สายเปย์เบอร์หนึ่ง - ตอนที่ 118
บทที่ 118 ข้อโต้แย้ง!!
ในสมองของผู้นำมีแต่ความว่างเปล่า ข้อต้องห้ามของหัวเซี่ย!คำพูดนี้ทำให้หัวหน้าถึงกับผงะ ตามด้วยสันหลังที่เยือกเย็น!
ความหมายที่อยู่เบื้องหลังของคำนี้ ผู้นำรู้ดี บุคคลที่เป็นข้อต้องห้ามในหัวเซี่ยต่างก็น่ากลัวอย่างไร้ที่เทียบเทียม!
“ไม่คาดคิดว่าในหู้ไห่จะมีบุคคลเช่นนี้เข้ามาอยู่ด้วย?ผมไม่รู้เลยแม้แต่น้อย” ผู้บังคับบัญชาพูดกล่าวออกมาอย่างขนลุกซู่
ปลายสายโทรศัพท์นั้น พูดด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา “เหลวไหล หากแม้แต่คุณก็พบเจอแล้ว เขายังมีคุณสมบัติอะไรที่จะเป็นข้อต้องห้ามของหัวเซี่ย”
“คนนั้นเอ่ยปากพูดแล้ว หากหลีชิงเยียนยังไม่สามารถออกมาจากสถานีตำรวจหู้ไห่ได้ เขาก็คงควบคุมอารมณ์โกรธของตัวเองไม่ได้” เสียงปลายสายนั้น บุคคลลึกลับคนนั้นกล่าวไว้ ทำให้ผู้นำถึงกับขนหัวลุก
“หลีชิงเยียน……เป็นดารายอดนิยมไม่ใช่เหรอ เป็นดารายอดนิยมตัวน้อยๆ จู่ๆก็ทำให้เขาคนนั้นนึกขึ้นได้?” น้ำเสียงในการพูดของหัวหน้าที่สั่นคลอน พูดถามอย่างสั่นๆ
“ไปช่วยเขาออกมาให้ได้ก่อนค่อยว่ากัน” ปลายเสียงโทรศัพท์นั้นกล่าว พร้อมทั้งพูดกำชับ “หลังจากที่ช่วยเธอออกมาได้แล้ว ตรวจดูเธออย่างละเอียด ผู้หญิงที่ทำให้ขาโกรธเป็นฟืนเป็นไฟได้ จะต้องมีความลับที่ไม่ธรรมดาอย่างแน่นอน ”
“ครับ ผมจะไปประกันตัวเธออกมาเอง!” ผู้นำพยักหน้าเหมือนไก่ที่จิกข้าวสาร รีบตอบกลับทันที
หลังจากที่วางสายโทรศัพท์ไป หัวหน้าก็เหมือนยกภูเขาออกจากอก ถอนหายใจยาว ในใจยังคงหวาดกลัวมาก
เขาเองก็ยากที่จะจินตนาการได้ การมีตัวตนอยู่ของปลายสายนั้น มีความยิ่งใหญ่ที่น่ากลัวมาก โทรมาจากเยี่ยนจิง……ด้วยฐานะของเขา คงไม่มีคุณสมบัติพอที่จะพูดคุยกับเขา
แต่การมีตัวตนอยู่ที่เยี่ยนจิงของเขาคนนั้น โทรศัพท์มาด้วยตัวเอง คุยกับเขาเยอะแยะมากมายขนาดนั้น เพียงพอที่จะสามารถอธิบายความสำคัญของเรื่องนี้ได้แล้ว
หากไม่ทำให้สำเร็จ หู้ไห่ต้องพินาศย่อยยับ
ไม่ทันได้รู้ตัว ผู้นำก็เหงื่อตกเต็มหน้าผากแล้ว เขาคอยเช็ดเหงื่ออย่างไม่หยุดหย่อน รู้สึกช็อกอยู่ในใจ เกิดคลื่นใหญ่ที่ถาโถมเข้ามา
เมืองหู้ไห่ของตัวเอง มีบุคคลที่น่ากลัวขนาดนั้นมาอยู่ด้วยตั้งแต่เมื่อไหร่กัน?
ผู้นำหมุนตัวไป มองไปที่ท่านนั้นที่รออยู่นานมากแล้ว แขกจากเยี่ยนจิงสีหน้าท่าทางที่ไม่พอใจ ยิ้มพร้อมพูดขอโทษ “ขอโทษครับ ผมมีธุระสำคัญที่ต้องไปจัดการด่วน ขอตัวก่อนนะครับ”
พูดประโยคนั้นจบ เขาก็ไม่สนใจแขกที่มาจากเยี่ยนจิงเลย หมุนตัวรีบเดินออกไปทางด้านนอกอย่างรวดเร็ว
แขกที่มาจากเยี่ยนจิงคนนั้นลุกขึ้นยืน มองเงาหลังของผู้นำที่เดินออกไป สีหน้าขาวซีด
เขามาจากเยี่ยนจิง เพื่อเยี่ยมเยือนผู้นำของกลาโหมโซนเมืองหู้ไห่ ผู้ชายคนนี้เมื่อก่อนยังเคยเกรงใจเขา ให้ความเคารพอย่างมาก สุดท้ายเมื่อรับโทรศัพท์แล้ว ก็เปลี่ยนเป็นอีกคนยังไงอย่างนั้น ทิ้งให้เขาอยู่ที่นี่ไปเลย!
แขกที่มากจากเยี่ยนจิงท่านนี้ไม่รู้เลย ในสายตาของผู้นำ เมื่อเทียบกับความปลอดภัยในเมืองหู้ไห่ เขาจะไปเทียบอะไรได้?
หัวหน้ารีบออกจากอาคารของที่พรางตัวอย่างทันที เดินเข้าไปในรถฮัมเมอร์สีดำที่จอดอยู่ตรงหน้าพูดด้วยน้ำเสียงที่กระโชกโฮกฮาก “ไปสถานีตำรวจหู้ไห่!”
รถฮัมเมอร์สีดำส่งเสียงคำรามวิ่งออกไป เหยียบคันเร่งอย่างแรง เปลี่ยนเป็นม้ามืดอย่างรวดเร็ว ควบม้าฝุ่นตลบไปยังที่ที่อยู่ห่างไกล เหมือนกับเส้นสายฟ้าสีดำ
…………
ณ สถานีตำรวจหู้ไห่
เย่ชวงเดินออกมาจากห้องทำงาน สวมใส่รองเท้าหนังพร้อมเดินไปที่ห้องสอบสวน รองเท้าหนังกระแทกกับพื้น เสียงที่คมชัดดังกึกกังตามทางเดิน
เย่ชวงผู้ที่ทำงานอย่างรวดเร็วว่องไว หลังจากที่จับหลีชิงเยียนได้แล้ว ก็เตรียมที่จะสอบสวนหลีชิงเยียนทันที
ในตอนนั้น ภายในห้องอธิบดี
อธิบดีกำลังถือกาน้ำชา นั่งไขว่ห้างยิ้มอย่างมีความสุข ท่าทางที่สุขสบายอย่างมาก
ทันใดนั้น เสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้น
อธิบดีรับโทรศัพท์ ปลายสายนั้น มีเสียงที่ไม่แยแสและโหดเหี้ยมผ่านเข้ามายังหูของอธิบดี
“ผมเป็นผู้นำของกลาโหมโซน ผมของสั่ง ให้คุณปล่อยตัวหลีชิงเยียนที่ถูกควบคุมตัวไว้เดี๋ยวนี้” เสียงปลายนั้นที่เด็ดขาด อย่างไม่ต้องสงสัย
“กลาโหมโซน หลีชิงเยียน เป็นสิบแปดมงกุฎมาจากไหน?” อธิบดีที่อยู่ในสายตอนแรกก็ตกใจ หลังจากนั้นก็รู้ทันทีว่าเป็นสิบแปดมงกุฎ หัวเราะอย่างเย็นชาพร้อมทั้งวางสายไปเลย
แขกคนสำคัญของกลาโหมโซนจะมาอยู่ที่สถานีตำรวจได้ยังไงกัน ยิ่งไม่ต้องพูดถึงคนที่ผู้นำ ต้องการคือหลีชิงเยียน
หลีชิงเยียนคือใคร ?นางฟ้าแห่งวงการธุรกิจเมืองหู้ไห่ เป็นดาราที่ได้รับความนิยมอยู่ไม่น้อย บุคคลแบบนี้ จะถูกควบคุมที่สถานีตำรวจหู้ไห่ได้อย่างไรกัน?
อธิบดีหัวเราะเยาะออกมา เป็นสิบแปดมงกุฎแน่ๆ เจ้าหน้าที่ตำรวจของตัวเอง คงไม่โง่ที่จะไปจับกุมหลีชิงเยียนหรอก
ในเวลานี้ อธิบดีเปิดดูข่าว เห็นในข่าวว่าหลีชิงเยียนเป็นผู้ต้องสงสัยในคดีฆาตกรรม
อธิบดีพูดเสียงเฮ้ยออกมาเบาๆ รู้สึกถึงความผิดปกติบางอย่าง
ในเวลานี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจนายหนึ่งรีบเดินเข้ามาทันที สีหน้าที่ตื่นตกใจ “อธิบดี เกิดเรื่องแล้วครับ!”
“เกิดอะไรขึ้น?” อธิบดีเงยหน้าขึ้น เจ้าหน้าที่ตำรวจนายนั้นพูดด้วยน้ำเสียงที่สั่นคลอน “เย่ชวงเธอ……จับหลีชิงเยียนมาครับ!”
“อะไรนะ?!” สีหน้าของอธิบดีเปลี่ยนไปโดยทันที แววตาสาดส่องความเหลือเชื่อ!เขาในตอนนั้นสงสัยหูของตัวเอง คิดว่าตัวเองฟังผิด!
“นายแน่ใจเหรอ?” อธิบดีถามด้วยน้ำเสียงที่เคร่งขรึม สีหน้าจริงจัง
“แน่ใจครับ เจ้าหน้าที่ตำรวจส่วนใหญ่ต่างก็เห็นหลีชิงเยียนกันแล้ว” ตำรวจนายนั้นรีบพยักหน้าอย่างร้อนใจ ทันใดนั้นใบหน้าของอธิบดีก็ขาวซีด ดวงตาเกิดสีดำคล้ำขึ้น หย่อยก้นลงบนเก้าอี้
เมื่อพูดมาขนาดนี้ สายที่โทรเข้ามาเมื่อกี้ก็เป็นเรื่องจริงเหรอ……คนนั้น เป็นผู้นำของกลาโหมโซนจริงๆเหรอ?!
ทันใดนั้นอธิบดีก็คิดขึ้นได้ เหมือนว่าตัวเอง ได้ไปยั่วยุคนที่ไม่ควรล่วงเกินแล้ว!
“เย่ชวง ตอนนี้เธออยู่ไหน?” อธิบดีลุกขึ้นยืนทันที พูดเสียงกระโชกโฮกฮาก
“หัวหน้าเย่ ตอนนี้เธออยู่ห้องสอบสวน สอบสวนหลีชิงเยียนอยู่ครับ!” เจ้าหน้าที่ตำรวจพูดด้วยน้ำเสียงที่สั่นคลอน
แววตาของอธิบดีก็หรี่ลงอย่างทันที สั่นไปทั้งตัว เหงื่อไหลเต็มแผ่นหลัง!
“แม่งเอ้ย!เขาอยากจะทำให้ฉันตายใช่ไหม!” อธิบดีพูดด้วยน้ำเสียงที่โกรธ
ผู้บังคับการกลาโหมเขตหู้ไห่ระบุชื่อว่าต้องการจะประกันตัวหลีชิงเยียนออกมา ผลสุดท้ายฝั่งเย่ชวงนี้กำลังสอบปากคำหลีชิงเยียน ถ้าหากผู้บังคับการรู้เข้า เขาจะต้องโกรธอย่างแน่นอน!
ตอนนี้ผู้กำกับกำลังตื่นตระหนก พูดอย่างกระวนกระวาย “เร็วเข้า ไปห้องสอบสวน!”
ภายในห้องสอบสวน หลีชิงเยียนนั่งเงียบๆ ผมสีดำยาวประบ่าของเธอ ใบหน้าบอบบางจิ้มลิ้ม ดวงตาสวยใสและน่าดึงดูด
ประตูห้องสอบได้เปิดออก เย่ชวงเข้ามาข้างใน จากนั้นเขาก็จ้องมองไปที่หลีชิงเยียน และถามขึ้นมาอย่างเย็นชาว่า “ประธานหลี อยู่ที่นี่ ฉันหวังว่าคุณจะพูดความจริงนะ”
หลีชิงเยียนเงยหน้าขึ้น “การตายของโจวเทียน ไม่เกี่ยวกับฉัน”
“หลังจากที่โจวเทียนทำให้ความลับของกลุ่มบริษัทรั่วไหล เย็นวันนั้นโดนวางยาพิษที่บาร์ ตามร่องรอยที่ทิ้งไว้ในที่เกิดเหตุ บุคคลที่ฆ่าเขาเป็นผู้หญิง…..” เย่ชวงพูดอย่างช้าๆ ดวงตาที่สวยงามจ้องมองไปที่หลีชิงเยียน ด้วยความหวังว่าจะได้เบาะแสจากดวงตาที่สวยงามของหลีชิงเยียน
“คืนนั้นฉันอยู่ที่งานเลี้ยงเพิ่งจะรู้ว่าเซิร์ฟเวอร์ล่ม เช้าวันต่อมาถึงจะรู้ข่าวการเสียชีวิตของโจวเทียน” หลีชิงเยียนอยู่ในอาการที่สงบไม่สะทกสะท้าน และกล่าวน้ำเสียงหนักแน่น
ทันใดนั้น ก็มีตำรวจนายหนึ่งผลักประตูเข้ามา และมากระซิบที่ข้างหูของเย่ชวง “มีชายคนหนึ่งมาที่สถานีตำรวจ บอกว่าต้องการจะมาประกันตัวหลีชิงเยียน ชื่อเฉินเป่ย”
“ไม่ปล่อย” เย่ชวงปฏิเสธอย่างไม่สนใจไยดี ถึงแม้ว่าก่อนหน้านี้เฉินเป่ยจะโม้ว่าเป็นจุดสนใจของผู้คน แต่เธอก็จะไม่ยอมปล่อยไป
“หัวหน้าเย่ เขาบอกว่า ถ้าคุณไม่ยอมปล่อยไป ไม่นานคุณจะต้องเสียใจ” ตำรวจพูดอย่างกดดัน
“เตือนเขาด้วยนะ หากเขายังอยู่ที่นี่ ฉันก็จะจับเขาด้วยเลย!” เย่ชวงพูดอย่างเมินเฉย น้ำเสียงเด็ดขาด ไม่เหมือนกับเรื่องล้อเล่น เธอจะจับเขาจริงๆ!
หลังจากที่เจ้าหน้าที่ตำรวจเดินไป เย่ชวงมองไปที่หลีชิงเยียน แล้วกล่าวว่า “สามีของคุณน่าสนใจจริงๆ ไม่คิดเลยนะว่าเขาจะมาประกันตัวคุณ”
หลีชิงเยียนช็อก เกิดความอบอุ่นขึ้นภายในใจ…..คิดไม่ถึงว่าเฉินเป่ยจะมาจริงๆ อยากช่วยให้เธอออกไป แต่แล้ว เย่ชวงก็ยิ้มเยาะเย้ย “โง่เขลาเบาปัญญา อยากจะช่วยให้คุณออกไป แม้ว่าหัวหน้าจะมาด้วยตัวเอง คุณก็ออกไปไม่ได้หรอก!”
หลีชิงเยียนได้ยินที่เย่ชวงพูด หัวใจดิ่งจมลงไป และเงยหน้าพูดว่า “ฉันไม่ได้ทำอะไรเลย คุณมีสิทธิ์อะไรมายุ่งกับฉัน?”
“ก็เพราะว่าคุณเป็นผู้ต้องสงสัยมากที่สุดไงล่ะ” เย่ชวงกล่าว “โจวเทียนเพิ่งจะมีเรื่องขัดแย้งโต้เถียงกับสามีของคุณ ตอนเย็นก็จบด้วยการแก้แค้น ถูกผู้หญิงคนหนึ่งฆ่า ซึ่งเราตรวจสอบแล้ว บุคคลที่เป็นเพศตรงข้ามที่สนิทกับเขามากที่สุด ก็คือคุณ”
หลีชิงเยียนยกมุมปาก เหน็บแนม “เป็นเพราะสิ่งนี้น่ะเหรอ?”
หัวหน้าเย่ คุณจับคนโดยที่ไม่สนว่าใครถูกผิด ฉันจะไปร้องเรียนหัวหน้าของคุณ” หลีชิงเยียนกล่าวด้วยใบหน้าที่ไม่แยแส
เย่ชวงอุทานเบาๆ “คุณเป็นห่วงตัวเองจะดีที่สุดนะ ถ้าเกิดฉันพบอะไรบางอย่างขึ้นมา สามีและหลีหยางพ่อของคุณจะตกเป็นผู้ต้องสงสัยเหมือนกันนะ”
“เย่ชวง คุณกล้าลองดีกับพวกเขาทั้งสองดูสิ!” หลีชิงเยียนสีหน้าเปลี่ยนไป และกล่าวเตือนอย่างไม่แยแส!
หลีชิงเยียนโกรธจัด ความโกรธของนางฟ้านี้ไม่ได้มีให้เห็นกันบ่อยๆ เพราะเย่ชวงก้าวก่ายไปถึงผู้ชายที่เธอสนิทที่สุดทั้งสองคน
“มีอะไรที่ฉันไม่กล้า เดี๋ยวฉันจะจับทั้งสองคนเข้ามาสอบสวนในภายหลังด้วย” เย่ชวงกล่าวอย่างเย็นชาและยิ้ม
“คุณ…..”หลีชิงเยียนกัดฟันแน่น ความกริ้วโกรธเกิดขึ้นในดวงตาอันงดงามของเธอ เย่ชวงกำลังยั่วยุให้เธอฟิวส์ขาด
ขณะนี้ ประตูใหญ่ได้ถูกเปิดออก
ทันใดนั้นเย่ชวงเงยหน้าขึ้น มองเห็นผู้กำกับสีหน้าที่หม่นหมองอยู่ที่หน้าประตู!
ผู้กำกับกวาดสายตา จนดวงตาของเขาหยุดตรงใบหน้าซีดและกริ้วโกรธของหลีชิงเยียน ในใจสั่นกระส่ายอย่างรุนแรง!
“เย่ชวง คุณจับเธอจริงๆเหรอ!” ผู้กำกับตะโกนใส่ดวงตาสีดำ อย่างโกรธเกรี้ยว
เย่ชวงเริ่มสับสนเล็กน้อย แต่เธอต้องทำตามหน้าที่และกล่าวอย่างจริงจัง “ผู้กำกับ ฉันสงสัยว่าเธอมีส่วนเกี่ยวข้องกับการตายของโจวเทียน…..”
“เกี่ยวข้องบ้าอะไรกัน!” ผู้กำกับตอบโต้ด้วยความโกรธ และพูดขัดจังหวะเย่ชวง “ฉันสั่งให้ ปล่อยเธอไปซะ!”
ผู้กำกับหันหัว และยิ้มให้หลีชิงเยียน“ประธานหลี ทั้งหมดนี้เป็นเรื่องเข้าใจผิด โปรดอภัยให้ด้วย…….”
ผู้กำกับ ครอบครัวของหลีชิงเยียนอยู่ด้านนอก กำลังรอประกันตัว” มีตำรวจนายหนึ่งตะโกนขึ้นมา
“รีบจัดการเรื่องประกันตัวซะ และส่งประธานหลีออกไปด้วย” หลังจากที่ผู้กำกับยืนยันว่าหลีชิงเยียนอยู่ที่นี่ เขาแทบอยากจะส่งหลีชิงเยียนออกไปทันที ไม่อยากหยุดแม้แต่วินาทีเดียว
“ไม่ได้!”
ทันใดนั้น เย่ชวงพูดเสียงดัง และก้าวเท้าออกมา
“ผู้กำกับ มันเป็นเรื่องสำคัญ เรื่องนี้เกี่ยวข้องกับคดีฆาตกรรม จะปล่อยตัวผู้ต้องสงสัยอาชญากรรมออกไปแบบนี้ไม่ได้!”
เย่ชวงสีหน้าเอาจริงเอาจัง ทุกคนอยู่ในความเงียบ คำพูดเย่ชวง เห็นได้ชัดว่าเธอกำลังแย้งผู้กำกับ
เจ้าหน้าที่ตำรวจหลายนายตะลึงจนตาค้างพูดไม่ออก แม้ว่าปกติเย่ชวงอยู่ที่สถานีตำรวจจะเป็นใหญ่ก็ตาม ก็มักจะฝ่าฝืนคำสั่งผู้กำกับบ่อยๆ แต่เธอก็ไม่เคยโต้กลับหัวชนฝาขนาดนี้มาก่อน
แต่วันนี้ คิดไม่ถึงว่าเย่ชวงกล้าที่จะสู้กับความโกรธของผู้กำกับ ไม่ให้เกียรติผู้กำกับเลยสักนิด!
ผู้กำกับจ้องเย่ชวงอย่างกริ้วโกรธ ชี้ไปที่เย่ชวงอย่างตัวสั่น โกรธเป็นฟืนเป็นไฟ
ทันใดนั้น ห้องสอบสวนก็เริ่มเสียงดังขึ้น
ดวงตาขอผู้กำกับมองออกไปข้างนอกห้องสอบสวน ทันใดนั้นก็แข็งตัว!!
####บทที่ 119 ซื้อไปหมดแล้ว!!
บทที่ 119 ซื้อไปหมดแล้ว!!
นอกห้องสอบสวน ตำรวจหลายนายได้กรูกันออกไปกันอย่างอึกทึกครึกโครม
เกิดความโกลาหลมากมาย สีหน้าของผู้กำกับก็เปลี่ยนไปเล็กน้อย รู้สึกถึงลางสังหรณ์ที่ไม่ดี
หัวใจของเขาเต้นเร็วขึ้น เขาจ้องเขม็งไปยังสิ้นสุดทางเดิน ชั่วพริบตาเดียวแม้แต่เย่ชวงก็ลืมตำหนิ
หลายคนจ้องสุดทางเดินตามผู้กับกำพร้อมกับสีหน้างงงวย เพราะตรงสิ้นสุดทางเดินนั้นไม่มีอะไรเลย แต่สีหน้าของผู้กำกับดูเคร่งเครียด ราวกับเผชิญหน้ากับศัตรู
“รีบพาคุณหลีออกไปทันที เดี๋ยวนี้!” ผู้กำกับสั่งอย่างเข้มงวด น้ำเสียงไร้ความสงสัย
เขากังวลมากว่าผู้ชายคนนั้นจะมาจริงๆ อย่าพูดถึงหมวกขุนนางของเขาเลย แม้แต่หัวก็ยังรักษาไว้ไม่ได้!
“ไม่ได้!” เย่ชวงแฉลบตัวออกมายืนอยู่ข้างหน้า และกล่าววาจากับผู้กำกับอย่างเด็ดขาด “ผู้กำกับ ให้เธอจากไปไม่ได้ การสอบสวนกำลังถึงช่วงสำคัญ”
“เย่ชวง!” ผู้กำกับโมโห “เห็นแก่หน้าพ่อของคุณ ฉันคอยตามใจคุณตลอด แต่ในตอนนี้ มันไม่ได้ขึ้นอยู่กับคุณ”
เย่ชวงตกตะลึง จากในภาพความทรงจำของเธอ นี่เป็นครั้งแรกที่ผู้กำกับมีสีหน้าที่โหดร้าย เปลี่ยนไปอย่างน่ากลัวขนาดนั้น
“คุณหลี รีบไปจากที่นี่เถอะครับ” ผู้กำกับพูดด้วยความเคารพและส่งหลีชิงเยียนออกจากห้องสอบสวน
หลีชิงเยียนใบหน้าขาวกระจ่างสวยใส เธอเพิ่งเดินออกจากห้องสอบสวน ทันใดนั้น มีเงาร่างหนึ่งปรากฏขึ้นตรงสุดทางเดิน
นั่นเป็นเงาร่างที่สูงใหญ่ เดินมายังห้องสอบสวน เสียงรองเท้าหนังดังอย่างสุขุมและทรงพลัง เจ้าหน้าที่ตำรวจหลายนายเงียบ เมื่อเห็นเขาไม่มีใครกล้าเอ่ยปากสักคำ!
จากทางเดินที่เสียงดังอึกทึกกลับเงียบสงบในพริบตา เมื่อผู้กำกับเห็นร่างนั้น ตัวเขาสั่นเทา ขาทั้งสองอ่อน
เย่ชวงที่อยู่ข้างๆ ทันใดนั้นดวงตาที่สวยงามกลับคมขึ้น คมกริบราวกับดาบ
เพราะบนตัวของรูปร่างนี้ สวมใส่เครื่องแบบทหารสีเขียว
เครื่องแบบที่เป็นตัวแทนประจำตัว ซึ่งเพียงพอที่จะทำให้สถานีตำรวจหู้ไห่สั่นสะเทือน!
ดวงตาคู่ดำของผู้กำกับ กำลังจะเป็นลมแล้ว! เขานึกขึ้นได้ทันที ที่เขารับโทรศัพท์ก่อนหน้านี้ ไม่ใช่เรื่องโกหก แต่เป็นเรื่องจริง!
ผู้กำกับจ้องมองร่างนั้นที่ใกล้เข้ามา ทุกอย่างดูเคร่งเครียดไปหมด…….มีเพียงเขาเท่านั้นที่รู้ ว่าตัวตนของผู้ชายคนนี้เท่านั้นที่สามารถทำให้ทั้งเมืองหู้ไห่สั่นสะเทือน!
“พวกคุณที่อยู่ตรงนี้ ใครเป็นผู้กำกับ?” ทันใดนั้นร่างใหญ่ก็เดินช้าลง แล้วพูดขึ้น
“ผมครับ” ผู้กำกับฝืนใจกัดฟันเปิดปากพูด
“แกเหรอ?” ร่างใหญ่นั้นหยุด ดวงตาที่เฉียบคมมองกรีดลึกลงไปที่ตัวผู้กำกับ ผู้กำกับตัวสั่นเทาไปหมด หนาวเย็นไปทั่วร่างกาย ราวกับถูกมองออกอย่างทะลุปรุโปร่ง
เครื่องแบบนั้น ทำให้เขาเกิดความหวาดผวา
“ก่อนหน้านี้ฉันโทรหาแก แต่แกกลับวางสายใส่” ร่างใหญ่ผู้นั้นพูดออกมาเบาๆ น้ำเสียงนิ่งสงบ แต่เห็นได้ชัดว่ากำลังถามอยู่
“ผมคิดว่าเป็นสิบแปดมงกุฎ จึงไม่ได้ฟังครับ” ผู้กำกับตัวสั่นเทาและพูดออกมา
ร่างนั้นจ้องเขาลงไปอย่างลึกๆเป็นเวลานาน จากนั้นเปล่งเสียงออกมาว่า “ปล่อยผู้หญิงคนนั้นเดี๋ยวนี้ มิฉะนั้น ทุกคนในนี้ จะไม่มีใครหนีรอดไปได้”
ภายในห้องสอบสวน หลีชิงเยียนผมยาวยุ่งเหยิง ใบหน้าเรียวซีดขาว แต่ดวงตาสวยคู่นั้นจ้องมองไปที่ร่างนั่น ภายในใจตุ้มๆต่อมๆ
เธอกำลังเดาว่าเงานั้นคือใคร…..หรือว่าชายลึกลับที่คอยช่วยมาตลอดหรือเปล่า? หรือว่ามีเหตุผลอื่น?
นอกจากนี้ ใบหน้าสวยๆของเย่ชวงจ้องมองไปที่ร่างนั้นอย่างแน่นิ่ง เป็นครั้งแรกที่เธอเห็นผู้กำกับกลัวมากขนาดนี้ ตัวตนของผู้ชายคนนี้ต้องไม่ธรรมดาอย่างแน่นอน
ยิ่งทำให้เธอไม่คาดคิดว่า เขาแค่ให้ผู้กำกับปล่อยตัวหลีชิงเยียน
ตอนนี้ตำรวจหลายนายต่างก็รู้สึกอิจฉา ตกลงแล้วหลีชิงเยียนมีฝีมืออะไรกันแน่ ไม่คิดเลยว่าจะทำให้ผู้กำกับกลัวคนที่มาประกันตัว
เมื่อเทียบกับผู้ชายตัวใหญ่ผู้น่ากลัวคนนี้ กับเฉินเป่ยคนที่ก่อกวนและไม่ยอมไปไหนด้านนอกสถานีตำรวจ ก็เหมือนกับเรื่องตลก
ก่อนที่จะขอร้องให้ปล่อยตัวหลีชิงเยียนจากไป สุดท้ายกลายเป็นว่ามีบุคคลร่างใหญ่เข้ามา ใช้เพียงแค่ประโยคเดียวง่ายๆก็พาคนออกไป
หลังจากที่ร่างนั้นพูดจบ เขามองลึกลงไปยังดวงตาของหลีชิงเยียน จากนั้นก็หันหลังจากไป
ผู้กำกับเห็นร่างนั้น ไม่ได้ซักถามใดๆ จนในที่สุดกล้ามเนื้อที่ตึงก็คลายตัวลง และหายใจออก
ความกดดันที่น่ากลัวแผ่รังสีออกมาจากร่างกายนั้น ทำให้ผู้กำกับกลัวจนฉี่แทบราด
เย่ชวงจ้องไปข้างหลัง ยิ่งเกิดความสงสัยขึ้นในใจ ทันใดนั้น สายตาของเธอแน่วแน่ ตัดสินใจอย่างที่คนอื่นคาดไม่ถึง!
ทันใดนั้น เย่ชวงก้าวออกมาข้างหน้า มองไปที่ผู้กำกับ และตะโกนขึ้น “คุณเป็นใคร มีสิทธิ์อะไรอนุญาตให้เขาออกไปได้?”
ผู้กำกับตัวสั่นเทา ชาไปถึงหัว เขาอยากจะปิดปากเย่ชวง แต่มันก็สายเกินไปแล้ว
ร่างนั้นก้าวฝีเท้าไป “ผู้บังคับการกระทรวงกลาโหมโซนเมืองหู้ไห่ ผู้ปกครองที่นี่”
ทันใดนั้น ร่างนั้นหายไปอย่างรวดเร็วที่ปลายสุดของทางเดิน
ความเงียบเกิดขึ้นตลอดทั้งเส้นทางเดินนั้น เย่ชวงมีสีหน้างงๆ ภายในใจสั่นสะเทือน
เธอเริ่มสั่นเล็กน้อย ดวงตางดงามเผยให้เห็นถึงความเหลือเชื่อ
ไม่มีใครคิดเลย เพียงแค่จับประธานนางฟ้าแห่งโลกธุรกิจคนหนึ่ง ไม่คิดเลยว่าทำให้ผู้บังคับการต้องมาด้วยตัวเอง
หลีชิงเยียนไม่เข้าใจ แต่เธอเห็นคนรอบตัวตกใจและวุ่นวาย สีหน้าสงสัย และรู้สึกแปลกๆ เธอเองก็ไม่ได้รู้จักกับคนนี้ แต่เขาดูเหมือนว่าจะเป็นคนมีแบ็คดี
หลีชิงเยียนยิ่งสงสัยมากขึ้น เขาถูกคนลึกลับคนนั้นส่งมา หรือว่า……เขาก็คือคนลึกลับคนนั้นเอง!
เย่ชวงอดไม่ได้ที่จะมองหลีชิงเยียน ภายในใจเกิดความอิจฉาขึ้น ผู้หญิงคนนี้ช่างแข็งแกร่งเสียนี่กระไร ไม่เพียงแค่ เป็นนางฟ้าในความคิดของผู้คนที่นับไม่ถ้วน แต่เธอยังสามารถให้ผู้บังคับการมาด้วยตัวเองและสั่งปล่อยตัวเธอด้วย!
เย่ชวงจะไปรู้ได้อย่างไร ว่าหลีชิงเยียนในขณะนี้เธอเองก็ยังงงๆและคิดอะไรไม่ออกเหมือนกัน
หลังจากที่ผู้บังคับการออกไป ผู้กำกับหันหัว กวาดสายตามองไปยังใบหน้าขาวซีดของเย่ชวง และพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา “ยังจะไม่ปล่อยอีกเหรอ?”
เย่ชวงไม่ได้พูดอะไร คำพูดของผู้กำกับเหมือนกำลังตบหน้าเธอแรงๆ
ถ้าเธอปล่อยหลีชิงเยียนให้เป็นอิสระเร็วกว่านี้ ก่อนที่ผู้บังคับการจะมาถึง ก็อาจจะไม่เกิดเรื่องเยอะขนาดนี้
หากไม่มีการห้ามปรามของเย่ชวง หลีชิงเยียนก็จะรีบเดินออกจากสถานีตำรวจได้เร็ว และได้พบกับเฉินเป่ยที่อยู่หน้าประตูสถานีตำรวจ
“ประธานหลี ในที่สุดคุณก็ออกมาแล้ว” เฉินเป่ยยิ้มและเข้าไปหา
ใบหน้าที่สวยงามของหลีชิงเยียนซีดเซียว เห็นได้ชัดว่าตอนนี้เขายังคงอยู่ในอาการช็อกอยู่ จนกระทั่งเฉินเป่ยขับรถ เธอเข้าไปนั่งในรถและเอ่ยปากว่า “กลับบริษัท”
รถไมบัคกำลังเดินทางกลับบริษัท ขณะที่เฉินเป่ยขับรถอยู่นั้น ภายในใจของหลีชิงเยียนก็ร้อนรนอยู่นาน ร่างนั้นยังคงปรากฏอยู่ในหัวของเธอ เธอปะติดปะต่อกับเหตุการณ์ก่อนหน้านี้ ก็ยิ่งรู้สึกว่าผู้บังคับการในวันนี้ ก็เหมือนกับคนลึกลับที่เคยช่วยเธอมาก่อน
“ประธานหลีครับ ถึงแล้ว” หลีชิงเยียนคิดมาตลอดทาง จนกระทั่งเฉินเป่ยปลุกเธอออกจากความคิด เธอจึงมีสติขึ้น และเดินเข้าไปยังอาคารตระกูลหลี
และก่อนหน้านี้เฉินเป่ยได้คุยโวโอ้อวดกับเจ้าพนักงานอาคารตระกูลหลียกใหญ่ พอเห็นหลีชิงเยียนก็เกือบตะลึง ใครจะไปคิดล่ะ ว่าเฉินเป่ยจะทำได้จริงๆ
พนักงานหลายคนที่เคยกำเริบเสิบสานล้อเลียนก่อนหน้านี้ กลับกลายเป็นว่าพูดไม่ออก หน้าชากันเป็นแถบ
ไม่มีใครรู้ว่าเฉินเป่ยทำได้อย่างไร แต่เขานำหลีชิงเยียนออกมาได้
หลีชิงเยียนที่ถูกประกันตัวออกมาหาเฉินเป่ย นี่มันนานแค่ไหนแล้ว
หลังจากที่หลีชิงเยียนมาถึงออฟฟิศของประธานหลี พอเธอนั่งลง หลินเฉว่รีบถือแฟ้มเข้ามา
“ประธานหลี คุณกลับมาแล้วเหรอ!” หลินเฉว่พูดด้วยความประหลาดใจ
หลีชิงเยียนพยักหน้า หลินเฉว่ส่งกองเอกสารให้หลีชิงเยียน “ประธานหลี คุณเพิ่งออกมาได้ไม่นาน ก็เริ่มมีบริษัทต่อต้านพวกเราเลย”
หลีชิงเยียนชำเลืองมอง คิ้วขมวด
“นี่เป็นหมากรุกเกมหนึ่ง” ทันใดนั้น เฉินเป่ยที่อยู่ข้างๆพูดขึ้น
หลีชิงเยียนและหลินเฉว่หันหัว หลินเฉว่มีสีหน้าตกใจ “หมากรุกงั้นเหรอ?“
เฉินเป่ยพยักหน้า “ประธานหลีเพิ่งเข้าไป ก็มีบริษัทกระโดดออกมาแล้ว ไม่ว่าเร็วหรือช้าก็กระโดด แต่ดันมากระโดดตอนนี้ซะงั้น ผิดปกติมากๆเลย…..แล้วก็เมื่อวานการตายของโจวเทียน มันก็แปลกเกินไป”
เฉินเป่ยดูไม่แยแส แต่ดวงตานั้นลึกซึ้งอย่างยิ่ง “พูดได้แค่ว่า เบื้องหลังนี้ยังมีอีกมือหนึ่ง กำลังเดินหมากอยู่”
“คือหลีเช่าเทียนเหรอ?” หลีชิงเยียนกะพริบตาที่สวยงามของเธอ
“ยังไม่รู้ ถ้าหากว่าเป็นเขา งั้นก็รับมือง่ายดี…..” หลังจากที่เฉินเป่ยกล่าวถึงหลีเช่าเทียน มุมปากยกขึ้นอย่างครุ่นคิด
“ทำไม?” หลินเฉว่ไม่เข้าใจจึงถาม แต่นั่นคือคุณชายบ้านหลีในเยี่ยนจิง
“ไอ้โง่นั่น หยิ่งผยองเกินไปแล้ว ให้รับผิดชอบเองก็ไม่ได้” เฉินเป่ยแบะปาก เขาไม่ได้เห็นหลีเช่าเทียนอยู่ในสายตาเลยแม้แต่น้อย
“ฉันแค่กลัว ถ้าหากว่าไอ้โง่นั่นมีส่วนเกี่ยวข้อง ก็น่าจะเป็นแค่เบี้ยตัวหนึ่ง……” ดวงตาทั้งคู่ของเฉินเป่ยมองลึกออกไปไกลนอกหน้าต่างและพูดอย่างช้าๆ
…………
ในโรงแรมห้าดาวที่ไหนสักแห่ง หญิงสาวผมบรอนซ์จ้องมองไปที่โน๊ตบุ๊ค ขณะนี้บนหน้าจอคอมพิวเตอร์ กำลังแสดงแผนที่ดาวเทียม
แผนที่ดาวเทียมมีจุดไฟจุดหนึ่ง เป็นเกาะเล็กๆที่ไม่มีใครรู้จักในมหาสมุทรอันกว้างใหญ่
เกาะเล็กๆนี้ไม่มีชื่ออยู่ในแผนที่ใดๆเลย แม้แต่เทคโนโลยีการตรวจจับจากต่างประเทศที่ทันสมัยที่สุดก็ไม่สามารถจับเกาะเล็กๆนี้ได้
แต่ เกาะเล็กๆนิรนามนี้ถูกหญิงสวยผมบรอนซ์คนนี้จัดวางตำแหน่งอย่างแม่นยำ
ถ้าเฉินเป่ยรู้ เขาจะโกรธเกรี้ยวอย่างแน่นอน เพราะตำแหน่งนั้น ก็คือที่อยู่ของฐานทัพเขา
โม่ถีซือพบฐานทัพของเขาแล้ว และวางตำแหน่งไว้แล้วด้วย
เฉินเป่ยไม่เคยคิดเลยว่า โม่ถีซือคอยจับตามองฐานทัพของเขา
ทันใดนั้น เสียงโทรศัพท์ดังขึ้น โม่ถีซือรับโทรศัพท์ ดวงตาคู่สวยนิ่งไปชั่วขณะ มุมปากนั้นก็ยกขึ้นทันที
โม่ถีซือวางสาย และพึมพำว่า “หลง…….เพื่อเธอ คุณกล้าเสี่ยงได้ขนาดนี้…..”
โม่ถีซือพูดกับตัวเอง บทสนทนาก็เปลี่ยนไปทันที ดวงตาที่สวยงามกลับกลายเป็นเย็นชา “แต่ เธอต้องตายอย่างแน่นอน”
มือเรียวขาวคู่หนึ่งกำลังพิมพ์อยู่บนแป้นพิมพ์ ไม่นาน ตำแหน่งดาวเทียมถูกส่งไปยังองค์กรนักฆ่าในต่างประเทศ
ดวงตาโม่ถีซือเป็นประกาย เป้าหมายของเธอใกล้จะถึงแล้ว ตอนนี้หลีเช่าเทียน กลัวว่าจะโง่ถูกเธอหลอกน่ะสิ
“เมื่อฉันได้รับมันแล้ว ก็จะเป็นวันตายของคุณ หลง!”
และในขณะนี้ ท่ามกลางอาคารตระกูลหลี เฉินเป่ยวางสายโทรศัพท์ มุ่งหน้าออกไปจากอาคาร ดูท่าจะสังหารอย่างเลือดเย็นดั่งปีศาจเข้าสิง
ดวงตาของเฉินเป่ยมองออกไปไกล เมื่อสักครู่มีเด็กหนุ่มบอกเขา เขาพบว่าบริษัทตระกูลหลีกรุ๊ปมุ่งเป้าไปที่บริษัทอสังหาริมทรัพย์ ที่จริงแล้วมันเป็นอุตสาหกรรมของบ้านหลีในเยี่ยนจิง
เฉินเป่ยดูเย็นชา หลีเช่าเทียนทำกลอุบายครั้งแล้วครั้งเล่า วางแผนเรื่องการใส่ร้ายป้ายสีทำให้เขาสุดที่จะทน!
“บริษัทเหล่านั้นซื้อไปหมดเลย! ฉันดูว่าเขาจะเอาอะไรมารับมือกับฉัน” เฉินเป่ยคุยโทรศัพท์กับชิงเหนียน
ชิงเหนียนที่อยู่ในสายตกตะลึง ซื้อหมดแล้วเหรอ?!
####บทที่ 120 บ้าเกินไปแล้ว
บทที่ 120 บ้าเกินไปแล้ว
แม้แต่คนที่ติดตามชีวิตเฉินเป่ยมานาน ก็ยังคงช็อกกับคำพูดของเขา
“พี่ใหญ่ ฉันไม่ได้ฟังผิดใช่ไหม ซื้อหมดเลยเหรอ?” ชายหนุ่มในที่โทรศัพท์อยู่นั้นนั่งอยู่ในห้องทำงานที่โอ่อ่าและหรูหรา แทบไม่อยากจะเชื่อหูตัวเอง
เฉินเป่ยพยักหน้า ดวงตาเย็นชา “ไม่ผิด ไม่สนว่าคุณจะใช้กลอุบายอะไร เอาบริษัทที่อยู่ภายใต้การบริหารของเขามาอยู่ในกำมือให้หมด”
ชิงเหนียนหัวฟู “พี่ใหญ่ ฐานที่เพิ่งทำธุรกิจนาโนเทคโนโลยีกับสหรัฐอเมริกาเมื่อเร็วๆนี้ เงินทุนในมือแทบจะไม่มี เมื่อทุนไม่พร้อมก็อาจทำออกมาได้ไม่ดี”
“ดังนั้นฉันถึงได้บอกว่า ไม่สนใจว่าคุณจะใช้กลอุบายวิธีไหน ฉันมองแค่ผลลัพธ์เท่านั้นล่ะ” เฉินเฟิงพูดอย่างช้าๆ “นอกจากนี้ก็สืบหาพวกผู้หญิงที่เขาได้ติดต่อในช่วงเร็วๆนี้ด้วยนะ”
ชิงเหนียนนิ่งไปชั่วขณะ “พี่ใหญ่ ทำไมแม้แต่เรื่องนี้ก็ต้องสืบเหรอ?”
“เพราะพบร่องรอยของผู้หญิงคนหนึ่งในคดีที่โจวเทียนเสียชีวิต” เฉินเป่ยพูดอย่างนิ่งสงบ หากไม่มีร่องรอยที่ผู้หญิงทิ้งไว้ เพราะเหตุใดเย่ชวงจึงรีบตั้งข้อหาจับกุมหลีชิงเยียนในคดีฆาตกรรมล่ะ?
“ฉันมีความรู้สึกว่า โม่ถีซือต้องมีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้…..” เฉินเป่ยกระซิบ ดวงตามองลึกลงไป สีหน้าดูจริงจัง
“โม่ถีซือ……เหี้ยเอ้ย ถ้าผู้หญิงคนนั้นบงการจริงๆ งั้นก็เป็นปัญหาใหญ่แล้ว!” ชายหนุ่มในสายอุทานขึ้น พอได้ยินคำว่าโม่ถีซือก็รู้สึกขนหัวลุกทันที…….คิดถึงตอนแรกที่อยู่ในโลกมาเฟียของชาติตะวันตก เขาถูกโม่ถีซือทรมานอย่างโหดร้ายทารุณ ดั่งอยู่ในสวรรค์ชั้น 7 เมื่อได้ยินชื่อของผู้หญิงคนนี้ สัญชาตญาณชิงเหนียนในใจก็เกิดความขี้ขลาดขึ้นมา
หลังจากที่วางสาย เฉินเป่ยคิดอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นก็กวักมือเรียกรถแท็กซี่คันหนึ่งทันที หลังจากที่เข้าไปนั่งในรถแล้ว รถแท็กซี่ก็ขับไปทันที ไม่นานก็หายลับตาไปจากปลายถนน
…………
ภายในคฤหาสน์ หลีเช่าเทียนกำลังดูทีวีจอขนาดใหญ่ รายการข่าวกำลังออกอากาศ เมื่อได้เห็นหลีชิงเยียนถูกจับกุม จนถึงบัดนี้บริษัทตระกูลหลีกรุ๊ปยังไม่มีการแถลงการณ์ใดๆ ก็ยังคงเงียบจนถึงตอนนี้ จึงทำให้เขาโล่งใจ
หลีเช่าเทียนเขย่าแก้วไวน์ในมือ จากนั้นก็จิบไวน์ Lafite แล้วก็รับฟังรายงาน
“เช่าเทียน ช่างสะใจจริงๆ อีนังหลีชิงเยียนคนนั้นในที่สุดก็ถูกจับจนได้!” นอกประตูคฤหาสน์ก็มีเสียงดังจอแจ ป้าใหญ่ป้าสองของหลีเช่าเทียนเข้ามาอย่างตื่นเต้น เมื่อได้นั่งบนโซฟา ก็หน้าบานเป็นกระด้ง
“ไม่เพียงแค่นั้น จนถึงตอนนี้คนจรจัดหลีหยางคนนั้นก็ยังไม่ปริปากออกมาสักคำ น่าจะยอมจำนนแล้วล่ะ เหงื่อเต็มหน้ากว่าจะเอาลูกสาวเขาออกมาได้” ป้าสองพูดและหัวเราะชอบใจอยู่ข้างๆ
หลีเช่าเทียนยิ้มที่มุมปาก ป้าใหญ่ของหลีเช่าเทียนเอามือจับสะโพก และพูดอย่างหน้าบานมีความสุขว่า “ อีนังหลีชิงเยียนคนนั้น ในที่สุดก็ได้รับผลกรรม ถึงแม้ว่าเธอจะเป็นนางฟ้าในใจของใครๆก็ตามแต่ แล้วยังไงล่ะ ตอนนี้ถูกสำนักงานตำรวจหู้ไห่จับไปแล้ว!”
“เช่าเทียน ครั้งนี้นังหลีชิงเยียนก็คงจะมีฝีมือเพียงน้อยนิดแล้วล่ะ ครั้งนี้คุณทำได้ยังไงกัน?” หลีเซิ่งเดินเข้ามาจากข้างนอก
“ครั้งนี้ฉันก็วางหมากร่วมกันกับอีกคนไงล่ะ หลีชิงเยียนคงอีกนานกว่าจะได้ออกมาจากสถานีตำรวจหู้ไห่” หลีเช่าเทียนจิบไวน์อย่างสง่าผ่าเผย “เมื่อไม่มีเธอ ก็เท่ากับว่าหลีหยางถูกหักแขนไปข้างหนึ่ง บริษัทตระกูลหลีกรุ๊ปตกอับแผลงฤทธิ์อะไรไม่ได้อีกละ”
“อีกคนหนึ่งเหรอ?” หลีเซิ่งหยุดไปชั่วขณะ หลีเช่าเทียนพยักหน้า “แผนการที่เธอให้ไว้สมบูรณ์แบบไร้ที่ติ มันเป็นเกมสังหาร”
หลีเซิ่งพยักหน้า อารมณ์ดีมาก “โอเค ได้รับสิทธิ์กับสิทธิในการพัฒนาสนามบินและท่าเรือของตระกูลหลี ฉันก็กลับไปเยี่ยนจิงอย่างสบายใจได้แล้ว ฐานะของเราในครอบครัว ก็เพิ่มขึ้นได้ไม่น้อย บรรพบุรุษเก่าแก่พวกนั้น ก็ต้องเคารพพวกเราอย่างแน่นอน”
หลีเช่าเทียนพยักหน้า กองกำลังนับไม่ถ้วนทั้งในและนอกหัวเซี่ยกำลังจ้องจะเขมือบอำนาจการบริหารที่อยู่ในมือของบริษัทตระกูลหลีกรุ๊ป ก็เป็นเพราะว่าถ้าหากว่าสร้างเสร็จแล้ว จะต้องขนส่งของอะไรที่ท่าเรือหรือสนามบิน ทุกอย่างก็ขึ้นอยู่กับเขาทั้งหมด ถ้าหากว่าสามารถขนส่งอาวุธเถื่อนได้…….ต้องทำกำไรได้อย่างแน่นอน!
ตระกูลหลีถือเหมืองทองคำไว้ในมือ ดังนั้นจึงทำให้หลายคนอิจฉาและหวังที่จะยึดมัน
หู้ไห่เป็นเมืองชายฝั่งของหัวเซี่ย อีกทั้งยังเป็นเมืองระหว่างประเทศ ดังนั้นท่าเรือและสนามบินเหล่านั้น แทบจะเป็นเขตพื้นที่ที่มีศักยภาพที่สุดในหัวเซี่ยเลย!
หลีเช่าเทียนกำลังดื่มไวน์ Lafite อย่างเบิกบานอารมณ์ ความเป็นความตายของผู้หญิงคนนั้นของเฉินเป่ยแสดงให้เขาเห็นว่า ไม่ต้องกังวล หลังจากที่ผู้หญิงบรรลุเป้าหมายแล้วนั้น จะจ้างยอดนักฆ่าต่างประเทศ เพื่อเอาชีวิตของเฉินเป่ยไป
ทุกอย่างเป็นไปตามแผนเดิม หลีเช่าเทียนเฝ้ารอคอยอย่างมาก จากนั้นก็ไปสถานีตำรวจหู้ไห่ หลีชิงเยียนจะมีปฏิกิริยาอย่างไรนะ เมื่อเห็นเขาปรากฏตัว
ดวงตาของหลีเช่าเทียนเปิดเผยถึงความอาฆาตพยาบาท เขาต้องการให้หลีชิงเยียนเสียใจไปตลอดชีวิต ที่ปฏิเสธการแต่งงานของเขาเมื่อครั้งแรก!
เขาไม่เคยถูกปฏิเสธมาก่อน โดยเฉพาะผู้หญิง และหลีชิงเยียนก็เป็นผู้หญิงคนแรกที่ปฏิเสธเขา!
ความแค้นนี้ หลีเช่าเทียนจำฝังใจ จะลืมมันลงได้ยังไง!
“ดีจังเลย เมื่อถึงเวลาจะต้องจับชู้ทั้งสองมาต่อหน้าฉัน ฉันอยากเห็นพวกเขา ว่าสุดท้ายแล้วพวกเขาจะกล้ากำแหงต่อหน้าพวกเราหรือเปล่า!” หัวเราะชอบใจ
ป้าใหญ่และป้าสองของหลีเช่าเทียนยังคงจำได้ ความอัปยศที่ขอโทษเฉินเป่ยครั้งนั้น สุดท้ายไม่คิดเลยว่าจะอัดวีดีโอไว้ด้วย!
พวกเธอทั้งสองอดทนเฉินเป่ยและหลีชิงเยียนมานานแล้ว ในที่สุดวันนี้ก็ลืมตาอ้าปากได้เสียที!
ณ ขณะนี้ หลีเช่าเทียนที่นั่งอยู่ข้างๆเสียงโทรศัพท์บ้านก็ดังขึ้น
“รับสิ อาจจะเป็นหลีหยางยอมแพ้แล้ว ยอมแพ้ให้กับคุณ” คุณป้ากล่าวด้วยความดีใจ
หลีเช่าเทียนยิ้มเบาๆ เมื่อเขารับโทรศัพท์ รอยยิ้มที่มั่นใจ กลับนิ่งแข็งทันที!
“ทำไมล่ะ?” คุณป้าสังเกตถึงสีหน้าที่ไม่ดีของหลีเช่าเทียน ถามเบาๆด้วยสีหน้างงงวย
“คุณชายหลี…..เกิดเรื่องแล้ว บริษัทเราถูกโจมตีด้วยแฮกเกอร์ลึกลับ เงินทั้งหมดในบัญชีของบริษัทถูกขโมยไป ถูกโอนไปยังบัญชีลึกลับต่างประเทศ!”
หลีเช่าเทียนดูแข็งทื่อ เพราะเหตุการณ์ก่อนหน้านี้ทำให้บ้านหลีในเยี่ยนจิง ไม่ให้ความช่วยเหลือเขาอีกต่อไปแล้ว ค่าใช้จ่ายของเขาตอนนี้ ขึ้นอยู่กับที่ปักหลักทรัพย์สินของเมืองหู้ไห่
และตอนนี้ ฐานปักหลักของเขาถูกแย่งไปแล้ว!
“เฉินเป่ย!” หลีเช่าเทียนกล่าวคำพูดอย่างเยือกเย็น กลิ่นอายความเย็นฉายออกมาผ่านสายตา เดาได้ถึงฐานะของผู้เริ่มการกระทำการชั่วร้ายนี้ได้ในชั่วพริบตาเดียว!
หลีเช่าเทียนเพิ่งวางสายโทรศัพท์ไม่นาน โทรศัพท์บ้านก็ดังขึ้นอีกครั้ง
ครั้งนี้ หลีเซิ่งและป้าใหญ่ป้าสอง ได้กลิ่นแปลกๆบางอย่าง โทรศัพท์สองสายนี้ ดูเหมือนว่าไม่ใช่เรื่องดี
หลีเช่าเทียนรับโทรศัพท์อีกครั้ง เสียงต้นสายโทรศัพท์นั้น “คุณชายหลี หุ้นของบริษัทเราถูกเอาไปขายให้สมาคมลึกลับ ซื้อทุกอย่าง สมาคมลึกลับนั่น กลายเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่สุดไปแล้ว!”
หลีเช่าเทียนสีหน้าเปลี่ยนทันที นั่นหมายความว่าเขามีอำนาจกุมบริษัทนี้น้อยมาก!
“กริ๊ง กริ๊ง”
ไม่เพียงเท่านั้น โทรศัพท์ของหลีเช่าเทียนก็เสียงดังขึ้นพร้อมกัน
ข้อความหลั่งไหลเข้ามา หลีเช่าเทียนไม่มีเวลาได้เปิดอ่านเลย!
เกิดความเงียบในอากาศ หลีเช่าเทียนมีท่าทีไม่แน่ใจ เขาไม่ค่อยอยากจะเชื่อ ทั้งหมดนี้แท้จริงแล้วเป็นฝีมือไอ้หมอนั่น!
บริษัทของตระกูลตัวเอง อำนาจค่อยๆถูกถอนจนปิดตัวลง……ความแข็งแกร่งกลับอ่อนแอลงอย่างรวดเร็ว!
“เฉินเป่ย!” ใบหน้าหล่อเหล่าของหลีเช่าเทียนแทบบิดเบี้ยว เขารับไม่ได้! สถานการณ์เปลี่ยนไปอย่างกะทันหัน!
หลีเช่าเทียนพยายามอยากจะกอบกู้พลิกสถานการณ์ที่แย่ แต่มันก็สายเกินไป โทรศัพท์และข้อความนับไม่ถ้วนปรากฏขึ้นมาในเวลาเดียวกัน แทบจะทำให้มือถือของเขาระเบิด!
ป้าใหญ่และป้าสองที่อยู่ข้างๆ ก็เงียบลง สีหน้าดูแย่
พวกเขาก็ยังคงคุยกัน อีนังหลีชิงเยียนคนนี้ถูกจับแล้ว หลีหยางไม่มีกะจิตกะใจที่จะไปจัดการบริษัทอสังหาริมทรัพย์นั่นของหลีเช่าเทียน
หลีเช่าเทียนกลายเป็นคนไม่เหลืออะไรในพริบตาเดียว!
พวกเขายังคงพูด ถ้าไม่มีหลีชิงเยียน เท่ากับหลีหยางถูกหักแขน แต่ตอนนี้พวกเขาเพิ่งนึกขึ้นได้ เฉินเป่ย รับมือได้ยากกว่าหลีชิงเยียน!! เป็นไอ้คนไร้ยางอาย!
“ตัวหนอนที่สมควรตาย!” หลีเช่าเทียนสบถ ใบหน้าหล่อเหลานั้นเศร้าโศกน่ากลัว อุณหภูมิในอากาศคล้ายจะลดลง!
หลีเช่าเทียนยกมือขึ้น แล้วฟาดลงโซฟาอย่างโหดเหี้ยม จนที่เท้าแขนโซฟาผิดรูปไปเลย!
“เป็นไปได้อย่างไร บริษัทของคุณ ไม่เหลือเลยเหรอ?” หลีเซิ่งกล่าวด้วยสีหน้าไม่สู้ดี
“แม้ว่าจะมีอยู่บ้างก็ตาม ก็ไม่ต่างอะไรจากไม่เหลืออะไร” หลีเช่าเทียนพูดอย่างเย็นชา ดวงตาฉายให้เห็นถึงความเย็นชา
หลีเช่าเทียนคิดไม่ถึงจริงๆ ว่าเฉินเป่ยจะใช้วิธีนี้ แก้แค้นเขาได้อย่างดุเดือด!
บริษัทของตัวเองก็ไร้ประโยชน์แล้ว ยังมีอะไรมาเปิดเผยความลับทางการค้าบริษัทตระกูลหลีกรุ๊ปล่ะ? ตอนนี้หลีเช่าเทียนก็แทบจะไม่สามารถปกป้องตัวเองได้แล้ว
สีหน้าของหลีเช่าเทียนโศกเศร้า แม้แต่โม่ถีซือเองก็ไม่คาดคิด ว่าเฉินเป่ยโต้ตอบด้วยวิธีนี้
ทันใดนั้น โทรศัพท์ของหลีเช่าเทียนก็ดังขึ้น แต่ครั้งนี้ไม่ได้ดังพร้อมกันเหมือนก่อนหน้านี้ หลีเช่าเทียนยกมือถือขึ้นมา หมายเลขที่ไม่รู้จักปรากฏบนหน้าจอโทรศัพท์
หลีเช่าเทียนต่อสาย ปลายสายเป็นเสียงของคนไร้ยางอายอย่างมาก “คุณชายหลี ฉันเพิ่งจะส่งของขวัญชิ้นใหญ่ให้คุณ…..ได้รับหรือยัง?”
“ของขวัญชิ้นใหญ่ของคุณนี้……ดีมาก ฉันพอใจมากๆ” ทั้งสองมือของหลีเช่าเทียนกำหมัดไว้แน่น กล่าวด้วยความหวาดกลัว
สายตาของหลีเช่าเทียนในตอนนี้ หน้าตาท่าทางดุร้ายแทบจะระเบิดออกมาแล้ว
“ไอ้หยา! คุณชายหลี เมื่อกี้คุณเห็นข่าวหรือยัง? ก่อนหน้ามีบริษัทอสังหาริมทรัพย์ ยังบอกว่าจะเปิดเผยความลับของบริษัทตระกูลหลีกรุ๊ป ผลสุดท้ายแม่งเอ๊ยล้มละลาย คุณว่าน่าขำไหม……สุดท้ายก็มีแต่ความคิดโง่ๆ….ฉันขำจะตายแล้ว”
ปลายสายนั้น เป็นเสียงของอันธพาลเฉินเป่ยร้อยเปอร์เซ็นต์ ทำให้หลีเช่าเทียนโกรธจนตัวสั่นสะท้าน แทบจะเป็นคนตายที่ยังมีลมหายใจ!
แม่งเอ๊ย นี่เป็นความอัปยศแน่นอน คำพูดของเฉินเป่ย ราวกับตบหลีเช่าเทียนอย่างโหดร้ายทารุณ ทำให้เขาโกรธจนแทบจะบ้าคลั่ง ข้างในเข้าใจดีแต่แกล้งทำเป็นเลอะเลือน ที่แท้จริงก็เลวทรามเกินไป ทำให้ป้าใหญ่ป้าสองทนฟังต่อไปไม่ไหว แต่ละคนสีหน้าเขียว ดูไม่ดีอย่างมาก
คำพูดของเฉินเป่ย ไม่ใช่แค่ตบหน้าหลีเช่าเทียน แต่ก็ตบหน้าพวกเขาเช่นกัน
“อวดดีเกินไปแล้ว” หลีเซิ่งกัดฟันและพูดกระซิบ นี่เป็นครั้งแรก ที่เขาเห็นคนที่กล้าอวดดีต่อหน้าพวกเขา!
ตอนที่อยู่เยี่ยนจิง ใครกล้าทำแบบนี้บ้าง?
สมัยนี้แม้แต่ลูกเขยคนหนึ่งก็กล้าเอะอะโวยวายแล้ว!
“โทรศัพท์สายนี้ของนาย ตกลงต้องการอะไร?” หลีเช่าเทียนเอ่ยปากอย่างเย็นชา
“ไม่มีอะไร ก็แค่อยากเตือนนายหน่อย ความอดทนของคนมีขีดจำกัด….อย่าได้สะกิดต่อมโมโหเชียว”
คำพูดของเฉินเป่ยเด็ดขาด แฝงรวมไปถึงการฆ่าอย่างเลือดเย็น ทำในดวงตาของหลีเสี้ยเทียนเย็นชา มันใช่การเตือนสติที่ไหนกัน มันคือการเตือนขู่คุกคาม!
“ไม่เคยมีใครขู่ฉันอย่างนี้มาก่อน” หลีเช่าเทียนกล่าวอย่างเย็นชา เขารู้สึกว่าตัวเองถูกสบประมาท เขาไม่เคยคิดมาก่อน ว่าวันหนึ่ง จะถูกคนสวะคนหนึ่งมาขู่คุกคามเขา และยังถูกคนสวะจัดการอย่างน่าเวทนาเช่นนี้
ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน ลูกเขยที่แต่งเข้าบ้าน ใช้ชีวิตอย่างอวดดี และบ้าบิ่นเช่นนี้?