สายเปย์เบอร์หนึ่ง - ตอนที่ 217
บทที่217 บุตรของสวรรค์ตกลงจากฟ้า
เลขาฯ สาวที่อยู่ด้านหลังใบหน้างดงามจืดชืด หน้าสดใสซีดเผือด เธองงไปหมดแล้ว เธอนึกไม่ถึงโดยสิ้นเชิงว่าหลีเช่าหงที่เป็นบุตรของสวรรค์รุ่นหนึ่งจะคุกเข่าขอชีวิตจากคนอื่น
เฉินเป่ยยืนอยู่ที่เดิม มีดพกหลงหยาในมือกำลังหมุนวนระหว่างนิ้วอย่างฉับไว บริเวณปลายมีดสีดำสลักลายที่สลับซับซ้อนลึกลับนับไม่ถ้วน ด้านบนยังเปื้อนเลือดสดไม่น้อย ร่างกายหลีเช่าหงสั่นเทาอย่างรุนแรงอยู่ สายตาที่มองทางเฉินเป่ยเหลือเพียงการวิงวอน
เฉินเป่ยจ้องมองเขาอย่างเย็นชา ทันใดนั้นเอ่ยปากด้วยน้ำเสียงผิดปกติสงบนิ่ง แต่กลับสงบจนทำให้คนหนาวสั่น “น้องชายแกก็ครั้งแล้วครั้งเล่า มาล้ำเส้นแบ่งของฉัน ฉันคิดจะกำจัดน้องชายแกนับครั้งไม่ถ้วน แต่คิดถึงพวกแกกับชิงเยียนมีความสัมพันธ์ทางสายเลือด ถึงไว้ชีวิตพวกแกอีกสักครั้ง”
“น่าเสียดายที่พวกแกช่างไม่รู้จักความเป็นความตาย หลังจากเขาเสียแขนไปข้างหนึ่ง แกยังไม่สำนึกตัวอีก” เฉินเป่ยหัวเราะเยาะทีหนึ่ง รอยยิ้มเย็นเฉียบเสียดสี “แกคิดว่าแกยังมีความเป็นไปได้ที่จะมีชีวิตต่อไปเหรอ?”
หลีเช่าหงตัวสั่นเทาอยู่เงยหน้า ดวงตาทั้งคู่เต็มไปด้วยเส้นเลือดฝอย “ผมตายได้ แต่น้องชายผมสำนึกผิดแล้ว ขอให้ท่านให้ชีวิตกับบ้านหลีสักครั้ง”
ดวงตาทั้งคู่ของหลีเช่าหงเผยความหมายหมดหวังออกมา เขาเป็นคนที่ฉลาดคนหนึ่ง ย่อมเข้าใจได้โดยธรรมชาติ ถึงคำพูดพวกนั้นของเฉินเป่ยเมื่อสักครู่ นั่นคือการเตรียมประหารชีวิตชั่วโคตร
ข่าวเรื่องที่ราชาหลงประหารชีวิตชั่วโคตร ตอนแรกเขาเคยได้ยินมามากเหลือเกิน……แต่อย่างไรเสียเขาก็นึกไม่ถึงวันหนึ่งหายนะแบบนี้จะมาถึงที่หัวของตนเองได้
เขาจำเป็นต้องรักษาบ้านหลีเอาไว้ เหลือสายเลือดของบ้านหลีไว้……ไม่อย่างนั้นเขาคงกลายเป็นคนที่โดนประณามชั่วกาลนาน การเซ่นไหว้บรรพบุรุษของบ้านหลีที่สืบทอดต่อมา เป็นเพราะพวกเขาพี่น้องบ้านหลีทำพินาศ
หลีเช่าหงกัดฟัน เขาวางศักดิ์ศรีทุกอย่างลงแล้ว……เพียงแค่อยากวิงวอนเฉินเป่ย……ไว้ชีวิตพวกเขาสักครั้ง
หลีเช่าหงคุกเข่าอยู่ที่พื้น คำนับศีรษะไปที่พื้นอย่างแรง เสียงดังที่หดหู่ลอยเข้าในหูของเฉินเป่ยอย่างกังวาน หลีเช่าหงใช้เรี่ยวแรงทั้งหมดคุกเข่าก้มศีรษะคำนับ……ไม่กี่ครั้ง บนหน้าผากของเขาเต็มไปด้วยเลือดสด น่าสยองจนทนดูไม่ได้
เฉินเป่ยจ้องมองหลีเช่าหงอย่างเมินเฉย ในดวงตาลึกเต็มไปด้วยความลุ่มลึกหนาวเย็น
“ฉันเคยบอกหลีเช่าเทียนแล้ว จะมีสักวันหนึ่งที่จะเหยียบบนประตูใหญ่บ้านหลี ทำให้บ้านหลีนองเลือด……แกจะให้ฉันคืนคำเหรอ?” เฉินเป่ยถามแบบนิ่งๆ
หลีเช่าหงร่างกายสั่นเทา พอกัดฟัน ตัดสินใจพนันสักตั้ง ย้ายหลีชิงเยียนออกมา “ผมกับเช่าเทียนตาบอดแล้ว มีตาหามีแววไม่ เป็นความผิดของพวกเรา……แต่ถ้าท่านนองเลือดบ้านหลีแล้ว ผมกลัวว่าในใจชิงเยียนจะรู้สึกเสียใจมาก…….”
หลีเช่าหงเอ่ยปากเสียงสั่น เขาพึ่งพูดจบ แรงอาฆาตที่เย็นยะเยือกก็ปกคลุมเขาไว้
น้ำเสียงเฉินเป่ยหนาวเหน็บจนถึงที่สุดฉับพลัน “แกกำลังข่มขู่ฉัน?”
“ไม่กล้าครับ”
หลังหลีเช่าหงพูดจบ ในห้องพักเงียบสงัด ผ่านไปตั้งนาน ปืนกระบอกหนึ่งและเหรียญตกอยู่ตรงหน้าของหลีเช่าหง เฉินเป่ยพูดด้วยเสียงสบายๆ “ฉันไม่อยากให้เปื้อนมือของตัวเอง”
หลังเฉินเป่ยพูดจบ ภายใต้การสังเกตที่ตกใจของเลขาฯ สาวคนนั้น จากนั้นค่อยๆ หมุนตัว ไม่นานก็หายตัวไปจากหน้าประตูห้องพักแล้ว
ดวงตาของหลีเช่าหงเต็มไปด้วยความหมดหวัง เขาเก็บปืนขึ้น มุมปากโค้งรอยยิ้มขมขื่นที่จำใจขึ้น……นี่เป็นจุดจบที่ดีที่สุดแล้ว
ส่วนเลขาฯ สาวคนนั้นเหมือนยกภูเขาออกจากอก เฉินเป่ยจากไป ทำให้เธอคิดว่าสามารถมีชีวิตรอดต่อไปได้
“พวกเรารีบออกไปกันเถอะ กลับไปบ้านหลี” เลขาฯ สาวพูดทางหลีเช่าหง เธอไม่อยากเชื่อทุกอย่างที่พึ่งเกิดขึ้น คาดไม่ถึงหลีเช่าหงจะคุกเข่าต่อหน้าผู้ชายลึกลับคนนั้น ผู้ชายลึกลับคนนั้นให้เขาฆ่าตัวตาย แถมยังใช้คำพูดที่ว่าไม่อยากให้มือของตนเองเปื้อน คำพูดเหยียดหยามเขาแบบนี้ด้วย
“กลับไป? กลับไปให้ทั้งบ้านหลีต้องมาจบเห่ด้วยกันน่ะสิ” หลีเช่าหงหัวเราะอย่างขมขื่น ทำให้ใบหน้างดงามของเลขาฯ สาวมีเสน่ห์คนนั้นตกตะลึง
“งั้นจะทำยังไงกัน?” เลขาฯ สาวถามขึ้น
หลีเช่าหงจ้องดวงตางดงามของเลขาฯ สาวอยู่ ดวงตาที่ลุ่มลึกทำให้เลขาฯ สาวอดขนลุกขนพองขึ้นมาไม่ได้
“มีเพียงความตาย” หลีเช่าหงพูดอย่างเรียบนิ่ง
“ความตาย?” เลขาฯ สาวคนนั้นหน้าสดใสไร้สีสัน มองทางหลีเช่าหง พูดอย่างตกใจ “ไม่ได้ คุณชายใหญ่ ถ้าคุณเป็นอะไรไป ฉันจะทำยังไง?”
หลีเช่าหงกวาดตามองเลขาฯ สาวคนนั้นทีหนึ่ง สายตาล้ำลึกไม่มีที่สิ้นสุด เอ่ยปากถามอย่างเรียบนิ่ง “ก่อนหน้านี้เธอเคยบอกไม่ใช่เหรอ สวรรค์นรก ที่อันตรายมากแค่ไหน ล้วนยินยอมไปด้วยกันกับฉัน?”
หลีเช่าหงมองทางเลขาฯ สาว ท่าทางเผยการถากถางที่หนาวเย็นออกมา
“ฉัน……” เลขาฯ สาวตันคำพูด พูดโน้มน้าว “คุณชายใหญ่ บ้านหลีเป็นตระกูลยิ่งใหญ่ พวกเรากลับบ้านหลีจะต้องมีวิธีแน่……คุณยังรู้จักบุคคลยิ่งใหญ่มากขนาดนั้นด้วย……”
หลีเช่าหงส่ายๆ หน้า หัวเราะเยาะตนเอง ถึงเขาจะรู้จักบุคคลยิ่งใหญ่มากมายขนาดนั้น แล้วจะมีประโยชน์อะไร? บุคคลยิ่งใหญ่เหล่านั้นถึงเก่งกาจแค่ไหน ที่มาใหญ่แค่ไหน ในสายตาของราชาหลงไม่ใช่แค่คนต่ำต้อยหรอกหรือ
“ไม่มีประโยชน์……มีเพียงความตายถึงสามารถสงบไฟโกรธของเขาได้” หลีเช่าหงเป็นคนฉลาด ราชาหลงเป็นคนที่หลอกง่ายขนาดนั้นเหรอ?
เลขาฯ สาวไม่ยินยอม รีบร้อนหยิบมือถือขึ้นมา เริ่มต่อสายโทรศัพท์สุดชีวิต
แต่หลังจากที่เธอหยิบมือถือขึ้นมา ใบหน้างดงามแข็งตัวทันใด……เพราะมือถือเธอยังไม่มีแม้แต่สัญญาณ
“สัญญาณของที่นี่โดนตัดไปตั้งนานแล้ว” หลีเช่าหงหัวเราะเยาะตนเอง “เขาจะให้โอกาสพวกเราติดต่อกับโลกภายนอกได้ยังไงกัน คาดไม่ถึงฉันคำนวณมาอย่างดี สุดท้ายยังไม่ได้คาดคิดจะมีจุดจบอย่างในวันนี้”
“ไม่ ฉันยังอยากมีชีวิตต่อไป ฉันตายไม่ได้” เลขาฯ สาวมองทางหลีเช่าหงอย่างหมดหวัง หลีเช่าหงฉลาดหลักแหลมดุจปีศาจ เวลานี้ถูกเลขาฯ สาวเห็นเป็นเพียงฟางเส้นสุดท้ายเส้นหนึ่ง “คุณชายหลี ขอร้องคุณแหละ……ฉันยังไม่อยากตาย……”
“ฉันก็ไม่อยากตายเหมือนกัน แต่ถ้าฉันไม่ตาย ก็จะมีคนตระกูลหลีมากมายตายเพราะฉัน” หลีเช่าหงเอ่ยปากนิ่งๆ “ถึงเวลาที่เธอจะทำคำสัญญาให้เป็นจริงแล้ว”
“ไม่” เลขาสาวร่างกายสั่นเทา เธอที่ดวงตาเบิกโต เต็มไปด้วยความยากจะเชื่อ
เธอใช้พลังนับไม่ถ้วน ใช้ความพยายามเข้าใกล้หลีเช่าหง เดินเข้าสู่โลกของหลีเช่าหง ใช้ร่างกายขายออกไปครั้งแล้วครั้งเล่าให้ได้รับความชื่นชอบของหลีเช่าหง ก็แค่เพื่อเข้าสู่ตระกูลร่ำรวย เฟื่องฟูขึ้นมาชั่วพริบตาเดียว
ตามองเห็นว่าเธอทำสำเร็จมาครึ่งหนึ่งแล้ว เพียงแต่ต้องรอกลับไปที่บ้านหลีที่เยี่ยนจิงกับหลีเช่าหง……ผลสุดท้ายใครจะไปคิดได้ว่าฝันร้ายจะเกิดขึ้นกะทันหัน การปรากฏตัวของผู้ชายคนหนึ่ง ปล้นเอาทุกอย่างของเธอไปหมด……แม้กระทั่งชีวิต
ฟันเลขาฯ สาวกัดริมฝีปากแดงอวบอิ่มแน่น เธอไม่ใส่เสื้อผ้าสักชิ้น ร่างกายที่สมบูรณ์แบบนั้นเพียงพอที่จะทำให้ผู้ชายมากมายคลุ้มคลั่งกัน แต่เธอในเวลานี้กลับน่าสงสารอย่างยิ่ง มองทางหลีเช่าหงอย่างหมดหวังชนิดหาที่เปรียบไม่ได้
เธอใช้ร่างกายของตนเองดำเนินการพนันเสี่ยงสูงในเกมนี้ กลับคาดไม่ถึงว่าเป็นการแพ้ราบคาบ ตนเองไม่ได้ดื่มด่ำอะไรเลย
“พวกเราหนีไปต่างประเทศ ปิดซ่อนชื่อสกุล ขอเพียงธรรมดาสักหน่อย เขาคงไม่รู้เด็ดขาด” เลขาฯ สาวสูญเสียสติปัญญาแล้ว วิงวอนหลีเช่าหงไม่หยุด
หลีเช่าหงท่าทางเรียบเฉย มุมปากโค้งยิ้มเยาะตนเองขึ้น……สายตาของราชาหลงเต็มไปทั้งหู้ไห่……ตนเองหนีออกไป จะมีชีวิตรอดได้หรือ?
โดยเฉพาะอย่างยิ่งเขาหนีออกจากหัวเซี่ยได้เหรอ? กลัวว่าแม้แต่หู้ไห่ยังออกไปไม่ได้ บ้านหลีจะต้องโดนพังทลายแน่
ส่วนเขาคงกลายเป็นคนที่โดนประณามตลอดกาลนาน แม้กระทั่งคงกลายเป็นตัวตลกของคนเยี่ยนจิงแบบนับไม่ถ้วน
เลขาฯ สาววิงวอนตั้งนาน เห็นหลีเช่าหงไม่ขยับเคลื่อนไหว เธอก็บ้าคลั่งอย่างยิ่ง ในที่สุดเผยความคลุ้มคลั่งท้ายสุดออกมา
ท่าทางเธอดุร้าย ผลักหลีเช่าหงออกไปทีหนึ่ง กรีดร้องพูดเสียงดุ “ไปตายเถอะแก ฉันจะไม่ตายด้วยกันกับคนโง่อย่างแกหรอก”
เลขาฯ สาวพูดจบ พุ่งไปทางหน้าประตูห้องพักอย่างไม่สนใจทุกอย่าง
หลีเช่าหงถอนหายใจเบาๆ ทีหนึ่ง ค่อยๆ ยกปืนขึ้น เล็งไปที่ภาพด้านหลังของเลขาฯ สาว
ปืนดังเสียดแก้วหูสองทีดังขึ้นจากในห้องพัก ในที่สุดก็กลับสู่ความสงบ
ในโรงแรมเงียบสงัดหมด ไร้ซึ่งสิ่งมีชีวิต เต็มไปด้วยกลิ่นคาวเลือดที่เข้มข้น เงียบอย่างผิดปกติ
“ตึกๆๆ ……”
ภาพเงาคนค่อยๆ เดินออกจากในโรงแรม เงยหน้ามองแวบหนึ่ง ที่กล้องวงจรปิดข้างทางของโรงแรม
“ปังๆๆ”
กล้องวงจรปิดทั้งหมดของถนนช่วงหนึ่งที่โรงแรมปิดโดยอัตโนมัติ กล้องวงจรปิดทั้งหมดในช่วงเวลานั้น ถูกทำลายไปหมด
ทันใดนั้นบนตัวเฉินเป่ยมีเสียงมือถือเร่งด่วนดังขึ้น
เฉินเป่ยรับสาย เสียงที่เหนื่อยล้ากำลังหาวของชิงเหนียนลอยมาจากในสายนั้น “สัญญาณของแถวนี้ผมขี้เกียจกู้คืนแล้ว พรุ่งนี้เช้ารอหลังจากพบเหตุการณ์แล้ว คงมีคนซ่อมคืนมา……ลูกพี่ ผมทนไม่ไหวแล้ว ง่วงเหลือเกิน……”
ชิงเหนียนพูดจบ ตัดสายโทรศัพท์ไป
แววตาที่สงบของเฉินเป่ยกะพริบความหมายล้ำลึกทีหนึ่ง
ไม่นานมุมปากเฉินเป่ยโค้งเส้นรัศมีวงกลมขึ้น ฝีเท้าเร่งรีบ เดินไปทางที่ไกลออกไป
…………
เช้าตรู่วันต่อมา
ประตูห้องของเฉินเป่ยโดนเคาะเสียงดังปังๆ เฉินเป่ยตกใจตื่นจากในฝัน
เปิดประตูห้องออก หลีชิงเยียนยืนอยู่หน้าประตูแบบใบหน้างดงามเย็นยะเยือก หัวเราะเยาะทีหนึ่ง พูดจาอย่างไม่เหมือนคนทั่วไป “ดูแล้วนายรู้ตัวดีจริงๆ อยู่ที่บ้านก็คิดว่าตัวเองเป็นประธานเฉินแล้วรึไง? ยังต้องให้คนอื่นมาทำข้าวเช้าให้นายกินถึงจะได้ใช่มั้ย?”
ใกล้รุ่งเช้า เฉินเป่ยพึ่งผ่านศึกดุเดือดฉากหนึ่งมา รีบนอนไปได้ไม่กี่ชั่วโมงก็ได้ยินประโยคนี้ของหลีชิงเยียน แวบหนึ่งสมองไม่ประมวลผลขึ้นมา เขาตะลึง จากนั้นถูๆ มืออย่างตื่นเต้น “ชิงเยียน……นี่คุณเตรียมข้าวเช้าไว้ให้ผมแล้ว?”
ท่าทางตื่นเต้นของเฉินเป่ย ยังมีน้ำเสียงที่หน้าไม่อายนั้นด้วย ทำให้ใบหน้างดงามของหลีชิงเยียนเย็นฉับพลัน เส้นเลือดที่หน้าผากกระตุกทันที
แวบหนึ่งหลีชิงเยียนปิดประตูลงอย่างไม่ลังเลสักนิด เดินลงไปจากชั้นสองอย่างโมโห กลับมาที่โต๊ะอาหารแล้ว
“มีอะไรเหรอ เขาไม่ลงมารึไง?” ซูเสี่ยวหยุนที่อยู่ด้านข้างมองเห็นหลีชิงเยียนโกรธเคืองมาก ถามขึ้นด้วยเสียงน่าดึงดูด
“ไม่ต้องสนเขา พวกเรากินของพวกเราเถอะ” หลีชิงเยียนพูดอย่างเดือดดาล
ทันใดนั้นซูเหลยที่อยู่ด้านข้างซึ่งเงียบตั้งแต่ต้นจนจบสีหน้าฝืดเคือง ชี้ไปทางโทรทัศน์แล้วพูดว่า “พวกคุณดูสิ”
หลีชิงเยียนและซูเสี่ยวหยุนมองทางโทรทัศน์ ทันใดนั้นตะลึงค้างแล้ว
สิ่งที่กำลังฉายในโทรทัศน์คือภาพของหลีเช่าหงเสียชีวิต
“คดีฆาตกรรมต่อเนื่อง……ใครที่ใจกล้ามากขนาดนี้กัน คาดไม่ถึงฆ่าหมดทั้งโรงแรมเลย” ซูเสี่ยวหยุนตบๆ หน้าอก พูดอย่างหวาดกลัวในใจ
“ดูแล้วมือสังหารมีความแค้นกับหลีเช่าหงมาก แม้แต่เขายังกล้าฆ่า” หลีชิงเยียนบ่นพึมพำกับตนเอง
“มือสังหารแกร่งมาก” ทันใดนั้นซูเหลยพูดขึ้นด้วยสีหน้าหนักหน่วง
หลีชิงเยียนกับซูเสี่ยวหยุนตะลึง ซูเหลยจ้องโทรทัศน์ไม่ขยับ ค่อยๆ พูดอธิบาย “ไอรีนเคยบอกกับฉันว่าบอดี้การ์ดข้างกายหลีเช่าหงเหล่านั้นเป็นคนทำงานลับเฉพาะแนวหน้าของหัวเซี่ย ฝีมือแกร่งมาก……ผลสุดท้ายยามใกล้รุ่งถูกมือสังหารคนเดียวจัดการทิ้งทั้งหมดได้ ความสามารถนี้……”
ซูเหลยพ่นคำพูดหนึ่งออกมา สีหน้าหนักหน่วง “ไกลเกินกว่าฉันมาก”
หลีชิงเยียนสีหน้าเปลี่ยนเล็กน้อย ซูเหลยเคยแสดงฝีมือหลายครั้ง ความสามารถของซูเหลย เธอมั่นใจมาก แต่นักฆ่าคนนั้นยังจะแกร่งกว่าซูเหลยอีกเหรอ?