สามีเก่าอ้อนรัก - ตอนที่ 88
บทที่ 88 การทะเลาะอย่างดุเดือด
“เซิ่งเจ๋อ..”เสียงของเสิ่นอีเวยขาดๆหายๆ ในคอเจ็บปวดเหมือนถูกบาดด้วยเศษแก้วแตก
หล่อนมองดวงตาของเซิ่งเจ๋อเฉิงเห็นแววตาหมายเอาชีวิตหล่อน น่ากลัวยิ่งกว่าครั้งนั้นที่เขาจะผลักหล่อนจากหน้าต่างชั้น30 จนหล่อนคิดว่าครั้งนี้หล่อนต้องตายแน่ๆ
หล่อนค่อยๆหมดเรี่ยวแรงขัดขืน มือที่เคยจับมือของเซิ่งเจ๋อเฉิงแน่นก็ค่อยๆหลุดออก
เซิ่งเจ๋อเฉิงมองคนที่อยู่ในอ่างค่อยๆหมดเรี่ยวแรงภายใต้เงื้อมมือเขา เขาขบกรามแน่น เขารู้ว่าบางเรื่องมันก็ขึ้นอยู่แค่วามคิดเขาเท่านั้น สุดท้ายเขาก็ยอมปล่อยมือ
เมื่อพันธนาการต่างๆหมดไป อากาศที่สดชื่นก็ไหลเข้าสู่หน้าอกของเสิ่นอีเวย หล่อนเริ่มไอขึ้นมา เพราะร่างกายไร้ซึ่งเรี่ยวแรงใดๆทำให้หล่อนประคองตัวไว้ไม่อยู่ จึงลื่นไถลลงไปในอ่างอาบน้ำทั้งตัว
ร่างขาวของหล่อนจมลงในน้ำใสสะอาด ช่างงดงามเหมือนอยู่ในความฝัน แต่สำหรับเซิ่งเจ๋อเฉิงแล้วมันก็คือกับดัก
อาจเป็นเพราะเสิ่นอีเวยได้รับความหวาดกลัวตกใจเมื่อครู่ ทำให้ร่างกายปวดเมื่อยไปทั้งตัว ไม่มีเรี่ยวแรงพอที่นำร่างตัวเองปีนขึ้นจากอ่าง น้ำจึงไหลเข้าปากและจมูกของหล่อนไม่หยุด ทันใดนั้นน้ำในอ่างก็ซ่านกระเซ็นไปทั่วห้องน้ำ เซิ่งเจ๋อเฉิงมองเสิ่นอีเวยที่ตะเกียกตะกายเอาชีวิตรอดอย่างเลือดเย็น
แม้ว่าตอนนี้เสิ่นอีเวยจะทุรนทุรายมาก แต่หล่อนก็รู้ว่าเซิ่งเจ๋อเฉิงทำอะไรกับหล่อนบ้างเมื่อครู่ ต่อให้หล่อนต้องตาย หล่อนก็ไม่มีทางร้องขอความช่วยเหลือจากเขา เพราะหล่อนรู้ดีว่าเขาเองก็ไม่มีวันช่วยหล่อนเช่นกัน
ในช่วงที่เสิ่นอีเวยคิดว่าหล่อนรอดจากเงื้อมมือของเซิ่งเจ๋อเฉิงมาได้ แต่ตอนนี้กลับต้องมาจมน้ำตายในอ่างนี้นั้นเอง เซิ่งเจ๋อเฉิงก็โน้มตัวลงมาจับไหล่อันเปล่าเปลือยของหล่อนแน่น
ร่างของหล่อนถูกยกขึ้นมาอย่างง่ายดาย เซิ่งเจ๋อเฉิงอุ้มหล่อนเดินมาข้างหน้าไม่กี่ก้าว จากนั้นก็โยนหล่อนลงบนเตียง
เสิ่นอีเวยรู้สึกว่าตัวเองเหนื่อยใกล้จะหมดเรี่ยวแรง หล่อนนอนแผ่บนเตียงหายใจเข้าฟอดใหญ่ เหมือนปลาที่ใกล้ตายอยู่บนชายฝั่ง
เพราะหล่อนไออย่างหนัก ทำให้น้ำตาไหลอาบเต็มหน้า
หลังจากที่สงบสติได้แล้วเสิ่นอีเวยก็มองไปยังเซิ่งเจ๋อเฉิง ดวงตาคู่สวยนั้นเต็มไปด้วยความสิ้นหวัง เหลือเพียงแต่ความว่างเปล่า
ทั้งสองต่างนิ่งเงียบกันอยู่พักหนึ่ง ต่างฝ่ายต่างมองอีกฝ่ายอย่างเงียบๆ บนเสื้อสูทของเซิ่งเจ๋อเฉิงมีรอยคราบน้ำอยู่ เป็นเพราะเปียกน้ำตอนที่เขาอุ้มเสิ่นอีเวยขึ้นมา
ปากของหล่อนซีดขาว แล้วหล่อนก็กล้าถามคำถามที่ค้างคาอยู่ในใจหล่อนออกมา “เมื่อกี้ทำไมคุณไม่ฆ่าฉันให้ตายไปซะเลยล่ะ”
เมื่อพูดจบ หล่อนก็สัมผัสได้ถึงความเย็น พอก้มหน้าลงมาดูจึงพบว่าร่างกายของหล่อนไม่มีอะไรปกปิดอยู่เลย เมื่อสักครู่หล่อนมัวแต่พะวงอยู่กับการเอาชีวิตรอดจนลืมเรื่องนี้ไป ตอนนี้จึงรู้สึกกระดากอายหน้าแดงก่ำขึ้นมา
เพราะมัวแต่สนใจไปอยู่ที่เรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อครู่จนหมด ดังนั้นหล่อนจึงไม่กล้าแสดงท่าทีอะไรมากนัก เสิ่นอีเวยค่อยๆเอื้อมมือออกไปดึงผ้าห่มข้างๆมา คลุมร่างตัวเองตั้งแต่ช่วงไหล่ลงมา
เซิ่งเจ๋อเฉิงการกระทำของหล่อนอย่างเย็นชาโดยไม่ปริปากพูดอะไร
แต่เสิ่นอีเวยก็ไม่ยอมลดละคะยั้นคะยอเอาคำตอบให้ได้ ผู้ชายที่อยู่ตรงหน้า เห็นชัดว่าเมื่อกี้เขาต้องการจะเอาชีวิตหล่อน
“ทำไม ฉันถามคุณว่าทำไม ทำไมเมื่อกี้คุณไม่ฆ่าฉันให้ตายไปเลย” เพียงชั่วเสี้ยววินาทีเสิ่นอีเวยก็ควบคุมอารมณ์ไม่อยู่ แม้ว่าเสียงจะดังมาก เซิ่งเจ๋อเฉิงก็ได้ยินชัดเจนแต่เสียงของหล่อนนั้นแหบพร่า
เซิ่งเจ๋อเฉิงยังคงนิ่งเงียบ เขาอยากจะหมุนตัวเดินออกไป แต่ทำไมร่างกายของเขากลับไม่ตอบสนองความคิดของเขาเลย
สุดท้าย เขามองไปยังหญิงสาวที่นั่งทุกข์ทรมานอยู่บนเตียงแล้วยิ้มเยาะ ” ตอนที่ผมได้ยินหมอบอกว่าเสิ่นหุ้ยอาจจะไม่ฟื้นขึ้นมาอีกแล้ว ตอนนั้นผมอยากจะฆ่าคุณมากจริงๆ และความจริงแล้วผมก็ได้ทำแบบนั้นแล้ว ผมส่งคุณให้กับประธานหวางและประธานเฝิง ให้คุณได้สนุกกับพวกเขา เพราะผมรู้ว่าคุณอยู่กับพวกเขาจะต้องได้รับความอับอาย ใช่ เรื่องทั้งหมดผมตั้งใจให้มันเป็นแบบนี้
ถึงแม้หล่อนจะเดาได้ตั้งแต่แรกแล้วว่าการที่เขาให้หล่อนไปคลุกคลีอยู่กับสองคนนั้นเป็นเพราะว่าเขาต้องการลงโทษหล่อน แต่พอถึงตอนนี้เมื่อได้ยินเขายอมรับจากปากเองหล่อนก็ยังรู้สึกเจ็บปวดเหลือเกิน
“ทำไม ทำไมต้องใช้วิธีแบบนี้”
เซิ่งเจ๋อเฉิงหันหลังให้กับหน้าต่างกระจกบานใหญ่ ด้านหลังเขาคือภาพวิวของเมืองนี้ในยามค่ำคืน ใบหน้าครึ่งหนึ่งของเขาถูกบดบังด้วยเงามืด เขาดูลึกลับและน่ากลัว
เสียงเย็นชาดังขึ้นในห้องอันแสนโอ่อ่าเสมือนมีดแหลมที่ทิ่มแทงลงบนหัวใจของเสิ่นอีเวย “เสิ่นอีเวย พวกเราก็รู้จักกันมานานแล้ว คุณคิดว่าคุณเป็นหญิงสูงศักดิ์มาจากไหน คุณคิดว่าผมไม่รู้เหรอ ให้คุณไปเกลือกกลั้วกับคนสารเลวพวกนั้น ให้คุณได้รู้รสความเลวระยำของพวกมัน นี่แหละคือวิธีการลงโทษที่ดีที่สุดสำหรับคุณ”
เสิ่นอีเวยวินาทีนั้นสูญเสียทักษะการพูดไป ไม่ผิดนี่คือสิ่งที่เขาทำกับหล่อน เขาเป็นคนบงการชีวิตหล่อน บีบคอหล่อนให้ตายไม่ใช่วิธีที่ดีที่สุดที่จะทำลายหล่อน แต่การทำให้หล่อนต้องอับอายเสียศักดิ์ศรีคือวิธีที่เขาเลือก เขาต้องการแก้แค้นให้เสิ่นหุ้ยจริงๆ
“แต่ฉันเป็นภรรยาของคุณนะ ทำไมคุณถึงใจร้ายให้ฉันไปดื่มข้างๆผู้ชายอื่น”
เซิ่งเจ๋อเฉิงต้องการปลุกตัวเองให้ตื่นจึงใช้คำพูดที่รุนแรงยิ่งขึ้น “คุณคิดว่าแค่แต่งงานกัน ก็ถือว่าเป็นสามีภรรยาแล้วเหรอ คุณเองยังเคยสวมเขาให้ผมแล้ว แล้วทำไมผมต้องแคร์คุณต้องห่วงความปลอดภัยของคุณด้วย”
เสิ่นอีเวยใจสั่น ตกใจจนหน้าถอดสี “คุณพูดว่าอะไรนะ”
“คืนนั้นที่คุณอยู่กับเซียวหันถิงตามลำพังแล้วยังกับฉินโม่อีกคุณคิดว่าผมจะเชื่อเหรอ ชายหญิงอยู่ด้วยกันตามลำพังในห้องโดยที่ไม่ได้ทำอะไรกัน”
น้ำเสียงของเขาเต็มไปด้วยความเยาะเย้ยเหยียดหยัน
“ฉันก็อธิบายให้คุณฟังหมดแล้วไง แล้วคุณเองก็เชื่อฉันแล้วนี่”เสิ่นอีเวยเกือบจะร้องตะโกนออกมา
ผิวของหล่อนขาวมาก หากเกิดรอยอะไรขึ้นจึงเห็นได้ชัดเจนมาก สายตาของเขาถูกรอยจูบที่คอของหล่อนสะกดเข้าอีกครั้ง ไม่ว่าอย่างไรก็รู้สึกไม่สบายตา
ทันใดนั้นเองหัวไหล่ของเสิ่นอีเวยก็ถูกยึดไว้ ใบหน้าของเซิ่งเจ๋อเฉิงอยู่ห่างแค่คืบ น้ำเสียงเย็นชาไร้ความรู้สึก “ถ้าคุณไม่ได้เป็นนังแพศยาอย่างที่คุณบอก งั้นคุณก็ลองบอกผมสิว่าไอ้รอยจูบที่คอของคุณมันมาจากไหน เพื่อช่วยผมเจรจาธุรกิจ ถึงขนาดต้องเอาตัวเข้าแลกกับประธานเฝิงประธานหวางเลยใช่มั้ย”
เสิ่นอีเวยใจหายวูบ ก่อนจะได้สติกลับมาอีกครั้ง แล้วคิดได้ว่าน่าจะเป็นฝีมือของไอ้สองตัวที่น่าขยะแขยงนั้นตอนยึดหล่อนที่โซฟา เมื่อรู้ว่าสองคนนั้นทิ้งร่องรอยสกปรกไว้บนเรือนร่างของหล่อน หล่อนก็รู้สึกคลื่นไส้ขยะแขยงขึ้นมา
แต่เมื่อคิดถึงการกระทำของเซิ่งเจ๋อเฉิงที่ต้องการบีบคอหล่อนให้ตายในอ่างอาบน้ำผ่านมาเมื่อสักครู่ ใจของหล่อนก็เหมือนถูกฉุดกระชากเข้าไปในบ้านน้ำแข็งที่ลึกลับซับซ้อนเขาคงอยากจะให้หล่อนตายจริงๆ
เมื่อความโกรธปะทุขึ้น หล่อนดึงผ้าห่มออก เผยให้เห็นร่างเปล่าเปลือยท่ามกลางอากาศหนาวเย็น แล้วหล่อนก็มายืนต่อหน้าของเซิ่งเจ๋อเฉิง “ใช่ ไม่ผิด คุณเป็นคนบงการชีวิตฉัน คุณจะให้ฉันทำอะไรฉันก็ทำ คุณอยากส่งฉันไปอยู่กับผู้ชายอื่นให้ฉันอับอายไม่ใช่เหรอ ออกจากโรงแรมนี้เลี้ยวซ้ายไปก็จะถึงสถานบันเทิงที่ใหญ่ที่สุดในเมืองนี้แล้ว ถ้าคุณแน่ใจแล้วว่าอยากจะให้ฉันขายหน้าอับอายก็เอาฉันไปส่งที่นั้นเป็นสาวนั่งดริ๊งกับแขกในนั้น ไปเป็นโคโยตี้ก็ได้”