สามีเก่าอ้อนรัก - ตอนที่ 93
ตอนที่ 93 เก็บความลับให้ฉันที
คุณสวี่ ท่านมาแล้วเหรอครับ ชายที่มีรอยแผลเป็นบนหน้าพูดด้วยความเคารพกับผู้หญิงที่ลงมาจากรถคันสีขาว
สวี่อันฉิงที่แต่งหน้าเข้มจัด ใส่แว่นกันแดด เดินตรงมายังหน้าชายที่มีแผลเป็นบนหน้า แล้วยืนมองเสิ่นอีเวยด้วยความโมโห
เธอรับเงินไปแล้ว แล้วจัดการประสาอะไร บอกให้เอาไปส่งที่ผับอั้นเย่ไม่ใช่เหรอ เล่ามาให้ละเอียดว่า มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่
หน้าตาและท่าทางของสวี่อันฉิงมีความดุร้าย ชายที่มีแผลเป็นบนหน้าตอบกลับไปว่า “ เดิมทีผมคิดว่าคงไม่มีอะไรพลาด แต่คิดไม่ถึงว่า ผู้หญิงคนนี้ช่างใจกล้า รถวิ่งเร็วขนาดนั้น เขายังกล้ากระโดดลงจากรถ ”
เมื่อสวี่อันฉิงได้ยินว่า “ กระโดดลงจากรถ ” ก็รู้สึกใจสั่น แล้วจ้องไปที่ชายผู้ที่มีแผลเป็นบนหน้า กระโดดลงจากรถเหรอ แล้วเขาได้รับบาดเจ็บหรือเปล่า
ชายที่มีแผลเป็น ก้มไปมองที่เสิ่นอีเวยแล้วพูดว่า “ เมื่อกี้ยังเพิ่งสู้กับผมอยู่เลย ก็ไม่มีเลือดออกนะ ”
สวี่อันฉิงนั่งลงมองแล้วตรวจดูที่ศีรษะและแขนขาของเสิ่นอีเวย เมื่อมั่นใจว่าไม่ได้รับบาดเจ็บก็รู้สึกโล่งอก
ชายที่มีแผลเป็นบนหน้าเห็นปฏิกิริยาของสวี่อันฉิงจึงถามอย่างสงสัยว่า “ คุณสวี่ครับ คุณเกลียดผู้หญิงคนนี้ไม่ใช่หรือครับ ในเมื่อเขาได้รับบาดเจ็บก็ดีแล้วสิครับ เขาจะได้เจ็บปวดไง ”
สวี่อันฉิงมองชายผู้นั้นด้วยหางตา แล้วพูดแบบไม่ใส่ใจว่า เธอจะไปรู้อะไร ถึงแม้เซิ่งเจ๋อเฉิงจะเกลียดผู้หญิงคนนี้มาก แต่ก็แปลก ทุกครั้งที่เสิ่นอีเวยเกิดเรื่องขึ้น เซิ่งเจ๋อเฉิงจะต้องมาช่วยผู้หญิงคนนี้ ตอนนี้ฉันก็ไม่รู้ว่าเซิ่งเจ๋อเฉิงชอบหรือเกลียดผู้หญิงคนนี้กันแน่ แต่ฉันก็ไม่สามารถทำร้ายเสิ่นอีเวยต่อหน้าคนอื่นได้ เพราะถ้าเซิ่งเจ๋อเฉิงมาเอาเรื่องกับฉันแล้วจะทำยังไงล่ะ
ระหว่างที่พูด แววตาของสวี่อันฉิงก็แสดงถึงความโหดเหี้ยม ในใจของสวี่อันฉิงกลัวเซิ่งเจ๋อเฉิงมากแค่ไหน มีเพียงสวี่อันฉิงเท่านั้นที่รู้ดี แต่ดูจากสถานการณ์ที่ผ่านมาจนถึงตอนนี้ ผู้หญิงที่นอนอยู่ตรงหน้าสามารถทำให้เซิ่งเจ๋อเฉิงโมโหได้ เพราะฉะนั้นเขาคงไม่โง่ที่จะไปยั่วโมโหเซิ่งเจ๋อเฉิง เพราะมันไม่ได้ทำให้เขาบรรลุเป้าหมายและไม่เป็นผลดีกับเขาเลย
ชายที่มีแผลเป็นก็พยักหน้าอย่างช้า ๆ อยู่ ๆ ก็คิดถึงอะไรขึ้นมาได้ แล้วบอกกับสวี่อันฉิงอย่างตกใจว่า “ เมื่อกี้ผู้หญิงคนนี้กำลังคุยโทรศัพท์กับใครสักคนหนึ่ง แล้วก็กำลังบอกเลขทะเบียนรถกับที่อยู่ของที่นี้ เราต้องรีบออกจากที่นี่กันแล้วล่ะครับ ”
พอได้ยินดังนั้น สีหน้าของสวี่อันฉิงก็เปลี่ยนไปทันที พลางคิดตามในสิ่งที่ชายที่มีแผลเป็นบนหน้าพูด จากนั้นก็เหวี้ยงกระเป๋าออกไปอย่างแรง และต่อว่าชายผู้นั้นว่า เมื่อกี้ทำไมไม่รีบบอก เสียเวลาไปตั้งเยอะ
หรือว่าเสิ่นอีเวยจะบอกเซิ่งเจ๋อเฉิงไปแล้ว แต่ไม่น่าจะเป็นไปได้ เขาก้มมองเวลาที่นาฬิกาข้อมือ ตอนนี้เซิ่งเจ๋อเฉิงกำลังคุยกับซีอีโอที่มาจากประเทศอังกฤษของบริษัทหนึ่งอยู่ เท่าที่เคยอยู่กับเซิ่งเจ๋อเฉิงมา สวี่อันฉิงพอจะรู้นิสัยของเซิ่งเจ๋อเฉิงดี ถ้าเป็นการประชุมสำคัญแบบนี้ เขาไม่มีทางพกมือถือติดตัวแน่นอน
แล้วผู้หญิงคนนี้ติดต่อใครกันแน่
แต่ว่าตอนนี้ไม่ใช่เวลาจะมาคิดอะไรแล้ว สวี่อันฉิงสั่งชายที่มีแผลเป็นบนหน้าว่า “ อุ้มเขาไปที่รถของฉัน แล้วรีบไปดึงป้ายทะเบียนรถออก และออกไปจากที่นี่ ”
ชายที่มีแผลเป็นบนหน้าอุ้มเสิ่นอีเวยไปที่รถของสวี่อันฉิง แล้วเอาเสิ่นอีเวยไปไว้ที่เบาะหลัง หลังจากที่ทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว สวี่อันฉิงกับชายที่มีแผลบนหน้าก็ต่างแยกย้ายกันไป
ตลอดทางสวี่อันฉิงก็คอยหันไปมองที่เสิ่นอีเวยว่าจะฟื้นขึ้นมาหรือยัง ยังโชคดีที่ชายผู้นั้นได้รับการฝึกฝนมา เขาใช้สันมือสับไปที่คอเสิ่นอีเวยจนสลบ ตอนนี้คงยังไม่ฟื้นขึ้นมาง่าย ๆ
สวี่อันฉิงมองไปรอบ ๆ อย่างระมัดระวัง ว่ามีใครตามมาหรือเปล่า พอขับไปเรื่อย ๆ ข้างหน้าก็เจอทางแยก อยู่ ๆ ก็มีรถเบนซ์สีดำวิ่งมาอย่างรวดเร็ว แล้วก็มีเสียงดังจากล้อรถกับพื้นเสียดสีกัน
สวี่อันฉิงตกใจมาก รีบขับหลบไปข้าง ๆ แต่คนที่ขับรถเบนซ์สีดำท่าทางจะขับรถเก่งมาก เขาไม่ให้สวี่อันฉิงได้มีโอกาสหนีไปได้ จากนั้นก็ขับรถมาขวางหน้ารถของสวี่อันฉิง
ถนนเส้นนี้แคบมาก สวี่อันฉิงจึงถอยรถไม่ได้
ขณะนั้นสวี่อันฉิงตกตะลึง เพราะในระยะเพียงไม่กี่เมตรเขาเห็นได้อย่างชัดเจนว่าชายที่ขับรถมาก็คือ เซียวหันถิง
ชายคนนั้น ที่เคยเจอกันในงานปาตี้ ทำไมเขาถึงมาอยู่ที่นี้ได้ล่ะ ใจของสวี่อันฉิงเริ่มเต้นเร็วขึ้นเรื่อย ๆ
ก๊อก ๆ ๆ เซียวหันถิงยื่นมือไปเคาะที่ประตูรถของสวี่อันฉิง
สวี่อันฉิงที่นั่งอยู่ตรงตำแหน่งคนขับก็หันไปมองเสิ่นอีเวยที่ไม่ได้สติ ก้มหน้าก้มตาแล้วสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ ค่อย ๆ ลดกระจกรถลง แล้วยิ้มอย่างมีเสน่ห์ แล้วพูดว่า “ ผู้จัดการเซียว ไม่คิดว่าจะเจอคุณที่นี่ บังเอิญจริง ๆ คะ ”
สวี่อันฉิงเป็นผู้หญิงค่อนข้างหน้าตาดี เลยรู้สึกว่าตัวเองมีเสน่ห์สามารถดึงดูดใจผู้ชายได้ รอยยิ้มเมื่อสักครู่นี้ก็คงทำให้เซียวหันถิงหลงเสน่ห์ตัวเองได้เช่นกัน สวี่อันฉิงรู้สึกมั่นใจ
แต่ปฏิกิริยาของเซียวหันถิงกลับทำให้สวี่อันฉิงคิดไม่ถึง
สายตาของเซียวหันถิงมองไปที่เบาะหลังรถ เห็นเสิ่นอีเวยที่นอนอยู่จึงมองให้มั่นใจว่าเสิ่นอีเวยไม่ได้รับบาดเจ็บ เซียวหันถิงยิ้มอย่างสุภาพแต่ในรอยยิ้มนั้นไม่ได้มีความอ่อนโยนแม้แต่น้อย “ ไม่บังเอิญหรอก เพราะผมตั้งใจที่จะมาขวางคุณไว้ ”
“ ………… ”
สวี่อันฉิงโดนเซียวหันถิงพูดตอกกลับไป ทำให้จากหน้าที่สีแดงกลายเป็นหน้าซีด
สวี่อันฉิงไม่ได้ลงมาจากรถ ดังนั้นเซียวหันถิงจึงโน้มตัวลงมาพูดกับสวี่อันฉิง ซึ่งท่าทางแบบนี้ก็ยิ่งทำให้สวี่อันฉิงก็รู้สึกกดดัน ใช่แล้วล่ะ บางคนตั้งแต่เกิดมาก็มีพรสวรรค์ที่ทำให้คนอื่นรู้สึกต้องยอมให้แต่โดยดี ซึ่งเซิ่งเจ๋อเฉิงกับเซียวหันถิงก็เป็นผู้ชายลักษณะนี้
คุณสวี่ เวลาของผมมีค่ามากนะ ส่งตัวเสิ่นอีเวยมา
เซียวหันถิงอยู่ในวงการธุรกิจมาหลายปี เขาเคยชินกับการพูดให้ตรงประเด็น
หัวใจของสวี่อันฉิงยิ่งเต้นรัวขึ้นเรื่อย ๆ ด้วยความตื่นเต้นจึงทำให้มีเหงื่อซึมออกมาจากหน้าผาก จากนั้นจึงพยายามตั้งสติแล้วพูดว่า “ ใครคือคนที่คุณต้องการ ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน ผู้จัดการเซียวไปสนิทกับภรรยาของผู้จัดการเซิ่งขนาดนี้เลยหรือ ”
เซียวหันถิงหรี่ตาลง แล้วพูดแบบยิ้ม ๆ ว่า “ ถ้าอย่างนี้ก็ไม่จำเป็นต้องให้คุณสวี่มากังวลแล้วล่ะ คุณมีโอกาสเป็นครั้งสุดท้าย เปิดประตูรถซะ แล้วส่งเธอมาให้ผม มิเช่นนั้นอย่าหาว่าผมไม่เป็นสุภาพบุรุษนะ ”
สวี่อันฉิงจ้องไปที่เซียวหันถิง และใช้เวลาน้อยที่สุดในการชั่งใจคิดถึงข้อดีข้อเสีย สวี่อันฉิงรู้ถึงอำนาจของผู้จัดการเซียวเป็นอย่างดีว่ามีพอ ๆ กับเซิ่งเจ๋อเฉิง สวี่อันฉิงรู้ดีว่าไม่ควรทำให้ผู้ชายคนนี้โมโห
สวี่อันฉิงปลดเข็มขัดนิรภัยออก แล้วลงมาจากรถพร้อมกับเอามือวางไว้ที่หน้าอกแล้วมองไปที่เซียวหันถิง จากนั้นเซียวหันถิงก็มองสวี่อันฉิงอย่างสนใจว่าสวี่อันฉิงจะพูดอะไร
“ ส่งตัวเสิ่นอีเวยให้ได้นะ แต่ต้องรับปากฉันอย่างหนึ่ง ”
เซียวหันถิงยิ้ม แล้วบอกว่า “ บอกมาเถอะคุณสวี่ ”
สวี่อันถิงหายใจเข้าลึก ๆ แล้วพูดว่า “ เรื่องวันนี้ ขอให้ผู้จัดการเซียวเก็บไว้เป็นความลับ อย่าไปบอกเซิ่งเจ๋อเฉิงเด็ดขาด