สายเปย์เบอร์หนึ่ง - ตอนที่ 209
บทที่209 สั่งสินค้าสามพันล้าน
พอเฉินเป่ยเอ่ยปาก ชั่วพริบตาหนึ่งทำให้ห้องประชุมเงียบลงมาด้วยความรวดเร็วอีกครั้ง กรรมการหลายท่านด้านข้างมองทางเฉินเป่ยด้วยสีหน้าเหยียดหยาม
หลีชิงเยียนที่อยู่ด้านข้างได้ยินคำพูดประโยคนี้ของเฉินเป่ย ใบหน้างดงามเย็นชา เจ้าหมอนี้คิดทำชั่วอะไรอีก?
ประธานนางฟ้าไม่เข้าใจ แต่สีหน้าเธอดูไม่สู้ดีมาก
“นายรู้มั้ยว่าคำพูดนี้ของนายหมายความว่าอะไร?” หลีชิงเยียนดึงๆ แขนเสื้อของเฉินเป่ยแล้ว สอบถามเสียงต่ำ
“ผมรู้” เฉินเป่ยมองทางหลีชิงเยียน ท่าทางนิ่งสงบ
“โอ๊ะ ตอนนี้สวะที่เกาะผู้หญิงกินสามารถตัดสินใจแทนประธานกรรมการได้แล้วรึไง?” ประธานหวงยืนอยู่ตรงข้ามกับเฉินเป่ย หลังจากตะลึงไปก่อน จากนั้นไม่นานก็ตอบสนองเข้ามา ส่งเสียงหัวเราะเยาะ พูดถากถาง
“นี่เป็นสิ่งที่ท่านประธานกรรมการตัดสินใจ นายมีสิทธิ์อะไรมาพูดแทนท่านประธานกรรมการ?” กรรมการอีกท่านเอ่ยปาก
เฉินเป่ยหรี่ดวงตาทั้งคู่ขึ้น กรรมการหลายคนที่อยู่ด้านในรวมทั้งประธานหวงด้วย และเวลานี้หลีหยางยิ่งขมวดคิ้วลึกขึ้น
เขากลับไม่ถือสาเฉินเป่ยที่มาตัดสินใจแทนเขา เพียงแต่เห็นได้ชัดว่ากรรมการเหล่านี้อยากถือโอกาสก่อเรื่องวุ่นวาย มีเจตนาร้ายแอบแฝงอยู่
“สรุปเป็นใครที่ไปเจรจากับบริษัทใหญ่ ต้องเป็นคนนั้นมาเซ็น” ผู้ชายตะวันตกด้านข้างทนดูไม่ไหวแล้ว ชักสีหน้าไม่พอใจ
“ได้ยินรึยัง ไห่ซือกรุ๊ปบอกแล้วว่าใครที่เจรจากับไห่ซือ ให้คนนั้นไปเซ็น” ประธานหวงยิ่งได้ใจเข้าไปอีก ยิ้มเยาะบอก “ถึงยังไงก็ไม่ถึงกับให้นายไปเซ็น นายมีสิทธิ์อะไร”
ประธานหวงพึ่งพูดจบ ภายใต้การจับจ้องของหลีชิงเยียนหลีหยางและกรรมการหลายคน เฉินเป่ยพูดจานิ่งๆ “ฉันเจรจากับไห่ซือกรุ๊ปเอง ฉันไม่มีสิทธิ์เหรอ?”
น้ำเสียงเฉินเป่ยสงบนิ่งไร้ที่เปรียบ ราวกับเรื่องนี้ปกติเสียยิ่งกว่าอะไร แต่ลอยไปในหูของคนอื่นๆ กลับเหมือนฟ้าผ่าวันฟ้าใส ทำให้พวกเขาท่าทางตกใจ
ดวงตาหลีชิงเยียนเบิกโต ใบหน้างดงามเต็มไปด้วยความมหัศจรรย์
“นายพูดเพ้อเจ้ออะไร” หลีชิงเยียนพูดเสียงเรียบ และรีบใช้ภาษาต่างประเทศที่คล่องแคล่วขอโทษทางผู้ชายตะวันตกไป “ขอโทษด้วยค่ะ เขากำลังพูดไร้สาระ อย่าเชื่อคำพูดเพ้อเจ้อของเขาเลย”
“นายรู้มั้ยว่าคำพูดนี้ของนายหมายความว่าอะไร ต้องรับผิดชอบอะไรเป็นผลสุดท้ายมั้ย” ประธานหวงที่ยืนตรงข้ามเฉินเป่ยหัวเราะเสียงดัง รอยยิ้มเย้ยหยันที่สุด มองทางเฉินเป่ยด้วยสายตาดูถูก
เฉินเป่ยกวาดตาแวบหนึ่ง ตอนมองเห็นบนหน้ากรรมการคนอื่นๆ เผยยิ้มที่เหยียดหยามออกมากันหมด จึงทำปากยื่น ปวดหัวอย่างมาก
เขาคาดไม่ถึงว่าพอพูดกับคนเหล่านี้แล้ว พวกยังไม่เชื่อกันอีก
“เฉินเป่ย เป็นเรื่องจริงเหรอ?” หลีหยางขมวดคิ้ว มองทางเฉินเป่ย ก่อนสอบถามไป
ถึงแม้ว่าภายในใจหลีหยางจะมีความสงสัยต่อเฉินเป่ยเช่นกัน
เฉินเป่ยแอบถอนใจอยู่ภายใน เดินไปตรงหน้าของผู้ชายตะวันตก บอกว่า “โทรศัพท์หาเจ้านายพวกคุณถามดูหน่อยก็รู้แล้ว”
ผู้ชายตะวันตกพินิจพิเคราะห์เฉินเป่ยอย่างเมินเฉยทีหนึ่ง มองเห็นชุดชายทะเลบนตัวของเฉินเป่ย สีหน้าเผยความหยิ่งยโสหลายระดับออกมาอย่างชัดเจน
แต่หลังจากที่เขาโทรศัพท์เสร็จ ท่าทีเปลี่ยนเป็นหน้างอบึ้งตึงอย่างมากโค้งตัวกล่าวทางเฉินเป่ยด้วยความเคารพนบน้อม “คุณเฉิน ขอโทษครับ เป็นความสะเพร่าของผมเอง”
เวลานี้ผู้ชายตะวันตกท่านนี้เต็มไปด้วยท่วงท่าสุภาพบุรุษแบบยุโรป การเปลี่ยนแปลงของท่าทีแบบหน้ามือหลังมือ ทำให้คนแทบไม่อยากเชื่อ
หลีชิงเยียนยืนตรงอยู่ที่เดิม มองเห็นเฉินเป่ยกับผู้ชายตะวันตกคุยกันอย่างร้อนแรงก็มึนงงแล้ว
เวลานี้ผู้ชายตะวันตกอยู่ต่อหน้าเฉินเป่ย ยังมีออร่าหยิ่งยโสแบบที่นำมาด้วยตอนพึ่งเดินเข้ามาที่ไหนกัน ท่าทีอ่อนโยนถ่อมตัว ไม่มีอารมณ์เสียตั้งนานแล้ว
เขาไม่กล้าผิดใจเฉินเป่ย เพราะเขารู้ว่าผู้ชายที่รูปร่างหน้าตาธรรมดาตรงนี้คนนี้พึ่งบรรลุโครงการขนาดใหญ่จำนวนสามพันล้านกับทางบริษัทใหญ่ไป
เขานึกไม่ถึงว่าผู้ชายคนนี้กับบริษัทใหญ่สรุปแล้วร่วมงานอะไรกัน คาดไม่ถึงว่าเพียงอึดใจเดียวบริษัทใหญ่จะจ่ายมาถึงสามพันล้าน
เรื่องแปลกประหลาดที่ไม่เคยได้ยิน แต่ไหนแต่ไรเขาไม่เคยได้ยิน การร่วมงานของบริษัทสาขาใหญ่กับธุรกิจชื่อดังแนวหน้าต่างประเทศพวกนั้น แถมยังโอนเงินไปให้ก่อนด้วย
แต่บนตัวของผู้ชายคนนี้กลับเป็นอุทาหรณ์
ผู้ชายตะวันตกไม่กล้าล่วงเกินเฉินเป่ย คนที่เป็นลูกค้ารายใหญ่ของบริษัทแม่ เดิมทีตนเองจะหาเรื่องไม่ได้
ส่วนรอยยิ้มบนหน้าประธานหวงยังไม่ได้ถอยไป ทว่าแข็งทื่อฉับพลัน
ตอนที่เขามองเห็นเฉินเป่ยกับผู้ชายตะวันตกพูดคุยหัวเราะกัน สีหน้าชะงักงัน แววตาหดทันที เผยความตกใจออกมา
อย่างไรเสียประธานหวงก็คาดไม่ถึงว่าเฉินเป่ยจะสามารถคลุกคลีกลายเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันกับผู้ชายตะวันตกได้เร็วขนาดนี้ สีหน้าเขาหนาวเหน็บดูแย่ ในใจมีลางสังหรณ์ที่ไม่เป็นมงคลอย่างหนึ่ง
“งั้นก็ตกลงตามนี้ หลังเซ็นสัญญานี้เสร็จ ฝากขอบคุณเจ้านายพวกคุณแทนผมด้วย” เฉินเป่ยหัวเราะนิดหน่อย ก่อนจะบอกไป
ผู้ชายตะวันตกพยักหน้า มีสัมพันธไมตรีกับเฉินเป่ยทำให้เขาจิตใจสบาย รีบรับปากขึ้นมาทันที “คำไหนคำนั้นครับ”
ภาษาหัวเซี่ยที่ไม่คล่องประโยคหนึ่งราวกับเป็นค้อนใหญ่อันหนึ่ง ทำให้ผู้คนทั้งหมดในเหตุการณ์หัวใจสั่นสะท้าน เหมือนโดนค้อนใหญ่ทุบตรงกลาง
หลีหยางเดาอะไรได้ ถามเสียงสั่น “พวกคุณบรรลุข้อตกลงอะไรกัน?”
“อัญมณีร้อยชุด เดี๋ยวผมจะให้บริษัทขนส่งมาขนของไป” ผู้ชายตะวันตกตอบตามความจริง
ชั่วพริบตาเดียวในห้องประชุมก็มีเสียงฮือฮาขึ้นมา ประธานหวงยืนอยู่ที่เดิม ร่างกายสั่นเทา สีหน้าซีดเซียว
เขาจ้องเฉินเป่ยตาเขม็ง ในสายตามีความตื่นตระหนกแบบยากจะเชื่อถือ
เดิมทีประธานหวงไม่มีทางยอมรับคำพูดของผู้ชายตะวันตกได้……เฉินเป่ยทำสัญญาที่พนันไว้นั้นได้สำเร็จจริง
นี่พึ่งผ่านมานานเท่าไร เฉินเป่ยบอกว่าสำเร็จก็เสร็จเรียบร้อยแล้ว เหมือนเรื่องที่พนันครั้งนี้ สำหรับเขาแล้วไม่ถือว่าเป็นอะไร
ประธานหวงท่าทางตกตะลึงมาก ความเป็นจริงตบหน้าเขาอย่างรุนแรงทีหนึ่ง ลูกเขยแต่งเข้าบ้านฝ่ายหญิงของบ้านหลีคนนี้ ในสายตาเขาก็เป็นแค่สวะ ไม่เพียงทำสัญญาที่พนันไว้สำเร็จ โดยเฉพาะอย่างยิ่งยังบรรลุจำนวนการค้าถึงสามพันล้าน
สามพันล้าน ถึงแม้ของร้อยชุดนี้จะเป็นของจริง ก็ยังขายในราคาที่สูงขนาดนี้ไม่ออก
หลีชิงเยียนมองเฉินเป่ยด้วยสายตาตกใจ หายใจเร่งรีบผิดจังหวะ ภูเขาสูงตระหง่านขึ้นลงอย่างแรงเพราะตื่นเต้นจนยากจะเชื่อ กลายเป็นแนวทิวทัศน์ที่งามสุดๆ ภาพหนึ่ง
เดิมทีหลีชิงเยียนคงนึกไม่ถึงว่าคนที่เซ็นใบสั่งสินค้าหลายพันล้านจะเป็นเฉินเป่ยไปได้
สมองหลีชิงเยียนว่างเปล่าส่วนหนึ่ง เธอนึกถึงคำพูดแต่ละประโยคที่ตนเองพูดก่อนหน้านี้ เวลานี้กลับเสียดสีขนาดนั้น ใบหน้างดงามของหลีชิงเยียนแดงเป็นพืดอย่างไม่รู้ตัวความจริงช่างน่าอายเหลือเกิน ทำให้เธอยากจะรับได้
ดวงตาที่เซ็กซี่คู่นั้นถลึงจนโต จ้องเฉินเป่ยแน่น ในใจสูงแล้วก็ต่ำลง ตอนนี้สมองของเธอว่างเปล่า ศีรษะมึนๆ งงๆ เฉินเป่ยนำความตื่นตกใจมาให้เธอใหญ่หลวงเหลือเกิน
เป็นไปได้อย่างไรที่เธอจะนำเฉินเป่ยกับการสั่งสินค้าสามพันล้านนี้มาเชื่อมต่อเข้าด้วยกัน
เธอยิ่งนึกไม่ถึงว่าเฉินเป่ยจะสามารถหาคนของไห่ซือกรุ๊ปมาร่วมงานได้
ไห่ซือกรุ๊ปเป็นธุรกิจชั้นนำของยุโรป ขนาดปริมาณของธุรกิจห่างไกลนัก ไม่ใช่ที่บริษัทตระกูลหลีกรุ๊ปจะเทียบได้ มีธุรกิจมากมายแค่ไหนที่อยากร่วมงานกับไห่ซือกรุ๊ป ผลลัพธ์เฉินเป่ยเพียงลำพังก็สามารถดึงดูดไห่ซือกรุ๊ปมาเซ็นใบสั่งสินค้าสามพันล้านได้
ไม่เพียงแค่นี้ ในมือเฉินเป่ยยังเป็นเพียงอัญมณีของปลอมบางส่วนเท่านั้น คาดไม่ถึงสามารถทำให้ไห่ซือกรุ๊ปใช้ราคาสูงซื้อไว้ได้
ปาฏิหาริย์นี้ อย่างไรเสียก็ทำให้หลีชิงเยียนคิดไม่ตก
หลีหยางสีหน้าเปลี่ยนนิดหน่อย ในสายตาที่มองทางเฉินเป่ยมีความลุ่มลึกเตรียมการ ยังมีการชื่นชมและพอใจแบบจางๆ
หลีหยางพยักหน้าเล็กน้อย เหมือนเป็นการแสดงออกว่าพอใจมากต่อเฉินเป่ย
ราวกับว่าเฉินเป่ยที่เป็นแบบนี้ เขาดูแล้วว่าคู่ควรกับหลีชิงเยียนมาก
วันนี้เฉินเป่ยสร้างความตะลึงและประหลาดใจให้ผู้คนมากมายเหลือเกิน แต่สำหรับประธานหวงกลับเป็นการตกใจกลัว
“เป็นไปไม่ได้……เป็นไปไม่ได้ที่นายกับไห่ซือกรุ๊ปจะสมาคมกัน นี่พวกนายกำลังแสดงละครแน่ๆ” ทันใดนั้นประธานหวงร้องตะโกนขัดจังหวะเฉินเป่ย เสียงที่เต็มไปด้วยความเคร่งขรึมสั่นเครือว่างเปล่า
หลีชิงเยียนหันหน้ามองทางประธานหวง เห็นเพียงประธานหวงสีหน้าตื่นเต้น ชี้ไปที่ผู้ชายตะวันตกอย่างเต้นแร้งเต้นกา “นายเป็นตัวปลอม เป็นไปได้ยังไงที่จะคุ้มค่ากับการสั่งซื้อของพวกนั้นในราคาสามพันล้าน”
ประธานหวงสีหน้าดุร้าย สำหรับเขานั้น ด้านในนี้ต้องมีเบื้องหลังอย่างแน่นอน และเป็นเบื้องหลังใหญ่
จะต้องเป็นเฉินเป่ยกับผู้ชายตะวันตกคนนั้นตั้งอกตั้งใจจัดละครฉากหนึ่งขึ้นมา การพลิกพลันแบบบทละครอย่างนี้ เป็นไปได้อย่างไรที่เกิดขึ้นบนตัวตนเอง
เฉินเป่ยมองทางประธานหวงแล้วพูดเรียบๆ “สั่งซื้อสามพันล้าน ตกใจมากเหรอ? แค่จำนวนน้อยๆ เท่านั้นเอง”
เฉินเป่ยเอ่ยปากเรียบนิ่ง กลับทำให้ผู้คนไม่น้อยสีหน้าดำคล้ำ สามพันล้าน……นี่เป็นจำนวนมากมายมหาศาลแล้ว เป็นไปได้อย่างไรที่จะคือจำนวนเล็กน้อย
“ประธานหวง ของพวกนี้ฉันขายออกไปหมดแล้ว งั้นสัญญาที่พวกเราพนันไว้จะทำให้เป็นจริงได้ยังไงกัน?” เฉินเป่ยจ้องมองประธานหวงอยู่ เอ่ยปากแบบมีความหมายลึกซึ้ง
“นายอยากทำอะไร?” ประธานหวงมองทางเฉินเป่ย สีหน้าอัปลักษณ์เย็นยะเยือกต่างออกไป
“ตอนแรกนายบอกฉันว่าขายของไม่ออกจะให้เป็นยาม งั้นไม่สู้นายไปเป็นยามสักเดือนหนึ่งดูล่ะ” เฉินเป่ยเอ่ยปากนิ่งๆ
“แก” ประธานหวงสีหน้าแดงขึ้น หงุดหงิดอย่างยิ่ง นี่เฉินเป่ยกำลังท้าทายขีดจำกัดของเขา เหยียดหยามเสียดสีเขาอยู่กลายๆ
เขาเป็นกรรมการที่สูงเหนือผู้คนของบริษัทตระกูลหลีกรุ๊ป ตำแหน่งสูงส่งยิ่งใหญ่……ผลปรากฏว่าเฉินเป่ยอยากให้เขาไปเป็นพนักงานรักษาความปลอดภัยที่นอบน้อม สำหรับเขาแล้วนี่ไม่ใช่การถากกางที่ใหญ่หลวงหรือไง?
“เป็นไปไม่ได้ แค่คิดก็ไม่ต้องคิด ถึงตายฉันก็จะไม่ทำให้แกสมใจ” ประธานหวงพูดเสียงหนาวเหน็บ
“เสี่ยวหวง กล้าพนันก็ต้องกล้ายอมแพ้สิ” และในเวลานี้เสียงที่เรียบง่ายมั่นคงเสียงหนึ่งลอยมาจากด้านข้าง ประธานหวงหันหน้ามองเห็นหลีหยางสีหน้าล้ำลึกมองเขาอยู่
ประธานหวงกำหมัดทั้งคู่ เขาโกรธจนถึงขั้นสุด โกรธจนเหมือนใกล้ตายแล้วเกิดใหม่
ส่วนพนักงานรักษาความปลอดภัยเหล่านั้นที่ตามเขามาทีมหนึ่ง เวลานี้กลับเงียบกริบ แต่ละคนต่างสะบัดความสัมพันธ์กับเขาอย่างชัดเจน
กรรมการคนอื่นต่างไม่ใช่คนโง่ ลู่ไปตามลมหลังจากรู้ว่าใบสั่งสินค้าสามพันล้านคือระหว่างเฉินเป่ยกับไห่ซือกรุ๊ป จึงยิ่งค่อยๆ เปลี่ยนความคิด ห่างเหินประธานหวงขึ้น
“ได้ เฉินเป่ย แกมันแน่” ประธานหวงถลึงตาใส่เฉินเป่ยทีหนึ่งอย่างดุร้ายโหดเหี้ยม ลุกขึ้นทันใด ดันประตูออกไปอย่างหยาบกระด้าง
หลังประธานหวงออกไป บรรยากาศในห้องประชุมดูดีขึ้นมามาก การประชุมดำเนินการไปตามปกติ หลังประชุมได้สักพัก การประชุมถึงเสร็จสิ้น
เฉินเป่ยพึ่งเดินออกจากห้องประชุม เดินไปได้ไม่นานก็มีเสียงที่กังวานเสนาะหูลอยมากะทันหันจากด้านหลัง เรียกเขาไว้
ฝีเท้าเฉินเป่ยชะงัก หันหน้ามามองเห็นหลีชิงเยียนใส่รองเท้าส้นสูง สีหน้าหนาวเย็นราวน้ำค้างแข็ง เหมือนราชินีที่ยโสโอหังที่สุดกำลังเดินมาช้าๆ ทางเฉินเป่ย
หลังจากเดินมาใกล้ หลีชิงเยียนพินิจพิเคราะห์เฉินเป่ยสักหน่อย ไม่มีการเหยียดหยามดูถูกแบบเมื่อก่อน
“ตอนเย็นว่างมั้ย?” หลีชิงเยียนเอ่ยปาก เสียงไพเราะเต็มไปด้วยแรงดึงดูด
เฉินเป่ยตะลึง หลีชิงเยียนเอ่ยปากพูดเสียงทรงเสน่ห์ “ฉันจะเลี้ยงข้าวนายมื้อหนึ่ง”
หลีชิงเยียนพูดจบ หมุนตัวเดินไปทางห้องทำงานประธานอย่างช้าๆ
เฉินเป่ยมองภาพด้านหลังที่เชื่องช้าของหลีชิงเยียน หลังมึนงงไปสักพักหนึ่งก็มีปฏิกิริยาเข้ามาทันใด ตื่นเต้นจนแทบไม่ไหวแล้ว
เฉินเป่ยหายใจเร่งรีบ จ้องมองภาพด้านหลังที่งดงามเซ็กซี่ของหลีชิงเยียนอย่างยากจะสงบลง……เมื่อสักครู่ประธานนางฟ้ากำลังเชื้อเชิญอย่างชัดเจน อยากนัดเดทกับเขา
ในใจเฉินเป่ยนั้นเรียกได้ว่าตื่นเต้น……มีสักวันหนึ่ง นางฟ้าอยากนัดเดทกับเขาก่อนเอง ตนเองสามารถใช้เวลาสองคนกับเธอได้ ทำให้เขาคิดอยู่ก็เกิดฉุกคิดขึ้นมาได้ฉับพลันและตื่นเต้น