สายเปย์เบอร์หนึ่ง - ตอนที่ 147
บทที่147 คำเชื้อเชิญจากคุณชายใหญ่
เงียบสงบไปทั่วลาน ต่างก็ตกใจจนทำอะไรไม่ถูกกันถ้วนหน้า
ก่อนหน้านี้บุกกันมาอย่างดุดัน พี่หลงผู้ไร้เทียมทาน ไม่สิ ตอนนี้ต้องเรียกพี่ฉอง ตอนนี้กำลังหัวหดอยู่ตรงหน้าเฉินเป่ยกับถังโหรว
แบบนั้น ก็เหมือนกับหนูที่เจอแมว เขาต้องคอยระมัดระวัง ไม่ไปยั่วยุเฉินเป่ยกับถังโหรวเข้า
จากคนที่ไม่มีตัวตนในโลกใต้ดิน พี่ฉองสามารถไต่เต้าจนมาเป็นเจ้าพ่อได้ แน่นอนว่าต้องมีวิสัยทัศน์ ดูจากสีหน้าและน้ำเสียงของท่านโจวเมื่อครู่ ก็รู้สึกว่าผิดปกติ
คุณเฉินคนนี้ ดูไม่ธรรมดาทีเดียว ขนาดท่านโจวยังต้องนอบน้อม……เรื่องนี้เผยแพร่ออกไป คงจะเป็นเรื่องน่าอายในโลกใต้ดิน!
ท่านโจว……เป็นถึงประมุขของถานกง ในโลกใต้ดินของเมืองหู้ไห่ นับว่าวางอำนาจ……ยามท่านโจวบันดาลโทสะ โลกใต้ดินก็จะสะเทือนไปหมด!
ท่านโจว ตำแหน่งในเมืองหู้ไห่ มีเพียงตำแหน่งเดียว
ส่วนคนที่ท่านโจวคอยคุ้มครอง มีความเป็นมาอย่างไร
พี่ฉองครุ่นคิดด้วยความหวาดกลัว แววตามีแต่ความตะลึงตื่นกลัว หรือว่า……มาจากเยี่ยนจิง
พี่ฉองก้มหน้าต่ำ ค่อยๆมองประเมินเฉินเป่ย รูปร่างหน้าตาเฉินเป่ยธรรมดา และไม่ได้ดูมีสง่าราศีใดๆ แต่แววตาคู่นั้นลุ่มลึก จนพี่ฉองมองไม่ออก
ถังโหรวอยู่ข้างๆ ในใจยากที่จะสงบ เธอจะไปคาดคิดได้อย่างไร ว่าเฉินเป่ยจะมีความสัมพันธ์อีกขั้นกับท่านโจว ทำให้เธอยิ่งมั่นใจว่า คนที่ช่วยเธอไว้เมื่อคืน คือเฉินเป่ย
เฉินเป่ยสีหน้านิ่งสงบ เขาเห็นการมองคะเนจากพี่ฉองแล้ว และยิ่งไปกว่านั้นเขาอ่านใจพี่ฉองออก
เขายิ้มขึ้นที่มุมปาก พี่ฉองจะไปเดาฐานะเขาออกได้อย่างไร
ถ้าพี่ฉองรู้ถึงฐานะที่แท้จริงของเขา เกรงว่าคงจะตกใจจนเป็นลมหมดสติ!
เขาเป็นใครกัน สะท้านไปถึงต่างประเทศ เป็นชายที่สะเทือนวงการตะวันตกด้วย คนที่ยืนอยู่จุดสูงสุดของโลก ทำให้คนนับไม่ถ้วนเปลี่ยนสีหน้า ช่างน่าสะพรึงเหลือเกิน!
คนใหญ่คนโตจำนวนไม่น้อยยอมรับเขาในฐานะขุนนางใหญ่ ค้อมคำนับให้ ความทะนงในตัว
เขา มากพอที่จะค้ำฟ้าชูดิน เป็นเสาหลักค้ำจุนโลกา!
ส่วนพี่ฉอง เมื่อกี้ จะหักกระดูกเขา206ท่อน!
ส่วนพวกรอบๆตัวนั้น สีหน้ายิ่งดูตกตะลึงเข้าไปใหญ่ เก็บงำไม่พูดอะไรอยู่นาน
“ถูกคนจับตามองเยอะขนาดนี้ รู้สึกตื่นเต้น”ร่างน้อยๆของถังโหรวสั่นเทา ใบหน้าแดงก่ำ
“คุณหนูเฉิน ผมไปส่ง”พี่ฉองยิ้มอย่างเอาใจ ถังโหรวจ้องพี่ฉองเขม็ง“ใครเป็นคุณหนูเฉิน นายสิคุณหนูเฉิน!”
ถังโหรวเชิดหน้าที่แดงก่ำ อย่างอวดดี
เธอทั้งอายทั้งโกรธ เธอยังไม่ได้เป็นอะไรกับเฉินเป่ยสักหน่อย พี่ฉองนี่ก็เรียกคุณหนูเฉินๆอยู่ได้
คนมองตั้งเยอะ อายไหมเนี่ย
พี่ฉองตะลึง มองเฉินเป่ยกับถังโหรว แล้วก็เข้าใจขึ้นมาทันที“ครับๆๆ ผู้น้อยตาลาย”
“ผมไปส่งพวกเขานะ”จู่ๆ ท่านโจวเอ่ยปากพูดขึ้น มองไปที่เฉินเป่ย สองตาเป็นประกาย ราวกับจะพูดอะไร
“ได้ครับ”เฉินเป่ยพยักหน้า
ท่านโจวพาเฉินเป่ยกับถังโหรวฝ่าฝูงชนออกมา อันธพาลพวกนั้นไม่กล้าขวางแม้แต่คนเดียว ต่างก็เปิดทางให้
“คุณเฉิน ลำบากพวกคุณแล้วล่ะ”ท่านโจวแสดงสีหน้าสำนึก
“เมืองใต้ดินหู้ไห่ ยังไม่ได้รวมเป็นหนึ่ง ภารกิจหนักมาก แต่ยาวไกล”เฉินเป่ยเอ่ยเสียงเรียบ
แววตาท่านโจวเป็นประกาย แสดงถึงความตระหนักและเข้าใจ จู่ๆเขารู้ได้ขึ้นมาทันที เฉินเป่ยกำลังจุดประกายเขา ว่าถ้าเขาควบคุมโลกใต้ดินได้ดี คงจะไม่เกิดเรื่องแบบนี้
“ผู้น้อยโจวโง่เขลา จะจดจำคำสอนของคุณเฉิน”ท่านโจวโค้งให้
ถังโหรวยืนหน้าซีดอย่างตกตะลึง แน่นอนว่าเธอนึกไม่ถึงหรอก ว่าลับหลัง ท่านโจวยังต้องให้เฉินเป่ยอบรมสั่งสอน
เฉินเป่ยยิ่งดูลึกลับในสายตาเธอ ทำให้เธอรู้สึกประหลาดใจนัก ฐานะของเฉินเป่ย ต้องไม่ธรรม
ดาแน่นอน
ผ่านไปไม่นาน คนของฉองหุ้ยโดนท่านโจวค่อยๆไล่ไปทีละคน ต่างทยอยไปกันหมด ส่วนท่าน โจว ก็ใช้สายตาส่งเฉินเป่ยกับถังโหรว จนเงาร่างหายลับไป
“คุณกับท่านโจวนั่น เป็นอะไรกันเหรอ ดูท่าเขาเก่งกาจมากเลยนะ” ถังโหรวถามด้วยสงสัย
เฉินเป่ยค่อยๆบรรยายถึงฐานะท่านโจว“ยังไม่สิ้นกลิ่นน้ำนม แค่อันธพาลเล็กๆคนหนึ่ง”
ถ้าท่านโจวอยู่ตรงนี้ แล้วได้ยินคำพูดเฉินเป่ยคงจะกระอักเลือด
มือทั้งสองของเขาเปื้อนเลือด เท้าเห็นกระดูกขาว เพิ่งได้เป็นราชาเมืองใต้ดินแท้ๆ อำนาจใต้ดินล้นมือ พอออกจากปากเฉินเป่ย ไร้อรรถรสสิ้นดี กลายเป็นอันธพาลเล็กๆเสียอย่างนั้น
ถ้าไม่ใช่ว่าท่านโจวให้ความยำเกรงเฉินเป่ย คงรับไม่ได้แน่นอน!
“แล้วเธอล่ะจะเอาไง”เฉินเป่ยกวาดตามองถังโหรวที่อยู่ข้างๆ ด้วยสีหน้าอ่อนใจ
“จะไปรู้ได้ไงล่ะ”ถังโหรวยักไหล่
“ปกติเธอทำอะไรบ้าง”เฉินเป่ยถาม
“กลางวันก็เที่ยวเล่น กลางคืนไปเต้นดิสโก ไปดิ้นที่ผับ”ถังโหรวผู้แต่งหน้าอ่อนๆ ใบหน้าสวยสดงดงาม ปราศจากมลทิน ราวกับเซียนสาวก็ไม่ปาน ไม่ทำให้ใครคิดไปถึงความดุเด็ดเผ็ดร้อน ราวกับเป็นคนสองคน
หลังจากผ่านเรื่องราวเมื่อวาน ถังโหรวดูเปลี่ยนราวกับพลิกฝ่ามือ เธอเปลี่ยนไปทั้งคน ไม่ยั่วยวนใครอีกต่อไป
“เธอนอกจากเที่ยว แล้วก็เที่ยวเหรอ”เฉินเป่ยหมดคำพูด คุณปู่ของถังโหรว มัวแต่ยุ่งอยู่กับเรื่องใหญ่ในเยี่ยนจิง ไม่มีเวลาใส่ใจเธอเลยแม้แต่น้อย
บิดาของถังโหรวนั้น คาดว่าน่าจะไปช่วยคุณปู่ จนไม่มีแก่ใจจะอบรมเธอ ถึงได้กลายเป็นแบบนี้
“พกฉันไปเที่ยวด้วยคนได้ไหม”ถังโหรวกะพริบตาปริบๆ จ้องมองเฉินเป่ย ถามเสียงอ่อนโยน
“ฉันไม่มีตังค์หรอกนะ”เฉินเป่ยบอก ในความเป็นจริง เฉินเป่ยไม่คิดใช้บัญชีต่างประเทศ……ชิงเหนียนเคยกำชับเขา ว่าถ้าเข้ามาแผ่นดินจีน จะไม่รู้สถานการณ์ ถ้าโดนจับขึ้นมา จะเดือดร้อนไปถึงหลีชิงเยียน
“เชอะ เป็นถึงผู้ชาย เงินนิดๆหน่อยๆก็ไม่มี ยังมีหน้ามาเกิดเป็นผู้ชายอีก”ถังโหรวกลอกลูกตา
“ฉันมีเงิน แต่เอาออกมาไม่ได้”เฉินเป่ยอธิบาย แน่นอนว่าถังโหรวย่อมไม่ฟัง“พูดก็เหมือนไม่ได้พูด”
“ไม่เชื่อก็ตามใจ”เฉินเป่ยเลยขี้เกียจอธิบาย หันตัวกลับไปทางรถจักรยานผุๆ
“นี่ หยุดเลยนะ!”ถังโหรวเห็นเงาเฉินเป่ย เบิกตาโพลงโต ตาบ้านี่กล้าทิ้งกันไปเลยเหรอ หนีไปคนเดียวเฉยเลย!ไม่แมนเอาซะเลย!
แต่พอถังโหรววิ่งตามไป เฉินเป่ยก็หนีไปไกลแล้ว หายไปไม่ทิ้งไว้แม้แต่เงา
…………
ในห้องประธาน หลีชิงเยียนนั่งอยู่ในห้องทำงาน เธอเรียกหลินเฉว่เข้ามา
“รู้ว่าเฉินเป่ยไปไหนหรือเปล่า”หลีชิงเยียนถาม
หลินเฉว่ตอบหน้าซื่อ“คุณไม่รู้จริงๆหรือคะ”
หลีชิงเยียนส่ายหน้า“ฉันก็ไม่รู้ว่าไปไหน”
หลีชิงเยียนขมุ่นคิ้ว ใบหน้าหมดจดสะท้อนความเย็นชา ตาเฉินเป่ยนี่ ไม่รู้หายหัวไปไหนทั้งวัน เมื่อก่อนอยู่บ้านเฉยๆ ตอนนี้ดีนี่ ไปไหนก็ไม่บอกไม่กล่าว!
“คุณโทรหาเขาหรือยังคะ”หลินเฉว่ถาม
“โทรแล้ว ไม่รับสาย”หลีชิงเยียนตอบ
ในช่วงที่หลินเฉว่กับหลีชิงเยียนกำลังคุยกัน มีรถบีเอ็มสีดำคันหนึ่ง ขับออกมาจากโรงแรม ขับมา ทางอาคารตระกูลหลี
ผ่านไปไม่นาน รถบีเอ็มสีดำจอดเทียบใต้ตึกอาคารตระกูลหลี ชายสวมสูทลงมาจากรถบีเอ็มนั้น เขามีผมสีทอง ท่าทางเป็นสุภาพบุรุษ
ชายผู้นั้นจัดแว่นให้เข้าที่ ในมือถือเอกสาร เดินอย่างภาคภูมิมาที่หน้าตึกอาคารตระกูลหลี
ยามสองคนกันท่าเขาเอาไว้ ตรวจดู ชายหัวทองแค่นเสียง กวาดตามองยามสองที พูดขึ้น“ผมเป็นคนของคุณชายใหญ่ตระกูลหลีแห่งเยี่ยนจิง มาในครั้งนี้ เพื่อมาส่งบัตรเชิญให้หลีชิงเยียน”
“ตระกูลหลีแห่งเยี่ยนจิงน่ะเหรอ”ยามสองคนสบตากัน หัวเราะแล้วพูด“หลีเช่าเทียนที่ซมซานเหมือนหมาถูกล่าน่ะเหรอ”
“แก!”ชายหัวทองส่งสายตาแข็งกร้าว“กล้าดูถูกคุณชายสองเหรอ ไม่อยากมีชีวิตแล้วใช่ไหม”
“คุณชายสองบ้านแกพิการไปแล้วนี่ ยังจะมากร่างอีก”ยามสองคนหัวเราะลั่น
“คุณชายใหญ่ของเราเดินทางมาล่วงหน้า ก็มาชำระบัญชีให้คุณชายสองนั่นแหละ”ชายหัวทองมองดูยาม“ดูถูกตระกูลหลี ระวังจะโดนคิดบัญชี ไม่มีใครหนีรอด!”
“ฉันจำได้ คุณชายสองพวกแกชอบดูถูกประธานหลีของเรานักล่ะ ตอนนี้โดนซะเอง ฟังแล้วเจ็บแทน”ยามคนหนึ่งไม่ยอม จึงเหน็บแนมไป
“คนไม่รู้ผิดชอบชั่วดี!”ชายหัวทองตีหน้าเข้ม ตบฉาดลงบนหน้ายาม
“มีคนก่อเรื่อง จับมัน!”ยามคนหนึ่งตะโกน ทันใดนั้น ยามกลุ่มหนึ่งจึงแห่ขึ้นมา ล้อมชายหัวทองไว้!
“จะทำอะไรน่ะ……ฉันเป็นคนของหลีเช่าหงนะ……”ชายหัวทองเกิดลางสังหรณ์ไม่ดี เขาขู่ไปได้ไม่กี่คำ ก็โดนยามจับไว้!
“จับมันไปต่อหน้าประธานหลี ให้มันพูดกับประธานหลีเอง”มีคนเสนอ หลายคนเห็นด้วย
ไม่นานนัก ก็มีเสียงเคาะประตูที่ห้องผู้บริหาร หลีชิงเยียนเงยหน้า เห็นชายทุลักทุเลคนหนึ่งโดน ยามลากเข้ามา
“เกิดอะไรขึ้น”หลีชิงเยียนตะลึง อย่างตั้งตัวไม่ทัน
“ประธานหลีครับ คนคนนี้บอกว่าเป็นคนของคุณชายใหญ่ แล้วเที่ยวทำร้ายผู้คน พวกเราเลยกุมตัวไว้ครับ”ยามคนหนึ่งบอก
“คุณชายใหญ่เหรอ”หลีชิงเยียนมองไปยังชายหัวทอง ด้วยแววตาลุ่มลึก