สายเปย์เบอร์หนึ่ง - ตอนที่ 116
แต่บางเรื่องเราก็ไม่มีไฟล์แล้วเหมือนกัน
บทที่116 จับกุมหลีชิงเยียน
เกรงว่าถึงโจวเทียนจะตายก็ไม่เข้าใจอยู่ดี คำพูดก่อนตายของโม่ถีซือนั้นหมายความว่าอะไร
ต่อไป ทุกอย่างก็ต้องพึ่งเขาแล้ว งั้นทำไมยังต้องวางยาพิษให้เขาตายละ?
ทั้งๆที่เขายังมีประโยชน์ แต่โม่ถีซือยังคงลงมืออย่างโหดเหี้ยม แก้ไขทุกอย่างให้เรียบร้อยแล้ว
โจวเทียนไม่เข้าใจ ความหมายของโม่ถีซือเลย ที่พูดถึงต่อไปนั้น มีเพียงแค่หลังจากที่เขาตายไปแล้ว ถึงจะแสดงประโยชน์ออกมาได้อย่างเต็มที่!
น้ำเสียงของโม่ถีซือก็หายไปอย่างรวดเร็วตรงที่สิ้นสุดทางเดิน เดินออกจากผับไปแล้ว
และในเวลานั้นที่โม่ถีซือเพิ่งเดินออกมาจากผับ รถตำรวจคันหนึ่งเปิดเสียงไซเรนดังมากจนแสบแก้วหูเข้ามาทันที!
รถตำรวจจอดที่หน้าประตูผับ ที่หน้าประตูผับ นักดื่มที่ค่อนข้างเมามายก็สร่างเมากันอย่างทันที ท่าทางที่ตื่นตระหนกถอยหนีกันอย่างกระจัดกระจาย!
เจ้าหน้าที่ตำรวจรีบพุ่งออกมาจากรถ ปิดล้อมผับได้ในชั่วพริบตาเดียว!
“ปิดล้อมในนี้ รวมถึงประตูหลัง ห้ามให้ออกไปได้แม้แต่คนเดียว!” ผู้หญิงที่รูปร่างเซ็กซี่และผอมบางคนหนึ่งเดินออกมาจากรถ รูปร่างสูง สีหน้าที่เยือกเย็น น้ำเสียงที่เข้มงวดและเย็นชา
เย่ชวงตำรวจที่มีหน้าตาสวยของสถานีตำรวจหู้ไห่ ได้รับรายงานจากฝูงชน หลังจากที่นี่เกิดคดีฆาตกรรมกันขึ้น จึงนำทีมมาถึงที่แห่งนี้
เจ้าหน้าที่ตำรวจหลายนายบุกเข้าไปในผับ เสียงดนตรีในผับถูกหยุดลงโดยทันที ผับถูกควบคุมโดยเจ้าหน้าที่ตำรวจอย่างรวดเร็ว
เย่ชวงสวมใส่รองเท้าหนัง เหยียบลงบนพรมนิ่มๆ ท่าทางที่โหดเหี้ยมอย่างมาก
เสียงกรีดร้องดังออกมาจากห้องส่วนตัว เย่ชวงเร่งฝีเท้า ก้าวเดินไปที่หน้าประตูห้องนั้นทันที
พนักงานเสิร์ฟยืนอยู่ที่หน้าประตู หน้าถอดสี ตกใจจนใบหน้าขาวซีดแล้ว
เย่ชวงดึงสาวเสิร์ฟคนนั้นออกแล้วเดินเข้าไป เห็นโจวเทียนฟุบอยู่บนโต๊ะ ขวดเหล้าแตกละเอียด เขากระอักฟองสีขาวออกมา
เย่ชวงเดินเข้าไป ก้มลงดูครู่หนึ่ง เขาถูกวางยาพิษ!
อีกทางฝั่งหนึ่ง หลังจากที่ตรวจสอบทางนิติเวชแล้ว พูดรายงานการตรวจสอบออกมา “ในเหล้ามียาพิษ บนตัวของเขา ยังมีกลิ่นน้ำหอมที่มีเฉพาะในผู้หญิงครับ”
“กลิ่นน้ำหอม?” เย่ชวงกอดอก สีหน้าเย็นชา
“ใช่ น้ำหอมแบบนี้หายากมาก ไม่มีขายภายในประเทศ ส่วนในต่างประเทศ ก็ถือว่าน้อยมาก” ทางนิติเวชแจ้งให้ทราบ น้ำหอมแบบนี้ ราคาแพงมาก คนทั่วไปซื้อมาใช้ไม่ไหว
“จะต้องหามาให้ได้ ใครเป็นคนฆ่าเขา” เย่ชวงพูดพร้อมหมุนตัวไป
“ตรวจสอบกล้องวงจรปิดบริเวณใกล้เคียงทั้งหมด ดึงข้อมูลในกล้องวงจรปิดออกมาตรวจสอบให้หมดภายในหนึ่งชั่วโมง สิ่งสำคัญคือการตรวจดูผู้หญิงที่เข้าออกผับ” เย่ชวงออกคำสั่ง
“ผู้ตายมีชื่อว่าโจวเทียน เป็นพนักงานฝ่ายเทคนิคของบริษัทตระกูลหลีกรุ๊ป” เย่ชวงยืนยันตัวตนของผู้เสียชีวิต ได้อย่างรวดเร็ว แววตาที่เด็ดเดี่ยว “แม้ว่าเป็นบริษัทตระกูลหลีกรุ๊ป ก็ต้องตรวจสอบจนถึงที่สุด”
รุ่งเช้าวันถัดไป ตอนประมาณห้าหกโมง เฉินเป่ยลุกขึ้นไปล้างหน้าบ้วนปาก แล้วลงไปด้านล่าง วิ่งรอบคฤหาสน์ตระกูลหลีประมาณสิบกิโลเมตร เป็นการยืดผ่อนคลายร่างกาย
หลังจากที่วิ่งเสร็จ เฉินเป่ยหอบเบาๆ กลับไปที่คฤหาสน์ เห็นในห้องจัดเลี้ยง อาหารบนโต๊ะ กลุ่มคนนั่งเรียงกัน เริ่มทานอาหารกันแล้ว
เฉินเป่ยกวาดสายตามอง หลังจากเห็นที่นั่งว่างถัดจากหลีชิงเยียน ยิ้มออกมาเบาๆ เดินไปยังหลีชิงเยียนทันที หย่อนก้นนั่งลง
หลีชิงเยียนขวมดคิ้วแน่น “เฮ้ย นั้นไม่ใช่ที่ของนาย!นั้นเป็นที่ของซูเหลย!”
ซูเหลยไปล้างหน้าบ้วนปาก ดังนั้นที่ตรงนี่จึงเว้นว่างไว้
เฉินเป่ยพูดตอบกลับอย่างไม่อาย “นั่งตรงไหนก็เหมือนกัน เธอไม่ถือสาอะไรหรอก”
“นาย……” หลีชิงเยียนมองเขม็งไปที่เฉินเป่ย ขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน ไอ้หมอนี้……ในเมื่อพูดว่านั่งที่ไหนก็เหมือนกัน งั้นทำไมถึงต้องมานั่งข้างเธอด้วย!
หลีชิงเยียนกัดฟัน แต่เฉินเป่ยไม่สนใจเธอเลย หยิบแซนวิชอย่างไม่แคร์ พร้อมทั้งรินนมอีกหนึ่งแก้ว กินอย่างตะกละตะกลาม
“เจ้าเฉิน รสชาติของแซนวิชนี้เป็นยังไงบ้าง?” หลี่เซียงหานเอ่ยถามพร้อมหัวเราะฮาๆ
“ก็โอเคนะ” เฉินเป่ยพูดแบบขอไปที หลี่เซียงหานยิ้มพร้อมพูดว่า “แซนวิชชิ้นนี้ จริงๆแล้วเป็นชิงเยียนที่ตื่นขึ้นมาทำด้วยตัวเองตั้งแต่เช้าตรู่”
เฉินเป่ยสั่นไปทั้งตัว รีบเปลี่ยนหัวข้อที่คุยทันที พูดพร้อมหัวเราะฮาๆ “ฉันก็ว่าทำไมแซนวิชชิ้นนี้ถึงได้อร่อยขนาดนี้ แท้ที่จริงก็เป็นฝีมือของชิงเยียนนี้เอง”
หลีชิงเยียนยิ้มอย่างเย็นชา กลอกตามองบน คำเยินยอของเฉินเป่ยนั้นปลอมเกินไปแล้ว
หลังจากที่รู้ว่าหลีชิงเยียนเป็นคนทำแซนวิช มื้อเช้านี้เฉินเป่ยก็ไม่กินอย่างอื่นอีกเลย กินแซนวิชจนเกลี้ยง
ไม่เพียงเท่านั้น ก่อนที่เฉินเป่ยจะลุกออกไปก็หยิบแซนวิชใส่ถุงมาอีกสองสามชิ้น บอกว่าเป็นมื้อเที่ยง
ทันใดนั้น ข่าวเช้าในทีวี ทำลายบรรยากาศที่สวยงามและสงบของมื้อเช้าแล้ว
ข่าวช่วงเช้าออกอากาศว่าโจวเทียนถูกคนฆาตกรรมโดยเจตนา ฆาตกรผู้ต้องสงสัยเป็นผู้หญิง
การตายของโจวเทียน ทำให้ใบหน้าที่อ่อนโยนและสงบของหลีหยางเปลี่ยนเป็นอึมครึมขึ้นทันที เห็นข่าวเช้าแล้ว เงียบขรึมขึ้นมาอย่างหมดคำพูด
“ในนี้มีอะไรที่ไม่ชอบมาพากล” หลีหยางพูด “เมื่อวานเขาเพิ่งโดนพวกเราสั่งสอนไปยกหนึ่ง เมื่อคืนเขาก็ตายแล้ว ใครเป็นคนทำ?”
“เซิร์ฟเวอร์ของบริษัทตระกูลหลีกรุ๊ปล่มสลาย ก็คงไม่ง่ายขนาดนั้น น่าจะเกี่ยวข้องกับเขาด้วย” หลีชิงเยียนเอ่ยพูดออกมา
“เจ้าเฉิน นายว่ายังไง?” หลีหยางหันศีรษะ มองไปยังเฉินเป่ย
เฉินเป่ยกำลังกินแซนวิชอย่างตะกละตะกราม เมื่อได้ยินที่หลีหยางถามเขา เอ่ยปากพูดตามอำเภอใจ “หลักฐานในมือไม่เพียงพอ ทุกอย่างล้วนแต่เป็นไปได้”
หลีชิงเยียนถุยน้ำลายเบาๆ มองไปทางเฉินเป่ยด้วยความดูถูก ไอ้หมอดนี่ ทำได้เพียงเสแสร้ง ถึงแม้จะมีหลักฐานให้กับเขาก็ตาม เขาจะสามารถคาดเดาอะไรออกมาได้?
“ดูแล้วนายน่าจะแก้ไขคดีได้ดี?” แววตาของซูเหลยจ้องมองไปที่เฉินเป่ย
“ผมไม่ใช่นักสืบ ผมก็แค่พูดไปเท่านั้น” เฉินเป่ยส่ายหน้า ซูเหลยมุมปากฉีกยิ้ม สำหรับเธอแล้ว เฉินเป่ยก็แค่สิบแปดมงกุฎ ตอนนี้แม้แต่จะคุยโม้โอ้อวดก็ยังไม่กล้า
“กินเสร็จแล้วก็รีบไปที่บริษัท เชิญบริษัทรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์มาแก้ไข ขอเพียงแค่สามารถแก้ไขเซิร์ฟเวอร์ได้เร็วที่สุด ไม่ว่าราคาเท่าไหร่ก็ไม่เกี่ยง!” หลีหยางพูดกำชับ ขอเพียงแก้ไขเซิร์ฟเวอร์ได้ แม้จะเป็นบริษัทรักษาความปลอดภัยที่ดีที่สุดในหัวเซี่ย ก็เชิญให้มาได้เหมือนกัน
หลีชิงเยียนพยักหน้า หลังจากที่กินข้าวเช้าเสร็จ ทั้งสามคนก็รีบมุ่งหน้าไปที่บริษัทตระกูลหลีกรุ๊ปทันที
หลังจากที่หลีชิงเยียนเดินเข้าไปในห้องประธานหลี เพิ่งจะนั่งลง เพิ่งจะเรียกหลินเฉว่ให้มา สอบถามหลินเฉว่ เรื่องเซิร์ฟเวอร์ของบริษัทตระกูลหลีกรุ๊ป หลินเฉว่พูดตอบ “ประธานหลี เซิร์ฟเวอร์ของบริษัทตระกูลหลีกรุ๊ป ได้รับการแก้ไขเรียบร้อยแล้วค่ะ”
“ซ่อมแซมแล้ว?” หลีชิงเยียนสีหน้าตกตะลึง “ฝ่ายเทคนิคเป็นคนซ่อมแซมเหรอ?”
หลินเฉว่ส่ายหน้า “ฝ่ายเทคนิคมาถึงบริษัทตั้งแต่เช้า หลังจากที่ตรวจสอบเสร็จ บอกว่าพวกเขาก็ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น เซิร์ฟเวอร์ของบริษัทตระกูลหลีกรุ๊ปยังดีเหมือนเดิมไม่มีอะไรเสียหาย ก็เหมือนกับไม่เคยโดนโจมตียังไงอย่างนั้น”
หลีชิงเยียนสีหน้าสงสัย…แม้แต่เธอก็ยังไม่รู้ ทั้งๆที่บริษัทตระกูลหลีกรุ๊ปเจอวิกฤตอย่างเห็นได้ชัด แต่พอเช้าปุ๊บ วิกฤตนั้นกลับหายไปอย่างหน้าประหลาด
“หาให้เจอ รู้ไหมว่าเซิร์ฟเวอร์ล่มในครั้งนี้เป็นฝีมือของใคร?” หลีชิงเยียนถาม
“มีคนทำ ฝ่ายเทคนิคพูด วันนั้น มีเพียงแค่โจวเทียนที่สัมผัสกับเซิร์ฟเวอร์” หลินเฉว่พูด พูดต่อไปอีกว่า “ประธานหลี หากว่าเรื่องนี้โจวเทียนเป็นคนทำ งั้นโจวเทียนตายไปแล้ว ก็ไม่สามารถให้การได้”
“ฉันรู้แล้ว” หลีชิงเยียนสีหน้าเยือกเย็น หลังจากที่ให้หลินเฉว่ออกไป ขมวดคิ้วแน่น เธอไม่รู้อย่างชัดเจน ว่ามีใครสั่งให้โจวเทียนทำเรื่องพวกนี้หรือเปล่า
ถ้าหากมีคนสั่ง คนที่อยู่เบื้องหลังนั้นเป็นใคร?
หลินเฉว่เดินออกจากห้องทำงาน ทันใดนั้น เสียงที่มาจากข้างๆก็แพร่เข้ามา เรียกหลินเฉว่ให้หยุด “เลขาหลิน”
หลินเฉว่หยุดก้าวเท้า ค่อยๆมองไปที่เฉินเป่ย ยิ้มอย่างมีมารยาท “เฉินเป่ย”
“ตอนเที่ยงว่างไหม?” เฉินเป่ยพูดเบาๆ
หลินเฉว่คิดอยู่แวบหนึ่ง “โจวเทียนตายแล้ว วันนี้ที่บริษัทน่าจะยุ่ง ไม่มีเวลา”
เฉินเป่ยพยักหน้า “ก็ได้ งั้นตอนนี้เกิดอะไรขึ้นกันแน่?”
หลินเฉว่ไม่ได้ปิดบัง บอกเฉินเป่ยไปตรงๆเลย
“ฝ่ายเทคบอกว่าพวกเขาก็ไม่เข้าใจเรื่องเซิร์ฟเวอร์ว่าเกิดอะไรขึ้น?” เฉินเป่ยเบะปาก “ไม่ใช่ว่าฝ่ายเทคนิคของบริษัทตระกูลหลีกรุ๊ปถูกดึงตัวมาจากบริษัทรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์ระดับต้นๆเหรอ แม้แต่อันนี้ก็ไม่เข้าใจ?”
หลังจากที่หลินเฉว่พูดคุยกับเฉินเป่ยสักกี่คำ ก็รีบกลับไปที่ห้องทำงานของตัวเอง เฉินเป่ยพิงที่กำแพง ทอดสายตามองไปที่นอกหน้าต่าง ลึกซึ้งอย่างไร้ขอบเขต
โทรศัพท์ดังขึ้นมาในทันที เฉินเป่ยรับโทรศัพท์ น้ำเสียงของชิงเหนียนหน้าตาหล่อเหลาแพร่เข้ามาจากปลายสายโทรศัพท์ “พี่ใหญ่ สำเร็จแล้วครับ”
เฉินเป่ยพยักหน้า ชิงเหนียนยังคงพูดต่อ “ผมได้เพิ่มการป้องกันของเซิร์ฟเวอร์อีกหลายชั้นครับ หากยังมีคนสามารถพังทลายการป้องกันของผมได้ งั้นก็ต้องเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านคอมพิวเตอร์ระดับต้นๆอย่างแน่นอน”
ที่ชิงเหนียนพูดก็ถูก ด้วยความสามารถของเขา จัดการแก้ไขช่องโหว่ของเซิร์ฟเวอร์ได้อย่างง่ายดาย ทำให้ฝ่ายเทคนิคสับสนมึนงงอย่างมาก
เรื่องนี้ เฉินเป่ยให้ชิงเหนียนไปจัดการแก้ไขอย่างเงียบๆ ไม่อยากแหวกหญ้าให้งูตื่น
“โจวเทียนเป็นคนทำ ช่องโหว่ของเซิร์ฟเวอร์เกิดจากส่วนของภายใน แต่เขาไม่ได้ปกปิดพฤติกรรมของตัวเองสักนิดเดียว” ชิงเหนียนเอ่ยปากพูด เขาสงสัยว่าโจวเทียนไม่ได้วางแผนจะอยู่ที่บริษัทตระกูลหลีกรุ๊ป เพราะว่าบริษัทตระกูลหลีกรุ๊ปจะสามารถทราบได้อย่างรวดเร็วว่าโจวเทียนเป็นคนทำ แม้แต่ทางหนีทีไล่เขาก็ไม่เหลือไว้ให้ตัวเอง
เฉินเป่ยวางสายโทรศัพท์ และในตอนนี้ เสียงไซเรนดังจนแสบแก้วหู เสียงดังมาแต่ไกล เสียงดังก้องกังวานบนถนนในเมืองหู้ไห่
เฉินเป่ยสีหน้าเปลี่ยนไป ก้มมองเห็นรถเจ้าหน้าที่ตำรวจ เปิดสัญญาณไฟกระพริบ หยุดอยู่ตรงหน้าประตูของอาคารตระกูลหลี
ร่างที่งดงามในชุดเครื่องแบบตำรวจลงจากรถออกมา แม้จะสวมใส่เครื่องแบบของตำรวจก็ไม่อาจซ่อนความเซ็กซี่ของเธอได้
เงาร่างนี้ยังรายล้อมไปด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจอีกหลายนาย รีบเดินไปทางอาคารตระกูลหลีทันที แววตาอันลึกซึ้งของเฉินเป่ยสาดส่องออกมาอย่างประหลาดใจ……คนนี้ก็ไม่ใช่คนอื่นคนไกล ก็เป็น เย่ชวง!
เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยหน้าอาคารตระกูลหลี เห็นเจ้าหน้าที่ตำรวจและรถตำรวจมากมายขนาดนี้ สั่นไปทั้งตัว จะกล้าหยุดรั้งไว้ได้อย่างไรกัน ค่อยๆถอยไปอยู่อีกฝั่งหนึ่ง!
เย่ชวงบุกเข้าไปในตระกูลหลีกรุ๊ปอย่างไม่มีอะไรขว้างกั้น ในห้องโถงของอาคารตระกูลหลีกรุ๊ป เงียบสงัดมาก พนักงานของตระกูลหลีกรุ๊ปต่างก็มีสีหน้าที่ตกตะลึง เกิดอะไรขึ้นกันแน่ แตกตื่นกันทั้งสถานีตำรวจเมืองหู้ไห่
เย่ชวงรีบบุกเข้าไปในอาคารตระกูลหลีกรุ๊ปพร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจหนึ่งกลุ่ม เข้าไปยังห้องทำงานของประธานหลีทันที !
“ปัง”
ประตูห้องทำงานของประธานหลีถูกเตะจนเปิดออก เจ้าหน้าที่ตำรวจบุกเข้ามา ล้อมหลีชิงเยียนที่กำลังทำงานอยู่ไว้
หลีชิงเยียนเงยหน้ามอง ผมยาวเลยบ่าลงมา ใบหน้าที่งดงามนั้นเผยสีหน้าที่ตกตะลึงออกมา เห็นเย่ชวง รู้สึกมึนงงอย่างมาก
“คุณตำรวจเย่ คุณพาคนเยอะแยะมากมายขนาดนี้บุกเข้ามาทำไม?” หลีชิงเยียนสีหน้าสงบนิ่งลง อย่างรวดเร็ว ถามด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา
“ประธานหลี เราสงสัยว่าคุณมีส่วนเกี่ยวกับข้องกับการฆาตกรรมในครั้งนี้ รบกวนคุณไปกับพวกเราหน่อย” น้ำเสียงของเย่ชวงไม่มีข้อกังขาอะไรเลย หนักแน่นและเด็ดขาดอย่างมาก!
หลีชิงเยียนใบหน้าที่ไร้ความรู้สึก นี้คือต้องการ……พาเธอไป?!