สายเปย์เบอร์หนึ่ง - ตอนที่ 215
บทที่215 สัตว์ดุร้ายตื่นขึ้น
ทั้งเหตุการณ์เงียบสงบ บอดี้การ์ดที่ล้อมรอบเฉินเป่ยเป็นวงไว้มองทางเฉินเป่ยด้วยความสงบ ในดวงตาบอดี้การ์ดไม่น้อยเผยความหมายหยอกล้อออกมา
ดูแล้วสถานะของผู้ลึกลับท่านนี้โดนคุณชายใหญ่หลีมองออกแล้ว
เรียกตัวเองว่าราชาหลงอะไร……ผลสุดท้ายเก่งกาจไม่พอสามวินาทีก็ถูกคุณชายใหญ่หลีเปิดโปง……นี่ช่างกระอักกระอ่วนเหลือเกิน
เฉินเป่ยยืนอยู่ที่เดิมแบบไม่แตกตื่น ไม่ขยับสักนิด มีเพียงสายตานั้นที่ยิ่งหนาวเย็นเพิ่มขึ้น
“แกจะเป็นราชาหลงได้ยังไง……ถึงแม้ราชาหลงสง่าฉลาดหลักแหลมไม่เป็นสองรองใครในยุคแต่ก็ปลดเกษียณไปแล้ว เป็นไปได้ยังไงที่จะปรากฏตัวที่นี่” หลีเช่าหงหัวเราะเยาะ เปิดโปงเฉินเป่ยอย่างไม่ไว้หน้าสักนิด
“แกปลอมตัวมา เก้งก้างเกินไป บอกสถานะแท้จริงของแกออกมาซะ” หลีเช่าหงพูดอย่างเย็นชา
“หึๆ ……” เฉินเป่ยหัวเราะหึๆ ขึ้นมา เสียงแหบแห้ง หนาวเหน็บอย่างหาที่เปรียบไม่ได้ เผยความหมายฆ่าปราบปรามที่ทำให้คนหนังศีรษะชาอยู่
“ใครบอกแกว่าฉันไม่ใช่ราชาหลง?” เฉินเป่ยถามกลับ ก้าวเท้าหนึ่งออกมา แรงอาฆาตทั่วตัวระเบิด พุ่งสูงขึ้นฟ้า ส่วนบอดี้การ์ดเหล่านั้นราวกับเผชิญหน้ากับศัตรูตัวฉกาจ
“ฆ่าแก ยังต้องบอกสถานะออกไปด้วยเหรอ?” เสียงของเฉินเป่ยพ่นออกไปไม่ขาดสายราวฟ้าผ่า ความหมายเย็นยะเยือก ปกคลุมไปทั่วทั้งโรงแรม
เฉินเป่ยเอ่ยปากอย่างทระนงองอาจ หลีเช่าหงสีหน้าแข็งทื่อ เผยความหนาวเย็นออกมา……
เขาโกรธแล้ว……ถึงแย่แค่ไหนเขาก็เป็นคุณชายใหญ่ของบ้านหลี ชีวิตโดดเด่น ผลลัพธ์ตอนนี้ยังถูกพวกแฝงตัวเป็นราชาหลงคนหนึ่งเหยียดหยามเข้าให้
“ลงมือ” หลีเช่าหงตะโกนออกคำสั่ง บอดี้การ์ดพวกนั้นได้ยินคำสั่ง ชั่วพริบตาเดียวประสานกันเป็นห่ากระสุนที่ยิงตัดสลับกันนับไม่ถ้วน ระเบิดไปทางเฉินเป่ยดั่งพายุพัดโหมกระพือ ไม่เหลือมุมบอดสักจุด ความว่างเปล่าสั่นสะเทือน ถูกปิดกั้นไว้ถึงที่สุด
ในห้องส่วนตัวของโรงแรม เลขาฯ สาวกำลังพิงที่ขอบหน้าต่าง มองทางหน้าประตูโรงแรม มองเฉินเป่ยที่ยืนอยู่ตรงกลาง มุมปากโค้งรอยยิ้มเหยียดหยามจางๆ ขึ้น
ในสายตาของเธอ ผู้ลอบทำร้ายที่อยากลอบฆ่าหลีเช่าหงเหล่านี้ เป็นแบบนิทานอาหรับราตรีสุดๆ ล้วนล้วนแต่เป็นพลังที่ไร้ประโยชน์ส่วนหนึ่ง
แต่ตอนที่ห่ากระสุนนับไม่ถ้วนฉีกทะลุความสงบในยามค่ำ ทำให้ร่างอ่อนช้อยของเธอตึงแน่นทันใด ตกใจจนภายในใจสั่นเทา มุดเข้าไปหลบในผ้าห่มอย่างรวดเร็ว
หน้าประตูโรงแรม หลีเช่าหงยืนเอามือไพล่หลัง มองเห็นเปลวไฟนับไม่ถ้วนผสมผสานกันเป็นตาข่าย หลังนำภาพเงาของเฉินเป่ยทุกที่ปกคลุมไว้ หัวเราะเยาะอย่างดูถูกทีหนึ่ง หมุนตัวเดินไปในโรงแรม
ผลสุดท้ายต่อจากนี้แม้กระทั่งเขายังไม่ต้องเดา
“เดี๋ยวหลังเก็บศพ ทำความสะอาดสถานที่สักหน่อย จ่ายค่าชดใช้ความเสียหายราคาเดิมให้โรงแรม” หลีเช่าหงเอ่ยปากนิ่งๆ
“ครับ” ลูกน้องด้านข้างคนหนึ่งพยักหน้าด้วยความนอบน้อม
หลีเช่าหงเดินได้ไม่กี่ก้าว ทันใดนั้นด้านหลังมีเสียงร้องเศร้าสลดเสียงหนึ่ง ทำให้เขาชะงักฝีเท้าทันที
หลีเช่าหงสีหน้าเปลี่ยนไปเล็กน้อย เขาหมุนตัวไปมองก่อนจะพบว่าเฉินเป่ยหายตัวไปจากที่เดิมอย่างคาดไม่ถึง
และบอดี้การ์ดหนึ่งในนั้นกำลังปิดตรงต้นคอไว้ ในร่องนิ้วมีเลือดแดงเข้มไหลออกมา ทั้งร่างกายเขาหมดกำลังจนอ่อนยวบล้มลง ดวงตาทั้งคู่เบิกโต นอนตายตาไม่หลับ
บอดี้การ์ดด้านข้างเห็นเข้า ในใจสั่นไหว บอดี้การ์ดคนนี้……อยู่ในบรรดาพวกเขา ถือว่าฝีมือไม่เลวเลย เมื่อสักครู่คาดไม่ถึงว่าจะโดนฆ่าอย่างรวดเร็ว
สีหน้าบอดี้การ์ดเหล่านี้ยิ่งหนาวเย็น ปืนในมือยิ่งลั่นไกอย่างโหดร้ายเพิ่มขึ้น
ส่วนหลีเช่าหงยังไม่มีการตอบสนองกลับเข้ามา ในมือเขาก็ทำลายคนคนหนึ่งไป
ความเร็วของเฉินเป่ยไวเหลือเกิน รูปร่างวันหาย เปลวไฟที่ราวกับเขี้ยวฟันสัตว์ป่าดุร้ายอย่างหาที่สุดไม่ได้ เดิมทียากจะจับเขาไว้ได้
ทันใดนั้นดวงตาทั้งคู่ของหลีเช่าหงหดลง มองทางบอดี้การ์ดคนหนึ่งในนั้น แล้วตะโกนบอก “ระวัง”
แต่ตอนที่หลีเช่าหงตะโกนออกไปก็สายเสียแล้ว รอให้บอดี้การ์ดคนนั้นตอบสนองเข้ามา หน้าอกของตนเองก็มีรอยมีดกรีดเล็กๆ รอยหนึ่งเพิ่มมาเรียบร้อย
“อยู่ตรงนั้น ยิงให้ตายไม่ต้องสนการชดใช้ทุกอย่าง”
บอดี้การ์ดแต่ละคนค่อยๆ เล็งปากกระบอกปืนไปตรงเฉินเป่ยที่อยู่ด้านหลังบอดี้การ์ดคนนั้น ห่ากระสุนปืนชุดหนึ่ง พริบตาเดียวก็ปกคลุมที่แห่งนี้ไว้
สายตาเฉินเป่ยนิ่งเฉยเย็นเยียบ ทันใดนั้นใช้ทักษะเข้าก่อเหตุร้าย ไล่ฆ่าทางบอดี้การ์ดคนหนึ่งในนั้นอย่างว่องไว
ชั่วขณะหนึ่งเปลวไฟที่ดุเดือดยิ่งโหดเหี้ยมหลายระดับ
เปลวไฟนับไม่ถ้วนไล่ยิงไปทางเฉินเป่ยที่อยู่ตรงหน้าประตู ตอนที่ตามองเห็นว่าจะยิงโดนเฉินเป่ย ทันใดนั้นแสงสีดำสายหนึ่งก็ทะลุผ่านที่ว่าง ถูกเฉินเป่ยกุมไว้ในมือทันใด
ในมือเฉินเป่ยกุมแสงสีดำไว้ นำแสงสีดำที่ระเบิดยิงมาตัดสกัดกั้นอย่างบ้าคลั่ง เปลวไฟแต่ละลูกถูกเฉินเป่ยแบ่งเป็นสองส่วน
บอดี้การ์ดนับไม่ถ้วนหดดวงตาอย่างรุนแรง สายตาตกใจ ยากจะเชื่อ
“เคร้งๆๆ”
ในมือเฉินเป่ยกุมหลงหยาไว้ บินขึ้นลงอย่างรวดเร็ว นำเปลวไฟมาตัดสกัดกั้นไว้ทั้งหมด จากนั้นเข้าใกล้บอดี้การ์ดพวกนั้นด้วยความรวดเร็ว
บอดี้การ์ดเหล่านั้นสีหน้าเปลี่ยนไปไม่หยุด ไล่ฆ่าไปทางเฉินเป่ย
บอดี้การ์ดคนหนึ่งปรากฏตัวด้านหลังเฉินเป่ย มือถือปืนไว้ ลั่นไกตรงท้ายทอยของเฉินเป่ยฉับพลัน
แต่ทันใดนั้นท่าทางเขาก็ฝืดค้าง เฉินเป่ยหมุนตัวอย่างไม่คาดคิด หลงหยาในมือตกลงมาบนต้นคอของบอดี้การ์ดแล้วทิ้งรอยเลือดเอาไว้
“ปึง”
บอดี้การ์ดอุดต้นคอไว้ เลือดสดทะลัก เขาเบิกดวงตาทั้งคู่ รอยเลือดนี้ขยายใหญ่ไม่หยุด……สุดท้ายศพคนแยกออกจากกัน
บอดี้การ์ดล้มลงในกองเลือด หลีเช่าหงยืนอยู่หน้าประตูโรงแรม ฉากนี้ทำให้ความกลัวในดวงตาของเขาก่อหวอดยิ่งขึ้น
เปลวไฟนับไม่ถ้วนระเบิดยิงอย่างคลุ้มคลั่ง ฝุ่นควันตลบอบอวล กลิ่นดินปืนที่เข้มข้นกระจายออกมา ในใจของบอดี้การ์ดเหล่านั้นยิ่งตื่นตระหนก
ในมือพวกเขาถือปืน ผ่านการฝึกฝนยิงโจมตีอันเข้มงวด เป็นมือปืนยอดเยี่ยมที่ทุกนัดยิงโดนเป้าทั้งหมด……แต่พอเผชิญหน้ากับเฉินเป่ยที่มีเพียงมีดพกด้ามหนึ่ง……คาดไม่ถึงพวกเขายังรู้สึกได้ว่าหมดกำลังอ่อนแรง
เฉินเป่ยไม่ได้รับบาดเจ็บสักนิด แต่พวกเขากลับสูญเสียยอดฝีมือหลายคนไปติดต่อกัน
“แก สรุปมาจากไหนกัน” หลีเช่าหงสีหน้ายิ่งหนักหน่วง……เขาดูถูกเฉินเป่ยไป ลูกน้องเขาไม่ได้พูดมั่วความแข็งแกร่งของคนตรงหน้านี้เกินกว่าลูกน้องของตนเองไกลโข
ในเวลานี้ ความเร็วเฉินเป่ยอืดลง หยุดลงมากะทันหัน สายตามองทางหลีเช่าหง เสียงเย็นเฉียบราวกับฟ้าผ่าดังก้องอยู่ทั้งภายในโรงแรม “หลีเช่าหง แกไม่ได้บอกว่าฉันไม่ใช่ราชาหลงเหรอ?”
หลีเช่าหงมองทางเฉินเป่ย ในใจสั่นสะท้าน สายตาล้ำลึก
เขามองที่เฉินเป่ย ภายในใจเกิดลางสังหรณ์ที่ไม่ดีอย่างหนึ่ง
“ฉันไม่ใช่ราชาหลงจริงๆ ฉันคือ……” เฉินเป่ยนิ่งแล้ว นำผ้าคลุมหน้าสีดำดึงลงทันใด เผยใบหน้าแท้จริง “เอ๋อตงเฉิน แกจำได้รึยัง”
เฉินเป่ยตะคอกใส่ที่ว่างจนสั่นสะเทือนอย่างบ้าคลั่ง หลีเช่าหงสีหน้าค้าง สายตาเผยความตกใจที่เข้มข้นออกมาจนยากจะเชื่อ
“เอ๋อตงเฉิน……เป็นแกจริงด้วย” หลีเช่าหงส่งเสียงตกใจ แววตาเผยความอาฆาตที่เย็นยะเยือก “มาหาฉัน แกหาที่ตายรึไง?”
“หาที่ตายเป็นแกต่างหาก” ในมือเฉินเป่ยกุมหลงหยา “ยมทูตต้องการให้แกตายกลางดึก ไม่เหลือชีวิตไปถึงรุ่งเช้าแน่นอน”
“หาที่ตาย” หลีเช่าหงกุมหมัดแน่น บนหน้ามีรอยยิ้มลุ่มลึก “มาฆ่าฉัน? แกพยายามลองดูหน่อยแล้วกัน”
คำพูดนี้ของหลีเช่าหงพึ่งออกไป สีหน้าของเขาก็แข็งตัวทันที
เห็นเพียงร่างเฉินเป่ยแตกกระจายไม่หยุด ความเร็วนับวันยิ่งไวขึ้น ทำให้บอดี้การ์ดเหล่านั้นหนังศีรษะชาไปหมด
“เขายังเป็นคนอยู่เหรอ……ความเร็วนี้ เกรงว่ามีเพียงผู้อำนวยการจางในอดีตถึงสามารถเอามาเทียบกันได้” มีคนพึมพำ
เปลวไฟไม่มีที่สิ้นสุดปิดกั้นที่ว่างเปล่า และเฉินเป่ยกุมหลงหยาไว้ในมือ ตัดหั่นไม่หยุด ตัดเปลวไฟทิ้งออกเป็นถนนสายหนึ่งไปทื่อๆ
หลีเช่าหงพึ่งพูดจบ เกือบจะในเวลาเดียวกัน บอดี้การ์ดสามคนขานรับแล้วล้มลงพื้น
และที่แตกต่างจากเมื่อสักครู่คือ ในมือของเฉินเป่ยมีปืนกระบอกหนึ่งเพิ่มขึ้นมากะทันหัน
ในเวลานี้ บุคลิกทั้งตัวของเฉินเป่ยเปลี่ยนไปมากโดยทันที สีหน้าเปลี่ยนไปเย็นยะเยือกขึ้นมา
ตอนแรกบอดี้การ์ดเหล่านั้นไม่รู้เลยว่าพลังยิ่งใหญ่สุดของเฉินเป่ยไม่ใช่ฝีมือกำลังทหาร……แต่เป็นฝีมือการยิงที่เรียกได้ว่าสยองขวัญ
ถ้าขุนศึกนานาชาติที่เคยโดนเฉินเป่ยบ้าระห่ำใส่พวกนั้นอยู่ที่นี่ คงแสดงความหวาดกลัวอย่างเด็ดขาด พวกเขาค้นพบประสบการณ์อย่างหนึ่งเข้า……ไม่ว่าอย่างไร ล้วนไม่สามารถทำให้ราชาหลงแตะต้องปืนได้……นั่นคือหายนะฉากหนึ่ง
และวินาทีนั้นที่เฉินเป่ยหยิบปืนขึ้น ในใจของหลีเช่าหงสั่นอย่างรุนแรงทันที
“ไป” ในที่สุดสัญชาตญาณที่อ่อนไหวของหลีเช่าหงก็สำแดงประสิทธิภาพออกมาเต็มที่ ทำให้เขาหมุนตัวเดินเข้าไปในโรงแรมอย่างไม่ลังเลสักนิด
“ขึ้นฟ้าลงดิน แกก็ต้องตายอย่างไม่ต้องสงสัย” เสียงของเฉินเป่ยราวกับปีศาจในนรก ทำให้ในใจสั่นสะท้านอย่างบ้าคลั่ง
“ปังๆๆ ……” บอดี้การ์ดลั่นไกทางเฉินเป่ยแบบบ้าระห่ำ ปากกระบอกปืนประกายแสงไฟรัวๆ เปลวไฟนับไม่ถ้วนแหวกฉีกที่ว่างเปล่า ชั่วพริบตาเดียวจะต้องยิงจนเฉินเป่ยเป็นตะแกรงแน่
สายตาเฉินเป่ยแวววาว ข้อมือสั่นไหว เกือบขณะเดียวกันก็มีเสียงปืนชุดหนึ่งดังขึ้น
เปลวไฟแต่ละลูกระเบิดยิงออกจากปืนของเฉินเป่ย ที่ว่างเปล่ามีเสียงกังวานชุดหนึ่งติดกันดังขึ้น……หลังจากนั้นหัวลูกกระสุนแต่ละลูกก็ค่อยๆ ร่วงที่พื้น
“เขาตีกระสุนจากกลางอากาศลงมา นี่เป็นไปได้ยังไง” มีบอดี้การ์ดดวงตาค้างทั้งคู่ แสดงความหวาดกลัว ท่าทางยากจะเชื่อ
“เขายังเป็นคนอยู่อีกเหรอ คนทั่วไปเดิมทีทำไม่ได้หรอก” ต่อให้บุคคลทำงานลับเฉพาะแนวหน้าเหล่านั้นมองเห็นฉากนี้ ก็ยังคงหนังศีรษะชา ไม่อยากจะเชื่อ
เป็นเรื่องแปลกประหลาดที่น่าตกใจจริงๆ ถึงแม้พวกเขาจะอยู่ในองค์กรซึ่งเป็นมือปืนที่เก่งกาจที่สุด……ก็ไม่อาจบรรลุถึงระดับแบบนี้ได้
เฉินเป่ยกวาดตามองบอดี้การ์ดเหล่านี้อย่างเย็นชา เวลานี้มีบอดี้การ์ดมากมายร่างกายหนาวเย็น ในใจเกิดความคิดถอยทัพ
เฉินเป่ยแกร่งเหลือเกิน แกร่งจนพอทำให้ในใจคนหยุดหายใจ
ในใจบอดี้การ์ดเหล่านั้นชัดเจนเสียยิ่งกว่าอะไร ความสามารถของเฉินเป่ยไกลเกินกว่าพวกเขาคนไหนๆ ลูกไม้เมื่อสักครู่นั้น……เฉินเป่ยอยากฆ่าใคร พวกเขาไม่มีใครห้ามไว้อยู่
“ปัง”
เฉินเป่ยกวาดตามองภาพเงาของหลีเช่าหงที่ไกลออกไปแวบหนึ่ง ทันใดนั้นสายตาแวววาว ยิงปืนสบายๆ เปลวไฟลูกหนึ่งทะลุผ่านที่ว่างเปล่า ยิงโดนไหล่ของหลีเช่าหงทันใด
“เฮือก”
ร่างของหลีเช่าหงซวนเซอย่างแรง เกือบล้มลงที่พื้น โชคดีลูกน้องข้างกายพยุงเขาไว้แล้ว
ในอากาศ น้ำเลือดกระเด็น หลีเช่าหงสีหน้าเปลี่ยน ความเจ็บปวดที่ร้อนผ่าว ทำให้ดวงตาเขาหนาวเย็น
หลีเช่าหงหมุนตัว มองทางเฉินเป่ย พูดเสียงหนาวเหน็บ “เฉินเป่ย……แกหาที่ตาย”
หลีเช่าหงจับไหล่เอาไว้ กัดฟันแน่น มองทางสายตาเฉินเป่ย เผยความอาฆาตที่หนาวเย็นและดื้อดึง
ในที่สุดหลีเช่าหงก็โมโหยกใหญ่……เขารับไม่ได้ ที่เมืองหู้ไห่ คาดไม่ถึงยังมีคนที่กล้าทำร้ายเขา
โดยเฉพาะอย่างยิ่งเป็นเฉินเป่ย ลูกเขยแต่งเข้าบ้านหลีคนนี้……ในสายตาของตนเองไม่เพียงเป็นแค่มดน้อยที่ต่ำต้อยตัวหนึ่งเหรอ
“ฉันบอกแล้ว วันนี้ทุกคนที่นี่หนีไม่รอดสักคน……” เฉินเป่ยก้าวช้าๆ เดินไปทางหลีเช่าหง แต่ละคำแต่ละประโยคยิ่งหนาวเหน็บเย็นเฉียบ
“แกคิดว่าแกเป็นใคร มีสิทธิ์อะไรพูดคำนี้ออกมา” หลีเช่าหงถากถางเสียงเหน็บหนาว
“สิทธิ์ที่……ฉันเป็นราชาหลงไงล่ะ” เสียงเฉินเป่ยซื่อๆ มีพลัง ก้าวเท้าออกมา สายตายิ่งดุเดือดนิ่งสงบ “และหัวหน้าขององค์กรมังกร”
เหรียญหนึ่งลอยพุ่งไปทางหลีเช่าหง หลีเช่าหงคว้าเหรียญเอาไว้ กวาดตามองทีหนึ่ง สีหน้าซีดขาวทันที