สายเปย์เบอร์หนึ่ง - ตอนที่ 264
บทที่264 ต้องพ่ายแพ้อย่างแน่นอน!
“ฉันไม่ได้ดูผิดไปใช่มั้ย คนหัวเซี่ยคนนั้น คาดไม่ถึงได้ครอบครองมัน!”
วินาทีนั้น ในอากาศที่ว่างเปล่ากลับมีเสียงร้องคำรามสั่นสะเทือน ทั้งหมดฮือฮากันอย่างยิ่ง ราวกับหลังลูกระเบิดเกิดระเบิด แทบจะเดือดพล่าน
ใครจะไปคิดว่าสภาพเรื่องราวจะพลิกกลับร้อยแปดสิบองศา ไม่มีใครคาดการณ์ได้ แต่ละคนที่นั่งอยู่ ล้วนไม่ใช่คนธรรมดา มีไม่น้อยมาจากต่างประเทศ ทางตะวันตก…….ยิ่งมีหลายท่านที่มาแบบไม่ธรรมดา
อุณหภูมิในอากาศเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว คนไม่น้อยหายใจเร่งรีบ สายตาเร่าร้อน จ้องทิศทางนั้นแบบตาไม่กะพริบ ในใจกระเพื่อมสั่นเทา
สิ่งของที่มีตัวตนอยู่เพียงในตำนานอันนี้ ชาวต่างประเทศทุกคนเกือบจะได้ยินมา แต่ที่เคยเจอจริงๆ มีน้อยมาก
วันนี้ พอผู้จัดการถามถึงที่มาของมันออกไป จะไม่ให้พวกเขาตกใจได้อย่างไรกัน
ที่ทำให้พวกเขารู้สึกยากจะเชื่อที่สุดคือมันไม่ใช่อยู่ในมือของวอล์คเกอร์ แต่ว่า…….คนหัวเซี่ยผู้นั้นกลับล้วงมันออกมาแล้ว
นี่ช่างเหมือนละครเหลือเกิน ใครจะไปคิดว่าผู้ชายมอมแมมแทบไม่ไหวอย่างกับขอทานคนหนึ่ง จะล้วงแบล็กการ์ดรุ่นลิมิเต็ดล้ำค่าที่สุดใบหนึ่งออกมา
และไม่เพียงแค่แบล็กการ์ดใบนี้ที่ทำให้คนตกใจ ชาวตะวันตกตาฟ้าจมูกโด่ง ซึ่งท่วงทีเคร่งขรึมหลายคนในนั้น เวลานี้กลับควบคุมอารมณ์ที่ฮึกเหิมภายในใจไม่ไหว มองทางแบล็กการ์ดในมือเฉินเป่ย เผยความตื่นเต้น และความคิดที่พวกเขามีต่อเฉินเป่ยโดยให้ความสำคัญอย่างมาก
“จะต้องหาทางติดต่อกับคนหัวเซี่ยผู้นั้นให้ได้ สอบถามหน่อยว่าแบล็กการ์ดใบนี้เป็นของเขาจริงหรือเปล่า ถ้าใช่ งั้นพอที่จะกลายเป็นที่หนึ่งของพวกเราได้” ผู้ชายชาวตะวันตกคนหนึ่งในนั้นเร่งรีบเอ่ยปาก เฉินเป่ยผู้ที่ไม่โอ้อวดความสามารถ ทำให้เขาที่แต่ไหนแต่ไรแววตาเฉียบแหลมสุดมองผิดไปแล้ว
ถ้าแบล็กการ์ดอันทรงเกียรติใบนี้เป็นของคนหัวเซี่ย งั้นความสามารถของเขาย่อมไม่ธรรมดาเด็ดขาด ชายชาวตะวันตกต่างอยากจะรับเอาคนหัวเซี่ยผู้นี้เข้ามากลายมาเป็นอิทธิพลของตนเอง
“สหภาพธนาคารยุโรปเป็นชื่อรวม……ที่หมายถึงสหภาพของธนาคารเกรียงไกรที่สุดของยุโรป แบล็กการ์ดที่มีนับไม่ถ้วน แต่แบล็กการ์ดอันทรงเกียรติมีจำกัดเพียงเก้าร้อยเก้าสิบเก้าใบเท่านั้น”
“ว่ากันว่าพวกเขาจะพิจารณาจากความสามารถของลูกค้าธนาคาร ว่าจะเลือกมอบแบล็กการ์ดอันทรงเกียรติให้หรือไม่ เคยมีคนบอกว่าแบล็กการ์ดอันทรงเกียรติเป็นสัญลักษณ์ของคนร่ำรวยอีกประเภทหนึ่ง…” คนวัยกลางคนในนั้นเอ่ยปากบอก “ทั่วทั้งโลกมีเพียงแบล็กการ์ดพวกนี้ แต่ละท่านที่กุมแบล็กการ์ดอันทรงเกียรติไว้ในมือล้วนเป็นผู้มีตัวตนไม่ไม่ธรรมดา ไม่ต้องพูดถึงตำแหน่งสูงที่สุด แค่ความสามารถด้านเศรษฐกิจก็พอจะทำให้คนนับไม่ถ้วนเลื่อมใสกันได้”
“พวกเขาแต่ละท่านใช้คำโบราณของหัวเซี่ยมาอธิบายว่าต่างเป็นบุคคลที่มีฝีมือจนน่าตกใจ หมายถึงยุคสมัยของสถานที่หนึ่ง แบล็กการ์ดอันทรงเกียรติ ยิ่งต้องมอบให้คนเหล่านี้ เพราะมีเพียงพวกเขาที่มีความสามารถขั้นนั้นที่จะครอบครองมันได้”
“ธนาคารที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของยุโรป……อธิบายอย่างถูกต้องคือเดิมทีไม่ใช่ธนาคารที่เป็นแบบดั้งเดิมแล้ว นี่ยิ่งเข้าใกล้นายทุนแต่ละคน” มีคนที่เข้าใจประวัติศาสตร์พูดเสียงต่ำ
และการปรากฏตัวของแบล็กการ์ดอันทรงเกียรติใบนี้ สามารถดึงดูดความสั่นสะเทือนที่ใหญ่ขนาดนี้ เพราะปัจจุบันไม่มีใครครอบครอง จากที่มาของพวกเขาแต่ละคนล้วนไม่คู่ควรจะครอบครองแบล็กการ์ดใบนี้ แต่กลับถูกควักออกมาจากในมือของเฉินเป่ย นี่พอจะกระตุ้นความตื่นตกใจของพวกเขาได้แล้ว
สายตาแต่ละคู่ตกบนตัวเฉินเป่ย ผู้คนมากมายสีหน้าจริงจังเคร่งขรึมขึ้นมา พวกเขามองทางเฉินเป่ย สายตาไม่ได้ดูถูกขบคิดแบบเมื่อก่อนอีกแล้ว
ส่วนหลีชิงเยียนยิ่งมึนงง เธอมองแบล็กการ์ดในมือเฉินเป่ยอย่างอึ้งทึ่ง สมองดังครืน เธอที่ฉลาดหลักแหลมมาแต่ไหนแต่ไร ครั้งนี้เดิมทีเดาไม่ออกว่าเฉินเป่ยจะมีแบล็กการ์ดใบนี้อย่างคาดไม่ถึง
ต้องรู้ว่าแม้แต่เธอยังไม่มีสิทธิ์ครอบครองแบล็กการ์ด
แต่ตอนนี้ แบล็กการ์ดใบนี้ปรากฏขึ้นในมือของเฉินเป่ย นี่นำความสั่นสะเทือนมาให้เธอจนยากจะจินตนาการ
“นี่เป็นไปไม่ได้!”
วอล์คเกอร์ถลึงตาจ้องแบล็กการ์ดในมือเฉินเป่ยไม่กะพริบ ตะโกนเสียงหลง
สายตาของเขาจ้องแบล็กการ์ดในมือเฉินเป่ยแน่น จิตใจสั่นไหว ภายในใจเกิดความปั่นป่วนครั้งใหญ่ขึ้น
เขาจะเชื่อได้อย่างไรกัน คนชั้นต่ำผิวเหลืองคนนี้ จะกุมแบล็กการ์ดที่แม้แต่เขายังไม่กล้าไปฝันถึงใบหนึ่งเอาไว้
“นี่ต้องเป็นของที่นายขโมยมาแน่!” ทันใดนั้นสีหน้าวอล์คเกอร์ซีดเผือดขึ้นมา จ้องเฉินเป่ยตาไม่กะพริบ กัดฟันใส่ร้าย
เฉินเป่ยกวาดสายตามองวอล์คเกอร์นิ่งๆ พูดจาอย่างนิ่งเฉย “คนโง่”
คำพูดนี้ของเฉินเป่ยไม่มีอารมณ์อื่นใดแฝงมาสักนิด กลับทำให้วอล์คเกอร์อับอายจนโมโห กุมมือสองข้างแน่น
ความรู้สึกเหนือกว่าผู้อื่นของเขาถูกเฉินเป่ยทำลายอย่างแรง เฉินเป่ยไม่กลัวเขาสักนิด ทำให้ในใจเขาโกรธหนักมาก
“คุณผู้ชายครับ เชิญรูดบัตร ใส่รหัสผ่านด้วยครับ” ถึงแม้ในใจผู้จัดการยังมีความสงสัยนิดๆ แต่เขาไม่ได้สนใจอะไรมากมาย เขาร้อนใจอยากยืนยันความจริงของแบล็กการ์ดใบนี้ดู
หญิงสาวสองคนถือเครื่องรูดบัตรเดินเข้ามาแล้ว เฉินเป่ยรูดบัตรไปแบบสบายๆ การกระทำคล่องแคล่วอย่างยิ่ง เหมือนการกระทำนี้เขาทำมาเป็นหลายรอบแล้ว คล่องกว่าผู้มากประสบการณ์เสียอีก
วอล์คเกอร์ที่อยู่ด้านข้างอดทนจนถึงขีดจำกัด ถึงแม้ความสัมพันธ์ของเขากับผู้จัดการโรงแรมจะดีมาก แต่ตอนนี้เพื่อยืนยันสถานะของเขา ผู้จัดการโรงแรมกลับทิ้งเขาไว้ด้านข้างไปตรงๆ ใกล้จะลืมเขาไปเสียสนิทแล้ว
เห็นได้ชัดมากว่าผู้จัดการโรงแรมไม่ใช่คนโง่ ถ้าเกิดเป็นเพราะเขาผิดใจลูกค้าสูงศักดิ์ที่ครอบครองแบล็กการ์ดอันทรงเกียรติเข้า นั่นจะได้ไม่คุ้มเสียอย่างแน่นอน
ถึงแม้ผู้จัดการจะไม่แน่ใจกับข้อเท็จจริงของแบล็กการ์ดในมือเฉินเป่ย แต่ท่าทีที่มีต่อเฉินเป่ยช่างดีมากเหลือเกิน ลักษณะที่ใช้อำนาจบาตรใหญ่แบบก่อนหน้านี้ไม่เหมือนเดิมโดยสิ้นเชิง
ตอนที่เฉินเป่ยยกมือเตรียมใส่รหัสผ่าน ทั้งหมดเงียบสงบอย่างผิดปกติ สายตาแต่ละคู่ตกอยู่บนตัวเฉินเป่ยตอนใส่รหัส ซึ่งเต็มไปด้วยความอยากรู้อยากเห็นและกังวลไม่สงบนิ่ง
กระทั่งผู้คนไม่น้อยแทบจะหยุดหายใจกันแล้ว รอคอยวินาทีนี้อย่างเงียบๆ
แวบเดียวหลังจากเสียงจ่ายเงินสำเร็จลอยมาจากเครื่องรูดบัตร ชั่วขณะนั้นทำให้สีหน้าของผู้จัดการอึ้งค้าง สีหน้าเขาแข็งฉับพลัน เขามาช่วยวอล์คเกอร์จัดการคนไม่มีสมองคนหนึ่ง กลับนึกไม่ถึงว่าจะหาเรื่องวุ่นวายขนาดนี้เข้าให้
เขาจะเอาเฉินเป่ยกับแบล็กการ์ดอันทรงเกียรติใบนั้นมาเชื่อมโยงเข้าด้วยกันได้อย่างไรเล่า?
ต้องรู้ว่าผู้ครอบครองแบล็กการ์ดอันทรงเกียรติเหล่านั้นปรากฏตัวน้อยอย่างยิ่ง และเฉินเป่ยที่ถือแบล็กการ์ดใบนี้อยู่ ในสายตาที่เร่าร้อนต่างออกไปแต่ละคู่ ยังคงนิ่งเฉยจนเกินไป
สถานะของเฉินเป่ยสำคัญมากกว่าวอล์คเกอร์ไกลโข เดิมทีล่วงเกินไม่ได้
เปรียบเทียบกับเฉินเป่ยแล้ว วอล์คเกอร์ไม่ถือว่าเป็นอะไรเลย
ส่วนทั้งหมด หลังจากได้ยินเครื่องรูดบัตรต่างก็ฮือฮาขึ้นมาอีกครั้ง ส่วนวอล์คเกอร์ยืนแข็งอยู่ที่เดิม สีหน้าดูแย่เขียวปัด
“เป็นแบล็กการ์ดอันทรงเกียรติของเขาจริงด้วย!”
“ฉันพูดไม่ผิดใช่มั้ย เขากล้าเอาแบล็กการ์ดออกมา พูดได้ว่าเขามีความมั่นใจอันนี้”
“คุณพระ สรุปคนหัวเซี่ยผู้นี้มีที่มายังไงกัน? ไปตรวจสอบให้ฉันแบบชัดเจน ฉันต้องการข้อมูลแบบละเอียดของเขา” ชายชาวตะวันตกคนหนึ่งพูดขึ้น
“แบล็กการ์ดใบนี้ เพียงพอรึยัง?” เฉินเป่ยชูแบล็กการ์ดในมือขึ้น แสยะมุมปากนิดหน่อย
“พอแล้วๆ ครับ โดยเฉพาะใบนี้ของคุณเป็นลำดับหนึ่ง เพียงพอที่จะอธิบายถึงความของล้ำค่าที่ประเมินมูลค่าไม่ได้ของเขา” ผู้จัดการมองทางเฉินเป่ย ท่าทีเปลี่ยนไปมากมายเหลือเกิน รอยยิ้มเต็มไปด้วยการเอาอกเอาใจขึ้นมา
และวอล์คเกอร์ไม่ได้ยินคำพูดของผู้จัดการ สีหน้าของเขายิ่งซีดเซียวอีกระดับ
เขามองทางภาพด้านหลังของเฉินเป่ย ลมหายใจเร่งรีบผิดจังหวะ ทำอย่างไรเขาก็ไม่เข้าใจ เขาไม่ใช่แค่คนหัวเซี่ยคนหนึ่งเหรอ ทำไมถึงมีแบล็กการ์ดที่หายากเช่นนี้ได้
โดยเฉพาะอย่างยิ่งสิ่งที่ผู้จัดการไม่ได้พูดออกมาคือแบล็กการ์ดใบนี้……เป็นแบล็กการ์ดอันดับหนึ่ง
ถึงแม้คนส่วนมากในที่นี้จะไม่รู้ว่าในแบล็กการ์ดอันทรงเกียรติ แบล็กการ์ดอันดับหนึ่งหมายถึงอะไร
แต่ผู้จัดการรู้ดี เขาที่เคยทำงานโรงแรมหรูหราของดูไบมาก่อน จึงรู้ข้อมูลของแบล็กการ์ดอันทรงเกียรติมาไม่น้อย
แบล็กการ์ดอันทรงเกียรติพบได้น้อยมาก และหมายเลขนี้ก็แสดงถึงลำดับที่สหภาพธนาคารยุโรปมอบการ์ดไปให้ตามลำดับ คนที่ยิ่งมีชื่อเสียง จะยิ่งได้รับแบล็กการ์ดเร็ว
และผู้จัดการทำงานอยู่ที่ดูไบมาหลายปี หมายเลขการ์ดน้อยที่สุดที่เคยเจอมา อยู่แค่ที่ลำดับสามร้อยสามสิบแปด
แม้แต่หมายเลขการ์ดที่เลขสองตำแหน่ง เขายังไม่เคยเจอ
แต่เวลานี้ แบล็กการ์ดอันทรงเกียรติในมือของเฉินเป่ย คาดไม่ถึงจะเป็นลำดับหนึ่งในตำนาน
เขามีแบล็กการ์ดใบแรกสุด เป็นผู้ได้รับแบล็กการ์ดก่อนใครทั้งนั้น
ผู้จัดการมองทางเฉินเป่ย เวลานี้เขาหวาดกลัวอย่างมาก เขาเสียใจแบบหาที่เปรียบไม่ได้ ตนเองไม่ควรพูดจาเลอะเทอะแบบเมื่อสักครู่นั้น ถ้าเขารู้ว่าเฉินเป่ยเป็นผู้ได้รับแบล็กการ์ดลำดับหนึ่ง คงไม่ยอมให้วอล์คเกอร์ก่อเรื่องราวขึ้น
ผู้จัดการมองเห็นแบล็กการ์ดลำดับหนึ่งใบนี้ เดิมทีคงไม่กล้าเชื่อว่านี่คือของจริง แต่เรื่องจริงแสดงอยู่ตรงหน้าเขาเรียบร้อย ทำให้เขาไม่เชื่อไม่ได้
วอล์คเกอร์มองทางผู้จัดการ เวลานี้มือทั้งคู่ของผู้จัดการประคองแบล็กการ์ดไว้ มือทั้งคู่ของเขากำลังสั่นเทา วอล์คเกอร์รู้สึกสับสน เขาไม่เข้าใจ สรุปแบล็กการ์ดใบนี้มีอะไรตรงไหนที่พิเศษ……คาดไม่ถึงทำให้ผู้จัดการตื่นเต้นเช่นนี้
วอล์คเกอร์ย่อมไม่เข้าใจ สถานะและความหมายลึกซึ้งที่เป็นตัวแทนเบื้องหลังแบล็กการ์ดลำดับหนึ่งนี้ เวลานี้เขาจิตใจสงบลงแล้ว หัวเราะเยาะทีหนึ่ง “ชดใช้เสร็จ ก็คิดจะจบแบบนี้เหรอ?”
ทันใดนั้นอากาศแข็งตัวฉับพลัน เฉินเป่ยหมุนตัว มองทางวอล์คเกอร์
สีหน้าเฉินเป่ยนิ่งเรียบล้ำลึก เขามองทางวอล์คเกอร์ ถามขึ้นนิ่งๆ “งั้นนายยังอยากเอายังไง?”
ผู้จัดการที่กำลังชื่นชมแบล็กการ์ดอย่างละเอียดเงยหน้าขึ้น มองทางวอล์คเกอร์ด้วยสีหน้างงงวย
แวบหนึ่ง เขาถึงตอบสนองกลับมา สีหน้าเปลี่ยน รีบส่งสายตาไปทางวอล์คเกอร์ทันใด ให้เขาพยายามอดกลั้นให้เรื่องราวสงบลง
แบล็กการ์ดใบนี้สามารถอธิบายอะไรได้มากมายเหลือเกิน เฉินเป่ยที่ไม่โอ้อวดความสามารถ ทำให้ผู้จัดการหนังศีรษะชา
จนถึงตอนนี้ เฉินเป่ยยังไม่ได้บอกสถานะของเขาออกมา……แต่แค่แบล็กการ์ดใบหนึ่งก็ทำให้ผู้จัดการจิตใจสั่นสะท้านขึ้นมาแล้ว
และตอนนี้วอล์คเกอร์อยากจะทำอะไร รนหาที่ตายเหรอ?
ผู้จัดการมองทางวอล์คเกอร์ แต่ทว่าวอล์คเกอร์ไม่ได้เข้าใจสายตาที่ผู้จัดการส่งให้ กลับมองทางเฉินเป่ยด้วยสีหน้าดุเดือด “คุกเข่าลง ก้มหัว ขอโทษ!”
ชั่วพริบตาเดียวบรรยากาศก็เงียบสงบทันใด ความเงียบนี้เป็นเพราะในอากาศเต็มไปด้วยความรู้สึกเย็นยะเยือก
ผู้คนมากมายโดยรอบขมวดคิ้ว นี่เห็นได้ชัดว่าวอล์คเกอร์กำลังหาที่ตาย แม้แต่แบล็กการ์ดอันทรงเกียรติก็ล้วงออกมาแล้ว นี่พอจะอธิบายอะไรได้มากเหลือเกิน เขาทำตัวธรรมดาลงมาดีๆ หน่อย เรื่องนี้ผ่านไปแบบนี้ก็ช่างไปเถอะ
คาดไม่ถึงเขายังไม่ยอมเลิกรา?
ถ้านี่เป็นเพียงแค่คนหัวเซี่ยมอมแมมทั่วไปคนหนึ่ง เขาย่อมกำเริบเสิบ และก้าวร้าวเต็มที่ได้
แต่เฉินเป่ยครอบครองแบล็กการ์ดอันทรงเกียรติ แม้แต่สหภาพธนาคารยุโรปล้วนยอมรับสถานะและตำแหน่งของเขาแล้ว วอล์คเกอร์กำลังจะพ่ายแพ้อย่างแน่นอน