สายเปย์เบอร์หนึ่ง - ตอนที่ 150
บทที่150 เขวี้ยงแก้ว
บริกรหญิงมองดูซูเหลย แววตาระคนสงสัย
เธอได้รับคำสั่ง ผู้ชายที่อยู่ข้างๆหลีชิงเยียน ไม่ได้บอกว่ามีผู้หญิงคนนี้อยู่ด้วย
แต่ไม่นาน แววตาสงสัยหายวับไป เธอยิ้มเก้อ ราศีจับทั้งตัว ราวกับเป็นเบญจกัลยาณี“คุณผู้ชายคะ คุณหลีกำชับไว้แบบนี้ค่ะ”
แววตาเฉินเป่ยลุ่มลึก ครุ่นคิดชั่วครู่ พยักหน้า หมุนตัวกลับ เดินไปทางระเบียง
เฉินเป่ยผลักประตู ได้กลิ่นประหลาดๆลอยมา ทำให้แววตาเขาลุ่มลึก กะพริบตาแปลกๆ
หลังจากเฉินเป่ยเข้าไป บนโต๊ะสุรา มีสาวๆรูปร่างเผ็ดร้อนสองสามคน กำลังส่งสายตาหวาน หยาดเยิ้มให้เขา ริมฝีปากแดงแจ๊ ราวกับรออยู่นานแสนนาน
“น่าสนใจ”เฉินเป่ยพ่นออกมาคำหนึ่ง มุมปากยิ้มออกมา
แววตาเฉินเป่ยลุ่มลึก……นี่คือ กลยุทธ์สาวงามใช่ไหม
หลีชิงเยียนกับซูเหลยไม่ได้สังเกตว่าเฉินเป่ยหายไป เดินเข้าไปในห้อง เห็นบรรยากาศสวยหรูข้างใน เงาร่างหล่อเหลา ลุกขึ้นยืน มองไปในเมืองหู้ไห่ยามตรี ยังคงคึกคัก ไม่หลับใหล แสงไฟนับไม่ถ้วนส่องประกาย ทำให้ราตรีไม่หลับใหล ทำให้เมืองหู้ไห่ราวกับยามสายัณห์ตลอด
“ความเจริญของเมืองหู้ไห่ เกินกว่าที่ผมคิด”น้ำเสียงและเงาร่างช่างน่าดึงดูด ช่างน่าประหลาดใจเหลือแสน
แววตาหลีชิงเยียนหลุบต่ำ สีหน้าราบเรียบ กะพริบตาถี่ๆ
“เมืองหู้ไห่ในวันนี้ เติบโตเร็วจนน่าตกใจ ในวันนี้ ก้าวไกลไปกว่าเยี่ยนจิง”เงาร่างนั้นค่อยๆหมุนตัวมา ยิ้มอย่างหว่านเสน่ห์
หน้าตาแบบนี้ แม้ว่าผู้หญิงก็อิจฉา!
เงาร่างหันไปหาหลีชิงเยียน แววตาทั้งคู่เร่าร้อน“ชิงเยียน ฉันรอเธอมานานมาก”
“คุณชายใหญ่”หลีชิงเยียนสีหน้าราบเรียบ ไม่ประหลาดใจแม้แต่น้อย ในใจนิ่งสงบดุจสายน้ำ
แต่ในใจของหลีชิงเยียนรู้ดี ว่าตอนนี้ตัวเธอรู้สึกตึงเครียด ความตึงเครียดนั้นพุ่งไปขีดสุดแล้ว
หลีเช่าหง เป็นคุณชายใหญ่สกุลหลี เล่นยากกว่าหลีเช่าเทียน หลีชิงเยียนต้องคอยระวังตัวอยู่ เสมอ คอยป้องกันเขา
มาพบบุคคลระดับ เป็นการเริ่มต้นของความขัดแย้ง ไม่สามารถปลดปล่อย
“นั่งสิ”มุมปากหลีเช่าหงยิ้มขึ้น ดึงเก้าอี้ออกให้หลีชิงเยียนกับซูเหลย
“ขอบคุณค่ะ”หลีชิงเยียนกับซูเหลยนั่งลง ทันใดนั้น หลีชิงเยียนนั่งลงมองดู พูดขึ้น“คุณชายใหญ่สามีฉันมาด้วยค่ะ เขาหายไปแล้ว ฉันต้องไปหาเขาหน่อย”
“ไม่ต้องหรอก”หลีเช่าหงยิ้มเล็กน้อย“ฉันเชิญให้เขาไปห้องอาหารตรงข้ามน่ะ สบายใจได้ เขาอยู่ที่นั่น ไม่เหงาหรอก”
หลีชิงเยียนกอดอก ขมวดคิ้วเล็กน้อย“คุณชายใหญ่หมายความว่ายังไง”
คุณชายใหญ่ยิ้มเล็กน้อย“เพราะว่าต่อไปจะคุยกับเธอเรื่องในบ้านของตระกูลหลี มีบางเรื่อง อย่าให้คนนอกฟังดีกว่า”
หลีชิงเยียนยิ้ม คุณชายใหญ่พูดเสียดูยิ่งใหญ่ แต่ความจริงหลีชิงเยียนฟังถึงเจตนาในคำพูดไม่ออกเลย
ขนาดสีหน้าของซูเหลยยังอึดอัด เธอฟังคำพูดของคุณชายใหญ่ออก ว่าเฉินเป่ยเป็นคนนอก
ถ้าเป็นหลีเช่าเทียนคงจะพูดออกมาตรงๆ แต่หลีเช่าหงเสแสร้งกว่าหลีเช่าเทียน เดาใจยาก
หลีชิงเยียนมองแววตาเย็นชา จ้องมองคุณชายใหญ่ ว่าเขากีดกันเฉินเป่ย ไล่ไปอีกห้อง ทิ้งให้เธออยู่ที่ห้องนี้คนเดียว จะคุยอะไรได้
“คุณชายใหญ่พูดตรงๆเถอะค่ะ คุณมาหู้ไห่ไม่ง่ายเลย”หลีชิงเยียนกล่าว
“แน่นอน ภารกิจที่ครอบครัวให้ฉันกับเช่าเทียน ก็เพื่อกิจการท่าเรือกับสนามบินของตระกูลหลี”หลีเช่าหงยิ้มเล็กน้อย มองหลีชิงเยียนอย่างมีเลศนัย พูดอย่างเฉียบคม“แต่ฉันกับเช่าเทียนไม่เหมือนกัน เช่าเทียนยังเด็ก คิดน้อยไป ฉันคิดเยอะกว่า”
“คุณคิดจะทำอะไรคะ”แววตาหลีชิงเยียนจ้องมองใบหน้าอันร้ายกาจของหลีเช่าหง
“ง่ายมาก ช่วยเธอกับหลีหยาง กลับสู่อ้อมกอดตระกูลหลี”หลีเช่าหงพูด
“โดยใช้ท่าเรือกับสนามบินแลกน่ะหรือ”หลีชิงเยียนยิ้ม เดาจุดประสงค์ของหลีเช่าหงออก
“ไม่ ฉันไม่ต้องการการตอบแทนใดๆ”หลีเช่าหงยิ้มลุ่มลึก ให้หลีเช่าเทียนทำหน้าสนเท่ห์
“ว่าไงนะคะ”หลีชิงเยียนคิดว่าฟังผิด ซูเหลยแสดงสีหน้างุนงง
“ฉันไม่เอาอะไรทั้งนั้น แค่อยากให้เธอรู้สึกติดหนี้”หลีเช่าหงยิ้ม“ชิงเยียน คิดว่าข้อตกลงนี้เป็นไงไม่ต้องจ่ายอะไรทั้งนั้น”
“ตกลงทำอะไร มาไม้ไหน”หลีชิงเยียนขมวดคิ้ว เธอจ้องหลีเช่าหง เธอมองสีหน้าหลีเช่าหงออก
แต่หลีชิงเยียนผิดหวังเลย หลีเช่าหงสีหน้าไม่แยแส หลีชิงเยียนทายไม่ออกว่าหลีเช่าหงคิดอะไร
เขาตั้งใจจะช่วยให้ครอบครัวเธอได้กลับเยี่ยนจิงจริงๆเหรอ
ใต้โต๊ะ หลีชิงเยียนแอบตบน่องซูเหลยเบาๆ ซูเหลยสังเกตได้ จึงค่อยๆควักมือถือ สองมือรีบเคาะไปที่หน้าจอ ส่วนเธอมองไปที่หลีเช่าหง ด้วยสีหน้าปกติ
เธอกำลังง่วนกับการพิมพ์!กำลังพิมพ์ข้อความให้เฉินเป่ย ขอความเห็นจากเฉินเป่ย
แม้ว่าซูเหลยไม่ค่อยอยากเจอเฉินเป่ย เพราะรู้สึกว่าเฉินเป่ยเป็นนักต้มตุ๋น สักวันหลีชิงเยียนจะต้องทุกข์เพราะเฉินเป่ยแน่นอน แต่คำขอร้องของหลีชิงเยียน เธอปฏิเสธไม่ได้
ทันใดนั้น ซูเหลยหน้านิ่ง สายตาสังเกตการณ์ กะพริบตาอย่างตกตะลึง แต่ก็หายไปในไม่นาน
ในใจซูเหลยไม่สามารถสงบได้อีกต่อไป เธอคอยกวาดสายตาไปรอบๆ ในใจรู้สึกมีลางสังหรณ์ที่ไม่ดี
ในนี้ไม่มีสัญญาณใดๆ แม้แต่ข้อความก็ส่งไม่ออก!
จะว่าตามหลักแล้ว ร้านอาหารสามดาวมิชลิน จะไม่มีสัญญาณเลยได้อย่างไร สายตาของซูเหลย คิดว่าคงจะมีอุปกรณ์การปิดกั้นสัญญาในที่นี่
ในเวลานี้ หลีชิงเยียนกำลังเสวนาเรื่องครอบครัวกับหลีเช่าหง น้ำเสียงหลีเช่าหงอ่อนโยน บวกกับหน้าตาหล่อเหลา หน้าตาแบบนี้แหละที่ทำให้สาวๆกรี๊ดสลบไปไม่รู้เท่าไหร่
ส่วนหลีชิงเยียน ยังคงเงียบสงบ ไม่ร้อนตัวเพราะหลีเช่าหงแม้แต่น้อย
…………
ระเบียงทางเดินมีห้องส่วนตัวอีกห้อง แต่กลับไม่ได้สงบเท่าที่ห้องที่หลีชิงเยียนอยู่
ในห้องเกิดบรรยากาศแปลกประหลาด เฉินเป่ยนั่งตรงกลาง หญิงสาวรูปร่างเผ็ดร้อนคนหนึ่ง คอยรินเหล้าให้เฉินเป่ยไม่หยุด เธอค่อยๆเผยเรือนร่าง ตามที่ได้นัดกับเฉินเป่ย พอเฉินเป่ยดื่มหมดแก้ว พวกเธอก็จะถอดเสื้อผ้าออกหนึ่งชิ้น
พวกเธอถอดจนเหลือแต่บิกินี่ ส่วนเว้าสามเหลี่ยมโชว์เรือนร่างอันหมดจด เรือนร่างที่ขาวดุจงาช้าง ทำให้เฉินเป่ยรู้สึกเร่าร้อน เขามองกวาดตาไปยังพวกเธอทีละคน
สาวน้อยวิหคพวกนี้ตะลึงกับการดื่มเหล้าของเฉินเป่ย หลีเช่าหงจ้างพวกเธอมา ไม่ได้บอกว่าเฉินเป่ยดื่มเก่งแค่ไหน เพียงแต่บอกพวกเธอให้มอมเมาเฉินเป่ย
แต่ใครจะไปคาดคิดเล่า เฉินเป่ยดื่มเหล้าขาวไปหลายขวดแล้ว ยังดูไม่มีทีท่าเมาเลยแม้แต่น้อย
เฉินเป่ยกำแก้วเหล้าไว้ สาวร่างสูงบางเปิดเหล้าขาวออกมาอีกขวด ยื่นให้เฉินเป่ย
“พี่เฉิน”สาวน้อยพวกนั้นเต้นระบำให้เฉินเป่ยดู แล้วดูเฉินเป่ยกระดกเหล้าขาวจนหมดแก้ว
เฉินเป่ยสาดส่องสายตามองนารีเหล่านั้น ยิ้มเล็กน้อย“ดื่มต่อไป พวกเธอก็ไม่เหลือเสื้อผ้าสักชิ้นแล้วสิ”
เฉินเป่ยจ้องเขม็งไปที่เนินอก หัวเราะแหะๆ
“พี่เฉิน ดื่มอีกสิคะ พวกเราเป็นคนของพี่~”สาวงามทั้งหลายหัวเราะคิกคัก
เฉินเป่ยหัวเราะฮ่าๆ ดื่มหมดแก้ว!เขากวาดตามองรอบห้อง แววตาลุ่มลึกไปไกล
ซูเหลยรู้ตัวว่าโดนปิดกั้นสัญญาณในห้อง เฉินเป่ยเองก็น่าจะเดาได้
เพียงแต่เฉินเป่ยใช้วิธีหนามยอกหนามบ่ง เขาอยากดูว่า หลีเช่าหงจะมาไม้ไหน!
ในขณะเดียวกัน หลีเช่าหงยื่นก้านมะกอกให้หลีชิงเยียน“ชิงเยียน กลับไปสู่อ้อมกอดตระกูลหลีกับพี่เถอะ แม้ว่าเธอจะมีชีวิตที่ดีที่หู้ไห่ แต่หู้ไห่ไม่ใช่บ้านเกิดเธอ เธอ……เป็นคนเยี่ยนจิง!”
หลีเช่าหงสีหน้าจริงใจ จนเข้าขั้นว่าพยายามเอาชนะใจ ทำให้หลีชิงเยียนเกิดความลังเล ในใจ สับสน
ในที่สุด หลีชิงเยียนก็แสดงความแน่วแน่ออกมา……เธอไม่ไว้ใจหลีเช่าหง เธอไม่เชื่อว่าของฟรีจะมีในโลก
ชิงเยียนส่ายหน้า ลุกขึ้นคำนับ“คุณชายใหญ่ ขอบคุณสำหรับความหวังดี แต่ชิงเยียนกับคุณพ่ออยู่หู้ไห่มานาน เคยชินเสียแล้ว เยี่ยนจิง เรากลับไม่เคยชิน……”
หลีชิงเยียนปฏิเสธ ไม่ได้พูดอะไรต่อ หมุนตัวกลับ เดินออกจากห้องไป
หลีเช่าหงยกแก้วเหล้าขึ้น อุทาน“ในเมื่อเป็นแบบนั้น ก็น่าเสียดาย ชิงเยียน พวกเรามาดื่มกันดี กว่า ให้พี่ได้ขออภัยแทนความวู่วามของน้องชา!”
พูดจบ หลีเช่าหงไม่รอหลีชิงเยียนเอ่ยปาก จึงกระดกเหล้าเข้าปากไม่สนใจใคร
หลีชิงเยียนเงยหน้า มองดูหลีเช่าหง หลังจากที่ตกตะลึงไป ส่ายหน้าว่าขึ้น“คุณชายใหญ่ ไม่ต้องขอโทษ น้องชายคุณก็คือน้องชาย คุณก็คือคุณ เรื่องเขาฉันกับเขา คุณมาขอโทษไม่มีประโยชน์หรอก”
หลีเช่าหงสีหน้าเรียบ พอฟังหลีชิงเยียนพูด จึงแสดงความเย็นชา ยิ้มขึ้นที่มุมปาก
หลีชิงเยียน นิสัยอวดดีวางตัวสูงส่ง ปกติดูอ่อนแอ แต่เวลาอยู่กับคน ก็ทำตัวตามสบายราวกับสายลมยามใบไม้ผลิ อีกทั้งเข้มแข็ง ไม่ท้อถอยแม้แต่ก้าวเดียว!
ขนาดที่ว่า คำพูดของหลีชิงเยียน ไม่ได้อยากจะอภัยหลีเช่าเทียน ต่อให้หลีเช่าหงร้องขอก็เปล่าประโยชน์!
หลีเช่าหงแววตาราบเรียบ แต่ตอนนี้เย็นชา หากไม่เปิดเผยความรู้สึกใดๆ
ในจังหวะนั้น บนตัวหลีเช่าหง มีรังสีพิฆาต แฝงความร้ายกาจ
แก้วเหล้าในมือเขา คลายออก ตกลงพื้น แตกกระจาย
นี่คือ……การแตกเป็นสัญญาณ!!