สายเปย์เบอร์หนึ่ง - ตอนที่ 170
บทที่170 คนจ้างลึกลับลงมืออีกครั้ง
“หนูไม่มีวันเปลี่ยนแปลงการตัดสินใจของตนเอง ลดตำแหน่ง สำหรับเขาแล้วมันคือการลงโทษ และเป็นการเรือนพนักงานในบริษัท ถ้าเขาไม่ได้ถูกลงโทษในสิ่งที่ทำอย่างสาสม พนักงานในบริษัทจะมองยังไงคะ?” หลีชิงเยียนพูดขึ้น “เชือดไก่ให้ลิงดู ถึงแม้หนูจะเห็นใจในความลำบากของเขา แต่ก็ไม่สามารถเปลี่ยนการตัดสินใจของตนเองเพราะเขา ไม่อย่างนั้นบริษัทจะวุ่นวายไปหมด”
ดวงตาคู่สวยของหลีชิงเยียนเต็มไปด้วยความมุ่งมั่น ต่อให้หลีหยางพูดอะไร เธอก็ไม่มีทางเปลี่ยนจุดยืนของตนเอง
หลีหยางครุ่นคิด ทางด้านหยางเหวินห้าวยังคงพูดด้วยความไม่พอใจ “ประธานหลี……”
“นายไม่ต้องพูดอะไรมาก ฉันตัดสินใจแล้ว” หลีชิงเยียนพูดตัดประโยคขึ้นมา น้ำเสียงของเธอหนักแน่น โดยไม่เหลือช่องว่างให้สงสัย
สีหน้าของหยางเหวินห้าวนิ่งค้าง ใบหน้าของเขาฉายความผิดหวัง ความหวังที่มรมืดบอดลง
“ลูกพูดถูก เพื่อคนหมู่มาก ถ้ายอมทำตามคำขอร้องของเขา บริษัทจะวุ่นวายไปหมด กฎของบริษัทจะไม่มีใครยอมปฏิบัติตาม” หลีหยางเงยหน้าขึ้น พยักหน้า เห็นด้วยกับคำพูดของหลีชิงเยียน
หลีหยางเอียงคอ หันไปทางหยางเหวินห้าว แล้วถอนหายใจเบาๆ
เฉินเป่ยมองไปทางหยางเหวินห้าว คลายยิ้มเบาๆ แล้วพูดปลอบโยน “ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร เงินคือสิ่งที่หาได้ง่ายที่สุดบนโลกใบนี้……อยากหาเงิน มีวิธีตั้งมากมาย”
ทางด้านหลีชิงเยียนที่ยืนอยู่ข้างๆปรายตามองเฉินเป่ย ภายในใจของเธอหมดคำพูด คนที่ไม่เจอกับตัวไม่รู้หรอก เฉินเป่ยพูดออกไปง่ายๆแบบนั้น เขายังคงต้องอาศัยตนเองในการเลี้ยงชีพ……ผู้ชายชาตรีคนหนึ่ง มีสิทธิ์อะไรมาปลอบหยางเหวินห้าว……อย่างน้อยๆเงินเดือนที่หยางเหวินห้าวเคยได้รับ มันเป็นตัวเลขที่เฉินเป่ยไม่สามารถจินตนาการได้
ทางด้านหลีหยาง เมื่อเห็นเฉินเป่ยพูดแบบนี้ เขานิ่งไปครู่หนึ่ง จากนั้นคลายยิ้ม
หยางเหวินห้าวเบะปาก ก่นด่าในใจ เฉินเป่ยยังมีหน้ามาปลอบเขา……สำหรับเขาแล้ว เห็นได้ชัดว่าเฉินเป่ยที่เพิ่งได้นั่งในตำแหน่งรองประธาน กำลังได้ใจ
คนที่อยู่ที่นี่จะรู้ได้ยัง คำพูดนี้ของเฉินเป่ยพูดอย่างง่ายดาย แต่ในความเป็นจริงสำหรับเขาแล้วมันคือความจริง!
เมื่อเทียบกับเรื่องความรู้สึก เงินคือสิ่งที่ได้มาง่ายมาก
ขอแค่ขยันและตั้งใจ ต้องมีผลตอบแทนอย่างแน่นอน……สาเหตุที่เฉินเป่ยสามารถพูดอย่างไม่คิดอะไร เป็นเพราะเขาใช้ประสบการณ์จริงในชีวิตพูดคำนี้ออกมา!
ทุกครั้งที่ทหารรับจ้างปฏิบัติภารกิจ เขาจะได้รับผลตอบแทนราคาสูง เป็นจำนวนเงินที่ทุกคนที่อยู่ตรงนี้ ยากจะคิดจินตนาการได้
ดังนั้นจึงอย่าได้พูดถึง การปกป้องต่างๆมากมาย การลอบฆ่าและการวงการเทคโนโลยีขั้นสูง ธุรกิจของเฉินเป่ยทุกอย่างล้วนเกี่ยวข้อง…….โดยเฉพาะครั้งหนึ่ง……ประเทศอังกฤษที่จะจ่ายผลตอบแทน ด้วยเหตุนี้ครั้งนั้นเฉินเป่ยจึงพาคนบุกไปฆ่าถึงห้องทดลอง แย่งชิงเอาวัสดุนาโนที่ประเทศอังกฤษทุ่มทุนในการสร้าง……นั่นเป็นสิ่งของต้องห้ามของประเทศอังกฤษ!
คนที่อยู่ต่างประเทศ ต่างก็รู้ความลับนี้เป็นอย่างดี บนโลกใบนี้ไม่เกินหนึ่งมือ! นี่เป็นความอับอายครั้งยิ่งใหญ่ของประเทศอังกฤษ ความเจริญก้าวหน้าและยิ่งใหญ่ของราชาหลง ล้วนประทับอยู่ในใจของประเทศอังกฤษ!
วัสดุนาโนที่แย่งชิงมานั้น เวลานี้ยังอยู่ในชั้นใต้ดินของวิลล่าที่โคลัมเบีย มีทหารเฝ้าเอาไว้อย่างหนาแน่น ได้ยินว่าแต่ละมิลลิกรัม สามารถซื้อธนาคารได้หลายที่!
วัสดุนาโนพวกนี้ ไม่สามารถใช้เงินทองในการประมาณมูลค่าได้ คนที่มีความสามารถในการซื้อมัน มีแต่ประเทศที่ยิ่งใหญ่เท่านั้น!
ครั้งนั้น อังกฤษโมโหจนแทบกระอักเลือด พวกเขาคิดไม่ถึง เพียงแค่ความโลภในเรื่องผลตอบแทนเล็กๆน้อยๆ จะทำให้เกิดความเสียหายที่ไม่สามารถประมาณมูลค่านับสิบปีได้!
เรื่องนี้ เฉินเป่ยแทบจะไม่บอกกับใคร เพราะมันเป็นเรื่องที่น่าตกใจมาก ถ้าหากถูกหลีชิงเยียนรู้เข้า เกรงว่าเธอคงจะตกใจจนหน้าซีดขาวไปหมด!
ดังนั้นสำหรับเฉินเป่ย เขาไม่ขาดเหลือเรื่องเงินทอง ที่เก็บของชั้นใต้ดินในวิลล่าหรูพวกนั้นของเขา ล้วนเป็นของมีค่าทุกชิ้นจนทำให้คนนอกถึงกับอิจฉาตาร้อน!
เป็นเพราะเหตุนี้ เฉินเป่ยจึงยอมพูดออกมา เพียงแต่น่าเสียดาย หยางเหวินห้าวกลับไม่รับฟัง
“ในเมื่อเป็นแบบนี้ ผมก็ทำได้เพียงแค่ลาออกจากบริษัทตระกูลหลีกรุ๊ป แล้วหาวิธีอื่น” หยางเหวินห้าวพูดด้วยเสียงแหบพร่า รอให้ถึงตอนที่หลีหยางลุกขึ้นอยากจะวิ่งตามเขาไปนั้น ไม่รู้ว่าเขาเดินออกไปตรงไหนแล้ว
“ปล่อยเขาไปเถอะค่ะ ปล่อยให้เขาเกิดเองตายเอง” หลีชิงเยียนพูดด้วยเสียงเย็นชา
หลีหยางถอนหายใจ แต่ก็ไม่สามารถพูดอะไรได้ เขาเปลี่ยนบทสนทนา หันไปมองเฉินเป่ยคลายยิ้มแล้วพูดขึ้น “เจ้าเฉิน คำพูดของนายเมื่อกี้ ดูเข้าใจสัจธรรมของชีวิตมาก”
“ชมเกินไปแล้วครับๆ” เฉินเป่ยพูดด้วยความเกรงใจ หลีหยางพูดด้วยความสนุก “คนที่ไม่รู้ ฉันคงจะคิดว่านายรวยมากแน่ๆ”
สีหน้าของเฉินเป่ยนิ่งเฉย “เงิน เป็นเพียงแค่ตัวเลขเท่านั้นครับ”
ทางด้านหลีชิงเยียนที่อยู่ด้านข้างหัวเราะในลำคอ สีหน้าเต็มไปด้วยความเย้ยหยัน
หลีหยางนิ่งงัน ทว่ากลับหัวเราะและส่ายหน้าด้วยความจนปัญญา ถ้าหากเฉินเป่ยรวยจริงๆ เขาคงไม่จำเป็นต้องเป็นลูกเขยที่แต่งเข้าบ้าน
แม้แต่หลีหยาง ก็ยังไม่เชื่อคำพูดของเฉินเป่ยเมื่อครู่
เป็นเรื่องธรรมดาที่พวกเขาไม่รู้ สำหรับเฉินเป่ย จริงๆแล้วเงินไม่ใช่สิ่งสำคัญอีกต่อไป เป็นเพียงแค่ตัวเลขเท่านั้น ไม่จำเป็นต้องสนใจ
สิ่งที่เขาต้องสนใจคือ เงินค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวันที่หลีชิงเยียนให้เขา นั่นเป็นเงินที่ประธานคนสวยให้ มันมีความหมายแตกต่างออกไป
จนกระทั่งเกือบห้าทุ่ม หลีชิงเยียนค่อยเดินออกมาจากบ้านของหลีหยาง เพื่อกลับบ้านของตนเอง
เฉินเป่ยขับรถไมบัคมาด้วยความเชื่อฟัง จอดเทียบข้างทาง รอหลีชิงเยียนและซูเหลยขึ้นรถ แล้วขับรถพาทั้งสองกลับบ้าน
หลังจากกลับไปถึงบ้าน หลีชิงเยียนและซูเหลยอาบน้ำแล้วพักผ่อน เวลานี้ เฉินเป่ยโทรศัพท์ไปหาชิงเหนียน
…………
ภายในร้านอาหารยุโรปหรูหราแห่งหนึ่ง เครื่องดนตรีหรูกำลังบรรเลงเพลงในห้องอาหาร มีการตกแต่งด้วยความหรูหรา ชิงเหนียนแต่งกายด้วยชุดสูทและรองเท้าหนัง ในมือถือมีดและส้อมเอาไว้ ด้านหน้าของเขามีหญิงสาวหน้าตาดีและมีสง่านั่งอยู่
ทั้งสองดื่มด่ำกับสเต๊กเนื้อสไตล์ยุโรป พร้อมกับพูดคุยเรื่องต่างๆ
ในเวลานี้เอง เสียงโทรศัพท์ดังขึ้น ทำลายบรรยากาศสุดพิเศษทันที
สีหน้าของชิงเหนียนแลดูไม่สบอารมณ์เท่าไหร่ เขาพูดพึมพำ “ประสาทรึเปล่า ถึงโทรศัพท์มาเวลานี้”
รับสาย เมื่อได้ฟังเสียงของปลายสาย ชิงเหนียนนิ่งงัน น้ำเสียงของเขาเปลี่ยนไปในทันที “ลูกพี่ใหญ่ มีอะไรรึเปล่าครับ?”
“บริษัทสองบริษัทนั้นขาดคนรับผิดชอบใช่ไหม ฉันได้ตัวเลือกที่ดีมา” ปลายสาย เฉินเป่ยพูดเสียงเรียบ
“ครับ ผมไปจัดการตอนนี้เลยครับ” สีหน้าของชิงเหนียนเคร่งขรึมขึ้นมา สำหรับเรื่องของลูกพี่ใหญ่ เขาไม่กล้าประมาท
หลังจากพูดคุยกับเฉินเป่ยแล้วนั้น ชิงเหนียนนิ่งค้างไปครู่หนึ่ง จากนั้นชำเลืองมองหญิงสาวหน้าตาดีที่นั่งอยู่ตรงหน้า มุมปากของเขากระตุกยิ้มเล็กน้อย เอามือขึ้นปิดปากแล้วพูดเสียงเบา “ลูกพี่ใหญ่ครับ ผมได้มาคนหนึ่งครับ บุคลิกดีมาก หัวหน้าต้องการหรือไม่……ถ้าไม่ผมเก็บเอาไว้เองแล้วนะครับ?”
ปลายสาย เฉินเป่ยฟังคำพูดของชิงเหนียน สีหน้าของเขาเผยความจนปัญญา แล้วพูดตำหนิ “ให้ตายสิ ฉันมีภรรยาแล้ว ยังจะไปยุ่งกับผู้หญิงข้างนอกอีกหรอ? อย่าเอาของสวยๆงามๆพวกนั้นมายั่วฉัน เปล่าประโยชน์!”
“ชิ” ชิงเหนียนเบะปาก “ตอนแรกผมก็เป็นคนจริงจัง ใครจะไปคิดหลังจากที่เจอลูกพี่ใหญ่แล้ว…..ลูกพี่พาผมเปิดโลกกว้างมาก ได้เจอโลกใบใหม่ แต่สุดท้ายพี่กลับตัวกลับใจเป็นคนดี ไม่อายหรอครับ?”
“นายไม่เข้าใจ รักแท้สามารถทำให้ฉันเปลี่ยนแปลงทุกอย่างได้ ฉันแค่ได้เจอกับภรรยาของฉัน เปลี่ยนตัวเองเป็นคนใหม่ก็เท่านั้น” เฉินเป่ยพูดด้วยความชอบธรรม
“ถูกต้องครับๆ แต่ตอนนี้ผมก็ยังไม่เข้าใจ พี่สะใภ้มีอะไรดี ถึงทำให้ลูกพี่ยอมทิ้งทุกอย่างใสต่างประเทศ……พอไม่มีลูกพี่ ตอนนี้ในต่างประเทศนับวันก็ยิ่งวุ่นวายมากขึ้น” ชิงเหนียนพูดเสียงเบา “ถึงแม้จะทำให้ประเทศที่ยิ่งใหญ่สงบแล้วเป็นไปได้ด้วยดีแล้ว แต่ด้านในก็ยังมีเรื่องวุ่นวายเกิดขึ้น”
“หัวเซี่ย ก็เหมือนกัน” เฉินเป่ยพูดออกไป ทำให้ชิงเหนียนตกตะลึงเล็กน้อย
“หมายความว่าอะไรครับ? หัวเซี่ยสงบสุข เป็นไปได้ยังไง…..”
เฉินเป่ยไม่ได้พูดอะไรอีก แววตาของเขาจมอยู่ในความมืดมิด ไร้จุดสิ้นสุด
ชิงเหนียนไม่ได้พูดอะไรอีก เฉินเป่ย สังเกตเห็นอะไรบางอย่างแล้ว……
“ลูกพี่ใหญ่ครับ วันมะรืนมีงานเลี้ยงดื่มสุรา แน่ใจนะครับว่าจะไม่ไป?” ปลายสาย ชิงเหนียนถามด้วยความไม่ยอมแพ้ “เมื่อก่อนตอนที่อยู่ต่างประเทศลูกพี่เคยถูกขนานนามว่าเป็นเจ้าชายน้อยในร้านกลางคืนเลยนะครับ”
“แล้วมันจะมีประโยชน์อะไร ถึงยังไงมันก็เป็นชีวิตที่ไม่มั่นคงและไม่สงบสุข ไม่สามารถเทียบได้กับตอนนี้” เฉินเป่ยพูด ตอนนี้เขามีหลีชิงเยียนแล้ว ต่อให้โลกต้องพังทลาย แล้วมันจะเกี่ยวข้องอะไรกับเขา?
หลังจากตัดสาย ชิงเหนียนถอนหายใจ พูดกับผู้หญิงหน้าตาดีคนนั้น “ผมมีเพื่อนคนหนึ่ง เขายอมทิ้งทุกอย่างเพื่อผู้หญิงคนเดียว”
หญิงสาวหน้าตาดีตะลึงเล็กน้อย “ทุกอย่าง? ออกไปตัวเปล่าหรอคะ?”
“เปล่าครับ แต่มันเป็นสิ่งที่คนมากมายฝันอยากจะได้มัน ทว่าเขากลับยอมทิ้งทุกอย่าง” ชิงเหนียนครุ่นคิด แล้วพูดขึ้น “พูดว่าโลกทั้งใบก็ไม่ได้พูดเกินไป”
……..
กลางดึก หยางเหวินห้าวกลับไปยังวิลล่าของตนเอง หลังจากที่เขาเปิดไฟ เขาก็ตกใจ เห็นคนหนุ่มหน้าตาดีกำลังนั่งอยู่บนโซฟา
“คุณเป็นใคร? คุณกำลังบุกรุกเข้าบ้านคนอื่น!” สีหน้าของหยางเหวินห้าวดูระแวดระวังเป็นอย่างมาก เขาพูดเสียงเคร่งขรึม
“หึๆ นายโกงเงินไปจำนวนไม่น้อยเลยนะ ตอนที่นายอยู่บริษัทตระกูลหลีกรุ๊ป” ชิงเหนียนที่หน้าตาดีและหล่อเหลาหัวเราะในลำคอ เห็นเพียงเอกสารลอยไปตรงหน้าหยางเหวินห้าว
หยางเหวินห้าวรับเอาไว้ เขาเปิดเอกสารแล้วไล่อ่าน เขาอึ้งและตกใจทันที ผ่านไปไม่นาน ขาทั้งสองข้างของเขากำลังสั่นเทา ด้านหลังมีเหงื่อไหลออกมา
“คุณ……คุณเป็นใครกันแน่?”
สีหน้าของหยางเหวินห้าวเปลี่ยนไปมาก หน้าตาของเขาดูตกใจมาก!
“มันไม่สำคัญหรอกว่าผมจะเป็นใคร สิ่งที่สำคัญก็คือ ผมสามารถให้ตำแหน่งที่ดีกว่าตอนที่คุณอยู่บริษัทตระกูลหลีกรุ๊ปได้” ชิงเหนียนยืนขึ้น มองไปทางหยางเหวินห้าว
“เป็นไปได้ยังไง…..แม้แต่เอกสารของผมคุณก็สามารถเอามันออกมาได้ แต่กลับให้งานผม?” หยางเหวินห้าวสงสัย “บริษัทตระกูลหลีกรุ๊ปเป็นบริษัทอันดับต้นๆของเมืองหู้ไห่ สามารถให้ตำแหน่งที่ดีกว่านี้กับผมได้ แทบจะไม่มี”
“ตอนนี้มีแล้ว” ชิงเหนียนพูดเสียงเรียบ
“คุณเป็นบอส?” ความคิดของหยางเหวินห้าวแล่นไปมาด้วยความรวดเร็ว เอาเอกสารของคนๆหนึ่งออกมาได้ คนที่มีอำนาจมากขนาดนี้…..เกรงว่าในเมืองหู้ไห่คงหาไม่ได้แม้แต่คนเดียว!
ถ้าคนแบบนี้ยังเป็นบอสของบริษัทอีก มันคงเป็นเรื่องที่เหลือเชื่อมากๆ!
“ผมไม่ใช่บอส บอสคือคนอื่น” คล้ายว่าชิงเหนียนจะคิดอะไรขึ้นได้ เขากระตุกยิ้มมุมปาก “คุณไม่มีวันอยากรู้หรอกว่าบอสของผมเป็นใคร”
…………
เพียงครู่หนึ่ง วันเวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว แป๊บหนึ่งก็ผ่านไปหกถึงเจ็ดวันแล้ว
อาคารตระกูลหลี เฉินเป่ยนั่งอยู่ในห้องทำงาน เขากำลังคีบบุหรี่เอาไว้ สมาธิของเขาถูกรวบรวมเอาไว้ตรงหน้าจอคอมพิวเตอร์ เขากำลังเล่นเกม
ในเวลานี้เอง เรือนร่างอรชรสุดเซ็กซี่เปิดประตูเข้ามา เธอเข้ามาถึงก็ขมวดคิ้วเป็นปม ย่นจมูก เพราะในห้องทำงานมีกลิ่นเหม็นบุหรี่จนทำให้แทบสำลัก
“ประธานเฉิน” เสียงดังนั้น เฉินเป่ยถอดหูฟังลง มองไปยังร่างอรชรนั้น ถือคือเจี่ยนเวยแผนกเครื่องแต่งกาย
“ว้าว คุณเจี่ยน คุณมาแล้วหรอครับ” เฉินเป่ยคลายยิ้ม ต้อนรับด้วยความยินดี
“ประธานเฉิน ชุดสูทสั่งตัดของคุณเสร็จแล้วค่ะ เดี๋ยวคุณลองไปใส่ดูนะคะ” เจี่ยนเวยวางชุดสูทเอาไว้บนโต๊ะ จากนั้นหมุนตัวเดินออกไป
เฉินเป่ยรับชุดสูทมา จากนั้นจับสองสามที ส่วนลุกในแววตาของเขา มีความโหดเหี้ยมฉายออกมา
“คล๊าก!”
เขาฉีกชุดสูทราคาแพง ลูบจับด้านใน แล้วหยิบยางอย่างออกมาจากกระเป๋าของชุดสูท ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ขนาดเล็กถูกเย็บเอาไว้ด้านใน
ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์มีไฟสีแดงกะพริบเล็กน้อย นัยน์ตาของเขาหยั่งลึก
ภาพนี้ เคยเกิดขึ้นมาก่อน!