สายเปย์เบอร์หนึ่ง - ตอนที่ 173
บทที่ 173 เทพยุทธ์ไร้เทียมทาน!
“ปึง! ”
ความว่างเปล่าสั่นสะท้านขึ้น เสียงคำรามที่อดอั้นไว้เหมือนฟ้าร้องที่กำลังระเบิดออกมา พลังอันน่ากลัวทั้งสองพลังพุ่งชนกัน!
หัวหน้ากลุ่มทำเสียงเย็นชาในลำคอ และเดินถอยหลังไปหลายก้าว จึงจะสามารถยืนอย่างมั่นคง
ส่วนร่างๆ นั้น กลับยังคงอยู่กับที่อย่างโอหัง เรือนร่างเหมือนเหล็กหล่อตัวพิมพ์ ไม่มีแม้แต่จะขยับเลยสักนิด!
หัวหน้ากลุ่มเงยหน้าขึ้น แล้วมองสายตาของเฉินเป่ย จากนั้นก็เปล่งประกายความตะลึงงันออกมา!
แม้แต่ไอรีนยังทำสีหน้าที่เปลี่ยนไป……เขากลับแกร่งขนาดนี้เลยหรอ?
หัวหน้า……เป็นตั้งหนึ่งในสิบของคนที่เก่งที่สุดในองค์กร พลังของหมัดๆ เดียวกลับไม่ได้ต่ำ?
“เป็นแกจริงๆ! ” หัวหน้ากลุ่มทำสีหน้าที่เลือดเย็น แล้วมั่นใจถึงฐานะของเฉินเป่ย
เฉินเป่ยปิดหน้าไว้ แล้วใช้สายตาที่เลือดเย็นกวาดมอง “ตอนนี้รีบไสหัวกลับไป ฉันจะทำเป็นเรื่องทุกอย่างไม่ได้เกิดขึ้น……”
“ทุกอย่างไม่ได้เกิดขึ้น? ฝันไปเถอะ! ” หัวหน้ากลุ่มพูดด้วยเสียงเข้ม แล้วเอ่ยพูดอย่างโหดเหี้ยม “ทุกคนจู่โจม! ”
ทันใดนั้น ร่างแต่ละร่างต่างก็พุ่งเข้ามาที่เฉินเป่ยจากทั่วทุกทิศ!
เฉินเป่ยจึงไหวตัวอย่างฉับไว ทันใดนั้นก็หลบเลี่ยงไป ในนัยน์ตาที่เลือดเย็นเคล้าด้วยความดูหมิ่น
อยากจะใช้กำลังคนมาต่อสู้งั้นหรอ?
คนคนหนึ่งที่เป็นหน่วยสืบราชการลับมีไหวพริบที่เร็วเหมือนฟ้าแลบ หมัดๆ เดียวพุ่งออกไป เฉินเป่ยจึงรีบไหวตัวให้หลบหมัดๆ นั้น จากนั้นก็จับแขนแล้วจับทุ่มหลังอย่างสวยงาม!
ทันใดนั้นก็มีหน่วยลับอีกคน ก็พุ่งมาจากด้านหลังของเฉินเป่ย แรงหมัดทั้งสองข้างน่ากลัวมาก ถ้าหมัดๆ หนึ่งชกบนเรือนร่างของเฉินเป่ย ต้องทำให้เลือดพุ่งออกมาจากปาก และกระดูกหักแน่นอน!
ทว่าวินาทีต่อไป เฉินเป่ยกลับใช้ขาข้างหนึ่งกระโดดถีบ ส่วนน่องเหมือนดั่งโซ่เหล็ก พลังของเขาระเบิดออกมา ทันใดนั้นก็ทำให้ถูกถีบจนตัวพุ่งลอยไป!
ความว่องไวของเฉินเป่ยนั้นไวเกินไป ทำให้คนหวาดผวา!
นัยน์ตาคู่สวยของไอรีนหดเล็กลง ตอนที่เฉินเป่ยระเบิดพลังออกมา เหมือนดั่งสัตว์ดุร้ายที่หลับใหลมานานจนระเบิดความโหดเหี้ยมออกมา และเกิดการรบครั้งใหญ่จนสิ้นซาก!
ดวงตาของหัวหน้ากลุ่มฉายแววดุดัน และเขาชูกำปั้นขึ้นพร้อมกับพุ่งเข้าหาเฉินเป่ย!
“ปึงๆๆ ”
เสียงอันกลัดกลุ้มดังมาจากทั้งสองคนไม่หยุด หัวหน้ากลุ่มและเฉินเป่ยต่อสู้อย่างดุเดือด ไอรีนจับจ้องเฉินเป่ยและหัวหน้าทีมไว้ อย่างไม่กล้าที่จะละสายตาไปที่อื่น!
ไอรีนถูกพลังการต่อสู้ของเฉินเป่ยทำให้นิ่งงันไป แม้แต่หัวหน้ากลุ่ม แล้วยังมีหน่วยลับมากมายขนาดนั้น ยังไม่สามารถจัดการกับเฉินเป่ยภายในระยะเวลาสั้นๆ เลย……พลังการต่อสู้ของเฉินเป่ยได้เกินสิ่งที่พวกเขาคาดหมายไปเยอะมาก!
“พู่ว! ”
จู่ๆ! หัวหน้ากลุ่มก็ร้องเสียงกลัดกลุ้มออกมาหนึ่งครั้ง ท้องน้อยของเขาถูกเฉินเป่ยถีบ จากนั้นเขาก็พุ่งออกไปไกลๆ เหมือนว่าวที่ขาดจากเชือก!
“ปึง! ”
หัวหน้ากลุ่มกระแทกลงบนพื้น จนทำให้พื้นเกิดรอยแตก ผู้ที่เห็นสถานการณ์นี้ต่างก็รู้สึกตกใจ!
“หัวหน้ากลุ่ม! ” ไอรีนทำสีหน้าที่แปรเปลี่ยน แล้วรีบพุ่งเข้าไปพยุงหัวหน้ากลุ่ม
หัวหน้ากลุ่มคลานขึ้นด้วยลำตัวที่สั่นงันงก เขามองสายตาของเฉินเป่ย เคล้าด้วยความน่ากลัว!
“เมืองหู้ไห่……ทำไมถึงมีผู้แข็งแกร่งแบบนี้อาศัยอยู่! ” หัวหน้ากลุ่มพึมพำ นัยน์ตาลุ่มลึก “ถ้าอยู่ในเยี่ยนจิง ผู้ที่มีความสามารถแบบนี้ ก็ยังถือว่าล้ำค่าและหายาก”
“หัวหน้ากลุ่ม เขา…..เป็นใครกันแน่! ” ไอรีนถามขึ้น
“มวยจูนถี่……เมื่อกี้ท่าจับทุ่มหลังนั้น เป็นท่าที่ได้มาตรฐานของมวยจูนถี่! ” หัวหน้ากลุ่มเอ่ยพูด ทำให้เรือนร่างผอมบางของไอรีนสั่นเทา
“ปึง! ”
และก็มีหน่วยสืบราชการลับคนหนึ่งถูกเฉินเป่ยทำให้ตัวพุ่งออกไป เฉินเป่ยเหมือนเทพยุทธ์ไร้เทียมทาน ทำให้หน่วยสืบราชการลับเหล่านี้ รู้สึกสั่นสะเทือนภายในใจ!
ทักษะของพวกเขายอดเยี่ยม กลับรวมพลังกันแล้วยังไม่สามารถทำอะไรเฉินเป่ยได้……แทบจะถูกจับมัดห้อยและเฆี่ยนตี!
“ฉันบอกแกคุ้นตามาก นึกว่าเป็นคนคนหนึ่งที่ตายไปแล้ว……เสียหาย ที่ฉันมองผิดไป” หัวหน้ากลุ่มมองเฉินเป่ย แล้วยิ้มอย่างขมขื่น “เขาตายไปตั้งนานแล้ว……ฉันไม่ควรเชื่ออีกต่อไปว่าเขายังมีชีวิตอยู่บนโลกใบนี้……”
เฉินเป่ยทำนัยน์ตาที่แปรเปลี่ยน ยังคงนิ่งเฉยและเย็นชา
และส่วนลึกของนัยน์ตา……กลับมีความซับซ้อนและลึกซึ้งกระเพื่อมอยู่ตลอดเวลา เขา…… เป็นคนที่เคยตายมาหนึ่งครั้งจริงๆ
นัยน์ตาของเฉินเป่ย มีภาพความทรงจำเก่าๆ ผุดขึ้นมา……ตอนนั้น หัวหน้ากลุ่ม เคยเป็นไอ้ขี้แพ้ของเขา
เวลานั้น หัวหน้ากลุ่มน่าจะเพิ่งเข้าองค์กร….. แม้กระทั่งเขายังจำได้ว่าใบหน้าของหัวหน้ากลุ่มยังดูหนุ่มและมีเสน่ห์ สุดท้ายก็ถูกหมัดๆ เดียวของเขากระทืบจนล้มยืนขึ้นไม่ได้
เวลาผ่านไปเป็นปีๆ ……ภายในใจของเฉินเป่ยแอบอุทานขึ้น และซับซ้อนจนไม่สามารถบรรยายได้
ระหว่างนี้มีการเปลี่ยนแปลงมากเกินไป……ถ้าไม่ใช่บุคลิกที่ดี หัวหน้ากลุ่มคนนี้ แล้วเขาจะจำตัวเองได้ยังไง?
ไอรีนทำนัยน์ตาคู่สวยที่เปล่งประกายความตะลึงและความสงสัย คำพูดของหัวหน้ากลุ่ม สุดท้ายเธอเข้าใจขึ้นมานิดหน่อย……หรือคนที่หัวหน้ากลุ่มพูดถึงคือการตายของบุคคลลึกลับในตำนานผู้นั้นของเยี่ยนจิง……สำหรับเหตุผลการตาย จนถึงวันนี้จะไม่กระจ่างแจ้ง!
หัวหน้ากลุ่มกลับเชื่อว่าเฉินเป่ยคือเขา?!
ไอรีนเห็นตอนที่เฉินเป่ยทำตัวหน้าด้าน ยังไงเธอก็ไม่กล้าเชื่อ คนหน้าด้านแบบนี้อย่างเฉินเป่ย จะทำให้หัวหน้ากลุ่มนึกว่าเขาคือบุคคลในตำนานคนนั้นได้ยังไง!
นี่เป็นไปได้ยังไง! คนคนหนึ่งอยู่บนที่สูงส่ง และเปล่งประกายเสน่ห์ออกมาทุกอณู ชื่อนี้ยังคงเป็นที่จดจำของหน่วยสืบราชการลับมากมายจนนับไม่ถ้วน และนับว่าเป็นเทพนิยาย
ส่วนไอ้หมอนี่ ไอรีนไม่ได้อยากประเมินเขา! เขายังจำได้ว่าตอนแรกที่เพิ่งรู้จักกัน มือที่คุกคามทางเพศของไอ้หมอนี่กำลังจับมือตัวเอง ถ้าไม่ใช่ตัวเองดึงกลับไป คิดว่าเขาคงไม่อยากปล่อย!
……
ในคฤหาสน์ ณ ห้องที่ตกแต่งด้วยสีชมพู หลีชิงเยียนกำลังนอนอยู่กับเตียงนุ่มๆ แล้วกำลังนอนหลับฝันดีอย่างสบาย……จู่ๆ ก็มีการสั่นสะเทือนเล็กน้อย ทำให้เธอตกใจจนตื่นทันที
“นี่ฉันกำลังฝันอยู่หรอ? ” หลีชิงเยียนนวดตาคู่สวยของตน แล้วสวมใส่ชุดนอนตัวหลวมลงจากเตียง จากนั้นก็เดินไปตรงข้างหน้าต่าง แล้วกวาดสายตามองไป
และตอนที่มองออกไปนอกหน้าต่าง ก็ทันใดเธอหยุดชะงักไป สีหน้าเต็มไปด้วยความตะลึงงัน!
ภาพตรงหน้า ทำให้เธอตื่นตัวขึ้นมาอย่างมาก ทั้งตัวของเธอเย็นยะเยือก!
พื้นดินเต็มไปด้วยรอยแตก เหมือนเคยมีแผ่นดินไหวเกิดขึ้น และร่างหลายร่างยืนหน้าเข้าหากัน ทำให้ภายในใจของหลีชิงเยียนตะลึงงันมาก
หลีชิงเยียนได้สติกลับมา และไม่สนใจสภาพที่เลอะเทอะของตัวเอง ผมยาวอันยุ่งเหยิงปล่อยอยู่ด้านหลัง แล้วรีบวิ่งเข้าไปในห้องนอนของซูเหลย
“ไม่ดีแล้ว เกิดเรื่องแล้ว” หลีชิงเยียนร้องตะโกนขึ้น
ซูเหลยเคยผ่านการฝึกฝนมาโดยเฉพาะ พอถูกหลีชิงเยียนกระตุ้นแบบนี้ ทันใดนั้นความมีไหวพริบ ทำให้เธอลุกขึ้นอย่างมีชีวิตชีวา แล้ววิ่งไปตรงหน้าต่าง
และตอนที่เธอเห็นเรือนร่างของคนหลายๆ คนสวมใส่สูทจงซาน ภายในใจจึงรู้สึกตะลึง!
“ไม่ดีแล้ว เราเจอปัญหาใหญ่แล้ว” ซูเหลยทำสีหน้าที่ย่ำแย่ แล้วสูดลมหายใจเข้าลึกๆ
“เป็นอะไรไป? ” หลีชิงเยียนถามขึ้น
“คนพวกนี้……” ซูเหลยชี้ไปนอกหน้าต่าง แล้วพูดด้วยเสียงต่ำ “คือหน่วยลับ”
“ปึก! ”
เรือนร่างผอมบางของหลีชิงเยียนสั่นเทาขึ้นทันที เหมือนดั่งฟ้าผ่า พอได้ยินคำพูดนี้ หัวสมองจึงเต็มไปด้วยความว่างเปล่า
ท่านประธานเทพธิดาไม่เคยไปพบปะกับบุคคลแบบนี้ ก็แค่เคยเห็นในหนังหรือนิยายเท่านั้น
สุดท้ายวันนี้กลับสามารถเห็นจริงๆ
“นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่? ” หลีชิงเยียนพยายามทำให้ตัวเองนิ่งสงบ ทว่าใบหน้าเคล้าด้วยความขาวซีด แม้กระทั่งเรือนร่างผอมบางยังสั่นงันงก!
“ฝ่ายตรงข้ามมีคนมากและมีอิทธิพลและกำลังมาก เราต้องดูสถานการณ์ก่อนค่อยว่ากัน” ซูเหลยส่ายหัว
เธอกวาดสายตามองไป จู่ๆ ก็กระซิบขึ้น นัยน์ตาจับจ้องไปยังเฉินเป่ย สีหน้าเต็มไปด้วยความสงสัย