สายเปย์เบอร์หนึ่ง - ตอนที่ 208
เราจะทยอยไล่แก้ให้ยามว่างอยากให้แก้เรื่องไหนคอมเมนต์ไว้นะคะ
แต่บางเรื่องเราก็ไม่มีไฟล์แล้วเหมือนกัน
บทที่208 มาหาถึงที่
ดวงตาทั้งคู่ของเฉินเป่ยหรี่ลงเล็กน้อย มองประธานหวงอยู่ บนหน้าประธานหวงแขวนรอยยิ้มที่มั่นใจไว้ ได้ใจอย่างมาก
ประธานหวงเหมือนหนักแน่นในจุดจบของเฉินเป่ยมาก ไม่กังวลว่าเฉินเป่ยจะสามารถทำเรื่องที่พนันไว้ให้เป็นจริงได้สักนิดเดียว
จากประสบการณ์ที่เขาฝ่าฟันในวงการธุรกิจ เฉินเป่ยอาจทำเรื่องที่พนันไว้ให้เป็นจริงได้ ขายของปลอมร้อยชุดออกไปด้วยราคาเท่าของจริง สำหรับเขานั้นเป็นเรื่องยากลำบากมาก
ยิ่งไปกว่านั้นเฉินเป่ยเป็นเพียงลูกเขยแต่งเข้าบ้านฝ่ายหญิงของบ้านหลีคนหนึ่ง ประธานหวงเคยตรวจสอบเฉินเป่ย เฉินเป่ยไม่มีประวัติในด้านการค้าขายใดๆ เป็นแค่อันธพาลข้างถนนคนหนึ่ง จะนำของออกไปขายได้จริงๆ อย่างไรกัน!
จากที่ประธานหวงดูแล้ว เดิมทีเฉินเป่ยไม่ประมาณกำลังของตนเอง ของร้อยชุด เฉินเป่ยไม่อาจขายออกได้
ประธานหวงแน่ใจอย่างมาก ดังนั้นถึงพูดออกมาด้วยความสบายใจขนาดนั้น
“หึๆ ……” ทันใดนั้นสิ่งที่ทำให้ทุกคนในเหตุการณ์คิดไม่ถึงคือเฉินเป่ยหัวเราะขึ้นมากะทันหัน มองทางประธานหวง สีหน้าสงบนิ่ง น้ำเสียงเผยความหมายเสียดสีออกมา “ตอนนี้ฉันให้โอกาสนายเก็บคำพูดเมื่อกี้กลับไป”
“เก็บกลับไป?” ประธานหวงตะลึง จากนั้นหัวเราะฮาๆ “ฉันเป็นกรรมการมาหลายปีขนาดนี้แล้ว แต่ไหนแต่ไรคำพูดที่พูดออกไปก็เหมือนน้ำที่สาดออก ไม่เคยมีเหตุผลให้เก็บกลับ นายถือว่าเป็นอะไร ให้ฉันเก็บกลับไป?”
ประธานหวงยิ้มเยาะ รอยยิ้มถากถางระดับสุด
“ฉันขอเตือนนายว่าอีกเดี๋ยวอย่าเสียใจล่ะ” เฉินเป่ยพ่นเสียงออกมา ส่วนหลีชิงเยียนกับหลีหยางต่างไม่เข้าใจกัน นี่เฉินเป่ยอยากทำอะไร?
หลีชิงเยียนกัดฟันทั้งปากใกล้กัดแตกแล้ว……เธอนึกไม่ถึงว่าเฉินเป่ยจะกำเริบเสิบสานขนาดนั้น เขาคิดว่าตนเองสามารถขายของล็อตนั้นออกไปได้จริงเหรอ?
ของร้อยชุดนั้น แม้แต่หลีชิงเยียนที่เครือข่ายกว้างมากยังไม่มีความมั่นใจ ให้เฉินเป่ยมา เดิมทีนี่เป็นภารกิจที่ไม่อาจสำเร็จได้!
ผลสุดท้ายเจ้าหมอนี้ยังทำท่าทียิ่งโอหังขึ้นมา ทำเหมือนว่าเขามีความลับอะไรสักอย่าง
“สรุปนายอยากทำอะไร?” ในโต๊ะทำงาน ขายาวที่อิ่มเอิบเรียวยาวของหลีชิงเยียนข้างหนึ่งเตะไปที่เฉินเป่ยนิดหน่อย สอบถามเสียงต่ำ
เฉินเป่ยมองทางหลีชิงเยียน พูดแบบมีความหมายลึกซึ้ง “ช่วยคุณสั่งสอนพวกเขาดีๆ สักหน่อย เชือดไก่ให้ลิงดู”
ใบหน้างดงามของหลีชิงเยียนฝืด ประธานนางฟ้าหน้าใกล้จะดำไปหมด แทบอยากบ้าคลั่ง!
ยังจะฆ่าไก่อะไร ให้ลิงอะไรดู! ก็ความสามารถอย่างนายนี้ ถ้าของขายไม่ออก ถูกประธานหวงที่มีอำนาจผูกขาดพุ่งเป้า ต่อไปที่บริษัทตระกูลหลีกรุ๊ปคงอยู่ต่อไปไม่ได้
ในใจหลีชิงเยียนเยาะเย้ยอย่างคลุ้มคลั่ง เจ้าหมอนี้ไม่รู้จักฟ้าสูงดินหนา ภายในคณะกรรมการมีกรรมการมากมายที่ความสัมพันธ์ราวกับพี่น้องท้องเดียวกัน คำพูดนั้นของเฉินเป่ยเมื่อสักครู่ ไม่รู้ว่าจะผิดใจกรรมการมากเท่าไรแล้ว
เฉินเป่ยพูดจาไม่คิดก่อน หลีชิงเยียนทำได้เพียงยิ้มเข้าสู้สถานการณ์คับขัน “ทั้งสองคนใจเย็นๆ ก่อน เรื่องนี้ไม่ใช่หัวข้อหลักในการประชุมครั้งนี้”
หลีหยางที่อยู่ด้านข้างพูดตามมาติดๆ “จริงด้วย ประชุมให้เสร็จก่อน อย่าให้เรื่องส่วนตัวบางอย่างขัดขวางการดำเนินการประชุมทั่วไปเลย”
“มีบางเรื่องไม่สามารถช่างไปแบบนี้ได้” ประธานหวงจ้องมองเฉินเป่ยอยู่ “ผมเคยไปถามแผนกการตลาด ตั้งแต่เฉินเป่ยขึ้นตำแหน่งรองประธานมา ไม่เคยสร้างรายได้ให้บริษัทตระกูลหลีกรุ๊ปเลย ของร้อยชุดในปัจจุบันนี้นั้น แม้แต่ชุดหนึ่งเขายังขายออกไปไม่ได้ เมื่อกี้ยังต่อยหวงเฟยไป ฝ่าฝืนกฎระเบียบบริษัทอย่างร้ายแรง……”
ประธานหวงพูดอย่างเย็นชา “ผมแนะนำให้รีบไล่ออก คนอย่างเขานี้ไม่คู่ควรจะอยู่ที่บริษัทตระกูลหลีกรุ๊ป”
คำพูดของเฉินเป่ยราวกับยั่วโมโหประธานหวงแล้ว ทำให้เขาลุกขึ้นทันใด นำเรื่องที่ควรพูดอีกหนึ่งอาทิตย์ พูดออกมาก่อนล่วงหน้า
“ถ้าท่านประธานกรรมการไม่สามารถให้คำตอบที่พอใจกับผมได้ ผมจะถอนหุ้น ถอยออกจากคณะกรรมการ” ประธานหวงพูดเสียงดุ
ภายในห้องประชุมเงียบสงัดราวกับตายไปแล้ว เงียบเสียจนเสียงใบไม้ร่วงยังได้ยิน คำพูดของประธานหวงดังก้องในห้องประชุม ทันใดนั้นทำให้หลีชิงเยียนกับหลีหยางสีหน้าเปลี่ยน
หลีชิงเยียนกับหลีหยางคาดการณ์เอาไว้ตั้งแต่แรก แต่พวกเขานึกไม่ถึงว่าประธานหวงจะถอนออกไปเร็วขนาดนั้น
“ประธานหวง คุณจริงจังเหรอ?” หลีหยางขมวดคิ้วถาม
ประธานหวงพยักหน้าแล้ว “ลูกชายผมอยู่ที่นี่โดนรังแกเข้า ผมไม่สามารถตัดสินให้เขาได้ งั้นพวกเราตระกูลหวงไม่สู้ออกไปจากที่นี่ดีกว่าเหรอ”
หลีหยางกวาดตามองกรรมการคนอื่นๆ ทีหนึ่ง กรรมการเหล่านั้นเตรียมแผนการก่อการร้าย เห็นได้ชัดว่าพวกเขากับประธานหวงมีความสัมพันธ์ที่แนบแน่น ขอเพียงประธานหวงถอนหุ้น พวกเขาต้องค่อยๆ ทยอยถอนหุ่นเช่นกัน……ไม่มีการสนับสนุนของกรรมการเหล่านี้ บริษัทตระกูลหลีก็พ่ายแพ้ง่ายมาก
ประธานหวงมองเฉินเป่ยอย่างหยอกเย้าทีหนึ่ง สายตาเพิ่มความหมายเย้ยหยันหลายระดับ
เขาวางแผนทุกอย่างไว้เรียบร้อยตั้งนานแล้ว เพียงแต่วันนี้นำแผนนี้มาเพิ่มระดับ ทำให้เป็นจริงก่อนล่วงหน้า
ถึงเฉินเป่ยจะโอหังอย่างไร เวลานี้คงดีใจไม่ออก ความสำคัญของเขาต่อบริษัทตระกูลหลีกรุ๊ป อาจทำให้หลีหยางมีโอกาสสูญเสียประธานหวงได้
เพื่อบริษัทตระกูลหลีกรุ๊ปแล้ว หลีหยางไล่ต้องเฉินเป่ยออกอย่างไม่ลังเลโดยเด็ดขาด การกระทำนี้เขากำลังกดดันทางหลีหยาง ซึ่งหลีหยางไม่อาจไม่เข้าใจจุดนี้
ในห้องประชุมเต็มไปด้วยความเงียบสงัด บรรยากาศอึดอัด หลีหยางขมวดคิ้วแน่น ตั้งแต่ต้นจนจบไม่ได้เอ่ยปากสักประโยคเดียว
เวลานี้ยิ่งเป็นช่วงที่เขากำลังทำการเลือก……เฉินเป่ยและประธานหวง เขาได้เพียงเลือกหนึ่งคน……แต่เขาสองคนล้วนไม่ยอมเลือกทั้งนั้น ลำบากใจเหลือเกิน
เฉินเป่ยสีหน้าอึมครึม พูดเสียงหนาวเหน็บ “นายคิดว่าแบบนี้มีประโยชน์แล้วเหรอ?”
“นายคิดว่านายจะสำคัญกว่าฉัน?” ประธานหวงพูดเสียดสี “แม้แต่ที่พนันไว้นายยังทำไม่ได้ คู่ควรที่จะมาแหกปากตรงหน้าฉันอีกเหรอ?”
คำพูดประธานหวงพึ่งจบลง เสียงทุบประตูใหญ่ห้องประชุมที่เร่งรีบดังขึ้นกะทันหัน!
“เข้ามา” หลีหยางเอ่ยปาก เห็นเพียงผู้จัดการแผนกการเงินรีบร้อนพุ่งเข้ามาจากด้านนอก สีหน้าตื่นตระหนก “ท่านประธานกรรมการครับ ผมมีเรื่องสำคัญมารายงานท่านครับ”
“มีเรื่องอะไรที่ไม่สามารถรอให้ประชุมเสร็จก่อนแล้วค่อยบอก?” เวลานี้หลีหยางกำลังไม่สบายใจ ขมวดคิ้วถาม น้ำเสียงไม่มีความสุขมากๆ
“เรื่องนี้สำคัญเหลือเกินครับ ผมจำเป็นต้องรายงานกับท่านเดี๋ยวนี้” ในมือผู้จัดการแผนกการเงินถือเอกสารฉบับหนึ่ง พูดเสียงสั่นเครือแบบพึมพำ “ท่านประธานกรรมการครับ ก่อนหน้านี้หนึ่งนาที ในบัญชีธนาคารของบริษัทปรากฏจำนวนลึกลับสามพันล้านมากะทันหันครับ”
“สามพันล้าน? มากขนาดนี้?” ชั่วขณะนั้นหลีหยางสีหน้าเปลี่ยนไป หลีชิงเยียนขมวดคิ้วแน่น “ไม่น่าจะใช่ ช่วงนี้บริษัทตระกูลหลีกรุ๊ปไม่มีการร่วมงานโครงการใหญ่พิเศษ โครงการที่ร่วมงานด้วยก่อนหน้านี้ยังไม่เริ่มทำกำไรเลย สามพันนี้มาได้ยังไง?”
ผู้จัดการแผนกการเงินส่ายๆ หน้า กลืนน้ำลายแล้วพูดไปตามจริง “พวกเราค้นหาดู บัญชีธนาคารที่โอนเงินผ่านความพิเศษลึกลับ ค้นหาที่มาของบัญชีธนาคารไม่เจอครับ”
ในห้องประชุม กรรมการมากมายสีหน้าเปลี่ยนแปลง มองหน้าซึ่งกันและกัน ในบัญชีของบริษัทตระกูลหลีปรากฏเงินสามพันล้านขึ้นกะทันหัน เห็นได้ชัดว่าไม่ปกติอย่างยิ่ง!
ไม่มีใครรู้ว่าสามพันล้านนี้มาได้อย่างไร คาดไม่ถึงแม้แต่ต้นเหตุยังหาไม่เจอ
“นายแพ้แล้ว” ทันใดนั้นมุมปากเฉินเป่ยโค้งรอยยิ้มขึ้น มองทางประธานหวงพร้อมเอ่ยปากนิ่งๆ คำพูดของเฉินเป่ยทำให้คนอื่นทั้งรู้สึกประหลาดใจ ทั้งรู้สึกสับสน
แม้แต่หลีชิงเยียนที่อยู่ด้านข้างยังมองเฉินเป่ยด้วยท่าทางสงสัยทีหนึ่ง สามพันล้านที่มาอย่างลึกลับนี้……และไม่ได้บอกว่าเป็นใคร ยิ่งทำให้ความมั่นใจนี้ของเฉินเป่ยเกินเหตุ
ช่างมองความคิดของเขาเองว่าดีมากเกินไป สามพันล้านเพียงพอให้ซื้อของปลอมนับไม่ถ้วนได้ จะมีคนตัดสินใจทำข้อตกลงแบบนี้กับเขาได้อย่างไรกัน
ผู้จัดการแผนกการเงินพึ่งรายงานจบก็มีเลขาสาวคนหนึ่งรีบร้อนพุ่งเข้ามาที่ห้องประชุม “ท่านประธานกรรมการคะ มีคนต้องการพบท่านค่ะ”
“เขานัดไว้ล่วงหน้ารึเปล่า? ให้เขารอก่อน!” หลีหยางถูกเรื่องราวติดๆ กันทำเอาจิตใจสับสนวุ่นวาย น้ำเสียงดูไม่อดทนไปหลายระดับ
“เขาบอกว่าเขาเป็นผู้จัดการของไห่ซือกรุ๊ปค่ะ อยากจะเจอท่าน เซ็นสัญญากับท่านค่ะ” เลขาสาวเอ่ยปากอย่างลังเล ชั่วขณะนั้นทำให้หลีหยางสีหน้าตะลึง
“เธอว่าอะไรนะ เขาเป็นคนของไห่ซือกรุ๊ป?” หลีหยางสีหน้าตกใจ กรรมการหลายคนที่อยู่ในห้องประชุมสีหน้าเปลี่ยนเล็กน้อย
“ไห่ซือกรุ๊ปเป็นกิจการระดับสูงของยุโรป ยิ่งเป็นหนึ่งในพันธมิตรธุรกิจยุโรป พวกเรารวมตัวกับพวกเขา พวกเขามาหาถึงที่แบบกะทันหันได้ยังไงกัน?” หลีชิงเยียนกอดหน้าอกไว้ ดวงตางดงามเผยความงงงวย
ด้านข้าง เฉินเป่ยนั่งไขว่ห้างอยู่ สีหน้าเรียบเฉย เหมือนเรื่องพวกนี้ไม่มีความเกี่ยวข้องกับเขาสักแดงเดียว
“เร็ว เชิญเขาเข้ามา คนของไห่ซือมา จะชักช้าไม่ได้!” ประธานหวงหลังตะลึงครู่หนึ่ง ตอบสนองเข้ามา ดวงตาทั้งคู่ปรายความมันวาวที่รุนแรงและเร่าร้อน
ไห่ซือกรุ๊ปเป็นที่ต้นไม้ใหญ่ต้นหนึ่งของต่างประเทศ ถ้าประธานหวงสามารถสร้างมิตรภาพกับไห่ซือกรุ๊ปได้ ผลประโยชน์ย่อมไร้ขีดจำกัด
“เชิญเขาเข้ามาเถอะ” หลีหยางพูดขึ้น
ไม่นานผู้ชายตาฟ้าผมทองท่านหนึ่งก็เดินเข้าห้องประชุม โค้งตัวทำความเคารพ การกระทำสง่างาม กวาดตามองผู้คนในห้องประชุมทีหนึ่ง ใช้ภาษาต่างประเทศที่คล่องแคล่วถามขึ้น “พวกคุณตรงนี้ใครเป็นผู้นำ?”
“ผมเอง” หลีหยางลุกขึ้น บนหน้าแขวนรอยยิ้มธุรกิจที่ได้มาตรฐานมากอยู่
ผู้ชายตาฟ้าผมทองพยักหน้าแล้วเดินมาด้านหน้าหลีหยาง จับๆ มือกับหลีหยางแล้วใช้ภาษาหัวเซี่ยที่ไม่คล่องพูดว่า “ผมมาวันนี้เพื่อมาทำการค้าอย่างหนึ่งกับบริษัทตระกูลหลีให้สำเร็จ”
“ท่านนั่งก่อน ไม่ทราบว่าบริษัทของท่านอยากร่วมงานกับบริษัทตระกูลหลีกรุ๊ปด้านไหน?” ประธานหวงมอบที่นั่งให้เองด้วยความกระตือรือร้นต่างออกไปมาก เชิญชายตะวันตกเหล่านั้นนั่งลง
แต่ผู้ชายตะวันตกท่านนั้นโบกๆ มือ มองทางหลีหยางบอกว่า “ผมได้รับคำสั่งของบริษัทใหญ่ ให้นำสัญญาฉบับนี้มาเซ็นชื่อกับพวกคุณโดยตรง โดยรวมบริษัทใหญ่ก็เคยคุยกับพวกคุณแล้ว ไม่เกี่ยวข้องกับผม” ผู้ชายตะวันตกยื่นสัญญาออกไป
แต่ทั้งห้องประชุมต่างมึนงงกัน หลีหยางยิ่งรอยยิ้มแข็งทื่อ ตะลึงค้างเป็นหินอยู่ที่เดิม
คำพูดของผู้ชายตะวันตกทำให้แต่ละคนในเหตุการณ์ต่างสับสน ไห่ซือกรุ๊ป เป็นความสัมพันธ์ที่ไม่เกี่ยวข้องกันกับบริษัทตระกูลหลีกรุ๊ปสักนิด จะเคยเจรจากันได้อย่างไรกัน
หลีหยางขมวดคิ้วเล็กน้อย พูดเสียงทุ้ม “พวกเราไม่เคยคุยกับไห่ซือกรุ๊ปเลย พวกเราล้วนคาดไม่ถึงว่าไห่ซือกรุ๊ปจะมาหาพวกเราด้วย”
“บริษัทของท่านเข้าใจผิดหรือเปล่า?” ประธานหวงที่อยู่ด้านข้างถามขึ้น
แม้แต่หลีชิงเยียนยังงง ใบหน้างดงามสง่าตะลึงงัน ถึงแม้เธอที่เย็นชาและฉลาด ยังไม่เข้าใจว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่
“โนๆๆ บริษัทใหญ่ของผมไม่อาจเข้าใจผิดได้ คำสั่งที่ผมได้รับคือนำสัญญาฉบับนี้มาเซ็นชื่อกับพวกคุณ เงินก็โอนเข้าบัญชีพวกคุณแล้ว” ผู้ชายตะวันออกปัดๆ มือพูดขึ้น
ในห้องประชุม ประธานหวงสีหน้าดูแย่เล็กน้อย เขาปฏิบัติต่อผู้ชายตะวันตกอย่างกระตือรือร้นไม่หยุด แต่ผู้ชายตะวันตกไม่ได้สนใจเขาแต่อย่างใด
ในห้องประชุม กรรมการหลายท่านมองหน้าซึ่งกันและกัน ทุกคนล้วนฉงนสนเท่ห์ ไม่รู้เรื่องราวอะไร
และในเวลานี้ เฉินเป่ยลุกขึ้นมากะทันหัน เอ่ยปากบอกทางผู้ชายตะวันตกท่านนั้นฉับพลัน “ผมมาเซ็นชื่อกับคุณแล้วกัน