สายเปย์เบอร์หนึ่ง - ตอนที่ 244
บทที่244 องค์กรลึกลับปรากฏตัว
อธิบดีนั่งอยู่ในห้องทำงาน เวลานี้เขามองเสียงกริ่งโทรศัพท์และมือถือแต่ละเครื่องดังขึ้นสุดฤทธิ์ สีหน้าซีดขาว
โทรศัพท์สองสายนั้นจากเยี่ยนจิงก่อนหน้านี้ ก็พอจะทำให้เขาสำลักจริงๆ แล้ว
อธิบดีจ้องโทรศัพท์ที่ดังไม่หยุดพวกนี้ตั้งนาน เงยหน้าทันใด มองทางเย่ชวงด้วยสีหน้าดุร้ายอยู่บ้าง สอบถามว่า “ทำยังไง เธอว่าควรจะทำยังไง?”
“คนเป็นเธอจับมา ผลสุดท้ายกลับเอาฉันมาเป็นแพะรับบาป ถ้าพ่อเธอรู้เข้า ฉันเชื่อว่าพ่อเธอก็คงไม่ทำเรื่องแบบนี้ออกมาอย่างเธอแน่” อธิบดีกัดฟัน ระบายไฟโกรธอย่างบ้าคลั่งในห้องทำงาน
ใบหน้าของเย่ชวงก็ดูแย่มากเช่นกัน เธอคาดไม่ถึง ไม่ใช่แค่การจับกุมครั้งหนึ่งเองเหรอ เหตุใดถึงพัวพันกับบุคคลและผู้มีอิทธิพลหลายด้านขนาดนี้
บุคคลผู้มีอำนาจเหล่านี้เพิ่มแรงกดดันในเวลาเดียวกัน ต่อให้ตนเองเป็นถึงกรมตำรวจเยี่ยนจิงก็แบกไม่ไหว
หลังเห็นเจ้าหน้าที่ตำรวจเหล่านั้นออกจากห้องทำงาน เย่ชวงถึงเอ่ยปากกะทันหัน “อธิบดีคะ ความจริงเรื่องนี้ยังมีโอกาสดีขึ้น”
“โอกาสดีขึ้นอะไร?” อธิบดีมองทางเย่ชวงราวกับเป็นฟางเส้นสุดท้ายที่ช่วยชีวิตถามขึ้น
“อธิบดียังจำคดีที่หลีเช่าหงโดนฆ่าได้มั้ยคะ?” เย่ชวงเอ่ยปาก “คดีฆาตกรรมของโอลิเวอร์กับคดีถูกลอบสังหารของหลีเช่าหงเป็นคนร้ายคนเดียวกันทำ คนร้ายก็คือเฉินเป่ย”
คำพูดของเย่ชวงสะกิดความคิดของอธิบดีขึ้น อธิบดีสีหน้าเคร่งขรึม ครุ่นคิดครู่หนึ่ง ค่อยๆ พูดว่า “นี่ก็คือคดีฆาตกรรมชิ้นหนึ่งแล้ว คดีของหลีเช่าหงให้หลีหง……”
“แต่ถ้าเฉินเป่ยเป็นฆาตกรต่อเนื่องจริงล่ะคะ พวกเราไม่ใช่ได้ช่วยหลีหงด้วยเหรอ มีหลีหงอยู่ ต่อให้เป็นบุคคลผู้มีอำนาจใหญ่แค่ไหน ก็ไม่สามารถพูดอะไรได้มั้ง?”
เย่ชวงตามอธิบดีมานานมาก ภายใต้การชินหูชินตาไปหมด จึงรู้เรื่องบางอย่างที่เกี่ยวกับหลีหง
การมีตัวตนของอิทธิพลใหญ่โต ใครจะกล้าต่อต้านกับเขา?
เห็นอธิบดีกำลังครุ่นคิดอยู่ เย่ชวงจึงพูดต่อไป “ฉันได้รับข้อมูลในเหตุการณ์มาแล้ว รอยเท้าที่อยู่ในเหตุการณ์ ส่วนสูงคนร้ายของสองคดีข้อมูลอื่นๆ สอดคล้องกันทั้งหมด นั่นคือคนเดียวกันที่ลงมือทำ”
อธิบดีสั่นไปทั้งตัว ดวงตาทั้งคู่เผยความหมายที่แหลมคมออกมา สายตาเร่าร้อน มองทางเย่ชวง ถามด้วยเสียงทุ้ม “เธอแน่ใจหรือว่าข้อมูลนี้เชื่อถือได้?”
“เชื่อถือได้ไม่ผิดพลาดค่ะ” เย่ชวงพยักหน้า “ฉันให้ลูกน้องตรวจสอบซ้ำแล้ว……อธิบดี พวกเราจับคนร้ายที่ฆ่าหลีเช่าหงได้แล้ว”
อธิบดีมองทางเย่ชวง แววตาลุ่มลึก เขารู้ตัวว่าถ้าส่งเฉินเป่ยออกไป……บ้านหลีก็จะมีทางหนีทีไล่มาจัดการเขา เดิมทีคงไม่ปล่อยเขาไปแน่
อธิบดีสีหน้าเคร่งขรึม พูดกับเย่ชวง “เย่ชวง ฉันกับพ่อเธอเป็นเพื่อนกันมานาน ดังนั้นทั้งสถานีตำรวจ คนที่ฉันเชื่อได้ที่สุดก็คือเธอ……เรื่องนี้ พึ่งเธอทั้งนั้นเลย”
“ถ้าเป็นแบบที่เธอพูดจริง งั้นพวกเราลองเสี่ยงอันตรายครั้งนี้ดู คุ้มค่าทั้งหมด” อธิบดีเอ่ยปากขึ้น “ขอเพียงเธอสามารถทำให้เฉินเป่ยเอ่ยปากยอมรับ วิธีอะไรก็ได้หมด……แต่ถ้าเธอพ่ายแพ้ หัวของพวกเราคงไม่อาจรักษาไว้ได้…..”
เย่ชวงใบหน้างดงามเคร่งขรึมจริงจัง หมุนตัวเดินออกจากห้องทำงาน
เจ้าหน้าที่ตำรวจคนหนึ่งเดินเข้ามาจากด้านนอก อธิบดีค่อยๆ หันหลังให้ เสียงโทรศัพท์และมือถือที่รบกวนหนวกหูพวกนี้ ทำให้ในใจเขาหงุดหงิดมาก
“ก็บอกว่าฉันไม่อยู่” อธิบดีเอ่ยปากนิ่งๆ ……ถ้าเฉินเป่ยเกี่ยวข้องกับคดีที่หลีเช่าหงโดนลอบฆ่าจริง ถ้าพวกเขาเสนอเฉินเป่ยขึ้นไป หลีหงคงไม่ปฏิบัติกับเขาอย่างขาดความเป็นธรรมเด็ดขาด
“ครับ” เจ้าหน้าที่ตำรวจคนหนึ่งก้าวเท้าเข้ามา รับสายโทรศัพท์แล้ว
ในห้องควบคุมตัว ปลายระเบียงทางเดินที่ว่างโล่ง ปรากฏภาพเงาคนที่งดงามเซ็กซี่ขึ้น เดินมาที่เฉินเป่ยทางนี้
เฉินเป่ยกำลังจ้องที่ปลายระเบียงทางเดิน หลังมองเห็นเย่ชวงปรากฏตัว มุมปากค่อยๆ โค้งความหมายอันธพาลขึ้น
เย่ชวงเดินมาถึงด้านหน้าห้องควบคุมตัว เอ่ยปากบอกกับผู้คุมคนนั้น “เปิดประตู พาเขาไปที่ห้องสอบสวน”
“ครับ”
ประตูใหญ่เปิดออก เย่ชวงมองเฉินเป่ยอย่างเย็นชา น้ำเสียงเย็นเฉียบดุจน้ำค้างแข็ง “วันตัดสินคดีของนายมาถึงแล้ว”
สายตาของเฉินเป่ยแนบไปที่ต้นขายาวของเย่ชวงอย่างแน่น พูดจาแบบมีความสนใจ “มีหัวหน้าเย่อยู่ วันตัดสินคดีนี้ช่างมีความสุขเหลือเกิน”
เห็นได้ชัดว่าเย่ชวงสังเกตถึงสายตาที่ไร้ยางอายโจ่งแจ้งของเฉินเป่ย ดวงตาเย็นชาทำเสียงฮึดฮัด หมุนตัวเดินไปทางห้องสอบสวน
ห้องสอบสวน
เฉินเป่ยนั่งลงบนเก้าอี้ มือเท้าโดนใส่กุญแจเอาไว้ ส่วนในมือของเย่ชวงถือเอกสารปึกหนึ่ง วางลงไปตรงหน้าของเฉินเป่ย ถามด้วยเสียงหนาวเหน็บ “หลักฐานแน่นหนา ไม่เพียงแค่นี้พวกเรายังพบว่าครั้งที่แล้วคดีที่หลีเช่าหงถูกฆ่า รอยเท้าของนายกับรอยเท้าที่ทิ้งไว้ในครั้งก่อนก็เหมือนกัน นายยังมีอะไรจะสั่งเสียมั้ย?”
เย่ชวงหัวเราะเยาะเอ่ยปากขึ้น ใบหน้างดงามเต็มไปด้วยความหมายเสียดสี
เฉินเป่ยดึงเอกสารออก กวาดตามองนิ่งๆ ทันใดนั้นมือทั้งคู่ของเขาฉีกเอกสารเป็นชิ้นๆ
สีหน้าเย่ชวงเปลี่ยนนิดหน่อย แต่ไม่นานสีหน้าฟื้นตัวกลับมาปกติ “นี่เป็นเพียงของที่ถ่ายเอกสารชุดหนึ่ง อยากจะฉีกทำลายมันงั้นเหรอ คิดเพ้อเจ้อไปแล้ว”
“ไม่ว่านี่จะเป็นที่ถ่ายเอกสารไว้หรือไม่ ล้วนเป็นกระดาษเสียเท่านั้น” เฉินเป่ยเอ่ยปากเรียบนิ่ง
ใบหน้าเย่ชวงแข็งทื่อ อย่างไรเสียเธอก็คาดไม่ถึงว่าหลักฐานพวกนี้ที่เธอตั้งใจหามา จะไม่สามารถตกอยู่ในสายตาเฉินเป่ยได้
เย่ชวงจ้องมองเฉินเป่ยอย่างเย็นเฉียบ สรุปเป็นเขาที่หวาดผวาแล้ว หรือว่าเดิมทีไม่เห็นหลักฐานพวกนี้อยู่ในสายตา?
“แม้แต่หลักฐานที่พิสูจน์ว่าผมทำผิด คุณก็ยังไม่มี อยากให้ผมแต่งเรื่องราวให้คุณไหม?” เฉินเป่ยหัวเราะเรียบๆ “ผมไม่ใช่คนโง่ ผมจะติดกับคุณได้ยังไงกัน?”
ใบหน้าเย่ชวงแข็งค้าง เธอพูดเสียงหนาวเย็น “ฉันขอเตือนนาย อย่าเห็นว่าได้เปรียบแล้วจะมาต่อต้าน สารภาพมาอย่างซื่อสัตย์ เปิดเผยตรงไปตรงมา ขัดขืนจะโดนโทษหนัก”
“ผมก็ตรงไปตรงมาแล้วนี่ไง หัวหน้าเย่……ผมไม่เคยฆ่าใคร ผมแค่เห็นขาคุณค่อนข้างแน่น สามารถหนีบคนจนตายแบบพวกที่จ้องตาเป็นมันนั้นได้…..ฆ่าคนอะไรผมไม่รู้ทั้งนั้น เป็นคุณที่ชักนำให้ผมแต่งเรื่องราวขึ้นมาโดยตลอด” เฉินเป่ยแกล้งทำท่าทางน่าสงสารออกมา สายตากลับหยุดที่บนเรือนร่างที่เซ็กซี่งดงามนั้นของเย่ชวงไม่ได้ย้ายออกไปไหนเลย
เย่ชวงกัดฟันแน่น ก่อนที่เธอจะมาก็เตรียมวิธีนับไม่ถ้วนมารับมือเฉินเป่ย แต่ใครจะรู้เจ้าหมอนี้จิตใจแย่มาก ก่อกวนจิตใจของเธอโดยตรง เจ้าคนที่ดื้อด้านมากคนนี้ทำให้ชั่วขณะหนึ่งเธอลืมวิธีลูกไม้หลอกล่อสารพัดก่อนหน้านี้ไปหมด
ไม่ว่าในสถานีตำรวจหู้ไห่หรือนอกสถานีตำรวจหู้ไห่ เย่ชวงเป็นเสมือนดอกไม้ของสถานีตำรวจหู้ไห่ ทำให้ผู้คนนับไม่ถ้วนเลื่อมใส แต่ใครต่างไม่กล้าตามจีบเย่ชวง พวกนักเลงกระจอกพวกนั้นยิ่งไม่กล้าพูดจาไม่มีมารยาทใส่ สุภาพมีมารยาทต่อเย่ชวงกันทั้งนั้น
แต่ตอนนี้กลับมีคนไม่เข้าพวกอย่างเฉินเป่ยออกมา เจ้าหมอนี่เหมือนเกิดมานอกจากหลีชิงเยียนแล้วก็ไม่กลัวใครทั้งนั้น เวลานี้ยังกล้ามาหยอกเย้าเย่ชวงอย่างเปิดเผย
หน้าประตูห้องสอบสวน เจ้าหน้าที่ตำรวจที่แอบฟังอยู่เหล่านั้นสีหน้าฝืดค้าง อดแอบมองทางเย่ชวงไม่ได้
ใบหน้าของเย่ชวงแข็งทื่อ ใบหน้างดงามขาวเนียนใกล้ดำไปหมด กัดฟันที่ริมฝีปากแดงไว้ สายตานั้น เหมือนอยากฆ่าคนมากๆ
ถ้าไม่ใช่อธิบดีมอบหมายภารกิจสำคัญไว้ที่ตัวเธอ ให้เธอคิดวิธีทำให้เฉินเป่ยสารภาพความผิด……ไม่อย่างนั้นเธอคงเอาเฉินเป่ยมาจัดการตั้งนานแล้ว
ตั้งแต่เกิดมาจนถึงตอนนี้ เย่ชวงไม่เคยได้รับการหยอกเย้าแบบนี้มาก่อน
แต่ทว่าเฉินเป่ยไม่รู้สักนิด เวลานี้เขากำลังจ้องเย่ชวงอย่างขบคิดอยู่ มุมปากฉีกความหมายอันธพาลนั้นขึ้น เห็นได้ชัดว่าเล่นแง่อย่างมาก
………..
ในเวลานี้ บนถนนของหู้ไห่ยามดึก รถหงฉีคันหนึ่งขับด้วยความรวดเร็ว
ในห้องโดยสาร ผู้อาวุโสที่สวมชุดสูทจงซานท่านหนึ่งนั่งอยู่ ภายใต้การปกคลุมของฉากยามค่ำที่ล้ำลึก ขับด้วยความเร็วแบบเงียบๆ
รถหงฉีคันนี้ พอจะอธิบายได้ว่าสถานะของผู้อาวุโสที่ใส่ชุดสูทจงซานที่นั่งอยู่ในรถไม่ธรรมดา
“ผู้อำนวยการ……พวกเราแน่ใจว่าจะไม่รายงานเหรอครับ?” ด้านข้าง ผู้ชายคนหนึ่งถามอย่างเคารพ
“หลังจากรายงาน เบื้องบนคงปฏิบัติแบบให้ความสำคัญแน่ ไม่แน่ว่าอาจจะส่งกองทหารมากมายเข้ามา ประกาศภาวะฉุกเฉินเขตภายใน……ถึงตอนนั้นมีแต่ทำให้น้ำของหู้ไห่ถูกกวนจนขุ่นยิ่งขึ้น นี่ไม่ใช่สิ่งที่เขาต้องการมองเห็น…..” ผู้อาวุโสปัดๆ มือ พูดจานิ่งๆ “โดยเฉพาะอย่างยิ่งตอนนี้เขาประกาศกับโลกภายนอกว่าปลดเกษียณแล้ว ช่วงนี้ที่หู้ไห่ก็ไม่มีเรื่องวุ่นอะไร พวกเราแค่ไปขอความช่วยเหลือ ไม่ใช่ศัตรูกับเขา คงไม่มีอันตรายอะไร”
ผู้อาวุโสมองทางด้านนอกหน้าต่าง ฉากยามค่ำแฉลบผ่านถอยหลังไปด้วยความเร็ว ดวงตาที่แก่หง่อมยังคงชัดแจ๋ว เพียงแค่ประกายความคิดที่นึกหวนผ่านไปไม่ขาดสาย พูดพึมพำเสียงต่ำ “ไม่รู้ว่านายใกล้จะลืมคนแก่อย่างฉันแล้วรึเปล่า……”
เย่ชวงถลึงตาใส่เฉินเป่ยอย่างเย็นชา มองสองสามวินาทีเต็มๆ แล้วบอกว่า “ถ้านายไม่สารภาพประสบการณ์ที่ทำผิดมา ฉันก็มีวิธีทำให้นายรับโทษได้”
“ให้ผมสารภาพประสบการณ์ทำผิดก็ได้…..” ทันใดนั้นเฉินเป่ยกลับคำพูด จ้องเย่ชวงอยู่ ยิ้มเจ้าเล่ห์บอก “หัวหน้าเย่ ถ้าตอนค่ำมีเวลาว่าง อยู่เป็นเพื่อนผมสักคืน ผมจะบอกคุณให้……”
เย่ชวงจ้องเฉินเป่ยอย่างเย็นเฉียบ สีหน้าบนใบหน้ายิ่งหนาวเหน็บ
เฉินเป่ยยิ่งพูดพล่อยๆ ขึ้นมา……แตะโดนขีดจำกัดของเย่ชวงไม่หยุด
“สาดแสงมาหนักๆ อย่าให้เขาหลับตา” เสียงเย่ชวงตะโกนเสียงเย็น เธอสูญเสียความอดทนนิดๆ ท้ายสุดแล้ว
ในเวลานี้ รถหงฉีคันหนึ่งปรากฏตัวขึ้นที่หน้าประตูสถานีตำรวจหู้ไห่กะทันหัน
ประตูรถเปิดออก ผู้อาวุโสหยุดลง เดินไปทางด้านในสถานีตำรวจหู้ไห่
“ผู้เฒ่า กลางดึกแบบนี้อย่ามาเดินมั่วไปทั่ว” เจ้าหน้าที่ตำรวจสองคนเดินออกมาจากสถานีตำรวจ
ผู้ชายคนหนึ่งที่อยู่ด้านข้างผู้อาวุโสกวาดสายตามองเจ้าหน้าที่ตำรวจสองคน ควักสมุดเล่มเล็กออกจากกลางอก ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจสองคนดูหน่อย
เจ้าหน้าที่ตำรวจสองคนเพียงแค่มองแวบเดียว ก็ตะลึงค้าง จากนั้นสีหน้าเจ้าหน้าที่ตำรวจเปลี่ยนไปทันที มองสมุดเล่มเล็กนี้อย่างคาดไม่ถึง หัวใจเต้นแรง
“เป็นไปได้ยังไง……”
เจ้าหน้าที่ตำรวจสองคนมองหน้ากัน รอพวกเขาสองคนตอบสนองเข้ามา ผู้อาวุโสกับผู้ชายคนนั้นก็เดินเข้าสถานีตำรวจหู้ไห่ไปแล้ว
“หู้ไห่ของพวกเราที่แห่งนี้ คาดไม่ถึงยังทำให้องค์กรนั้นสังเกตเห็น?” หนึ่งในเจ้าหน้าที่ตำรวจสีหน้าตื่นเต้นเอ่ยปากพึมพำ
นี่คือพวกเขาสองคนเจอบุคคลในตำนานกันเป็นครั้งแรกในชีวิต