สามีเก่าอ้อนรัก - ตอนที่ 435
บทที่ 435 เรื่องที่เลวร้ายมากขึ้น
เสิ่นอีเวยเห็นการกระทำของชายคนนี้ทั้งหมดในสายตาของตน ในใจเหมือนได้รับความกลัวอย่างที่สุด ขณะเดียวกันก็รู้สึกถึงความอึดอัดใจที่เพราะตัวเองนั้นออกไป อะไรก็เตรียมไปหมดแล้ว แต่ไม่ได้เตรียมบัตรประจำตัว
และในตอนนี้ไม่รู้ว่าเพราะอะไร ใบหน้าของเซิ่งเจ๋อเฉิงนั้นปรากฏขึ้นมา เสิ่นอีเวยคิดถึงเมื่อก่อน หากตัวเองนั้นทิ้งขว้างบหรือลืมบางสิ่งไป ผู้ชายคนนี้ก็จะเสียดสีตัวเธอเองตลอดมา
เสิ่นอีเวยไม่กล้าคิดไปทั้งหมด ถ้าหากว่าเมื่อสักครู่นี้ชายคนนั้นถามชื่อของตัวเองนั้น แล้วเธอนั้นโกหกไป แล้วทำให้โกรธ ไม่รู้ว่าจะต้องโดนอะไรบ้าง
ชายชุดสูทคนนี้ลุกขึ้นมา เสิ่นอีเวยก็เลยสูดหายใจลึก ๆ แล้วก็ถอยห่างออกมา ซึ่งสายตานั้นเต็มไปด้วยการป้องกัน
ชายคนนั้นมองเสิ่นอีเวยที่ตื่นเต้นขนาดนั้น ในใจก็ไม่อาจจะหุบยิ้มออกมาได้ ตอนที่จะผ่านเธอไปนั้น ก็ได้พูดว่า “ความจริงแล้วคุณนี่เก่งมาก ๆ เลยนะ ผมเพิ่งเคยเห็นผู้หญิงที่อยู่ในอันตรายแล้วสุขุมเช่นนี้”
ยังไม่ได้รอเสิ่นอีเวยตอบกลับมา เขาก็ได้เปิดประตูออกไปแล้ว เสิ่นอีเวยก็ได้ฟังเสียงเปิดประตูออกมาเสิ่นอีเวยก็ได้ถอนหายใจไป
แต่ในช่วงนี้เวลานี้ ประตูนั้นก็ได้มีคนบุกเข้ามาเป็นผู้ชายหลายคน เสิ่นอีเวยไม่รู้ว่าผู้ชายคนนี้ก็ได้มีการเตรียมแผนไว้เรียบร้อยแล้ว แต่เป็นเพราะปฏิกิริยานั้นไว เสิ่นอีเวยก็เห็นได้ชัดเจน แต่ผู้ชายกลุ่มนั้นที่บุกเข้ามานั้น ได้เข้ามาอย่างรวดเร็วมากมาย
ในสถานการณ์ที่รวดเร็วเช่นนี้ เสิ่นอีเวยไม่ได้ทันรู้สึกตัว ก็ดได้มีเงาสีดำนั้นมาครอบคลุมเธอไว้แล้ว วินาทีต่อมา เธอก็ได้เห็นเงาสีดำนั้นพุ่งมายังที่เธอ ในใจก็เต็มไปด้วยความตกตื่น เธอนั้นก็ได้ถอยร่นออกไป แต่ก็ยังไม่ได้ทันท่วงที
เสิ่นอีเวยก็ถูกกระแทกไปยังกำแพงผนัง ทำให้คนทั้งคนนั้นยืนไม่ไหว แต่ถูกผู้ชายนั้นได้จับตรงไหล่เอาไว้ เลยไม่ได้ล้มลง
ผู้ชายที่จับไหล่ของเสิ่นอีเวยนั้นก็ได้ปิดปากเสิ่นอีเวยเอาไว้ แล้วเรียกคนข้างหลัง “ไอ้หนวด มานี่หน่อยซิ มาจับขาของเธอให้แน่น ๆ หน่อย”
สิ่งที่เธอคาดไม่ถึงเลยก็คือเมื่อสักครู่นี้เหมือนส่งคนที่ส่งยากออกไปแล้ว แต่กลับมีใครก็ไม่รู้จักเข้ามามัดตัวเธอซะงั้น
คนที่ถูกเรียกว่า “ไอ้หนวด” คนนั้นเป็นคนที่เข้ามาอย่างรวดเร็ว เสิ่นอีเวยเห็นเขานั้นถือเชือกอยู่ในกำมือ เธอนั้นขมวดคิ้ว เพราะตอนแรกอยากจะด่าให้มากที่สุด แต่กลับถูกปิดปากเอาไว้ เลยไม่ได้ทำให้เธอนั้นเปิดปากได้เลย
ตอนที่ผู้ชายคนสองคนนั้นกำลังจะมัดตัวเธอนั้น เธอก็เห็นถึงปัญหาหนึ่ง ผู้ชายที่ใส่ชุดสูทนั้น ไม่ได้ออกไปไหนเลย แต่กลับยืนดูอยู่ตรงนั้นทุกกระบวนการอย่างเลือดเย็น
เสิ่นอีเวยในใจก็รู้สึกเหมือนตกอยู่ในห้วงแห่งความกลัวมากที่สุด คนที่ผูกเธอนั้นกลับไม่ได้ให้ความสงสารอะไรเลย ถึงแม้เธอนั้นจะใส่ชุดกระโปรง แต่เนื่องด้วยเชือกที่มีความรัดแน่นเลยทำให้รู้สึกสัมผัสกับผิวหนัง เสิ่นอีเวยรู้สึกมีความแสบร้อนเป็นอย่างมาก
คนกลุ่มนี้ ดูแล้วเป็นพวกที่มีการฝึกซ้อมมาอย่างดี เสิ่นอีเวยเจ็บจนอยากจะร้องไห้ออกมา แต่เธอนั้นก็อดทน เพราะว่าเธอนั้นจะไม่หลั่งน้ำตาให้คนแปลกหน้า
เสิ่นอีเวยมีสายตาที่แดงก่ำ เธอนั้นเงยหน้ามองผู้ชายคนนั้น สายตาของพวกเขานั้นมีความเยือกเย็น แล้วเธอก็มองพวกเขาอย่างไร้ความรู้สึก เหมือนกับไม่ได้เกิดอะไรขึ้น
ซึ่งในวินาทีนั้นเสิ่นอีเวยก็เข้าใจอย่างถ่องแท้ กลุ่มชายคนนี้เป็นพวกเดียวกัน มารร้ายก็คือมารร้าย
ผลไม่ผิดคาด ผู้ชายสามคนนั้นมัดเธอเสร็จก็ลุกขึ้น หนึ่งในสามคนนั้นก็มองไปที่ผู้ชายที่ใส่สูทคนนั้น เช็ดเหงื่อที่หน้าผากแล้วพูดว่า “พี่ใหญ่ อยู่ในนี้ตั้งนาน นึกว่าเกิดเรื่องเสียแล้ว”
คนนั้นพูดยังไม่ทันขาดคำ ก็มีชายเสื้อดำที่อยู่ตรงข้ามจับไหล่แล้วพูดว่า “พูดน้อยน้อยนะ หรือว่าพี่ใหญ่ชอบผู้หญิงคนนี้แล้วล่ะ จะต้องมาให้นายถามแบบนี้ด้วยหรือ ? ”
ไอ้หนวดได้ฟังอยู่ข้าง ๆ ก่อนอื่นก็ได้รู้สึกงง ๆ แล้วมองไปยังชายชุดสูท แล้วก็ได้มองผู้หญิงที่ตัวเองนั้นมัดเอาไว้ ซึ่งใบหน้าที่เต็มไปด้วยความเข้าใจ
เสิ่นอีเวยมีสายตาที่เต็มไปด้วยความโกรธ ชายชุดสูทนั้นได้มองเธอ โดยไม่ได้พูดอะไรสักคำ
ไอ้หนวดนั้นเห็นชายชุดสูทมีสีหน้าที่ไม่ค่อยดีเท่าไหร่นัก ก็เลยไม่กล้าพูดอะไรอีก และไม่ได้รู้ว่าคนที่อยู่ข้าง ๆ นั้นใครเดาถูกกันแน่ คิดมาค่อนวัน ก็เลยได้พูดเสริมไปว่า “หากพี่ใหญ่พวกเราชอบจริง ๆ ผู้หญิงคนนี้ก็ต้องเป็นของพี่ใหญ่ แต่หากไม่ใช่แล้วล่ะก็…. ดูท่าทางแล้ว พวกเราจะต้องขายได้ราคาดีแน่ ๆ”
เสิ่นอีเวยได้ยินเช่นนั้น สีหน้าก็เปลี่ยนไป หรือว่าพวกนี้จะเป็นพวกค้ามนุษย์ ? พวกมันไม่เพียงแค่ค้าวัยหนุ่มสาว แม้แต่อายุขนาดเธอยังก็ยังจะขายเป็นราคา ช่างกล้าดียิ่งนัก
ผู้ชายคนที่มัดเสิ่นอีเวยนั้นก็ได้ลากเธอเดินไปก่อนหน้าสองก้าว ทันใดนั้นเหมือนเลือดความดันนั้นขึ้นสูงมาก จนกระทั่งหายใจแทบไม่ออก
เสิ่นอีเวยอารมณ์ตอนนั้นเหมือนจะระเบิด แล้วก็ตะโกนว่า “ออกไป”
ชายอ้วนคนนั้นก็ไม่ได้สนใจเธอเพียงแต่มอง แล้วก็หันกลับไปคุยกับชายชุดสูทว่า “พี่ใหญ่ ทำไมผู้หญิงคนนี้แลดูสะอาด ร่างกายยังมีกลิ่นน้ำหอมอีก เป็นสินค้าชั้นดีเลย ถ้าไม่ติดอะไรพี่จะลองก่อนไหม เดี๋ยวพวกเราจะมารับกลับไป”
เสิ่นอีเวยเข้าใจความหมายที่คุยกันทั้งหมด เธอก็เลยได้หันไปมองหน้าชายชุดสูทอย่างรวดเร็ว ตอนที่สองคนนี้อยู่ที่ในห้องสองต่อสองนั้น ตัวเองก็ไม่ได้เหลือความเยื่อใยอะไรเลยแม้แต่น้อย แล้วก็ไม่ได้เอามาอยู่ในสายตา ไม่รู้ว่าชายคนนี้จะเจ้าคิดเจ้าแค้นขนาดไหน
ชายชุดสูทนั้นก็หันหน้ามาเล็กน้อย มองเสิ่นอีเวยที่มีท่าทีที่หวาดกลัว ชายชุดสูทจากที่มีความเย็นชาก็ค่อย ๆ ปล่อยให้หายไป แล้วก็ยิ้มออกมาว่า “ฟังไปแล้วก็เป็นความคิดที่ดีเลยทีเดียว”
!
พอพูดประโยคนี้ขึ้นมา ชายทั้งหมนั้นก็มีสายตาที่เหยียดหยามมองไปยังเสิ่นอีเวย ดูแล้วเหมือนเป็นของเล่นแค่นั้นเอง
ชายที่พูดเช่นนี้ ร่างกายของเสิ่นอีเวยก็เกิดการขัดขืนขึ้น แท้จริงแล้ว ชายคนนี้ก็คือคนที่ไม่ต่างกับสัตว์เดรัจฉานเลย