สายเปย์เบอร์หนึ่ง - ตอนที่ 232
บทที่232 หัวเซี่ยแกร่งมาก
“ลูกจะไปทำอะไร?” หลีหยางตะลึงหน่อยหนึ่ง ถามขึ้น
“แม้แต่อะไรคือพนันเพชรพลอย ไม่แน่ว่าเขาก็ยังไม่รู้ พ่อว่าหนูจะไปทำอะไรล่ะคะ?” หลีชิงเยียนทำเสียงฮึดฮัด “ไม่ใช่การจัดการของพ่อเหรอ หนูไม่อยู่ข้างกายเขา ไม่แน่ว่าเขาจะเกิดความคิดไม่ดีอะไรออกมา”
หลีหยางตะลึง ยิ้มบอก “ลูกไม่ต้องเป็นห่วงเขาขนาดนี้หรอก เรื่องที่ควรบอก พ่อก็บอกเขาหมดแล้ว……”
หลีหยางยังพูดไม่จบก็โดนหลีชิงเยียนขัดจังหวะ “ตกลงตามนี้แล้วกันค่ะ”
หลีชิงเยียนพูดจบ หมุนตัวไปแบบไม่ให้คนได้อธิบาย เดินออกจากห้องทำงาน
หลีหยางมองที่หน้าประตูห้องทำงาน อึ้งไปตั้งนาน มุมปากถึงยกรอยยิ้มขึ้น
…………
ตระกูลหวังแห่งหู้ไห่ เบนท์ลีย์สีดำหลายคันขับเข้ามาจากที่ไกลออกไป ในที่สุดค่อยๆ จอดอยู่ที่หน้าประตูของคฤหาสน์
ประตูรถเปิดออก โอลิเวอร์เดินลงมาจากบนเบนท์ลีย์ เดินเข้าในคฤหาสน์
เพิ่งเดินเข้าคฤหาสน์ คนในตระกูลหวังก็เข้ามาก่อน ขวางโอลิเวอร์เอาไว้ มองโอลิเวอร์ที่จมูกโด่ง ดวงตาสีฟ้า ใบหน้าแบบคนตะวันตก ถามว่า “พวกคุณเป็นใคร?”
โอลิเวอร์กวาดสายตามองคนในตระกูลหวังเหล่านั้นแวบหนึ่ง ไม่ได้พูดอะไร แต่ว่าเดินไปข้างหน้าต่อ
ด้านหลังของโอลิเวอร์ ซามูไรยื่นมือฉับพลัน บีบลำคอของคนในตระกูลหวังสองสามคนนั้นไว้ ฝ่ามือใหญ่ใช้แรงกุมไว้ทันใด
“แค่ก!”
เสียงที่กังวานดังขึ้นร่างกายของคนในตระกูลหวังเหล่านั้นอ่อนระทวยหมดแรงไป ดวงตาทั้งคู่เบิกโต ลูกตาเหมือนจะหลุดออกมา และไม่มีลมหายใจแล้ว
“ท่าน ในที่สุดท่านก็มาแล้ว ผมเตรียมเหล้าอย่างดีเอาไว้ รอคอยด้วยความเคารพอยู่นานแล้ว” ในเวลานี้ เสียงที่มีพลังสงบดังขึ้นจากระเบียงทางเดิน ปลายระเบียงทางเดิน ปรากฏภาพคนคนหนึ่งขึ้น คือท่านใหญ่ของตระกูลหวัง
ท่านใหญ่ของตระกูลหวังเดินออกจากระเบียงทางเดิน แววตาปะทะกันกับโอลิเวอร์ ทำให้ในใจท่านใหญ่ของตระกูลหวังสั่นอย่างแรง
ท่านใหญ่ตระกูลหวังเคยเป็นเทพสังหารที่เลื่องชื่อลือนาม แต่ปัจจุบันนี้ หลังจากมองเห็นแววตาของโอลิเวอร์ คาดไม่ถึงว่าเขายังเกิดความคิดที่หวาดกลัวขึ้นมา
ท่านใหญ่ตระกูลหวังเคยเห็นการฆ่าสังหารมามากมาย ห่างไกลกับโอลิเวอร์ที่จะเทียบกันได้
และบนตัวของโอลิเวอร์แพร่กระจายกลิ่นอายที่พอทำให้คนสยองขวัญอย่างมหาศาลนั้น ทำให้ท่านใหญ่ของตระกูลหวังจิตใจสั่นสะท้าน
ครั้งนี้เขาเข้าใจแล้วว่าทำไมคนเหล่านั้นถึงตายในมือของโอลิเวอร์กัน
โอลิเวอร์……เป็นเพชฌฆาตที่โหดเหี้ยมมีพลัง เขาฆ่าคนแบบไม่ต้องการเหตุผล!
หลังจากที่เจอหน้ากัน ท่านใหญ่ของตระกูลหวังก็เสียใจแล้ว เขาเสียใจที่ให้โอลิเวอร์มา……ประสบการณ์ที่โชกโชนบอกกับเขาว่าหากไม่ปรนนิบัติโอลิเวอร์ให้ดี คนที่จะประสบหายนะเป็นอันดับแรกก็คือตนเองตระกูลหวัง
เรื่องราวที่เกิดขึ้นรวดเร็วมาก สายตาท่านใหญ่ตระกูลหวังเพียงแค่กะพริบไม่กี่ที ก็กลับสู่ความสงบแล้ว มุมปากโค้งรอยยิ้มหนึ่งขึ้น ขยับเข้ามาบอกว่า “ท่านรีบมาจากโลกชั่วร้ายที่ห่างไกล คงเหน็ดเหนื่อยจากการเดินทาง ไม่สู้มาดื่มเหล้าสักหน่อย พักผ่อนสักนิด ผมจองโรงแรมไว้เรียบร้อยแล้ว จัดการเลี้ยงต้อนรับท่านเอาไว้ เพื่อต้อนรับท่านเลยครับ”
ด้านข้าง คนในตระกูลหวังมากมายได้ยินคำพูดพวกนี้ของท่านใหญ่ตระกูลหวังแล้วก็สีหน้าตกใจ……ใครจะไปคิดว่าท่านใหญ่ของตระกูลหวังยามอยู่ต่อหน้าคนตะวันตกผู้นี้ จะมีท่าทีต่ำต้อยเคารพนอบน้อมขนาดนั้น……ส่วนจำนวนข้อมูลที่แฝงอยู่ในคำพูดของท่านใหญ่ของตระกูลหวังยิ่งทำให้พวกเขาหนังศีรษะชา!
คนในตระกูลหวังส่วนหนึ่งเห็นได้ชัดว่าเคยได้ยินตำนานของโลกชั่วร้ายทิศตะวันตกของต่างประเทศมา ตอนที่ได้ยินคำว่าโลกชั่วร้าย ทั่วทั้งตัวอดสั่นเทาไม่ได้ ดวงตาเผยความหวาดผวาลนลาน
ท่านผู้นี้มาจากโลกชั่วร้ายทิศตะวันตก…….หรือว่าจะเป็นผู้ยิ่งใหญ่ของโลกชั่วร้ายงั้นหรือ?
ในใจคนตระกูลหวังบางส่วนหนักหน่วง ผู้ยิ่งใหญ่ของโลกชั่วร้ายแต่ละคนล้วนฆ่าคนอย่างโหดเหี้ยม การมีตัวตนที่ไม่ทันไรเลือดก็ไหลราวแม่น้ำ……คาดไม่ถึงว่าท่านใหญ่ของตระกูลหวังจะสามารถเชิญผู้ยิ่งใหญ่แบบนี้มาที่หัวเซี่ยได้!
คนในตระกูลไม่น้อยมองทางท่านใหญ่ของตระกูลหวัง……หัวใจตื่นตระหนก พวกเขาไม่เข้าใจ สรุปท่านใหญ่ของตระกูลหวังอยากทำอะไร แม้แต่ผู้ยิ่งใหญ่ของโลกชั่วร้ายก็เชิญมาแล้ว
ท่าทางโอลิเวอร์เรียบเฉย คนในตระกูลหวังที่ฮือฮากันเหล่านั้น ในสายตาของเขา ไม่ใช่แค่เพียงความหวาดกลัวของคนต่ำต้อยเท่านั้นเหรอ
ในห้องส่วนตัว โอลิเวอร์กับท่านใหญ่ของตระกูลหวังนั่งอยู่ที่โต๊ะกลม ส่วนที่หน้าประตูห้อง มีซามูไรชุดหนึ่งเฝ้าอยู่ คนในตระกูลหวังทำได้แต่มองดูอยู่ไกลๆ ไม่กล้าเข้าใกล้สักนิดเดียว
ท่านใหญ่ของตระกูลหวังยกแก้ว บอกกับโอลิเวอร์ “ท่านครับ ผมได้จัดเตรียมงานเลี้ยงที่โรงแรมระดับสูงที่สุดของหู้ไห่ไว้แล้ว ตอนค่ำ ท่านกับซามูไรเหล่านั้นสามารถผ่อนคลายกันได้”
บนหน้าท่านใหญ่ของตระกูลหวังเผยการประจบประแจง ใครจะไปคิดว่าท่านใหญ่ของตระกูลหวังที่น่าเกรงขามจะเลียโอลิเวอร์แบบเปิดเผย……ผู้แข็งแกร่งที่มาจากโลกชั่วร้ายทิศตะวันตกท่านนี้
ถ้าในสายตาของเฉินเป่ย ท่านใหญ่ของตระกูลหวังที่เห็นตนเองแข็งแกร่งกล้ารังแกคนที่อ่อนแอ……ยังสามารถต่อสู้กับบริษัทตระกูลหลีกรุ๊ปได้เพื่อรักษาศักดิ์ศรีของตระกูลหวัง แต่ตอนที่เผชิญหน้ากับโอลิเวอร์ กลับไม่รู้เอาอานุภาพความน่าเกรงขามของตระกูลหวังไปทิ้งไว้ที่ไหนแล้ว
โอลิเวอร์ท่าทางเรียบเฉย ไวน์ลาฟินสีแดงในแก้วสั่นไหวเล็กน้อย โอลิเวอร์เอ่ยปากพูดแบบนิ่งๆ “ครั้งนี้ผมมาเพื่อตอบแทนบุญคุณของคุณ บอกเป้าหมายของคุณมา ผมจัดการเสร็จก็จะไป”
“เป้าหมายธรรมดามาก ตระกูลหลีที่หู้ไห่ยังมีเฉินเป่ยลูกเขยแต่งเข้าบ้านของตระกูลหลี” ท่านใหญ่ตระกูลหวังยิ้มประจบ “จากฝีมือของท่านแล้ว หลังจากคนพวกนี้รู้ชื่อเสียงของท่าน เดาว่าคงต้องยอมจำนนกันไปเองหมดแน่”
โอลิเวอร์จิบไวน์ลาฟิตอึกหนึ่ง มุมปากโค้งรอยยิ้มที่เหยียดหยามขึ้น “ระหว่างทางที่ผมมา คนหัวเซี่ยที่เจอแต่ละคนอ่อนแอกว่าอีก…..ไม่เพียงแค่นี้ ทั้งเอเชียล้วนเหมือนเนื้อปลาบนเขียง ไม่ช้าหรือเร็วก็ต้องมีสักวันที่จะโดนพวกเราโลกชั่วร้ายผนึกเป็นหนึ่งเดียว”
ท่านใหญ่ของตระกูลหวังสีหน้าแข็งทื่อ แววตาโอลิเวอร์ประกายแสงอันหนาวเหน็บแวบหนึ่ง “ตอนนั้น ที่เอเชียมีผู้แข็งแกร่งโดดเด่นเหนือใครท่านหนึ่ง ตั้งแต่นั้นมาก็ทำให้พวกเราโลกชั่วร้ายเคารพนับถือและต้องปลีกตัวออกห่างจากคนเอเชียเรื่อยมา ไม่กล้าเข้าใกล้……เดิมทีพวกเราคิดว่าเอเชียจะแข็งแกร่งมาก กลับคาดไม่ถึงว่าจะอ่อนแอเช่นนี้……ให้กำเนิดราชาหลงผู้แข็งแกร่งแบบนี้ได้ เป็นสิ่งมหัศจรรย์ที่นึกไม่ถึงเลย”
ท่านใหญ่ของตระกูลหวังตะลึง จับคำพูดประโยคหนึ่งที่ไม่น่าเชื่อเอาไว้ได้อย่างว่องไว “ท่าน ท่านบอกว่าราชาหลงเป็นคนเอเชีย?”
โอลิเวอร์พยักหน้า “ตอนนั้นเทพเจ้าแห่งสงครามและราชาหลงสู้ศึกใหญ่ที่สะเทือนเลือนลั่นไปทั่วโลก……ราชาหลงใส่ชุดดำ ใบหน้าปกคลุมด้วยผ้าปิดหน้า…….ตอนท้ายเทพเจ้าแห่งสงครามบอกผมว่าราชาหลงเป็นคนผิวเหลือง เป็นคนเอเชีย……”
ท่านใหญ่ของตระกูลหวังสีหน้าอึ้ง แววตาเผยความตื่นตกใจออกมา!
เขาแปลกใจมาก ราชาหลงผู้มีชื่อเสียงมาก คาดไม่ถึงจะมาจากเอเชีย!
“เทพเจ้าแห่งสงครามกำชับผมมาตลอด บอกว่าหัวเซี่ยแกร่งมาก ถ้ามีสักวันผมได้มาที่หัวเซี่ย ให้ทำตัวธรรมดา…..ดูแล้วเทพเจ้าแห่งสงครามตัดสินอะไรผิดไปนะ” โอลิเวอร์พูดกับตนเอง
ส่วนท่านใหญ่ของตระกูลหวัง ภายในใจเกิดความวุ่นวายยกใหญ่ขึ้น ตั้งนานยังยากจะสงบ
หลังจากใครได้ยินว่าราชาหลงในตำนานเป็นคนเอเชียเหมือนกัน ภายในใจล้วนยากจะสงบลง
คนที่มาจากแหล่งเดียวกันกับตนเองไปที่โลกชั่วร้ายทิศตะวันตกแล้ว ทั้งยังก่อกวนโลกชั่วร้ายจนโกลาหลอลหม่านไปหมด นี่เป็นผู้วิเศษอย่างยิ่ง!
ผู้ชายคนนั้นที่เริ่มก่อตั้งมาก่อนกาลอยู่นาน และทำให้ผู้มีอิทธิพลนับไม่ถ้วนหวาดกลัว คาดไม่ถึงจะเป็นผู้ที่มาจากที่เดียวกับตนเอง
ท่านใหญ่ของตระกูลหวังหายใจไม่เป็นจังหวะนิดหน่อย ในใจยากจะสงบ
และที่ท่านใหญ่ของตระกูลหวังไม่รู้ก็คือผู้ชายคนนี้ที่เขาชื่นชมด้วยความเลื่อมใส เวลานี้กำลังนั่งอยู่ในห้องทำงาน ดูดบุหรี่ ควันพวยพุ่ง
ในเวลานี้ ประตูห้องทำงานโดนผลักเปิดทันใด หลีชิงเยียนใส่รองเท้าส้นสูงเดินเข้ามาอย่างรีบร้อน ปิดจมูกไว้ เดินไปตรงหน้าเฉินเป่ย สอบถามด้วยเสียงเย็นชา “ใครให้นายเข้าร่วมงานพนันเพชรพลอย?”
เฉินเป่ยตะลึงเล็กน้อย จากนั้นยิ้มตอบ “วันนั้นพ่อพวกเราบอกกับผม ผมก็เลยไป”
“นายรู้มั้ยว่านายจะเอาความเสียหายมาให้บริษัทมากแค่ไหน ถึงตอนนั้นที่เข้าร่วมงานพนันเพชรพลอย ชื่อเสียงของบริษัทจะพินาศหมดเพราะนาย” หลีชิงเยียนพูดด้วยเสียงดุ
เฉินเป่ยยิ่งมึนงงเข้าไปอีก “ทำไมชื่อเสียงของบริษัทถึงพินาศหมดเพราะผมล่ะ?”
“นายพนันเพชรพลอยเป็นเหรอ?” หลีชิงเยียนยิ้มเยาะ
เฉินเป่ยพยักหน้าแล้ว “เป็นอยู่นิดหน่อย”
“งั้นนายไม่มีญาณรู้ตัวเองสักหน่อยเหรอ งานพนันเพชรพลอย นั่นเป็นงานที่ผู้เชี่ยวชาญของโลกพนันเพชรพลอยเข้าร่วม พวกฝีมือไม่เข้าขั้นอย่างนายนี้ จะไปทำอะไรที่นั่น?”
เฉินเป่ยอึ้ง จากนั้นมองทางหลีชิงเยียน หัวเราะอย่างมีเลศนัย “งั้นถ้าถึงตอนนั้นผมเอาอันดับมาได้ล่ะ?”
“อันดับ? ถ้านายคว้าอันดับมาได้ ตอนค่ำฉันจะเทนำล้างเท้าให้นายเลย” เห็นได้ชัดว่าหลีชิงเยียนโมโหเฉินเป่ยมาก โกรธจนเนินเขาที่สูงตระหง่านขึ้นลงอย่างแรง พอไม่มีสติครุ่นคิด จึงหลุดปากพูดออกมา
สายตาเฉินเป่ยทอประกาย……เขาไม่คิดไม่ฝันเลยว่าหลีชิงเยียนจะพนันเรื่องแบบนี้ออกมาได้……ชั่วขณะนั้นในใจเขาฮึกเหิมจนแทบไม่ไหว……นางฟ้าผู้เย็นชาจะเทน้ำล้างเท้าให้เขา……เรื่องนี้แค่คิดก็น่าตื่นเต้นแล้ว
“ได้ นี่เป็นคุณพูดเองนะ ถึงตอนนั้นอย่าเสียใจล่ะ” แววตาเฉินเป่ยเปล่งประกาย น้ำเสียงมีความตื่นเต้น
ดวงตาของหลีชิงเยียนแข็งนิดหน่อย ขมวดคิ้วขึ้น เฉินเป่ยเจ้าหมอนี้ยังคิดว่าจะชนะจริงๆ เหรอ?
“ฉันเตือนสตินายเอาไว้ ผู้เชี่ยวชาญพนันเพชรพลอยเหล่านั้น แต่ละคนไม่ใช่คนที่จะหาเรื่องได้ง่ายๆ และงานพนันเพชรพลอย เดิมก็พึ่งพาดวงดีด้วยส่วนหนึ่ง ถึงแม้จะมีประสบการณ์เล่นพนันเพชรพลอยมากแค่ไหน หากตัดสินผิดพลาดก็เป็นเรื่องปกติ” ดวงตางดงามของหลีชิงเยียนเผยความหมายเสียดสีออกมา
“วางใจเถอะ ด้วยจิตใจจงรักภักดีที่ผมมีต่อคุณ คว้าที่หนึ่ง ยังไม่ยากหรอก” เฉินเป่ยพูดอย่างไม่ลังเลสักนิด ลืมไปเลยว่าก่อนหน้านี้ตนเองเพียงบอกไปว่า “เป็นอยู่นิดหน่อย”
“งั้นก็ขอให้นายโชคดีนะ ถึงตอนนั้นอย่ามาปล่อยไก่ ให้ฉันช่วยนายกู้หน้าอีกล่ะ” ดวงตาของหลีชิงเยียนเผยความหมายที่ผิดหวังโกรธเคืองออกมา พูดจบอย่างโมโหเดือดดาล ทิ้งท้ายประโยคหนึ่ง แล้วหมุนตัวเดินออกจากห้องทำงานไปอย่างเดือดดาล
เฉินเป่ยมองทางภาพด้านหลังที่เซ็กซี่ของหลีชิงเยียน หัวเราะนิดหน่อย ในรอยยิ้มมีความหมายลึกล้ำเพิ่มขึ้นมา..