สายเปย์เบอร์หนึ่ง - ตอนที่ 229
บทที่ 229 ราชาแห่งตะวันตก!
ในห้องส่วนตัว ท่านผู้อาวุโสตระกูลหวังถอดชุดคลุมยาวที่แปดเปื้อนไปด้วยคราบเลือด เขายื่นอยู่ตรงหน้ากระจก แล้วมองเรือนร่างของตัวเอง……เปลือกนอกที่ดูแก่ สามารถเห็นถึงกระดูกที่อยู่ชั้นใต้ผิวหนังด้วยความชัดเจนว่าเป็นรูปทรงยังไง……ยากที่จะคาดเดา ร่างกายที่มีลมเลือดอ่อนแอแบบนี้ ตอนที่เมื่อกี้ กลับสามารถแสดงพลังอันน่ากลัวออกมาได้ถึงขนาดนี้
ท่านผู้อาวุโสตระกูลหวังอุทานด้วยเสียงเบา เขาก้มหน้าลงมองมือขวาของตัวเอง นัยน์ตาเปล่งประกายความซับซ้อนออกมา……เขารู้ดี……แค่เพียงพลังของหมัดเดียว……แขนขวาของตัวเอง ชกกลางโดยฝ่าอากาศอย่างไร้เรี่ยวแรง นั่นเป็นอาการของกระดูกแตกย่อย!
“ตระกูลหลี……มีเอ๋อตงเฉิน……” ท่านผู้อาวุโสตระกูลหวังพึมพำ สีหน้าอันลุ่มลึกเคล้าด้วยความเย็นชา ครั้งนี้ เขาประมาทเกินไป……เขานึกไม่ถึง ความสามารถของเฉินเป่ย กลับแข็งแกร่งขนาดนั้น! แกร่งจนทำให้คนโกรธจนผมชี้ ทำให้ภายในใจของเขารู้สึกสั่นไหวอย่างรุนแรง!
ตามความสามารถของท่านผู้อาวุโสตระกูลหวัง สามารถกวาดร้างทั้งหู้ไห่ก็ไม่ใช่ปัญหา และก็เพราะว่าการคงอยู่ของเขา ทำให้คนในตระกูลหวังมากมายที่เป็นคู่แข่งรู้สึกถมึงทึง และไม่กล้าจู่โจมไปเรื่อยเปื่อย
ท่านผู้อาวุโสตระกูลหวังเป็นมีดแหลมเล่มหนึ่งของตระกูลหวัง……และเป็นไพ่ที่แข็งแกร่งใบหน้าที่ทำให้ศัตรูต้องสะทกสะท้าน!
และตอนนี้ ท่านผู้อาวุโสตระกูลหวังพุ่งหน้าไปยังบริษัทตระกูลหลีกรุ๊ป กลับพ่ายแพ้ แล้วก็หนีกลับมาด้วยความกระวนกระวาย……นี่หมายความว่าอะไร? หากสำหรับคู่แข่งเหล่านั้นที่ต้องล้มตระกูลหวังและแทนที่ตระกูลหวังแล้ว ความอัศจรรย์ที่อาบเลือดที่ท่านผู้อาวุโสตระกูลหวังสร้างขึ้น จะถูกลืมเลือนไป!
มือขวาของท่านผู้อาวุโสตระกูลหวังสั่นเทาเล็กน้อย และรู้สึกเจ็บปวดอย่างมาก สีหน้าของเขาดูย่ำแย่ ในสี่ตระกูลทองของหู้ไห่ ตระกูลหวังอ่อนแอที่สุด และมีความเป็นไปได้ที่จะถูกตระกูลที่ยิ่งใหญ่อื่นๆ แทนที่!
แต่เฉินเป่ยและตระกูลหลีไม่สามารถเก็บไว้ได้ ต้องกำจัดให้สิ้นซาก……เรื่องนี้หากป่าวประกาศออกไป นี่เป็นความอับอายตระกูลหวัง! หากไม่สามารถสำเร็จภารกิจของตระกูลหลีเยี่ยนจิง ตระกูลก็ยากที่จะหลบเลี่ยง
น้ำที่เย็นเฉียบกระทบลงบนใบหน้าของท่านผู้อาวุโสตระกูลหวัง ทำให้เขาสงบสติลง จู่ๆ เขาก็นึกอะไรขึ้นมาได้ จึงกระตุกมุมปากเผยยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ออกมา แล้วควักมือถือออกมา จากนั้นก็โทรหาสายๆ หนึ่ง
ทางฝั่งสาย มีเสียงเสียงหนึ่งส่งมา เป็นเสียงที่เลือดเย็นและน่าเกรงขามอย่างมาก “หาฉันมีเรื่องอะไร? ”
ท่านผู้อาวุโสตระกูลหวังพูดด้วยความเคารพ “ราชา พวกเราเจอกับปัญหาที่ยากจะจัดการครับ”
ทางฝั่งสาย ก็นิ่งสงบไปสักพัก แล้วเสียงเลือดเย็นน่าเกรงขามนั้นก็ดังขึ้นอีกครั้ง “รู้แล้ว ตอนนี้ฉันกำลังไปหู้ไห่ ถือว่าเป็นการคืนหนี้บุญคุณที่ติดค้างคุณไว้”
“ขอบคุณราชา” ท่านผู้อาวุโสตระกูลหวังวางสาย ทันใดนั้นก็รู้สึกโล่งอก แล้วก็เผยยิ้มอันแปลกพิลึกและนิ่งเฉยออกมา
เหมือนมีการออกแรงของราชาท่านนี้ ทุกอย่างก็จะจบสิ้นลง
ต่อให้เฉินเป่ยจะแกร่งแค่ไหน แล้วจะแกร่งไปกว่าราชาท่านนี้หรอ?
ทั้งตระกูลหวัง มีแค่ท่านผู้อาวุโสตระกูลหวังที่รู้ว่าคนที่อยู่ในสาย ราชาท่านนั้นมีฐานะเป็นอะไร
เขา……ไม่อยู่หัวเซี่ย เขาอาศัยอยู่ในทิศตะวันตก!
เขาเป็นผู้ที่มีอำนาจและอิทธิพลที่ยิ่งใหญ่…….และในมือครองอำนาจที่ใหญ่ยิ่ง เป็นผู้นำของนักฆ่าจำนวนนับไม่ถ้วน! และเป็นความโชคดีของท่านผู้อาวุโสตระกูลหวังในตอนนั้น ตอนเขาเจอกับความอันตรายถึงชีวิตที่หัวเซี่ย จึงได้ออกแรงช่วยเหลือ…….วันนี้ราชาท่านนั้นกลับไปถึงโลกชั่วร้ายทิศตะวันตก……และได้บริการเทพองค์หนึ่ง
ถ้าไม่ใช่เพราะว่าบุญคุณที่ช่วยเหลือชีวิตของท่านผู้อาวุโสแห่งตระกูลหวัง ราชาท่านนั้นไม่มีทางออกแรงช่วยเหลือแน่นอน……ต่อให้จะล้ำค่าเพียงใด ก็จะไม่มีทางให้เขาเสียสละชีวิตเพื่อคนอื่น
เขาแค่ต้องการมีประสิทธิผลต่อเทพท่านนั้นในโลกชั่วร้ายทิศตะวันตก
ท่านผู้อาวุโสแห่งตระกูลหวังถอนหายใจออกมาหนึ่งคำ เรือนร่างเหมือนถูกละทิ้งภาระที่หนักหน่วง และตอนนี้รู้สึกผ่อนคลายอย่างมาก
เขารู้ดีในความสามารถของราชาท่านนั้น……ตามข่าวลือราชาท่านนั้น เคยต่อสู้กับราชาหลงในตำนานก็ไม่ตาย ตั้งแต่ตอนนั้นเป็นต้นมาก็มีชื่อเสียงที่โด่งดัง
ความสามารถของเขา ทำให้เพียงพอต่อการมองหู้ไห่ด้วยความเย่อหยิ่ง ให้เขาไปจัดการเฉินเป่ย ไม่ใช่ว่าง่ายดายเหมือนบีบมดตายไปหนึ่งตัว?
“ตระกูลหลี ครั้งนี้ต้องตาย! ”
ท่านผู้อาวุโสแห่งตระกูลหวังพึมพำ สีหน้าเคล้าด้วยความเย็นชาและลุ่มลึก
ท่านผู้อาวุโสแห่งตระกูลหวังกระตุกมุมปากแล้วเผยยิ้มที่ขี้เล่นออกมา เขาเฝ้ารอคอย……ถึงเวลาเฉินเป่ยอยู่ต่อหน้าราชาท่านนั้น ท่าทางที่คุกเข่าขอร้องนั้นเป็นไง
…….
และในตอนนี้ หลีชิงเยียนที่ยืนอยู่ในห้องโถงใหญ่ กำลังชี้แจงมอบหมายงานที่จะสร้างสิ่งที่เสียหายขึ้นมาใหม่
ห้องโถงใหญ่ถูกทำลายอย่างเลอะเทอะ หลีชิงเยียนเชิญบริษัทตกแต่งมาแปลงโฉมใหม่
และซามูไรในครั้งนี้ เฉินเป่ยไม่รู้ว่าไปหาเก้าอี้นอนมาจากไหน เขานอนอยู่บนนั้นด้วยความสบาย ในปากยังคีบบุหรี่ไว้ และเขาก็พ่นควันออกกลางอากาศไปด้วย และก็มองพนักงานก่อสร้างและพนักงานบริษัทตระกูลหลีกรุ๊ปที่กำลังยุ่งวุ่นวาย ทำให้เห็นเขากำลังดื่มด่ำอย่างมาก
พนักงานบริษัทตระกูลหลีกรุ๊ปมากมายมองเขาด้วยสายตาที่เกลียดชังและโมโห ความเคารพนับถือตอนก่อนหน้านี้ก็หายไปทันที…..เพราะว่าเฉินเป่ยไม่รู้จักอายเกินไป……ไม่แตกต่างอะไรจากอันธพาลเลย!
เขาบ้าคลั่งเกินไป ในมุมมองของพวกเขา เขาแทบเป็นขี้หนูที่ทำให้โจ๊กทั้งหม้อต้องเสียของบริษัทตระกูลหลีกรุ๊ป!
เฉินเป่ยหรี่ตาทั้งสองข้างลงเล็กน้อย แล้วกำลังมีความสุขกับการอาบแดดที่สอดส่องเข้ามาจากนอกหน้าต่าง และสัมผัสได้ถึงสายตาอันเลือดเย็นที่แทบจะฆ่าคนได้ มุมปากจึงกระตุกรอยยิ้ม ความลุ่มลึก และความขี้เล่นออกมา
“ทำให้คนโมโหเกินไปแล้ว เขานึกว่าเขาเป็นใคร! ”
“แม้แต่ท่านประธานหลียังต้องยืนสั่งงาน ไอ้หมอนี่กลับดี กำลังอาบแดด สูบหรี่และนอนหลับแบบนี้! ”
“แม่งเอ้ย เป็นพนักงานบริษัทตระกูลหลีกรุ๊ปเหมือนกันแท้ๆ พวกเราทำไมถึงไม่มีสวัสดิการแบบนี้บ้าง รู้แบบนี้ฉันคงไปสู้กับไอ้ผู้เฒ่านั้นตั้งนานแล้ว! ”
“นี่ก็คือข้อดีของลูกเขยที่แต่งเข้าตระกูลฝ่ายหญิงใช่ไหม แม้แต่ท่านประธานหลีก็ยังไม่อยากสนใจเขา”
พนักงานบริษัทตระกูลหลีกรุ๊ปแต่ละคนต่างก็แอบซุบซิบกัน ทำให้รู้สึกโมโหอย่างมาก
และคนพวกนี้ไม่รู้ ทุกคำพูดที่พวกเขาพูด ก็ส่งเข้าไปในหูของเฉินเป่ยอย่างชัดเจน
เฉินเป่ยนอนอยู่กับเก้าอี้ แล้วก็ขยับตัวขึ้นมาเล็กน้อย มุมปากของเฉินเป่ย จู่ๆ ก็กระตุกยิ้มขึ้นทันที
และในตอนนี้ จู่ๆ ก็มีรปภ.ท่านนี้ เข้ามาใกล้ด้วยความระมัดระวังแล้ว แล้วมองไปยังเฉินเป่ย พลางถามขึ้น “ท่านคือ……ท่านประธานเฉินหรอครับ? ”
เฉินเป่ยหันไปมอง แล้วกวาดสายตามองรปภ.ท่านนั้นเพียงพริบตา พลางถาม “ทำไม? ”
จู่ๆ รปภ.ก็ทำสีหน้าที่ตื่นเต้น “ท่านประธานเฉิน……ท่านเป็นเทพรบไร้เทียมทาน……ไม่มีท่าน เมื่อกี้ผมก็คงตายไปแล้ว! ”
เฉินเป่ยนิ่งงัน ที่แท้ท่านผู้อาวุโสตระกูลหวังท่านนั้น ก่อนหน้านี้จะคิดจะทำร้ายรปภ.ท่านนี้ให้ตาย สุดท้ายจู่ๆ เฉินเป่ยก็ปรากฏตัว ทำให้ผลักไสความสนใจของท่านผู้อาวุโสตระกูลหวัง ทำให้รปภ.ท่านนี้ โชคดีที่หนีรอดไปได้
“เมื่อกี้ผม……ห่างจากที่นี่ใกล้หน่อย……อยู่ตรงมุมที่อยู่ไม่ไกลจากพวกคุณ……ท่านประธานเฉิน ท่านเก่งเกินไปแล้ว แค่ใช้เวลาสั้นๆ ก็สามารถจัดการกับไอ้ผู้เฒ่าคนนั้นให้สิ้นซากอย่างเด็ดขาด! ” รปภ.ตื่นเต้นจนต้องยกมือวาดเท้า เขามองเห็นเฉินเป่ยจัดการกับท่านผู้อาวุโสแห่งตระกูลหวังอย่างโหดเหี้ยม เหมือนดั่งเทพเจ้า!
สุดท้ายเฉินเป่ยกลับทำสีหน้าที่นิ่งเฉยใส่รปภ. ก็ยิ่งทำให้เขารู้สึกตื่นเต้นกว่าเดิม “เทพเจ้า……ท่านประธานเฉิน ถ้าเรามีท่านที่มีทักษะแบบนี้ คนที่เหมือนไอ้ผู้เฒ่าคนนั้น มีกี่คนก็ถูกเราตีกี่คน”
เฉินเป่ยหัวเราะเสียงดัง แล้วมองรปภ.ด้วยความน่าสนใจ “นายชื่ออะไร? ”
“จางหยุ่งครับ” รปภ.พูดขึ้น
เฉินเป่ยพยักหน้า แล้วมองจางหยุ่งด้วยความลุ่มลึกเพียงพริบตาเดียว แล้วยิ้มพูดขึ้น “ดีมาก ทำงานดีๆ บริษัทตระกูลหลีกรุ๊ปย่อมมีพื้นที่ให้นายได้ครองตำแหน่งแน่นอน”
“ขอบคุณท่านประธานเฉินที่ชี้แนะครับ” เฉินเป่ยแค่พูดขึ้นอย่างผิวเผิน ทำให้จางหยุ่งรู้สึกตื่นเต้นไม่ไหวแล้ว จึงได้ควักธนบัตรออกมา แล้วให้เฉินเป่ยเซ็นชื่อ
หลังจากที่เฉินเป่ยเซ็นชื่อเสร็จ จางหยุ่งก็จากไปเหมือนได้รับของอันล้ำค่า ใบหน้าเต็มไปด้วยความตื่นเต้นดีใจ
“ไม่เลวหนิ กลายเป็นคนดังในบริษัทแล้ว” จู่ๆ ก็มีเสียงเย้ยหยันอันเย็นชาส่งมาจากด้านข้าง เฉินเป่ยหันไปมอง ก็ไม่รู้ว่าหลีชิงเยียนปรากฏตัวอยู่ข้างหลังเขาเมื่อไหร่ เห็นได้อย่างชัดเจนว่าได้ยินคำพูดคุยของเขากับจางหยุ่งในเมื่อกี้ได้อย่างชัดเจน
เฉินเป่ยเผยยิ้มที่ประจบออกมา “ชิงเยียน นี่ผมไม่ได้คิดจะสานความสัมพันธ์ที่ดีกับลูกน้องใช่ไหม? ”
“ก็แค่รปภ.ที่ไม่มีชื่อเสียง คุณต้องไปคบหาด้วยหรอ? ” หลีชิงเยียนทำสีหน้าที่เลือดเย็นเหมือนน้ำแข็งมองเฉินเป่ยเพียงพริบตาเดียว แล้วกระตุกยิ้มอันเย้ยหยันขึ้น
“ความรู้สึกที่ได้เป็นราคาดังมันเป็นยังไง? ” หลีชิงเยียนถาม
“ธรรมดาๆ ” เฉินเป่ยพูดอย่างลังเล
“คุณไม่เคยเป็นคนดัง แม้แต่ความรู้สึกของการเป็นคนดังก็ยังไม่รู้ แล้วยังบอกว่าธรรมดาอีก” หลีชิงเยียนแสยะยิ้ม
เฉินเป่ยไม่ได้ถกเถียง จึงตอบกลับอย่างให้ความร่วมมือ…..หลีชิงเยียนไม่รู้ว่าคำพูดที่เขาพูดทั้งหมดเป็นความจริง
คนดัง ทำไมต้องคนดัง? ชื่อของราชาหลงมีผลกระทบต่อต่างแดน……ตอนที่โลกชั่วร้ายตะวันตกถูกกระทบ ราชาหลง…..ใครจะไม่รู้ ใครจะไม่เคยได้ยิน?
ในโลกๆ นั้นที่อยู่ต่างแดน……ราชาหลงก็ได้กลายเป็นตำนานที่ร่ำลือกันมา ถูกผู้มีอิทธิพลนับไม่ถ้วนต่างก็ร่ำลือ ซึ่งเป็นการคงอยู่โดยที่ถูกมองว่าเป็นสิ่งต้องห้าม!
ชื่อเสียงของราชาหลง กดดันเนื้อสดน้อยนับไม่ถ้วน แล้วยังมีดาราที่ได้รับความนิยมสูง…….ถ้าเทียบกับการได้รับความนิยม ราชาหลงต้องเป็นตำนานที่ไม่พ่ายแพ้แน่นอน!
ราชาหลงได้ความนิยมสูงมาก สูงจนแม้แต่หลีชิงเยียนคิดยังไม่กล้าคิด!
ถ้าแม้แต่ราชาหลงก็ไม่ถือว่าเป็นคนดัง บนโลกใบนี้ จะมีใครที่มีสิทธิ์ถูกเรียกว่าคนดัง?
เฉินเป่ยเบื่อกับความรู้สึกที่มีผู้คนนับหมื่นจ้องมอง ทุกท่าทีของเขา ดึงดูดผู้ที่มีอิทธิพลนับไม่ถ้วนให้ความสำคัญและให้ความสนใจอย่างใกล้ชิด…..เขามาถึงประเทศไหน ประเทศนั้นก็มักจะต้องเผชิญกับศัตรูที่ยิ่งใหญ่
แค่เขาทำอะไรที่สถานที่ใดๆ ก็จะถูกคนอื่นใช้ความสามารถทั้งหมดที่มีไปจัดการให้สิ้นซาก
ดังนั้น ดาราคนดังอย่างที่ว่า เฉินเป่ยไม่เคยสนใจอยู่แล้ว พวกนี้เป็นของที่ไม่ได้ความนิยม แม้กระทั่งไม่สามารถเข้าตาของเขาได้!
หลีชิงเยียนจะไปรู้เรื่องพวกนี้ที่ไหนกัน ในมุมมองของเธอ เฉินเป่ยชอบขี้โม้เกินไป ทำให้เธอไม่มีทางเชื่อสิ่งที่เฉินเป่ยพูดทั้งหมดแม้แต่นิดเดียว!
หลีชิงเยียนมองท่าทีที่ดีของเฉินเป่ย ทำให้เธอโกรธไม่ลง แค่จับจ้องเฉินเป่ยด้วยความเย็นชา แล้วหันมองเดินไปตรงที่ไม่ไกล…..
……..
ตอนกลางคืน มีเครื่องบินลำส่วนตัวขับเคลื่อนอยู่กลางอากาศของหู้ไห่ ในค่ำคืนที่ลุ่มลึก ในสนามบินแห่งหนึ่งมีเครื่องบินลงความเร็วแล้วค่อยๆ จอดลง
และในตอนนี้ มีคนเสื้อดำแต่ละคน ต่างก็เดินเข้าไปจากนอกสนามบินด้วยความเร่งรีบ ตลอดทางราบรื่นและไม่มีสิ่งกีดขวาง ไม่มีใครกล้ากีดขวาง……เพราะฐานะของพวกเขาพิเศษ…….มาจากตระกูลทองที่เลื่องชื่อในหู้ไห่!
มีคนเสื้อดำยืนอยู่ด้านหน้าเครื่องบินลำส่วนตัวเป็นแถว สายตาจับจ้องไปยังประตูเครื่องบินลำส่วนตัว
เรือนร่างนั้นเดินลงมาจากบันได แต่ละท่านเป็นชายเรือนร่างสูงใหญ่ พวกเขาดูกำยำ สีหน้าเย็นชา เสื้อผ้าที่สวมใส่ก็ไม่สามารถบดบังกล้ามเนื้อเป็นมัดๆ ของพวกเขาได้!
ตระกูลหวงส่งคนเสื้อดำมา ถึงแม้สีหน้าที่ไม่สื่ออารมณ์ใด ทว่าภายในใจของพวกเขายังคงรู้สึกสั่นเทาเล็กน้อย……ชายพวกนี้ เรือนร่างแผ่รังสีความเลือดเย็นและอาฆาตออกมา…….เหมือนเป็นสัตว์ดุร้ายที่เคล้าด้วยความอาฆาต!
ผู้ชายพวกนี้ยืนอยู่ตรงหน้าคนเสื้อดำ นัยน์ตาของทุกคนเปล่งประกายการคลังเลือดออกมา แล้วเปลี่ยนเป็นเครื่องมือเครื่องหนึ่งที่เลือดเย็นและอาฆาต!
“หรือว่าจะเป็นซามูไรของราชาท่านนั้น? ” หนึ่งในคนเสื้อดำจู่ๆ ก็นึกถึงคำกำชับที่ท่านผู้อาวุโสแห่งตระกูลหวังบอกก่อนที่จะมา
ราชาท่านนั้นมีซามูไรติดตามมาด้วย แค่ความยิ่งใหญ่ของซามูไรที่ติดตามเขา ก็เหนือสิ่งที่คาดหมายแล้ว ถ้าซามูไรรวมพลังกัน ก็สามารถฆ่ายอดฝีมือท่านหนึ่งที่ไร้เทียมทานได้อย่างง่ายดาย!
ซามูไรเหล่านี้ คือผู้ที่ถูกราชาท่านนั้นคัดมาโดยพิเศษ ทุกคนไม่กลัวความเจ็บ ไม่กลัวความตาย โหดเหี้ยมยิ่งกว่าสัตว์ดุร้าย!
และในตอนนี้ ซามูไรเหล่านี้เดินออกมา จากประตูเครื่องบิน จู่ๆ ก็มีเรือนร่างหนึ่งปรากฏทันที เหมือนกับว่าอากาศกำลังถูกการปรากฏตัวของเขาก่อตัวเป็นน้ำแข็ง!
คนเสื้อดำต่างก็มองไปที่เรือนร่างนั้น ม่านตาหดลงทันที!
ราชาของท่านผู้อาวุโสแห่งตระกูลหวัง ปรากฏตัวสักที!