สามีเก่าอ้อนรัก - ตอนที่ 366
แต่บางเรื่องเราก็ไม่มีไฟล์แล้วเหมือนกัน
บทที่ 366 ความคิดไม่ละทิ้งปณิธานของคนรวยรุ่นสอง
เสิ่นอีเวยก็ได้หันหน้าไปตามเสียง ซึ่งดูไปแล้วก็มีคนประมาณยี่สิบกว่าคน แล้วพอมองไปตอนนั้น ก็ได้คิดอะไรขึ้นมาสักอย่างนั่นก็คือ ฉินจื่อเฟิง
สาวอายุน้อย มีหน้าตาและดวงตาที่งดงาม ดูไปแล้วทำให้คนหลงใหล
เสิ่นอีเวยก็ได้ยิ้มต่อผู้หญิงคนนั้นแล้วพูดว่า “ขอบคุณค่ะ หวังว่าคงจะไม่เป็นการรบกวนนะคะ”
เสิ่นอีเวยพูดเสร็จ ก็ได้ยินเสียงพูดของคนในนั้นว่า “รูปร่างสวยยังไม่พอ ยังมีน้ำเสียงที่อ่อนนุ่มอีก”
“ใช่แล้ว ใช่แล้ว สมแล้วที่เป็นแม่ของดาราเด็กน้อยคนนี้ มีความสวยออร่ามากมายเลย”
“เสิ่นอีเวย ….”
เหมียนเหมียนได้คำอย่างชัดเจนที่พวกเขานั้นชมเสิ่นอีเวย ใบหน้าก็เต็มไปด้วยรอยยิ้ม แล้วก็ได้หันกลับไปแล้วพูดว่า “ขอบคุณทุกท่านที่ชมคุณของแม่ของฉันนะคะ พวกคุณพูดไม่ผิดหรอก แม่ของฉันนั้นเป็นแม่ที่ดีที่สุดในโลกเลยล่ะ”
ความจริงไม่ใช่ครั้งนี้ครั้งแรกที่เธอนั้นชมเสิ่นอีเวย แต่ครั้งนี้เป็นการชมต่อหน้าผู้คนมากมาย เลยทำให้เสิ่นอีเวยรู้สึกเขินอาย เลยยิ้มแก้เขินไป
ในตอนนี้ หยางอันหรานก็เลยลุกขึ้นแล้วพูดว่า “เหมียนเหมียนน้อย แม่ของเราดีที่สุดในโลก แล้วฉันไม่ดีแล้วหรือ ? ”
เสิ่นอีเวยได้หันหน้าไปมองหยางอันหรานที่มีความถูกเอาเปรียบ เลยทำให้รู้สึกตกใจแล้วก็อยากจะลุกขึ้นมาตอบโต้ เลยทำให้พูดกลับไปว่า “เก็บลิ้นของคุณไว้แล้วก็พูดคำพูดที่มันดีดีหน่อยได้ไหม ?”
หยางอันหรานก็ไม่ได้ไปสนใจเธอ แล้วก็ทำท่าน่าสงสารแล้วพูดกับเหมียนเหมียนว่า “แล้วไม่ใช่หรือ ?”
เหมียนเหมียนยิ้มหัวเราะออกมา ถึงแม้จะเป็นเด็กที่อายุไม่มากนก แต่เพราะว่าตลอดเวลาส่วนใหญ่ก็อยู่ที่บริษัท ดังนั้นก็ได้อยู่กับหยางอันหรานซะส่วนใหญ่ ดังนั้นทั้งสองคนก็เลยมีความเข้าใจตรงกันอย่างไม่ต้องตอบอะไร
เหมียนเหมียนได้เปิดตากว้างขึ้นแล้วพูดว่า “คุณน้าอันแน่นอนว่าเป็นผู้จัดการส่วนตัวหนูที่ดีที่สุดแล้วล่ะ และยังเป็นหนึ่งในเพื่อนที่ดีที่สุดสำหรับเหมียนเหมียนด้วยนะคะ”
ไม่ต้องถาม “หนึ่งใน” แน่นอนว่าก็พูดถึงเสิ่นอีเวย เพราะว่าทุกคนรู้ดีว่าเสิ่นอีเวยเป็นคนที่เธอนั้นสนิทที่สุด
“หืมมม แต่ตอนนี้หนูคิดถึงเรื่องเรื่องหนึ่งเกี่ยวกับมามี๊” เหมียนเหมียนพูดออกมาทันที
เสิ่นอีเวยก็ได้เพิ่มระยะห่างออกมา แล้วก็ให้คนสองคนได้พูดได้ง่ายขึ้น “เรื่องอะไรหรือ ?”
เหมียนเหมียนได้มองผู้คนเหล่านั้น แล้วก็พูดอย่างตั้งอกตั้งใจว่า “ที่นี่มีผู้คนทำงานมากมาย มีคุณอาชายคนหนึ่งที่เก่งมาก ๆ เลยแหละ จะให้คุณน้าอันแนะนำให้คุณแม่ไหมคะ? ”
เสิ่นอีเวย “…”
หยางอันหราน “…”
เด็กน้อยคนนี้ เล่ห์เหลี่ยมยิ่งนัก เสิ่นอีเวยยังไม่ได้ตอบโต้อะไร เพราะว่าตอนนั้นไม่รู้ว่าจะตอบอะไร
หยางอันหรานเริ่มพูดก่อนอย่างช้า ๆ ว่า “อีเวย เหมียนเหมียนสมกับเป็นลูกสาวเธอเลยนะ ยังหาแฟนให้เธออีก มีไม้เด็ดอะไรก็เอามาใช้หมด ครั้งที่แล้วที่ได้พบกับแฟนคลับก็ยังกล้าหาญที่จะประกาศหาแฟน ตอนนี้ก็ยังจะแนะนำคนในบริษัทให้เธออีก”
เสิ่นอีเวยก็หน้าอึ้งไปสักครู่ แล้วกำลังจะพูดออกมา แต่หยางอันหรานก็ได้ตัดบทไป “แต่ว่าเธอไม่ต้องรีบหรอก ในเมื่อคุณหญิงเหมียนเหมียนพูดออกมาแล้ว ฉันจะต้องช่วยเธออย่างแน่นอน เธอจะต้องเชื่อมั่นในตัวเอง เรื่องแบบนี้ฉันจะต้องช่วยเสียแล้ว อีกไม่นานคงจะต้องสละโสดแล้ว”
เสิ่นอีเวยมีสีหน้าที่ไม่มีคำพูดอะไรเลย หันซ้ายขวาก็เจอทั้งลูกและหยางอันหราน เธอเหมือนกับกระต่ายน้อย ที่จะโกรธและโมโหเป็นอย่างมาก
พอมองไปยังเหมียนเหมียน ดูแล้วมีท่าทางที่จริงจังไม่ได้ล้อเล่นสักนิด เธอเลยนั่งยอง ๆ แล้วก็ได้มองหน้าลูกสาวแล้วพูดกับ
เสิ่นอีเวยดูเหมือนจะเป็นการพูดตลก แต่หยางอันหรานกลับไม่อดทนแล้วก็พูดว่า “ฉันขอพูดนะเสิ่นอีเวย นี่เป็นลูกสาวของเธอนะ ไม่ใช่ว่าจะเป็นเธอที่จะต้องหาเงินมาเลี้ยงดูลูกเธอหรอกหรือ ?”
เสิ่นอีเวยหุบยิ้มแล้วพูดว่า “คุณไม่สังเกตถึงปัญหา ๆ หนึ่งหรือ ? ตอนนี้ที่บ้านมีแค่ฉันและเหมียนเหมียน เธอทำโฆษณาหนึ่งครั้งมีเงินเท่ากับเงินเดือนฉันทั้งเดือน ลูกสาวฉันนั้นหาเงินเก่งกว่าฉันอีก แน่นอนว่าจะต้องหวังในตัวเขา ใช่ไหมเหมียนเหมียน ?”
พอพูดเสร็จ เสิ่นอีเวยก็ได้มองไปยังเหมียนเหมียนน้อย แล้วฝ่ายตรงข้ามก็ได้ตอบเธอ อย่างลับ ๆ
และใตอนนี้ เสิ่นอีเวยก็ได้เห็นผู้กำกับก็ได้มองมายังพวกเธอ ซึ่งบ่งบอกว่าจะเริ่มถ่ายทำเรื่องใหม่แล้ว เลยพูดกับเหมียนเหมียนว่า “แม่ยังมีธุระที่จะต้องจัดการอีก วันนี้ก็มาหาถึงตรงนี้ก่อนนะ เราไปถ่ายทำต่อก่อน หากเสร็จแล้วคุณน้าอันจะพากลับบ้าน ดีไหมคะ ?”
เหมียนเหมียนเป็นเด็กที่รู้เรื่องพยักหน้าพูดว่า “ดีค่ะคุณแม่”
พอพูดเสร็จ เสิ่นอีเวยก็ได้ประทับรอยจูบไว้บนแก้มเธอ อย่างมีความสุข
เด็กน้อยก็ได้วิ่งกลับไปหาทีมงาน เสิ่นอีเวยก็ค่อย ๆ ลุกขึ้น
พอกำลังจะลุกขึ้น หยางอันหรานก็พูดว่า “ได้ยินมาว่า เหมียนเหมียนได้เข้าร่วมการถ่ายทำครั้งนี้มีคนชื่อว่าเจียงเฉิงหวินได้ลงทุนเงินไปก้อนหนึ่ง”
เสิ่นอีเวยตกใจแล้วถามว่า “เจียงเฉิงหวิน เป็นลูกชายของเจ้าของบริษัทการบันเทิงเฟิงสิง”
หยางอันหรานพยักหน้า
เสิ่นอีเวยก็เริ่มสงสัยแล้วถามว่า “แต่ไม่ใช่เป็นลูกชายของกลุ่มผู้บริหารบริษัทนี้หรอกหรือ ? บริษัทตัวเองถ่ายทำ ยังจะต้องใช้เงินของตัวเองอีกหรือ ? ”
เสิ่นอีเวยก็ได้ถามคำถามกับหยางอันหรานอย่างมากมาย หยางอันหรานก็ได้ดูเหมียนเหมียนไปแล้วก็ได้อธิบายว่า “ใช่แล้ว ไม่มีผิด เจียงเฉิงหวินเป็นลูกชายของผู้บริหารใหญ่ แต่ว่าได้ยินมาว่าเขานั้นได้เปิดบริษัทใหม่ บอกว่าจะเริ่มทำตั้งแต่ศูนย์ ซึ่งไม่รู้ว่าเพราะอะไร”
เสิ่นอีเวยฟังเหตุผลนี้ แล้วก็หัวเราะออกมาแล้วพูดว่า “เริ่มต้นจากศูนย์ ? คนอย่างเจียงเฉิงหวินนี่นะ จะไปพัฒนาตัวเองคนเดียว ไม่มากก็น้อยที่จะต้องพึ่งพาที่บ้านตัวเอง พูดไปแล้วก็ดูดี แต่ลับหลังใครจะไปรู้ จริงไหม ?”
หยางอันหรานรู้สึกมีเหตุผล แล้วก็แสดงความเห็นด้วยกับความคิดของเสิ่นอีเวย ทันใดนั้นเธอก็นึกอะไรขึ้นมาแล้วก็ได้ถามเสิ่นอีเวยว่า “เอ่อ…ใช่แล้ว ฉันจำได้ว่าครั้งที่แล้วที่คุณนั้นมาระบายกับฉันว่า เจียงเฉิงหวินอยู่ดีดีก็มาช่วยเหลือคุณ ช่วงนี้มีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นไหม ? ”
เจียงเฉิงหวิน…..เสิ่นอีเวยคิดถึงชื่อนี้ก็รู้สึกแปลก ๆ ไป เธอเริ่มขมวดคิ้ว แล้วหยางอันหรานก็ได้เห็นแล้ว แล้วก็พูดขึ้นมาว่า “อะไรหรือ ? ”
เสิ่นอีเวยก็มีความรำคาญแล้วพูดว่า “ฉันก็ไม่รู้ เขาทำตัวเหมือนคุณชาย จะหาผู้หญิงมาเป็นแฟนแต่หาไม่ได้ ก็เลยจะมาระรานกับฉันไ