สายเปย์เบอร์หนึ่ง - ตอนที่ 310
บทที่310 สาเหตุที่บุคคลยิ่งใหญ่เข้ามา!
หินหยาบสองก้อนนั้นที่ราคาหลายล้าน นอนนิ่งสงบอยู่ตรงนั้น ส่วนหลงหยาในมือของเฉินเป่ยก็ผ่าออกราวฟ้าแลบ ตัดเข้าตรงกลางหินหยาบ มีความลึกหลายฟุต
จางเป่าเฉิงมองเห็นการกระทำนี้ของเฉินเป่ย เหมือนว่าชั่วพริบตาเดียวก็เข้าใจขึ้นมาแล้ว…เจ้าหมอนี่ เดิมทีอยากใช้มีดในมือนี้ ตัดหินหยาบออกโดยตรง
แต่จะเป็นไปได้เหรอ?
เดิมทีควรใช้เครื่องตัดและผู้เชี่ยวชาญในการตัดโดยเฉพาะมาตัดหินหยาบออก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเป็นหินหยาบที่อาจจะมีของล้ำค่าหายากอยู่แบบนี้ ยิ่งต้องการปรมาจารย์ที่ประสบการณ์โชกโชน และมีศิลปะด้านการตัดมาถึงจะได้ ถ้าไม่อย่างนั้นจะทำหินหยาบเสียหายได้ง่ายมาก ขอเพียงมีการเอียงเล็กน้อยหรือว่าใช้แรงมากไปหน่อย อาจจะทำให้หยกด้านในกลายเป็นของเสียได้
และตอนนี้เฉินเป่ยกำลังทำอะไร? จางเป่าเฉิงมองเฉินเป่ยอย่างโมโห โกรธจนสั่นเทาไปทั้งตัว กัดฟันแน่น…เจ้าหมอนี่อยากใช้มีดตัดออก นี่เดิมทีกำลังหาที่ตายชัดๆ
หัวเซี่ยในปัจจุบันนี้ ต่างหาไม่เจอว่าคนร่ำรวยมีอำนาจคนไหนกล้าสิ้นเปลืองหินหยาบขนาดนี้
จางเป่าเฉิงโกรธจนนิ้วที่ชี้เฉินเป่ยอยู่สั่นไปหมด เขาตะคอกอย่างโมโห “ไม่รู้เรื่องก็ไสหัวออกไปให้ฉัน ไม่รู้อะไรเลยยังมาออกความเห็นบ้าบออะไรที่นี่……นายรู้มั้ยว่าหินหยาบนี้แพงมากแค่ไหน ตัดเสียนายจะมาชดใช้เหรอ?”
เฉินเป่ยไม่เงยหน้า เอ่ยปากนิ่งๆ “ผมชดใช้ก็ชดใช้ นี่มีอะไรให้ชดใช้ไม่ไหวกัน หินกากๆ ก้อนหนึ่งเท่านั้นเอง อย่าเว่อร์เกินไปเลย”
นาย…ที่แท้เป็นแค่พวกนักเลงหัวไม้ นายเอามีดออกไปให้ฉันเลยนะ!” จางเป่าเฉิงมองเฉินเป่ยแบบอยู่เหนือกว่า โกรธจนพูดหยาบคายแล้ว
เฉินเป่ยเงยหน้า มองจางเป่าเฉิงแวบหนึ่ง แววตามีเลศนัยขึ้นมา เขาปล่อยมือออก ท่าทางแบบให้จางเป่าเฉิงตามสบาย
จางเป่าเฉิงมองเฉินเป่ยอย่างเหยียดหยาม “ฉันคร่ำหวอดในวงการพนันเพชรพลอยมาหลายสิบปี เป็นครั้งแรกที่เจอคนทำหินหยาบเสียหายแบบนาย…….นี่นายกำลังทำผิด!”
จางเป่าเฉิงพูดจบ กุมด้ามมีดเอาไว้ ใช้แรงสุดกำลัง อยากดึงมันออกมา
แต่หลังจากเขาใช้แรง กลับพบว่ามีดไม่ขยับสักนิด ยังคงคาอยู่ที่กลางหินหยาบ
สีหน้าจางเป่าเฉิงเปลี่ยนเล็กน้อย เขาก้มหน้ามองมีดที่คาอยู่กลางหินหยาบทีหนึ่ง เขาสูดหายใจเข้าลึกๆ กัดฟันแน่น ใช้กำลังทั้งหมดออกแรง
แต่มีดยังคงไม่ขยับสักนิดเดียว เหมือนติดหนึบอยู่กลางหินหยาบ
จางเป่าเฉิงสีหน้าเปลี่ยนแปลง ไม่ว่าเขาจะใช้แรงอย่างไร จนท้ายที่สุดหน้าแดงเถือก ยังคงไม่สามารถดึงมีดออกมาได้
“หัวหน้าสมาคมจาง มีดด้ามเล็กขนาดนี้ ยังดึงไม่ออกอีกเหรอ?” เฉินเป่ยเอ่ยปากนิ่งๆ มุมปากแสยะรอยยิ้ม
จางเป่าเฉิงสีหน้าเขียวปัด “นายรอฉันเอาไว้เถอะ!”
จางเป่าเฉิงพูดจบ จึงพุ่งออกไปด้วยความเดือดดาลแล้ว
ไม่นานหลีชิงเยียนที่ใส่รองเท้าส้นสูงก็พุ่งเข้ามาแบบโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ บนใบหน้าที่สวยสดงดงามยังมีไฟโกรธลุกโชน
ส่วนตอนที่หลีชิงเยียนพุ่งเข้ามาในห้อง ก็เป็นตอนที่เฉินเป่ยกุมหลงหยาไว้ในมือ ตัดมีดสุดท้ายลงไป
“ฉึก!”
เฉินเป่ยตะโกน สายตาเผยความล้ำลึก หลงหยาในมือกลายเป็นแสงสีดำ ผ่าฟันลงอย่างรวดเร็ว
ภาพวืดเลือนรางของแสงสีดำแวบผ่าน หลีชิงเยียนมองอะไรไม่ชัดเลย ได้ยินเพียงเสียงดังกังวานทีหนึ่ง
“เฉินเป่ย!” หลังหลีชิงเยียนมองเห็นหินหยาบถูกตัดออก ใบหน้าแข็งทื่อ รอเธอตอบสนองเข้ามา ใบหน้างดงามก็ถูกความโกรธเคืองเข้าแทนที่
“หยุดนะ!” หลีชิงเยียนกัดฟัน ที่แท้จางเป่าเฉิงพูดไม่ผิด…….เจ้าหมอนี่ คาดไม่ถึงจะทำตามอำเภอใจตัวเอง ตัดหินหยาบด้วยตัวเอง
นี่ทำให้เกิดผลลัพธ์ที่ไม่มีทางจินตนาการได้ง่ายมาก
และเวลานี้หลีชิงเยียนพูดอะไรไปอีกก็คงสายเสียแล้ว หลังจากเธอมองเห็นหินหยาบถูกตัดออก โกรธเคืองอย่างยิ่งเลย
“ใครให้นายตัดสินใจเองโดยพลการ มาตัดหินหยาบเอง?” หลีชิงเยียนตวาดอย่างหนาวเหน็บใส่เฉินเป่ย เธอกำลังสอบถามเฉินเป่ยอย่างดุเดือดรุนแรง
เฉินเป่ยตะลึง ส่วนหลีชิงเยียนใบหน้าซีดเซียว มองหินหยาบก้อนนี้อยู่ เพียงรู้สึกว่าเหมือนฟ้าหมุนเคว้งคว้าง
หินหยาบราคาหลายล้าน…โดนเฉินเป่ยใช้วิธีแบบนี้ตัดออกแล้ว…ในใจหลีชิงเยียนปวดร้าวไปหมด
“ทำเสียของ…หินหยาบดีขนาดนี้ก้อนหนึ่ง กลับมาโดนนายทำเสียหายแล้ว ทำผิดเสียจริงๆ เลย!” จางเป่าเฉิงกุมหน้าอกไว้ มองทางเฉินเป่ย สายตานั้นราวกับสามารถฆ่าคนได้
ถ้าสายตาสามารถฆ่าคนได้ เกรงว่าเฉินเป่ยต้องโดนฟันไปหลายรอบ
“รีบไปเชิญผู้เชี่ยวชาญการตัดมา ดูหน่อยว่าช่วยได้รึเปล่า” จางเป่าเฉิงพูดกับซูเหลย
“ไม่ใช่แค่ตัดหินก้อนหนึ่งเหรอ ต้องตกอกตกใจมากขนาดนั้นเชียว……” เฉินเป่ยอดบ่นพึมพำไม่ได้
“คนบ้านนอกคอกนาอย่างนายจะรู้อะไร…ประธานหลี ผมแนะนำว่าไม่ต้องให้เขาปรากฏตัวในงานพนันเพชรพลอยแล้ว ครั้งนี้เขาทำหินหยาบก้อนนี้พัง ต่อไปไม่แน่ว่าจะทำพังอีกมาก!” จางเป่าเฉิงพูดเสียงดุ
“นี่ ผู้เฒ่า คุณว่าแบบนี้ก็ไม่มีเหตุผลไปนะ” เฉินเป่ยเบ้ปากแล้ว ตะโกนบอกอย่างอันธพาล
“คนอื่นเขาชื่อผู้เฒ่าเหรอ เรียกเขาหัวหน้าสมาคมจาง” หลีชิงเยียนอยู่ด้านข้างว่าเสียงดุ แก้ไขให้เฉินเป่ยพูดให้ถูก
“ถ้าหินหยาบนี้เสียหายหนัก เท่ากับว่านายทำให้บริษัทตระกูลหลีเสียหายเป็นร้อยล้าน!” จางเป่าเฉิงว่าเสียงดัง
ไม่นานผู้เชี่ยวชาญการตัดท่านหนึ่งก็ใช้แรงยกเครื่องตัดเดินตามซูเหลยเข้ามา
“อาจารย์ รบกวนคุณดูหินหยาบก้อนนี้หน่อยว่าโดนทำลายไปหนักรึเปล่า” จางเป่าเฉิงที่อยู่ด้านข้างถามขึ้น
ผู้เชี่ยวชาญการตัดกวาดสายตามอง ตะลึงนิดหน่อย “รอยตัดสมบูรณ์แบบมาก ผมไม่เคยเจอรอยตัดที่สมบูรณ์แบบขนาดนี้มาก่อนเลย…เทคนิคแปลก แต่กลับรอบคอบอย่างหาที่เปรียบไม่ได้”
คำพูดของผู้เชี่ยวชาญการตัดทำให้จางเป่าเฉิงและหลีชิงเยียนมึนงงแล้ว หลีชิงเยียนใบหน้าฝืดค้าง แม้กระทั่งจางเป่าเฉิงสงสัยว่าตนเองได้ยินผิดแล้ว ถามอย่างไม่อยากเชื่อ “อาจารย์ คุณแน่ใจเหรอ?”
ผู้เชี่ยวชาญการตัดลูบคลำรอยตัดและริ้วรอยบนหินหยาบนี้ สีหน้าฮึกเหิมอยู่บ้าง “แน่นอน ถ้าไม่ได้เห็นกับตาตัวเอง ผมคงยังไม่เชื่อว่ามีทักษะที่สมบูรณ์แบบเช่นนี้”
“นี่เป็นไปไม่ได้…ฉันเห็นเขาใช้มีดตัดไปกับตาตัวเองเลย!” จางเป่าเฉิงถลึงดวงตาโต แม้ว่าเขาจะเป็นหัวหน้าสมาคมของสมาคมการพนันเพชรพลอยหัวเซี่ย หลังได้ยินผู้เชี่ยวชาญการตัดบอก ยังอดงงไม่ได้
“มีด…เป็นไปได้ยังไง ถ้าใช้มีดตัดจริง งั้นเดิมทีมีดนี้ก็คือของดีที่เฉียบคมอย่างมาก” ผู้เชี่ยวชาญการตัดมองเฉินเป่ยแวบหนึ่ง “การตัดไม่จำเป็นต้องใช้เครื่องตัด อาจารย์ชั้นยอดบางส่วนก็ไม่ต้องใช้เครื่องตัดได้ แต่ระดับความยากแบบนั้นสูงมาก……”
จางเป่าเฉิงสมองอึ้งทึ่ง เขามองเฉินเป่ยแบบยากจะเชื่อ ในใจไม่มีทางสงบนิ่ง
อย่างไรเสียเขาก็ไม่มีทางเชื่อคำพูดของผู้เชี่ยวชาญการตัด เฉินเป่ยเป็นปรมาจารย์? คนบ้านนอกคอกนาที่ดูเอ้อระเหยลอยชายคนนี้ คาดไม่ถึงจะสามารถใช้มีดตัดออกได้? เขาอยู่ในวงการพนันเพชรพลอยมาหลายสิบปี ล้วนไม่เคยได้ยินว่ามีใครสามารถทำได้
เฉินเป่ยกวาดตามองจางเป่าเฉิง ไม่ได้พูดอะไร สีหน้าสงบเรียบนิ่ง แต่กลับทำให้จางเป่าเฉิงสีหน้าดูแย่ บนหน้าร้อนฉ่า เหมือนว่าถูกตบหน้ามาอย่างแรงทีหนึ่ง
หักหน้ากันเกินไปแล้ว เขาเป็นหัวหน้าสมาคมการพนันเพชรพลอยที่น่าเกรงขาม คาดไม่ถึงจะมีตอนที่ทำผิดพลาด นี่จะเชื่อได้อย่างไร
จางเป่าเฉิงสีหน้าดูไม่ดี เดี๋ยวเขียวเดี๋ยวขาว…ตั้งนานยังพูดอะไรไม่ออก
ถ้าเป็นคนธรรมดาคงไม่คิดเล็กคิดน้อยมากขนาดนี้ แต่ว่าจางเป่าเฉิงเป็นใคร ในฐานะหัวหน้าสมาคมการพนันเพชรพลอย จะโดนคนคนหนึ่งที่เขาเรียกว่าพวกบ้านนอกคอกนาใช้ความจริงมาตบหน้าเข้าให้
หลังหลีชิงเยียนส่งผู้เชี่ยวชาญการตัดออกไป มองเห็นจางเป่าเฉิงที่สีหน้าดูแย่ รีบปลอบใจสักหน่อย ผลปรากฏว่ากลับลดคุณค่าเฉินเป่ยเสมือนไม่เป็นอะไรทั้งนั้น ถึงทำให้จางเป่าเฉิงสีหน้าดูดีขึ้นบ้าง
“หัวหน้าสมาคมจาง เขาเป็นแค่คนนอก คุณในฐานะผู้ใหญ่ ไม่ระวังเข้าใจพลาดไปนั้นก็เป็นปกติมาก ไม่ต้องคิดเล็กคิดน้อยกับเขามากขนาดนั้นหรอกค่ะ เดี๋ยวไว้ฉันจะลงโทษเขาให้หนักแน่นอน!” หลีชิงเยียนยิ้มอย่างจริงใจ มีเสน่ห์อย่างยิ่ง
จางเป่าเฉิงพยักหน้า หลังก้มหน้ามองหินหยาบที่ถูกตัดออกก้อนนั้นด้วยท่าทางตะลึง
“เป็นยังไงบ้างคะหัวหน้าสมาคมจาง นี่มีของอะไรรึเปล่า?” หลีชิงเยียนรีบสอบถาม
สีหน้าจางเป่าเฉิงแข็งทื่อ หลังสังเกตอย่างละเอียดรอบหนึ่ง ค่อยๆ ส่ายหน้ากับหลีชิงเยียนแล้ว “ไม่ใช่ของล้ำค่าหายากอะไร……ผมก็ไม่ค่อยแน่ใจ?”
หลีชิงเยียนตะลึง “ยังมีของล้ำค่าที่คุณไม่แน่ใจอีกเหรอคะ?”
จางเป่าเฉิงพยักหน้า “รูปร่างของหินหยาบซับซ้อนมาก…หินหยาบจำนวนน้อยมากบางส่วนจะไม่มีหยกอยู่ แต่เป็นของพิเศษบางอย่าง……แต่ส่วนมากล้วนเป็นของเสีย แม้กระทั่งราคาไม่เท่าหยกระดับล่างพวกนั้น”
หลีชิงเยียนมองหินหยาบที่ถูกตัดออกก้อนนั้นอย่างโมโห “คุณหมายความว่าด้านในหินหยาบก้อนนี้คือของเสียเหรอคะ?”
จางเป่าเฉิงพูดว่า “น่าจะไม่ผิด…….หินหยาบก้อนนี้ ถ้าบังเอิญประจวบเหมาะ ผนึกของบางอย่างไว้ภายใน แต่โดยมากจะเป็นของเสีย หินหยาบแบบนี้ไม่อาจมีหยกปรากฏขึ้นได้ เดิมทีไม่ต้องตัดมีดที่สอง”
คำพูดของจางเป่าเฉิงเสมือนน้ำเย็นชามหนึ่ง ชั่วขณะนั้นราดความตื่นเต้นอารมณ์ฮึกเหิมของหลีชิงเยียนดับไปครึ่งหนึ่ง มองหินหยาบแวบหนึ่ง จากนั้นถอนหายใจ “ช่างเถอะ ในเมื่อก็ไม่ได้ขาดทุน”
หลีชิงเยียนมองเฉินเป่ยทีหนึ่ง พูดสั่งการ “เดี๋ยวเอามันไปทิ้งแล้วกัน”
จางเป่าเฉิงพูดปลอบใจ “ก้อนนี้ไม่มี แต่อีกก้อนยังไม่รู้ ประธานหลีครับ อีกก้อนจะจัดการยังไงครับ?”
เวลานี้หลีชิงเยียนไม่มีความตื่นเต้น ใบหน้างดงามปรากฏความผิดหวังขึ้น พูดจาเรียบนิ่ง “ถึงตอนนั้นค่อยกว่ากันค่ะ ไปดูที่โซนพนันระดับสูงก่อนสักหน่อยดีกว่า”
“ก็ดีครับ”
จางเป่าเฉิง หลีชิงเยียนและซูเหลยสามคนหลังเดินออกจากห้อง เหลือเฉินเป่ยคนเดียวให้โยนหินหยาบก้อนนี้ทิ้ง
ส่วนเฉินเป่ยก้มหน้า มองหินหยาบก้อนนี้ ความอันธพาลโอหังหายไปจากบนหน้า เผยความหมายเคร่งขรึมยากจะเห็นออกมา
“ชิ้ง!”
เสียงดังกังวานอีกครั้งหนึ่ง เฉินเป่ยเก็บหลงหยากลับ จางเป่าเฉิงกับหลีชิงเยียนคงนึกไม่ถึงว่าเวลานี้เฉินเป่ยจะตัดมีดที่สองลงไป
หลังลงมีดที่สองลงไป หินหยาบก้อนนี้เมื่อก่อนหน้านี้ถูกจางเป่าเฉิงตัดสินว่าเป็นของเสีย คาดไม่ถึงมีสีแดงฉานเผยออกมาแล้ว
ในเวลานี้ มีเสียงเคาะประตูดังขึ้นที่ประตูห้อง
เฉินเป่ยเปิดประตูห้องออก ชิงเหนียนคีบซิการ์ไว้เดินเข้ามาจากข้างนอก ใส่ชุดสูทรีดเรียบลายตารางสีเทาตัวหนึ่ง ทำให้เขาดูขึ้นมาสง่าอย่างมาก
“ลูกพี่ มีอะไรเหรอ ถึงให้ผมมาที่นี่กะทันหัน” ชิงเหนียนหลังเดินเข้ามา เริ่มมองไปทั่วห้อง
“เอาอันนี้ไป ใช้เส้นทางลับขนกลับฐานทัพ”
เฉินเป่ยยกหินหยาบขึ้นอย่างระมัดระวัง สีหน้าเคร่งขรึมอย่างยิ่งจนเกินความคาดหมาย
“นี่คือ….” ชิงเหนียนมองหินหยาบก้อนนี้แวบหนึ่ง สีหน้าเปลี่ยนไปมาก
“ที่นี่จะมีของแบบนี้ออกมาได้ยังไง!” ชิงเหนียนขมวดคิ้วแน่น หัวใจสั่นสะเทือนอย่างแรง
มือที่เขาคีบซิการ์ไว้กำลังสั่นเทา นั่นคือปฏิกิริยาที่ตื่นตกใจอย่างหาที่เปรียบไม่ได้ถึงจะเกิดขึ้น
แววตาเฉินเป่ยสงบนิ่ง น้ำเสียงเผยความซับซ้อนลุ่มลึก “นี่ต่างหากถึงเป็นสาเหตุที่บุคคลยิ่งใหญ่แต่ละที่ของหัวเซี่ยพวกนั้นทยอยมากันไม่ขาดสาย!”