สายเปย์เบอร์หนึ่ง - ตอนที่ 193
บทที่193 ไม่รู้จักฟ้าสูงแผ่นดินต่ำ
“เรื่องอะไรกัน?” ใบหน้างดงามของไอรีนเผยความตกใจออกมา ท่าทางตื่นตระหนก
ในใจไอรีนสั่น ดวงตางดงามจ้องภาพคนที่เต็มไปด้วยความบ้าระห่ำกดดัน การแสดงออกทางสีหน้าของเธอไม่ใช่แสร้งออกมา เธอตกใจต่อแขกที่ไม่ได้รับเชิญนี้อย่างมาก
เฉินเป่ยไม่ได้พูดอะไร แต่จ้องภาพคนคนนั้นที่ด้านนอกร้านหม้อไฟ แววตายิ่งล้ำลึก
เขาคลำบุหรี่มวนหนึ่งออกมา ถึงในร้านจะห้ามสูบบุหรี่ แต่เวลานี้เจ้าของร้านหม้อไฟตกใจจนรู้แต่วิธีหนีไปถึงที่ไหนแต่นานแล้ว เฉินเป่ยเวลานี้กำลังสูบบุหรี่ ใครจะมายุ่ง!
“พวกแกใครกัน! ขวางหน้าบ้านทำอะไร ไสหัวไป!” ในที่สุดลูกค้าที่ร่างกายกำยำคนหนึ่งก็กลั้นไม่ไหวขึ้นมา พุ่งออกมาด้านนอกร้านหม้อไฟ ตะโกนเสียงดัง
“ปึง!”
เสียงพูดของลูกค้าพึ่งจบลง มีภาพโหดเหี้ยมปรากฏขึ้นทันใด นายทหารคนหนึ่งทักษะวาร์ปตัว ชั่วพริบตาเดียวก็ปรากฏอยู่ตรงหน้าของลูกค้าแล้ว
หนุ่มใหญ่คนนั้นสีหน้าเปลี่ยนไป ดวงตาทั้งสองหดฉับพลัน!
“ตึง!”
เสียงคำรามที่น่าหดหู่ นายทหารคนนั้นค่อยๆ เก็บขากลับ ส่วนหนุ่มใหญ่คนนั้นกลายเป็นว่าวที่สายขาดไปตั้งนานแล้ว ลอยออกไปด้วยความไว ราวกับกระสอบทราบถุงหนึ่ง กระแทกที่พื้นอย่างหนัก ทำให้ลูกค้าแต่ละคนที่อยู่ในเหตุการณ์สีหน้าแข็งทื่อ ในใจสั่นสะท้าน!
เพียงขาเดียวยังทำให้หนุ่มใหญ่คนนั้นลมหายใจเบาบาง ลมเข้าน้อยแต่ลมออกมาก
พลังแฝงของขานั้นช่างน่าสยองขวัญเหลือเกิน ขาเดียวยังทำให้คนบาดเจ็บหนัก
ดวงตาของไอรีนประกายความหมายเคร่งขรึมนิดๆ สายตาของเธอกวาดมองผ่านนอกร้านหม้อไฟ นายทหารพวกนี้ฝีมือโดดเด่น ล้วนเป็นอัจฉริยะในหมู่ทหาร
คนที่มีอำนาจสามารถพาหน่วยรบแบบนี้มาได้คือที่กองทหารต้าหัว ทั้งหมดที่มีคืออิทธิพล
วันนี้ ผู้ที่มาไม่เป็นมิตร
“ไม่ต้องกังวล พวกนี้ล้วนเป็นปลาซิวปลาสร้อย” ทันใดนั้นฝ่ามือใหญ่ที่หนากว้างวางบนไหล่ของเธอทันใด เสียงที่สงบเรียบนิ่งลอยมาจากด้านข้าง ไอรีนหันหน้า มองเห็นสีหน้าของเฉินเป่ยมองทางด้านนอก คาดไม่ถึงยังมีการเหยียดหยามนิดๆ
ไอรีนสีหน้าฝืด ส่ายหน้าหัวเราะจำใจ คนพวกนี้เป็นปลาซิวปลาสร้อย? ล้อเล่นรึไง นั่นเป็นเพราะเฉินเป่ยไม่ได้เปิดหูเปิดตาต่างหาก
สถานะของคนเหล่านี้กับสถานที่ที่มา เกรงว่าเป็นสิ่งที่เฉินเป่ยจินตนาการไม่ถึง
“เปิดตัวเรื่องน่าสนุก” ห่างจากร้านหม้อไฟราวร้อยเมตร หวงหรุงจ้องมองฉากนี้อย่างเย็นชา สีหน้าฮึกเหิม
มุมปากหวงปิงโค้งรอยยิ้มขึ้น “อารองของลูกด้านนอกค่อนข้างระวังมาก มีการเตรียมพร้อม เดี๋ยวพวกเราสามารถจัดงานเลี้ยงต้อนรับอารองของลูกได้”
หลังหวงปิงพูดจบ ต่อสายโทรศัพท์ไป พูดสั่ง “รีบไปจ้องห้องอาหารห้องหนึ่ง……เอาแบบพิเศษ”
ร้านหม้อไฟเงียบสงัด ลูกค้าไม่น้อยกำลังดูความเคลื่อนไหวที่จะเกิดการก่อการร้าย มองทางหน้าประตูร้านหม้อไฟ แต่บนหน้ามากบ้างน้อยบ้างล้วนปรากฏความหวาดกลัว พวกเขากลัว ภาพคนนั้นที่ราวกับแสงแดดจ้าด้านนอก ดวงตาเย็นเฉียบราวน้ำค้างแข็ง สายตานั้นกวาดผ่าน ทำให้หัวใจของพวกเขาเต้นจนใกล้จะหยุดชะงักแล้ว
“พวกเขาเป็นใคร?” ไอรีนขดตัวทางเฉินเป่ยไป ทั้งร่างกายอ่อนช้อยแนบไปบนตัวของเฉินเป่ย
กลิ่นหมออ่อนๆ เหมือนดอกกล้วยไม้ทะลุเข้าในจมูกของเฉินเป่ย เฉินเป่ยสูดกลิ่นหอมอ่อนๆ นั้นเข้าเบาๆ กลิ่นน้ำหอมบนตัวของไอรีนละมุนสดชื่น
ในใจเฉินเป่ยเกิดความเคลื่อนไหว สะบัดความไม่พอใจอย่างอื่นออกหมด ไอรีนเป็นชั้นยอดกับคะแนน9.9อย่างแน่นอน ในฐานะราชาหลงที่เห็นผู้หญิงมานับไม่ถ้วน ต้องยอมรับว่าไอรีนหน้าตรงนั้นงดงามที่สุด
อย่างที่ชิงเหนียนว่าไว้ เฉินเป่ยสมัยอยู่ต่างประเทศ เจ้าชู้ประตูดิน ปัจจุบันชิงเหนียนนิสัยเจ้าสำราญ สามารถพูดได้ว่าโดนเฉินเป่ยพาเสียนิสัย
แต่ตอนนั้นเฉินเป่ยในฐานะผู้มีประสบการณ์เหนือขั้น สาวงามชั้นหนึ่งระดับไอรีนนี้ยังไม่เคยเจอเท่าไร
งดงามบุคลิกดูดีอย่างไอรีนนี้ กลัวว่ามีเพียงหลีชิงเยียนและเทพธิดาแห่งภูมิปัญญาของตะวันตกที่สามารถเปรียบเทียบได้
“พวกเขาคงไม่ได้มาหาพวกเราหรอกมั้ง” ดวงตาที่ใสแจ๋วของไอรีนกะพริบเบาๆ ใบหน้างดงามเผยความกลัวระดับหนึ่ง มองทางเฉินเป่ย
และเวลานี้ในใจเธอไม่สะทกสะท้านอย่างยิ่ง เธอเพียงแค่กำลังลองเชิง ลองเชิงการตอบสนองของเฉินเป่ยที่ได้ยินคำพูดเหล่านี้
เฉินเป่ยสีหน้านิ่งเฉย “ถึงแม้จะมาหาพวกเรา คุณก็ไม่ต้องกังวล ทุกอย่างมีผมอยู่”
หลังเฉินเป่ยพูดจบ แขนทั้งคู่โอบไอรีนไว้แน่น ดึงเธอเข้ามาในอ้อมอกอย่างไม่เกรงใจสักนิด
ไอรีนสีหน้าฝืด เฉินเป่ยโอบเธอแน่นมาก ใกล้จะทำให้เธอหายใจไม่ออกแล้ว!
ไอรีนกัดริมฝีปากแดงไว้ เฉินเป่ยคือคนอันพาลมากสุดๆ ฉวยโอกาสนี้ใช้มือไวของเขาคู่นั้น ไม่ได้หยุดลงมาเลย
ฝ่ามือใหญ่ของเฉินเป่ยเต็มไปด้วยหนังด้าน หยาบกร้านมาก ไอรีนอดกลั้นให้เฉินเป่ยลูบไล้ฝ่ามือไปมา……ร่างกายสั่นเทาเล็กน้อย……ฝืนกดแรงอาฆาตไว้ในใจควบคุมไม่ให้ขึ้นมา
มุมปากเฉินเป่ยยกเส้นรัศมีวงกลมที่คนอื่นยากสังเกตได้ขึ้น มือสองข้างของเขาไม่ได้หยุดลง รับรู้ถึงสัมผัสที่อ่อนนุ่ม ลูบเรือนร่างท่อนบนของไอรีนจนใกล้จะรอบหนึ่งแล้ว……
แม้กระทั่งเฉินเป่ยยังใกล้จะคาดคะเนสัดส่วนอกเอวสะโพกของไอรีนได้……
ส่วนโค้งเว้าร่างกายที่สมส่วนเซ็กซี่ของไอรีนประทับตราลึกอยู่ในสมองของเฉินเป่ย……ในใจเฉินเป่ยชมเปาะด้วยความชื่นชม……เพียงแค่รูปร่าง ไอรีนยังจะเซ็กซี่กว่าหลีชิงเยียนอยู่หลายระดับ
ไอรีนมองภาพคนคนนั้นที่อยู่ด้านนอกร้านหม้อไฟใกล้เข้ามา ใบหน้างดงามเผยความจำใจแปลกประหลาดออกมา แขกไม่ได้รับเชิญมาหาถึงที่แล้ว เจ้าหมอนี้ยังอยากจะใช้สมองมาเอาเปรียบอยู่อีก
“เฉินเป่ย คุณปล่อยฉันออกก่อน……” ไอรีนเอ่ยปากเสียงเบา เฉินเป่ยถึงได้ปล่อยไอรีนออก
“เป็นอะไรเหรอ?” เฉินเป่ยถามขึ้น
“คุณดูทางนั้น” ไอรีนชักสีหน้า เฉินเป่ยมองไปตามสายตาของไอรีน ก่อนจะตกอยู่ที่ภาพคนคนนั้นแล้วตะลึง “เขาเป็นใคร?”
“ไม่แน่ใจ เขาเหมือนจะพุ่งมาทางพวกเราเลย” ดวงตาไอรีนมองทางเฉินเป่ย สังเกตการเปลี่ยนแปลงที่แสดงบนหน้าของเฉินเป่ยอย่างละเอียด
แต่สีหน้าเฉินเป่ยเป็นธรรมชาติ ไม่มีการตอบสนองแตกต่างใดๆ สักนิดเดียว เหมือนรู้เรื่องจริง
ส่วนนอกร้านหม้อไฟ ภาพคนคนนั้นหาเฉินเป่ยเจอ ฝีเท้าเร็วขึ้นอีก รีบเร่งผลักประตูเดินเข้าร้านหม้อไฟไป เดินมาทางเฉินเป่ยโดยตรง
ในใจไอรีนเต้นรัว ทันใดนั้นมีลางสังหรณ์ที่ไม่ดีอย่างหนึ่ง……เธอเกิดความกังวลนิดๆ กลัวสถานะของตนเองจะถูกจับได้!
“ฉันขอไปเข้าห้องน้ำก่อนนะ” ไอรีนอดเอ่ยปากบอกเฉินเป่ยไม่ได้ หมุนตัวทันใด แล้วเดินไปทางห้องน้ำอย่างว่องไว
เฉินเป่ยจ้องมองภาพด้านหลังของไอรีนรีบร้อนออกไป มีความลนลานนิดๆ มุมปากเกี่ยวรอยยิ้มที่ลุ่มลึกขึ้นช้าๆ
เฉินเป่ยหันหน้า มองทางภาพคนคนนั้นด้วยรอยยิ้มอันธพาล แล้วพ่นควันบุหรี่ออกมาช้าๆ
ภาพคนคนนั้นที่อยู่ภายใต้การอารักขาของนายทหารสองคนลดฝีเท้าช้าลง ยืนอยู่ด้านหน้าของเฉินเป่ย จ้องมองเฉินเป่ยอย่างเย็นชา
“หวงจ้าน” คนผู้นั้นเอ่ยปากนิ่งๆ ดวงตาเย็นยะเยือก จ้องเฉินเป่ยแน่น “แกใช่ไหมที่เหยียบย่ำศักดิ์ศรีตระกูลหวงของฉัน?”
ร้านหม้อไฟเงียบจนน่ากลัว ลูกค้ามากมายที่นั่งอยู่ถกเถียงกันไปทั่ว สายตาไม่น้อยตกลงบนตัวเฉินเป่ย ตื่นตระหนกเพิ่มมากขึ้น
ลูกค้ามากมายที่นั่งอยู่ไม่รู้ตำแหน่งของตระกูลหวงที่เมืองหู้ไห่ แต่ผู้อาวุโสท่านหนึ่งกลับร่างกายสั่น แววตาเปลี่ยนไปเหมือนนึกอะไรขึ้นมาได้อย่างฉับพลัน
“ตระกูลหวง……คาดไม่ถึงเจ้าหมอนี้หาเรื่องตระกูลหวง นี่เขาแตะโดนเรื่องยุ่งยากใหญ่เข้าแล้ว” ผู้อาวุโสเสียงสั่น “ตระกูลหวงอยู่ที่หู้ไห่รากลึกฐานแข็ง ถึงแม้จะเป็นตระกูลของเยี่ยนจิงก็ไม่ยอมผิดใจตระกูลหวงง่ายดาย……นึกไม่ถึงยังมีคนกล้าเหยียดหยามตระกูลหวง!”
ผู้อาวุโสที่ผ่านโลกรู้มามากคนนี้พูดมาเช่นนี้ ชั่วขณะนั้นก็กระตุ้นเสียงฮือฮาไม่น้อย ลูกค้ามากมายถกเถียงไปทั่ว มองทางเฉินเป่ย แววตามีความเลื่อมใสที่รุนแรง
เฉินเป่ยมีความกล้าหาญเหลือเกิน กล้าหาเรื่องตระกูลหวง เท่ากับว่าเป็นศัตรูกับทั้งเมืองหู้ไห่เลย!
เฉินเป่ยนั่งอยู่ที่เดิมอย่างนิ่งเฉย กวาดตามองหวงจ้านทีหนึ่ง พูดหยอกล้อ “โอ้ ต่อยเด็กไปคนแก่กระโดดออกมาเลยเหรอ?”
“กลับตระกูลหวงไปกับฉันดีๆ ฉันจะให้แกตายอย่างสบายหน่อย ไม่ต้องเจ็บปวดมากขนาดนั้น” หวงจ้านเอามือไพล่หลัง พูดสั่งการแบบเบื้องบนลงมา
ว่าตามคำพูดของเขา นี่เขากำลังให้โอกาสเฉินเป่ยอยู่ โอกาสที่ตายแบบไม่เจ็บปวดขนาดนั้น เฉินเป่ยควรจะซาบซึ้งที่เขาให้ทาน
“ขอโทษนะ พวกเราสองคนรู้จักกันเหรอ?” ทันใดนั้นเฉินเป่ยถามอย่างเรียบนิ่ง
หวงจ้านตะลึง จากนั้นส่ายหน้า
ทันใดนั้นเฉินเป่ยลงมือราวกับฟ้าแลบ ระดับไวมากที่ถึงแม้จะเป็นหวงจ้านที่ฝีมือแกร่งกล้าก็ยังไม่ทันตอบสนอง!
“ปัง!”
เฉินเป่ยลงมือก่อน ตบฝ่ามือบนหน้าของหวงจ้านไปทีหนึ่ง เสียงดังกังวาน ทำให้นายทหารอัจฉริยะสองนายข้างกายหวงจ้านอึ้งค้างกัน มองทางเฉินเป่ย สีหน้ามีความไม่อยากเชื่อ!
ใครต่างคาดไม่ถึงว่าเฉินเป่ยจะรุกลงมือโหดเหี้ยมอย่างกำเริบก่อน!
ส่วนนายทหารสองคนด้านหลังหวงจ้านยิ่งตื่นตระหนก……หวงจ้าน นั่นเป็นนายพลระดับสูงของกองทหารต้าหัว เพียงพอที่จะทำให้เมืองหู้ไห่นี้สั่นสะเทือนเลยนะ!
ผลสุดท้ายผู้ชายที่ไม่รู้ฟ้าสูงแผ่นดินดำคนนี้ยังกล้าลงมือกับหวงจ้าน
หาที่ตายอย่างยิ่งเลย!
หวงจ้านมองทางเฉินเป่ย แววตายิ่งหนาวเหน็บลุ่มลึกยิ่งขึ้น เขายื่นมือ ค่อยๆ ลูบแก้มที่แดงนิดหน่อย ตะโกนทันที “ทหารทุกคนฟังคำสั่ง!”
“พึบพับ!” นายทหารนับไม่ถ้วนด้านนอกร้านหม้อไฟปรับหมุนปากกระบอกปืน ล็อกไว้ที่เฉินเป่ย!
พวกเขาแต่ละคนท่าทางเย็นชาเคร่งขรึม ปืนโทนสีดำปลดเซฟออกตั้งแต่นานแล้ว ขอเพียงเหนี่ยวไกปืน คงทำให้เปลวไฟปกคลุมพื้นที่นี้ไปทั่วทุกแห่ง
เกรงว่าร่างกายของเฉินเป่ยคงจะโดนยิงจนเป็นรูพรุน กลายเป็นตะแกรงอันหนึ่ง
ในร้านหม้อไฟเกิดความวุ่นวาย ลูกค้าหลายคนมองทางเฉินเป่ย สายตาเผยความเห็นใจ
และมีลูกค้าบางส่วนที่หัวเราะเยาะ ถ้าเฉินเป่ยไม่หาที่ตาย สถานการณ์คงไม่เลวร้ายขนาดนี้
“ไม่รนหาที่ตายก็ไม่ตาย เขาจบเห่แล้ว” มีคนพึมพำเสียงต่ำ
“คนของตระกูลหวงแห่งหู้ไห่ เขายังกล้ามีเรื่อง ตัวเองคงไม่อยากอยู่แล้ว” ลูกค้าอีกคนพูดอย่างกำกวม
“ผู้ต้องสงสัยเฉินเป่ย ต้องสงสัยว่าเป็นภัยต่อความปลอดภัย เอาตัวไป!” หวงจ้านเอามือไพล่หลัง เอ่ยปากอย่างเย็นเฉียบ นายทหารแต่ละนายพุ่งเข้าร้านหม้อไฟ นำปากกระบอกปืนจี้ที่ด้านหลังของเฉินเป่ย!
ชั่วขณะนั้นบรรยากาศแปรเปลี่ยน เต็มไปด้วยกลิ่นดินปืนเข้มข้น
เฉินเป่ยล้วงมือไว้ในกระเป๋ากางเกง พ่นควันบุหรี่ออกมาช้าๆ พูดหยอกล้อ “สมัยนี้ยังตั้งข้อหาตามใจชอบขนาดนี้เลยเหรอ?”
“ช่างเถอะ ฉันจะไปกับพวกนายสักหน่อยก็ได้ ดูสิว่าหลังจากตกต่ำ พวกนายตระกูลหวงแห่งหู้ไห่ยังมีลูกไม้อะไรไม่เคยใช้อีก” เฉินเป่ยเอ่ยปาก ทำให้ลูกค้านับไม่ถ้วนในร้านหม้อไฟต่างถูกฟ้าผ่ากันหมด……ทั้งที่ตกอยู่ในอันตราย คาดไม่ถึงยังฝืนแสร้งทำเป็นนิ่งเฉยได้ แถมเสียดสีตระกูลหวง
นี่สรุปว่าหัวใจใหญ่แค่ไหน ความกล้ามากแค่ไหนกันแน่? หรือว่าเขาไม่กลัวตระกูลหวงแห่งหู้ไห่จริงๆ?
“ไป” หวงจ้านหัวเราะเยาะ มุมปากเผยความหมายเย็นชาขึ้น สำหรับเขานั้น นี่คือเฉินเป่ยแกล้งทำไม่สะทกสะท้าน รอไปสถานีตำรวจ ตระกูลหวงมีวิธีเป็นหมื่นที่ทำให้เอ๋อตงเฉินตาย!