สายเปย์เบอร์หนึ่ง - ตอนที่ 28
บทที่ 28แผนการที่สมบูรณ์แบบ
“คุณนวดเป็นเหรอ” ใบหน้างดงามของหลีชิงเยียน ปรากฏให้เห็นความสงสัยเฉินเป่ยเคยทำให้เธอแปลกประหลาดใจมาแล้ว แต่หลายครั้งเป็นเพราะเฉินเป่ยแต่งเรื่องเก่ง ล้วนเป็นเพราะคารมคมคายของเขาทั้งนั้น
และเรื่องนวดนี้หลีชิงเยียนแทบไม่อยากเชื่อเลย ตั้งแต่เด็กจนโตก็ไม่เคยไปร้านนวดอะไรพวกนี้
เธอเชื่อถือแค่การแพทย์แผนปัจจุบัน แต่ตอนนี้ซูเหลยกลับบอกเธอว่า การแพทย์แผนปัจจุบันไม่ช่วยอะไรกับอาการปวดเมื่อยฟกช้ำแบบนี้
ผลสุดท้ายผู้ชายคนนี้ก็ออกมาบอกว่าตัวเองมีวิธี ยากที่จะทำให้หลีชิงเยียนเลือกที่จะเชื่อเขา
ซูเสี่ยวหยุนมองเฉินเป่ย ยิ้มอย่างมีเสน่ห์ “คุณแน่ใจเหรอว่านวดแบบนี้จะได้ผลกับอาการแบบนี้ ฉันไม่เคยได้ยินมาก่อนเลยว่าการนวดสามารถรักษาโรคอะไรได้“
“ประธานหลีให้ผมลองดูก่อน ลองแล้วคุณถึงจะรู้” เฉินเป่ยแสยะยิ้ม
หลีชิงเยียนคิดทบทวนอยู่ชั่วครู่ เงยหน้ามองไปยังซูเหลยแววตาสวยคู่นั้นแสดงถึงการต้องการคำแนะนำ
“ประธานหลีลองให้เขาพิสูจน์ดูก่อน ” ซูเหลยชำเลืองมองเฉินเป่ยหัวเราะเยาะอยู่ในใจ เธอเองก็อยากเห็น เรื่องนี้เฉินเป่ยจะคุยโวโอ้อวดสักแค่ไหน แม้แต่วิธีการนวดแบบนี้ยังกล้าพูดออกมาได้!
รอจนหลีชิงเยียนรู้สึกว่าไม่ได้ผล ถึงเวลานั้นตัวเองค่อยตำหนิเขาก็ยังไม่สาย ในที่สุดซูเหลยก็รู้แล้วว่าทำไมหลีชิงเยียนถึงเกลียดผู้ชายคนนี้มากขนาดนั้น ไม่ต่างอะไรจากพวกอันธพาล จะทำให้คนเกิดความรู้สึกดีด้วยได้อย่างไรกัน
“ให้เขาลองดูเถอะเสี่ยวเยียนไม่แน่ว่าอาจจะได้ผลก็ได้นะ” ซูเสี่ยวหยุนเอ่ยด้วยน้ำเสียงชวนฟัง
“ถ้าไม่ได้ผล คืนนี้คุณได้เห็นดีกับฉันแน่!” หลีชิงเยียนถลึงดวงตาคู่สวยนั้นใส่เขา พลางพูดข่มขู่เขา
“นวด……” หลีชิงเยียนขบเขี้ยวเคี้ยวฟันกัดริมฝีปาก ถลึงตามองแรงใส่เฉินเป่ย มือหยาบกระด้างของผู้ชายคนนี้ ช่างน่าขยะแขยงเหลือเกิน!
แม้ว่าเมื่อครู่เธอจะรู้สึกดีมาก แต่ว่าเธอจะยอมทนกับการกระทำแบบนี้ของเฉินเป่ย นี่มันเป็นการล่วงละเมิดอย่างเปิดเผย!
เธออยากจะถีบเฉินเป่ยลงจากโซฟา แต่คำพูดของเฉินเป่ยกลับหาความผิดปกติไม่ได้เลย ทำให้หลีชิงเยียนรู้สึกหน้าแตก ไม่รู้จะทำอย่างไรดี!
“ปวดท้อง แน่นอนว่าต้องนวดที่ท้อง เมื่อครู่นั้นแค่เพียงเริ่มต้นเท่านั้น”คำพูดของเฉินเป่ยทำให้แววตาของหลีชิงเยียนเต็มไปด้วยไฟโกรธ!
“เสี่ยวเยียนนอนลงเถอะ แค่นวดนิดหน่อยเอง ไม่ได้มีอะไรเสียหายสักหน่อย” ซูเสี่ยวหยุนเสริมอยู่ข้างๆ
“ตกลงว่าเธอเป็นเพื่อนใครกันแน่เนี่ย!” หลีชิงเยียนเอ่ยอย่างน้อยใจ นับวันเธอก็ยิ่งรู้สึกว่า ซูเสี่ยวหยุนเหมือนกำลังจะขายตัวเอง……เพิ่งรู้จักกันไม่นาน ก็ช่วยพูดแทนคนอื่นแล้ว……
“ก็เพื่อจะให้เธอร่างกายแข็งแรงไง รีบนอนลงเร็ว” ซูเสี่ยวหยุนพูดปลอบใจให้หลีชิงเยียนยอมนอนลง
มือของเฉินเป่ย ในที่สุดก็ยื่นสอดเข้าไปภายในชุดของหลีชิงเยียน……
“รู้สึกเป็นยังไงบ้าง”ซูเสี่ยวหยุนเอ่ยถาม
“ก็ดี” หลีชิงเยียนท่าทีปกติ แต่ก็ดีกว่าเดิมตอนที่ทั้งโกรธทั้งอาย
มือของเฉินเป่ยเคลื่อนไหวไปทั่วภายใต้เสื้อผ้าของเธอ ทุกครั้งล้วนกดได้ตรงจุดของหลีชิงเยียนอย่างแม่นยำ อาการปวดท้องน้อยของหลีชิงเยียนค่อยๆเลือนหายไป กลายเป็นอาการเมื่อยชาขึ้นมาแทน
นี่ทำให้สายตาหลีชิงเยียนที่มองเฉินเป่ยสงบลง ในใจเธอนั้นแปลกประหลาดใจมาก ผู้ชายคนนี้ไม่ได้พูดเกินจริง การนวดดูเหมือนว่าจะได้ผลจริงๆ
แต่ซูเหลยที่อยู่ข้างไม่รู้เลย หล่อนมองเฉินเป่ยที่นวดอยู่ข้างๆ ในใจก็หัวเราะเยาะไม่หยุด
ในที่สุดหล่อนก็ได้เห็นธาตุแท้ของเฉินเป่ย นี่มันการนวดเพื่อการรักษาที่ไหนกัน นี่มันเป็นการหลอกลวงหลีชิงเยียนกับซูเสี่ยวหยุนชัดๆ!
ซูเหลยแม้จะไม่เข้าใจการนวดมากนัก แต่หล่อนก็เห็นว่าเฉินเป่ยนวดมั่วคลำมั่วๆ จึงเกิดคำตัดสินในใจ
ผู้ชายคนนี้ ก็คือสิบแปดมงกุฎดีๆนี่เอง!
ประธานหลีที่น่าสงสาร ถูกเขาใช้คารมหว่านล้อมหลอกล่อตั้งแต่แรก ตอนนี้ยังถูกลวนลามอีก ดูท่าคงยังไม่รู้ตัว
หลีชิงเยียนนอนอยู่บนโซฟา รู้สึกว่าอาการปวดที่ท้องน้อยค่อยๆจางหายไป และความปวดเมื่อยก็ค่อยๆลดลงตามแรงมือของเฉินเป่ย ลดลงอย่างรวดเร็ว ดวงตาคู่สวยทอประกายความแปลกใจและสับสน
เฉินเป่ยนวดเป็นจริงๆ……เธอสัมผัสได้จริงๆ ความเจ็บปวดนั้น ค่อยๆลดน้อยลง จนกระทั่งสามารถมองผ่านเลยไป
“ประธานหลี รู้สึกอย่างไรบ้างครับ”เฉินเป่ยประคองหลีชิงเยียนลุกขึ้น แล้วเอ่ยถาม
หลีชิงเยียนส่งสายตาให้เฉินเป่ย สีหน้าสับสน สุดท้ายส่งเสียงฮึ่มในลำคอ“ยังถือว่ามีประโยชน์อยู่บ้าง”
“ประธานหลี การนวดแบบนี้ต้องรักษาตามขั้นตอน ครั้งสองครั้งรักษาไม่หายขาด ต้องรักษาต่อเนื่อง”เฉินเป่ยอธิบาย
“คุณหมายความว่ายังไง ต่อไปยังต้องหาเรื่องมาลูบคลำฉันอีกเหรอ” หน้าตาสวยงามของหลีชิงเยียนเงียบขรึมลง น้ำเสียงไม่เป็นมิตร
“ไม่ใช่ ผมหมายถึงว่ารอจนคุณปวดขึ้นมาอีก ผมค่อยนวดให้คุณ”เฉินเป่ยยิ้ม
“คิดไม่ถึงว่าคุณจะทำเป็นจริงๆ”
“ความสามารถเล็กน้อย ไม่ควรค่าให้ยกย่อง”เฉินเป่ยยิ้มแห้งๆ
ซูเหลยยักคิ้ว ค่อยๆขมวดคิ้ว หล่อนคิดไม่ถึง ว่าเฉินเป่ยจะมีความสามารถเหนือว่าคนอื่น ถึงขั้นซูเสี่ยวหยุนและหลีชิงเยียนต่างก็โดนหลอกไปหมด
ตอนนี้ตัวเองจะพูดอะไร ก็คงไร้ประโยชน์ คงต้องหาโอกาสใหม่ เปิดโปงคนต้มตุ๋นคนนี้
ประธานหลีเกลียดเขาอยากจะขับไล่เขาออกไป เห็นชัดว่าเขาคิดจะใช้วิธีนี้เพื่อที่จะให้ตัวเองได้อยู่ที่ตระกูลหลีต่อ
ซูเหลยไม่รู้เลยว่า เป็นตัวเองที่ผิดอย่างมหันต์ หล่อนรู้แค่เพียงงูๆปลาๆ หล่อนรู้ว่าหัวเซี่ยนั้นมีวิธีโบราณวิธีหนึ่งที่ใช้รักษาอาการปาดเมื่อยฟกช้ำได้ แต่หล่อนไม่รู้ว่าเมื่อครู่ที่เฉินเป่ยนวดให้หลีชิงเยียนนั้น ก็คือใช้วิธีการนวดแบบที่หายสาบสูญไปนานแล้ว
ซูเหลยยิ่งไม่รู้ว่า วิธีการนวดที่ดูปกติธรรมดาของเฉินเป่ยนั้น เคยทำให้แพทย์แผนจีนผู้มีชื่อเสียงหลายต่อหลายคนยอมเสียเงินเสียทองตามหาอย่างยากลำบาก……รวมทั้งห้าหมอเทวดาในต่างประเทศก็เคยติดต่อขอร้องเฉินเป่ยมาแล้ว น่าเสียดายที่เงื่อนไขทั้งหมดล้วนต้องการให้เขาพิสูจน์ให้เห็น ซึ่งไม่ทำให้เฉินเป่ยหวั่นไหวเลยแม้แต่น้อย
การนวดด้วยวิธีนี้มีเพียงแค่คนที่สามารถกำหนดแรงได้อย่างพอเหมาะแม่นยำเท่านั้นจึงจะเรียนสำเร็จ และยังเปลืองแรงและเวลามาก ในต่างประเทศ คนที่ทำให้เฉินเป่ยนวดให้ด้วยตนเอง นอกจากพี่น้องในฐานทัพแล้ว ก็ยังไม่เคยมีใครทำให้เฉินเป่ยออกแรงนวดให้มาก่อน
วันนี้ เท่ากับว่าซูเหลยได้เห็นการนวดที่ทรงคุณค่า หากตอนนี้ห้าหมอเทวดาในต่างประเทศรู้เข้า คงจะยอมแลกทุกอย่างโดยไม่เสียดาย เพื่อที่จะมาเห็นด้วยตาตนเอง!!
“ตอนนี้ก็ดึกมมากแล้ว รีบเข้านอนกันเถอะ”หลังจากถูกเฉินเป่ยนวดอย่างพิถีพิถันแล้วหลีชิงเยียนก็รู้สึกสบายตัวกว่าปกติ หาววอดออกมา มองขานุ่มเรียวยาวไร้ตำหนิคู่นั้นเดินขึ้นไปชั้นบน
“พ่อหนุ่มน้อย พรุ่งนี้เช้าเจอกัน ราตรีสวัสดิ์”ซูเสี่ยวหยุนมองไปยังเฉินเป่ย ดวงตาคู่สวยกระพริบปริบๆ ยิ้มโปรยเสน่ห์ หมุนตัวหันไปร้องเรียกร่างที่ขึ้นบันไดวนไป “แม่สาวฮอต รอฉันด้วย!”
รอจนหญิงสาวทั้งสามคนแยกย้ายกันกลับห้องตัวเองแล้ว เฉินเป่ยจึงควักโทรศัพท์ออกมา กดโทรออกไป
“ลูกพี่ ออกมาจากสถานีตำรวจแล้วเหรอ ผมได้ข่าวว่าหัวหน้าประกันตัวให้ลูกพี่ แต่ลูกพี่ยังไม่ยอมออกมา……” คนหนุ่มที่ปลายสาย หัวเราะร่าเสียงดัง
“ฉันสงสัยว่าจะเป็นฝีมือของไต้ห้าวหนาน……” เฉินเป่ยเอ่ยอย่างแผ่วเบา น้ำเสียงเย็นยะเยือก
“ไต้ห้าวหนาน มันกับพ่อมันคงไม่อยากมีชีวิตต่อแล้ว” ชายหนุ่มตกใจ จากนั้นก็เอ่ยอย่างโมโห“เหอะ……ไม่เห็นโลงศพไม่หลั่งน้ำตา ไม่ให้บทเรียนมันบ้าง มันคงเห็นบริษัทนั่นเป็นเหมือนกับลูกพี่……เห็นคนไร้กำลังอำนาจไม่มีทางสู้ ก็คอยข่มขู่คุกคาม……”
“ตอนนี้ฉันยังไม่มีหลักฐาน” เฉินเป่ยเอ่ย “ช่วงนี้จับตาดูไต้ห้าวหนานเอาไว้ มีความเคลื่อนไหวอะไรรีบรายงานฉันทันที”
……………
ในห้องรับรองของโรงแรม เงาของร่างหนึ่งยืนอยู่ที่หน้าต่างกระจกบานใหญ่ มองออกไปในค่ำคืนที่มืดมิดภายนอก แววตาน่ากลัวขึ้นเรื่อยๆ
“คุณไต้ ของผมเตรียมไว้พร้อมแล้วครับ ” ลูกน้องคนหนึ่ง ถือถุงพลาสติกใบหนึ่งเดินเข้ามาข้างๆไต้ห้าวหนาน เอ่ยอย่างนอบน้อม
“ไอ้เฉิน ลูกเขยสวะของ ตระกูลหลีล่ะ” ไต้ห้าวหนานแววตาเย็นยะเยือก ราวกับเป็นเครื่องจักรกลที่ใช้เข่นฆ่าคนโดยอารมณ์ความรู้สึกเครื่องหนึ่ง
“หลีชิงเยียนจ้างบอดี้การ์ดมามากมาย แทบจะเข้าไปในบ้านไม่ได้เลย ตำแหน่งของบอดี้การ์ดในคฤหาสน์ ต้องมีผู้เชี่ยวชาญมาช่วยจัดวางให้แน่นอน เพราะตำแหน่งนั้นสมบูรณ์แบบมาก ยากที่จะแทรกซึมเข้าไปได้ครับ”ลูกน้องพูด
“ไอ้เฉินและนางตัวดีหลีชิงเยียน กล้าหาบอดี้การ์ดมาเหรอ……ดีมาก ของในถุงนี้ ฉันไม่สนว่าแกจะใช้วิธีไหน แต่ต้องทำให้พวกมันมาปรากฏตัวที่ข้างกายฉันให้ได้”มุมปากของไต้ห้าวหนานยกขึ้นเป็นรอยยิ้มที่กระหายเลือดเยือกเย็น พร้อมเอ่ยออกมาเบาๆ
“หนึ่งพันกรัม เพียงพอที่จะให้พวกมันสองคนผัวเมียติดคุกไปตลอดชีวิตแล้ว ต่อให้ไอ้โง่หลีหยางใช้เส้นสายมาช่วย ก็คงทำอะไรไม่ได้”ไต้ห้าวหนานบ่นพึมพำ
“คุณไต้ครับ ก่อนหน้านี้เฉินเป่ยถูกจับขังหัวหน้ายังเป็นคนออกคำสั่งให้ปล่อยตัวเขาด้วยตัวอง……ครั้งนี้ก็ไม่แน่ว่า……” ลูกน้องคิดอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะพูดอย่างกังวล
“ไม่มีทาง ของสิ่งนี้ มาโผล่ที่หัวเซี่ยไม่ว่าใครหน้าไหน ไม่ว่าสถานะใดก็ไม่มีประโยชน์ ไม่ต้องพูดถึงหัวหน้าสถานีตำรวจของเมืองเมืองหู้ไห่ ต่อให้เป็นคนที่มีอำนาจสูงที่สุดมาเอง ก็ยากที่จะช่วยมัน!” ไต้ห้าวหนานมองที่ถุงพลาสติกใบนั้นอย่างพึงพอใจ ยิ้มเย็นยะเยือก
เขาคำนึงถึงความเป็นไปได้ทั้งหมดแล้ว แผนการสมบูรณ์แบบไร้ที่ติ ครั้งนี้ ตระกูลหลีไม่มีทางช่วย ไอ้สวะนี่ได้แน่!!