่งขึ้น ซึ่งค่าตัวตอนนี้ก็มากขึ้นกว่าเดิมเป็นเท่าตัว
ไม่เพียงแต่เท่านี้ สินค้าที่เหมียนเหมียนทำการโฆษณานั้นมีชื่อเสียงเป็นอย่างมาก หากในประเทศมีเด็กสิบคน ก็จะมีเด็กเก้าคนใช้สินค้านี้ เลยทำให้ส่งผลกระทบดีที่ค่อนข้างเป็นวงกว้าง
หากเปลี่ยนประโยคพูดก็คือ หากได้ทำการถ่ายโฆษณานี้แล้วก็จะทำให้มีชื่อเสียงขึ้นไปอีกระดับหนึ่งเลยทีเดียว
จิตสติและอารมณ์ก็มีความสดใสมากยิ่งขึ้น ก็ไม่แปลกที่เสิ่นอีเวยจะเป็นแบบนี้ ลูกสาวของตัวเองนั้นได้มีการงานอาชีพที่พัฒนาการที่ดีขนาดนี้ คนเป็นแม่ก็รู้สึกภูมิใจ
พอคิดถึงตรงนี้ เสิ่นอีเวยก็ได้นั่งรถแท็กซี่มาถึงบริษัทการบันเทิงเฟิงสิง เพราะวันนี้เป็นวันห้ามเอารถออก ดังนั้นเลยนั่งรถแท็กซี่มา
ตึกสูงใหญ่ระฟ้าสีเทา ดูไปแล้วมีความอลังการมากยิ่งนัก เสิ่นอีเวยก็ได้หยิบกระเป๋าขึ้นมา แล้วก็ใส่แว่นสีดำแล้วก็เดินไปยังหน้าลิฟต์
วันนี้ที่เธอจะมาก็เลยได้ทำการโทรศัพท์หาหยางอันหรานเรียบร้อยแล้ว ดังนั้นเธอยังไม่ได้ไปถึงสตูดิโอก็ได้เห็นหยางอันหรานมายืนรอที่สตูดิโออยู่ไกล ๆ
“เหมียนเหมียนกำลังถ่ายทำโฆษณา เดี๋ยวจะพาคุณไปดูนะ” หยางอันหรานมีสีหน้าที่ตื่นเต้น ใบหน้าที่ความตื่นตา
เสิ่นอีเวยยิ้มแล้วพูดว่า “ดีเลยค่ะ”
เด็กน้อยหน้าตาน่ารักกำลังยืนอยู่บนเวที มือก็ถือสินค้าที่จะทำการโฆษณา ปากก็พูดสคริปต์ได้อย่างราบรื่น ฟัง ๆ ไปแล้วก็ดูรู้เลยว่าใช้เวลาฝึกไม่น้อยเลยทีเดียว
เสิ่นอีเวยก็ยิ้มอย่างภูมิใจ เธอก็ได้ยืนมือไปตบยังไหล่ของหยางอันหราน แล้วก็ได้มองเด็กคนนั้นแล้วพูดว่า “เห็นแล้วใช่ไหม ? ลูกสาวที่ฉันอบรมเลี้ยงดูนั้นก็ไม่เหมือนคนอื่น เก่งและเป็นเป้าสายตามากมาย เหมือนกับเจ้าหญิงเลย”
หยางอันหรานฟังแล้วก็รู้สึกไม่ค่อยจะเต็มใจเท่าไหร่นัก แล้วก็ตอบโต้ว่า “คุณอย่าพูดเช่นนั้นสิ เหมียนเหมียนเป็นแบบนี้ทุกวันนี้ได้ ทั้งหมดก็เพราะฉันนี่แหละเป็นคนนำพาไปในทางที่ดี ไม่ได้เกี่ยวกับคุณเลย”
หยางอันหรานพูดเสร็จ ทั้งสองคนนั้นก็ได้มองด้วยสายตาที่ไม่ค่อยพอใจ แต่ก็กลับยิ้มในเวลาเดียวกัน
ซึ่งในใจของทั้งสองคนนั้นชัดเจนกว่าอื่นใคร นั่นก็คือ เหมียนเหมียน ที่อนาคตจะเฉิดฉาย
นิสัยเดิมของเสิ่นอีเวยถึงแม้จะไม่ค่อยคบค้าสมาคมกับใครเท่าไหร่นัก แต่หลังจากอยู่อังกฤษสี่ปีก็ทำให้เธอนั้นมีการเปลี่ยนแปลงนิสัยของตัวเองมากยิ่งขึ้น
แล้วก็บวกกับทักษะการแสดงของเหมียนเหมียนที่เพิ่มขึ้น ดังนั้นหลังจากที่เหมียนเหมียนนั้นได้ทำการลงนามสัญญากับบริษัทการบันเทิงเฟิงสิง หยางอันหรานที่เป็นผู้จัดการส่วนตัวเธอนั้น ก็ได้สร้างเหมียนเหมียนให้เก่งในทุก ๆ ด้าน แต่ไม่ใช่เพียงเท่านี้ หยางอันหรานก็รู้สึกชอบในตัวเหมียนเหมียนด้วย ดังนั้นถึงแม้เหมียนเหมียนจะดาราเด็ก แต่หยางอันหรานก็ใช้เวลาในการฝึกสอนเหมียนเหมียนไม่น้อยเลยทีเดียว
พอเห็นถึงตรงนี้ เสิ่นอีเวยก็ได้เดินเข้าใกล้หยางอันหราน เพราะว่าเธอสามารถรู้สึกได้ว่าคนนี้เป็นคนที่ดูแลเหมียนเหมียนเหมือนลูกตัวเอง
ดังนั้นเสิ่นอีเวยก็มีบางครั้งที่ล้อเล่นกับหยางอันหรานอย่างไม่คิดอะไร
ในตอนนี้ผู้กำกับก็พูดขึ้นมาว่า “คัท !”
เหมียนเหมียนที่กำลังโฆษณาก็หยุดลง ตอนนี้ก็มีคนวิ่งไปแต่งหน้า ปรนนิบัติอย่างดี แต่สิ่งที่ชัดเจนก็คือ เด็กน้อยคนนี้ก็ได้เห็นเสิ่นอีเวยตั้งแต่ตอนที่ทำการโฆษณาแล้ว ดังนั้นก็ไม่ได้ไปสนใจอะไรกับการแต่งหน้ามากเท่าใดนัก ก็เลยได้พูดออกมาทันทีว่า “มามี๊”
เสียงของเด็กน้อยคนนี้ก็ได้ทำให้สายตาของคนทั้งหมดหันไปมอง คนที่ทำงานที่นี่ถึงแม้จะมีการทักทายกับเหมียนเหมียนบ่อยครั้ง แต่ทุกครั้งก็คือหยางอันหรานเป็นคนที่จัดการให้ไปพบที่ห้องรับรอง
ดังนั้นคนที่ทำงานก็ไม่เคยที่จะเห็นเสิ่นอีเวยเลย หลังจากที่เหมียนเหมียนพูดออกไป ฐานะของเสิ่นอีเวยก็แสดงออกมา ซึ่งเสิ่นอีเวยก็รู้สึกว่ามีสายตามากมายมองมาที่เธอ
เสิ่นอีเวยก็ไม่ค่อยชินเท่าไหร่กับสายตามากมายมองมายังเธอแบบนี้ เลยทำให้หน้าแดงขึ้นมา แต่เหมียนเหมียนก็ไม่ได้ไปสนใจอะไรกับคนรอบข้างมากมาย ก็ได้เข้ามาหาเสิ่นอีเวย
เสิ่นอีเวยได้เห็นเหมียนเหมียนที่มีสีหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส เหมือนกับในใจนั้นมีความสุขยิ่งนัก เลยไม่ได้ไปสนใจอะไรกับสายตาของคนอื่นมากมายนัก
“มามี๊ ตอนที่แม่เข้ามาหนูก็เห็นแม่แล้วค่ะ ก็รอโอกาสตอนที่พัก ก็เลยมาให้แม่กอดหนูค่ะ” เสียงของเหมียนเหมียนเต็มไปด้วยความสุข
พอเธอนั้นพูดเสร็จ เสิ่นอีเวยก็รู้สึกงงงวย เด็กเล็กแค่นี้ตอนนี้กลับกลายเป็นคนที่พูดเก่งขนาดนี้ แปลกจริง ๆ
เสิ่นอีเวยยิ้มแล้วพูดว่า “แต่เมื่อสักครู่นี้แม่เห็นพี่ ๆ เขากำลังจะแต่งหน้าให้เราไม่ใช่หรือ ? หนูมาหาแม่แบบนี้ไม่เป็นการทำให้เขาเสียเวลาหรือ ? ”
เสิ่นอีเวยพูดกับเหมียนเหมียนด้วยความอ่อนโยน แต่ก็ไม่ได้รอเหมียนเหมียนตอบอะไร เสิ่นอีเวยก็ได้ยินเสียงมาจากผู้หญิงคนหนึ่ง “ไม่เป็นไรค่ะ ไม่เป็นไร จะแต่งหน้าตอนไหนก็ได้ค่ะ ”