สายเปย์เบอร์หนึ่ง - ตอนที่ 321
แต่บางเรื่องเราก็ไม่มีไฟล์แล้วเหมือนกัน
บทที่ 321 ยืนอยู่ด้านหลังฉันเอาไว้!
“ตึง ตึง ตึง….” เสียงฝีเท้าดังสะท้อนไปทั่วทั้งห้องโถง มือทั้งสองข้างของเฉินเป่ยล้วงลงไปในกระเป๋ากางเกง พลันมองไปตามเสียง ที่อยู่ตรงด้านหน้า ก็เห็นว่ามีกลุ่มคนที่ใส่ชุดสูทสีดำกลุ่มหนึ่ง กลุ่มคนกำลังเดินห้อมล้อมคนคนหนึ่ง พร้อมทั้งมุ่งหน้าเดินมาทางเฉินเป่ยยืนอยู่
เมื่อเห็นกลุ่มคนนั้นเดินมาใกล้แล้ว คนกลุ่มนั้นค่อยๆ แยกตัวออก พลันมีคนคนหนึ่ง ปรากฏกายต่อหน้าทุกสายตาในเวลานี้
หลีชิงเยียนเหล่ตามองคนคนนั้น หัวคิ้วขมวดเข้าหากัน นัยน์ตาหดตัวลง!
“อวี้ย้งเซวียน ทำไมแกมาอยู่ที่นี่ได้?” น้ำเสียงหลีชิงเยียนแสดงความเย็นชาใส่ หลังจากเสร็จงานการพนันเพชรพลอยเมื่อตอนกลางวันนั้น หลีชิงเยียนรู้สึกไม่ดีกับตัวอวี้ย้งเซวียน
อวี้ย้งเซวียนเปลี่ยนเสื้อตัวยาวสีขาวตัวใหม่ แต่บนศีรษะยังคงพันแผลรอบศีรษะอยู่หลายชั้น โดยเฉพาะตรงหน้าผากนั่น มันถูกพันเป็นชั้นๆ ผ้าพันแผลสีขาวหนาเป็นชั้นๆ ราวกับมัมมี่ ถึงกับต้องเหล่ตามองมันช่างตลกสิ้นดี
เหมือนว่านอกจากบริเวณศีรษะที่ถูกพันแผลไว้แล้ว อวี้ย้งเซวียนดูไม่เหมือนเดิม เพราะยังคงทำตัวตามปกติ
หลังจากที่เฉินเป่ยมองอวี้ย้งเซวียนแล้ว นัยน์ตาแสดงอาการแปลกใจออกมา ทว่าไม่นานนักท่าทางนั้นก็กลับมาสงบนิ่งได้ดังเดิม
บรรดาบอดี้การ์ดคอยคุ้มกันอวี้ย้งเซวียนเอาไว้ พร้อมทั้งเดินมาตรงหน้าหลีชิงเยียน แล้วหยุดเท้าลง จากนั้นก็ใช้สายตาพิจารณาหลีชิงเยียน นัยน์ตานั้น แสดงความหมายอันลึกซึ้งอย่างเต็มเปี่ยม
ส่วนพนักงานสาวสวยที่ประจำอยู่หน้าเคาน์เตอร์เมื่อเห็นอวี้ย้งเซวียนแล้ว ท่าทางเปลี่ยนไปทันที จนแสดงท่าทีตื่นตระหนกออกมาแทน “คุณอวี้”
อวี้ย้งเซวียนจ้องมองมาที่เฉินเป่ย พลันกล่าวว่า “ฉันบอกแล้วว่า ไม่อนุญาตให้พวกเขาเปิดห้องพัก”
“…ค่ะ” พนักงานสาวสวยที่ประจำอยู่ที่เคาน์เตอร์สีหน้าดูย่ำแย่ พลันมองมาทางกลุ่มของเฉินเป่ยทั้งสามคน ทำได้แค่ก้มหน้าก้มตารับคำสั่ง
“คืนนี้ พวกแกก็ไปนอนข้างถนนแล้วกัน?” อวี้ย้งเซวียนมองมาทางหลีชิงเยียนด้วยท่าทางหยอกล้อ มุมปากกระดกขึ้น นั่นเป็นรอยยิ้มแห่งการเยาะเย้ยอย่างเต็มที่!
“อวี้ย้งเซวียน แกอย่าทำเรื่องเกินเลยไปแล้วนะ พูดอะไรก็ต้องเป็นไปตามนั้นทุกอย่างเลยหรือไง!” หลีชิงเยียนเม้มริมฝีปากพร้อมทั้งกัดฟันด้วยความโกรธ น้ำเสียงหวานแต่เย็นชา
ถึงแม้ว่าเยี่ยนจิงจะมีโรงแรมมากมาย แต่มันก็เต็มหมดแล้ว ตอนนี้หลีชิงเยียนมาเจอโรงแรมที่มีห้องว่างอยู่ ถือว่าโชคดีมากแล้ว… แต่อวี้ย้งเซวียน พูดแค่ประโยคเดียว ก็เหมือนไล่หลีชิงเยียนไปอย่างกับหมูกับหมา!
อวี้ย้งเซวียนจ้องหลีชิงเยียนตาเขม็ง มุมปากกระดกรอยยิ้มหยอกล้อออกมา “พวกแกนอนหน้าประตูโรงแรมได้นะ ฉันไม่มีเหตุผลที่จะไปห้าม…ถ้าพวกแกอยากจะนอนด้านในโรงแรม มีอยู่วิธีหนึ่ง…”
สายตาของอวี้ย้งเซวียนโลมเลียกวาดตามองรูปร่างของหลีชิงเยียนไปมา ราวกับต้องการจะกลืนกินหลีชิงเยียนทั้งตัว
“นอกจาก คืนนี้มาที่ห้องฉัน ฉันยังขาด สาวที่จะมาปรนนิบัติพัดวีบนเตียงให้ร้อนฉ่าอยู่…” รอยยิ้มอันหนาวเหน็บของอวี้ย้งเซวียน น้ำเสียงแสดงความหมายการดูถูกดูหมิ่นออกมา!
ดวงตางดงามของหลีชิงเยียนแสดงความโกรธเคือง จนหน้าสวยนิ่งดั่งน้ำค้างแข็ง ร่างกายอรชนสั่นเทา อวี้ย้งเซวียน กล้าเอาเธอไปเป็นสาวคนใช้ที่ทำหน้าที่อุ่นเตียงเลยเหรอ?
นี่มันเป็นการลบหลู่ตัวตนของเธอ ลบหลู่เกียรติของเธอ!
ที่น่าโมโหหนักก็คือ รอยยิ้มหยอกล้อของอวี้ย้งเซวียนนั้น ไม่ได้หมายความว่าไปอุ่นเตียงตามปกติ…ถึงแม้ว่าหลีชิงเยียนจะไม่เข้าใจเรื่องพวกนี้ แต่ก็เดาความหมายได้8-9จนเกือบเต็ม 10
พอไปอุ่นให้เตียงมันอุ่นแล้วทำอะไรต่อ? ย่อมตกเป็นของเล่น ให้เขาเล่นสนุก!
หลีชิงเยียนยังไงก็เป็นถึงท่านประธานบริษัทตระกูลหลีกรุ๊ป แต่กลับมาถูกอวี้ย้งเซวียนลบหลู่ให้เสียเกียรติติดๆ กันตั้งสองสามครั้ง
ท่านประธานเทพธิดาเม้มริมฝีปากแดงพร้อมทั้งกัดฟันไปด้วยอย่างเคียดแค้น ในใจของเธอความโกรธเคืองกำลังสุมเป็นกองไฟ แต่ว่าอวี้ย้งเซวียนที่อยู่ด้านหน้ามีอำนาจมากกว่ามากนัก ท่านประธานที่ฉลาดเฉลียวแถมเย็นชาดั่งน้ำค้างแข็ง รู้ตัวดีว่าจนเองไม่ควรหาเรื่องบุคคลคนนี้ เธอตัวสั่น ทำได้แค่ตอบไปอย่างเย็นชา “ฉันไม่ต้องการ ฉันแค่อยากรู้ว่า ทำไมพวกเราไม่สามารถเข้าพักโรงแรมนี้ได้?”
หลีชิงเยี่ยมย่อมไปถูกใจเป็นธรรมดา เพราะว่าเธอไม่เข้าใจว่าอวี้ย้งเซวียนอำนาจบาตรใหญ่มาจากไหน!
“ง่ายมาก เพราะว่าคุณอวี้เป็นเพื่อนสนิทของฉัน คำพูดของเขา ก็เหมือนเป็นคำพูดของฉันเอง” ในเวลานั้น พลันมีเสียงดังมาอีกทาง เป็นชายสุภาพบุรุษใส่แว่นตาสีดำ ใส่สูทแต่งตัวเรียบร้อยเดินเข้ามา พลันมองมาทางอวี้ย้งเซวียน พร้อมทั้งท่าทางที่เป็นมิตรเดินเข้าไปร่วมพวกด้วย “อวี้เซวียน มีธุระอะไรโทรศัพท์มาหาฉันเลยก็ได้แล้ว เรื่องจิ๊บจ๊อยพวกนี้ฉันจัดการเอง ทำไมต้องให้คุณเป็นคนออกโรงเองด้วย”
หลีชิงเยียนได้ยินเสียงนั่นท่าทางเปลี่ยนไปทันที เปลี่ยนไปจนดูไม่ได้เลย เพราะว่าผู้ชายที่ดูอ่อนโยนเช่นนี้ เป็นพวกเดียวกันกับอวี้ย้งเซวียนเหรอ?
อวี้ย้งเซวียนกวาดตามองหลีชิงเยียนและพวกอยู่แวบหนึ่ง พร้อมทั้งพูดว่า “คนพวกนี้ นายต้องดูแลให้เป็นอย่างดี อย่าละเลยพวกเขาไปล่ะ”
“วางใจได้เลย ฉันจะทำตามความหมายของนายเอง” ชายหนุ่มอันอ่อนโยนคนนั้นหัวเราะร่า
อวี้ย้งเซวียนพยักหน้าให้ พร้อมทั้งยิ้มให้หลีชิงเยียนอย่างเย็นเฉียบ จากนั้นก็หันตัวออกไป
เมื่อรอเวลาให้อวี้ย้งเซวียนไปแล้ว ชายสุภาพบุรุษคนนั้นพลันเริ่มจัดชุดสูท ใบหน้าที่มีรอยยิ้มอย่างหวังดีได้มลายหายไปแล้ว แต่กลับเป็นรอยยิ้มอันเย็นชาเข้ามาแทนที่ พลันกวาดตามองหลีชิงเยียนอยู่แวบหนึ่ง น้ำเสียงที่เปล่งออกมาทำให้คนรังเกียจได้เป็นอันดับแรก “พวกแกสามคน จะออกไปเอง หรือว่าให้ฉันเชิญพวกแกออกไป?”
ดวงตางดงามของหลีชิงเยียนจ้องมองผู้ชายที่เป็นสุภาพบุรุษคนนั้นตาเขม็ง พลันส่งเสียงเย็นเฉียบกลับไป “แกเป็นใคร แกเกี่ยวข้องอะไรกับอวี้ย้งเซวียน?”
“ฉันเป็นใครนะเหรอ ประธานสาขาเยี่ยนจิงของบริษัทกรุ๊ปนานาชาติหวั้นเหาบริษัทแยกของเขตหัวเซี่ย อวี้ย้งเซวียนเป็นเพื่อนสนิทของฉัน เข้าใจยัง?”
ชายสุภาพบุรุษคนนั้นโบกมือไปมา รอยยิ้มเยาะเย้ยอย่างเย็นชา “กล้าทำผิดกับคุณอวี้ ดูแล้วว่าพวกแกไม่อยากจะมีชีวิตอยู่ต่อที่เยี่ยนจิงกันแล้ว”
หลีชิงเยียนตัวสั่น หัวคิ้วขมวดเข้าหากัน เธอรู้ว่าตระกูลอวี้นั้นมีอำนาจอย่างกว้างขวาง แต่ไม่คิดเลยว่า จะแกร่งกล้าเส้นสายใหญ่มาถึงขั้นนี่!
ขนาดโรงแรมห้าดาวอำนาจของอวี้ย้งเซวียนยังมีผลด้วย และด้านอื่นๆ ล่ะ?
หลีชิงเยียนที่ฉลาดเฉลียว จิตใต้สำนึกพลันรู้ทันที…ต่อไปการใช้ชีวิตอยู่ที่เยี่ยนจิงนั้นก็ไม่อาจอยู่ได้อย่างสบายแล้ว… อวี้ย้งเซวียนไม่มีหยุดยั้งอำนาจเอาไว้แน่ ต้องหาเรื่องจนเกิดเรื่องใหญ่โตขึ้นมาแน่!
เยี่ยนจิงคงไม่สงบอีกต่อไป จนต้องเดือดขึ้นมาแน่!
ผลลัพธ์ที่แย่ที่สุด คือการที่พวกเขาอยู่ที่เยี่ยนจิง ทุกย่างก้าวคงลำบากลำบนมาก
“เช่นนั้นพวกเราไม่รบกวนพวกแกแล้ว จะไปเดี๋ยวนี้” หลีชิงเยียนหันหลังกลับ เพื่อเตรียมตัวรีบไปจากโรงแรมนี้ทันที เพื่อหลีกเลี่ยงเวลาอยู่นานแล้วจะเกิดเรื่องไม่ดีเกิดขึ้น
“ฉันให้แกไปแล้วเหรอ?” หลีชิงเยียนยังเดินไม่ไกลนัก พลันมีเสียงสุภาพบุรุษพูดจาเหน็บแนมถากถางดังขึ้น
หลีชิงเยียนหยุดเท้า พลันหันศีรษะกลับไป พร้อมทั้งถามกลับเสียงแข็ง “แกอยากจะทำอะไรอีก?”
สุภาพบุรุษคนนั้นที่สูบซิการ์อยู่ เขาพ่นควันซิการ์กลิ่นรุนแรงออกไปจากปาก จนกลุ่มควันมันฟุ้งไปทั่ว
เขาต้องมองหลีชิงเยียนอย่างมีความหมาย พลันดับซิการ์ พร้อมทั้งแสดงท่าทางอันเย็บเฉียบออก น้ำเสียงหนาวเหน็บ “คุณอวี้ให้ฉันดูแลพวกแกเป็นอย่างดี แล้วฉันจะกล้าให้พวกแกไปง่ายๆ แบบนี้.. นั่นย่อมหมายความว่าฉันหักหลังไม่ทำตามคำสั่งของคุณอวี้นะสิ….”
ชายสุภาพบุรุษพูดจบ พลันตะคอกใส่เสียงเย็นเฉียบ น้ำเสียงหนักแน่น ดั่งสายฟ้าฟาดในวันที่สดใสฟ้าเปิด! จนเสียงมันดังกึกก้องไปทั่วภายในห้องโถง!
หลีชิงเยียนตัวสั่นเล็กน้อย ส่วนซูเหลยนั้น ท่าทางเคร่งขรึมลงทันที!
“ก็แค่ประธานกระจอกคนหนึ่งเท่านั้นแถมกล้าไม่ฟังคำสั่งของคุณอวี้ มาแล้วนี่ ก็ไม่ต้องกลับไปแล้วแหละ!’ ชายสุภาพบุรุษตะคอกใส่
“เรียกคนมา!”
“ตึง ตึง ตึง….”
เวลานั้นเอง ทุกทิศทุกทางในโรงแรมนั้น พลันมีเสียงฝีเท้าดังขึ้นเป็นระลอก กลุ่มคน ปรากฏกายอยู่รอบทิศ พร้อมทั้งพุ่งเข้ามาทางหลีชิงเยียนอย่างโหดเหี้ยม
เสียงฝีเท้าอันเย็นเฉียบ พวกเขาใส่ชุดสูทสีดำ ราวกับเป็นเครื่องจักรในการฆ่าคน หลีชิงเยียนหันไปหาอย่างตกใจ พลันเห็นว่าเคยเจอกันกับคนกลุ่มนี้ในงานการพนันเพชรพลอย คนพวกนี้เป็นบอดี้การ์ดที่เป็นลูกน้องของอวี้ย้งเซวียน… เดิมทีเธอคิดเองว่าบอดี้การ์ดคงเดินกลับไปพร้อมกับอวี้ย้งเซวียนเมื่อครู่แล้ว… แต่ไม่คิดเลยว่าจะทำตามคำสั่งของสุภาพบุรุษคนนี้ คนกลุ่มนี้เป็นบอดี้การ์ดที่แอบซุ่มตัวอยู่ตลอดเวลาต่างหาก จนตอนนี้ก็ยอมโผล่หน้าออกมาให้เห็นกันเป็นพืด!
ใบหน้าหลีชิงเยียนซีดเผือด… ร่างกายอรชรสั่นเทาอย่างรุนแรง เธอเพิ่งจะเข้าใจว่า ตัวเองติดกับดักของอวี้ย้งเซวียนเข้าให้แล้ว
ในงานการพนันเพชรพลอยนั้น เพราะว่าจิงปรากฏตัวขึ้น อวี้ย้งเซวียนใช้สติช่างรอบคอบ อีกอย่างตรงนั้นมีบุคคลสำคัญมากมาย อวี้ย้งเซวียนเลยไม่ยอมลงมือ แต่ว่าภายในโรงแรมนี้นั้น เป็นถิ่นของอวี้ย้งเซวียน!
…………
ห้องชุดเพรสซิเดนเชียล สวีท (Presidential suite) อวี้ย้งเซวียนนั่งอยู่บนโซฟา มีโทรทัศน์ขนาดใหญ่ กว้าง 75 นิ้วที่ติดกับผนัง ในโทรทัศน์กำลังแพร่ภาพวงจรปิดในโรงแรมตามเวลาจริง!
ทั้งโรงแรม สามารถมีภาพกล้องวงจรปิดแพร่ภาพอยู่ในห้องชุดเพรสซิเดนเชียล สวีท (Presidential suite) ได้นั้น ก็มีเพียงอวี้ย้งเซวียนที่มีอำนาจเท่านั้น คนอื่นต่างไม่มีสิทธิ์นี้
อวี้ย้งเซวียนที่กำลังนั่งเอกเขนกอยู่บนโซฟา ท่าทางสงบเสงี่ยมผิดปกติ ข้างกายมีหญิงสาวหุ่นทรงเสน่ห์นั่งประกบอยู่ทั้งสองข้าง พวกเธอเป็นเลขานุการทรงเสน่ห์ของอวี้ย้งเซวียน สองสาวพะเน้าพะนออยู่ในอ้อมอกของอวี้ย้งเซวียน นิ้วเรียวงามคลอเคลียไปตามลำคอ รูปหน้าของอวี้ย้งเซวียน…ท่าทางมีเสน่ห์มาก
“เหล้า” อวี้ย้งเซวียนเอ่ยปากพูด พร้อมทั้งจ้องมองกล้องวงจรปิดตาเขม็ง สีหน้าสงบนิ่ง
เลขาฯ สาวที่มีเสน่ห์ยิ้มให้ พลางชูแก้วไวน์แก้วใสแจ๋วที่วางอยู่บนโต๊ะหน้าโซฟา พร้อมทั้งเทวิสกี้ลงไป แล้วยื่นให้ตรงหน้าอวี้ย้งเซวียน
อวี้ย้งเซวียนเงยหน้าขึ้น เพราะว่าเลขาฯ สาวทรงเสน่ห์กำลัง ป้อนไวน์ให้เขาอยู่
อวี้ย้งเซวียนหรี่ตาทั้งสองข้าง เขาดื่มด่ำกับการที่สาวสวยสองคนที่คอยมาปรนนิบัติให้อย่างเต็มที่
หลังจิบไว้น์ไปอึกหนึ่งแล้ว อวี้ย้งเซวียนจ้องมองกล้องวงจรปิดตาเขม็ง หลังจากที่กลุ่มคนปรากฏตัวขึ้นแล้วนั้น อวี้ย้งเซวียนก็กระตุกรอยยิ้มอันแสนหนาวเย็นเฉียบออกมา พร้อมทั้งมองโทรทัศน์อย่างมีความหมาย จนต้องพูดออกมาเลยทีเดียว “ในงานพนันเพชรพลอยนั้นแกโชคเข้าข้างมาก แต่ครั้งนี้ แกมีปีกยังบินไปได้ยากเลย!”
น้ำเสียงของอวี้ย้งเซวียนเย็นเฉียบ นัยน์ตาเปล่งประกายแววตาความเย็นเฉียบอันดุร้ายออกมา!
“คุณชายอวี้วางแผนล่วงหน้าได้เป็นไปตามที่คิดยังกับเทวดาเลย รู้ว่าโรงแรมของเขาเกิดเรื่องฆาตกรรมขึ้น เลยจงใจเอาห้องสองห้องไว้ให้พวกเขา รอให้พวกเขาตกหลุมพราง จนเข้ามาติดกับดัก” ด้านข้างอวี้ย้งเซวียน เลขาฯ สาวทรงเสน่ห์อีกคนเป็นคนพูด แถมยังเป็นน้ำเสียงสดใสมีเสน่ห์เหลือเกิน
พวกของหลีชิงเยียนไม่รู้ว่า ทุกย่างก้าวการเคลื่อนไหวของพวกเธอนั้น เป็นแผนการของอวี้ย้งเซวียนทั้งนั้น… การที่พวกเขาสามารถมาที่โรงแรมแห่งนี้ ล้วนเป็นแผนการของอวี้ย้งเซวียนทั้งสิ้น มันไม่ใช่เพราะเหตุบังเอิญ!
“แค่แผนการเล็กๆ น้อยๆ เท่านั้นเอง ประเด็นหลักคือคุณ เรื่องนี้คุณทำได้ดีมาก” อวี้ย้งเซวียนหันศีรษะไปหา พร้อมทั้งจ้องมองเลขาฯ ที่หน้าตาสวยสดงดงามมาก พลางใช้นิ้วเสยคางของเธอขึ้นมา แววตาฉายความชื่นชมออกมา
“เพราะได้รับการไว้วางใจเรื่องจึงสำเร็จแต่โดยดี….” เลขาฯ สาวทรงเสน่ห์ฉีกยิ้มให้ พลันมือทั้งสองข้างค่อยๆ ลื่นไหลลง….
………
ในห้องโถง หลีชิงเยียนยืนอยู่ตรงหน้าห้อง ใบหน้าสวยแสดงสีหน้าตื่นตระหนกออกมา
เธอไม่คิดเลยว่า ที่นี่จะแอบซ่อนคนไว้ตั้งมากมาย คนเหล่านี้ฝีมือต่างไม่ธรรมดา!
บรรยากาศอันตึงเครียด จนแผ่รัศมีเจนตาในการฆ่าออกมาไปทั่ว!
“นี่มันเป็นกับดัก!” ซูเหลยท่าทางเคร่งขรึม
ส่วนเฉินเป่ยยังคงสงบนิ่ง ตอนที่เห็นว่ามีกลุ่มคนปรากฏตัวขึ้นนั้น มุมปากพลันกระดกขึ้นเล็กน้อย… ราวกับ เขารู้ตั้งแต่แรกอยู่แล้ว!
“สวบ!”
เวลานั้นเอง มีแสงกระทบใบมีดเปล่งแสงออกมา ราวกับอยากจะตัดอากาศอันว่างเปล่านี้ไป!
พลันบรรดาบอดี้การ์ดก็พุ่งเข้ามาหา พร้อมทั้งเอามีดออกมาด้วย!
ท่ามกลางแสงมีดรอบด้าน พร้อมทั้งความหมายเจตนาฆ่าอันเย็นชาที่ถูกห้อมล้อมไว้ทุกทิศทาง!
“ท่านประธานหลี ระวัง!” ดวงตาซูเหลยหดตัวลง พลันเห็นว่าด้านข้างของหลีชิงเยียนทั้งสองข้างนั้น มีคนสองคนถือว่าพุ่งเข้ามาหาเพื่อต้องการฆ่าอย่างโหดเหี้ยม!
ตอนที่ซูเหลยเรียกอย่างตกใจนั้น มันสายเกินแก้เสียแล้ว!