สายเปย์เบอร์หนึ่ง - ตอนที่ 322
บทที่322 ความตายคือเกียรติยศของคุณ!
ตอนที่มีดสีขาวในมือเขาทั้งสองกำลังจะฟันลงที่หลีชิงเยียน ทันใดนั้น ความสั่นสะเทือนแหวกกลางอากาศ!ปรากฏลำแสงเส้นหนึ่งในอากาศ ยิงออกมา!
ความเร็วของลำแสงรวดเร็วมากเหลือเกิน แม้แต่ชายหนุ่มสุภาพบุรุษคนนั้น และบอดี้การ์ดแต่ละคนที่อยู่ในเหตุการณ์ ก็ทำได้เพียงแต่มองลำแสงนั้นพุ่งทะลุผ่านอากาศไป!
ดวงตาคูสวยของหลีชิงเหยียนเบิกโต อากาศราวกับถูกน้ำแข็งจับจนแข็งตัว
เธอมองมีดที่เงื้อขึ้นมา ใกล้ตัวเองมากขึ้นเรื่อยๆ !
วินาทีนั้น หลีชิงเยียนขนลุกซู่ เธอรู้สึกถึงวิกฤตแห่งความตาย!
ตอนนี้เอง ลำแสงเส้นนั้น ก็พุ่งทะลวงผ่านมาจากด้านหลังเธอ ทันใดนั้นก็ตัดเข้าที่แสงคมมีด!
“ปัง!”
เสียงชนปะทะดังบาดหู มีดตัดฟืนสองอันนั้น ถูกกระแทกด้วยแรงมหาศาล ปลิวลอยออกไปอย่างแรง ฝังเข้าไปในผนังที่มีภาพแกะสลักอยู่ด้านหลังชายสุภาพบุรุษคนนั้นอย่างลึกมาก!
“ระวังหน่อย อย่าทำร้ายผิดคนล่ะ!” ชายสุภาพบุรุษหรี่ตาลง ตัวสั่นเทา!
สีหน้าของเขา ซีดเผือดลงทันที!
หลีชิงเยียนยืนอยู่ที่เดิม ไม่รู้ว่าเธอหลับตาลงตอนไหน รอจนตอนที่เธอลืมดวงตาคู่สวย ก็พบว่ามีดตัดฟืนทั้งสองเล่มนั้นตกลงไปไม่เห็นแล้ว และเงาของร่างทั้งสองที่ถือดาบอยู่นั้น กุมมือที่มีเลือดไหล ถอยกรูดไปหลายสิบก้าวอย่างไม่สามารถควบคุมได้!
“เพล้งๆๆ …” สองร่างนั้น ถอยไปสามสิบกว่าก้าวจึงได้ทรงตัวได้อย่างมั่นคง ง่ามนิ้วมือของพวกเขาถูกแรงมหาศาลเมื่อครู่ฉีกจนขาด เลือดสดๆ ไหลทะลักออกมา นัยน์ตาส่องประกายความเหลือเชื่อกับความตกใจอย่างมาก!
“ฟิ้ว!”
มันบินกลับมาในมือของเฉินเป่ย เฉินเป่ยกุมมีดดำขลับเอาไว้ ใบมีดที่บางราวกับปีกของจักจั่นยังคงสั่นเล็กน้อย สั่นด้วยความถี่ที่สูงมาก!
อากาศสั่นสะเทือนจากมีดหลงหยาเล่มนี้ กลับสามารถส่งเสียงอันน่าสะพรึงที่ทำให้เย็นวาบไปทั้งตัว!
อากาศสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง หลีชิงเยียนถูกเสียงที่น่าสะพรึงนี้ทำให้ตกใจ สีหน้าเผยให้เห็นความตื่นกลัวเสียงที่แปลกประหลาดน่าสะพรึงกลัวนี้ มาจากที่ไหน ตนเองคงไม่ได้หูฝาดไปหรอกนะ?
“นี่เป็นไปไม่ได้!” สองคนนั้นที่ถือมีดมองเห็นมีดหลงยาในมือของเฉินเป่ย สีหน้าเปลี่ยนไปทันที พูดอย่างตื่นตกใจว่า “นี่เป็นไปไม่ได้!”
จะอย่างไรเขาก็ไม่เชื่อ มีดในมือของเฉินเป่ยนี้ จะสามารถส่งเสียงที่น่าสะพรึงออกมาได้ ใครจะเชื่อ
เฉินเป่ยเก็บมีด มือหนึ่งดึงแขนขาวเรียวเล็กของหลีชิงเยียน เอาตัวหลีชิงเยียนมาคุ้มครองไว้ที่ด้านหลัง
อากาศ ความเงียบที่ราวความตาย!
สองร่างนั้นมองมายังเฉินเป่ย แววตานั้นเหมือนกับเห็นผีอย่างนั้น!
มีดเล่มหนึ่ง กลับทำให้มือมีดที่โหดเหี้ยมสองคนตกใจจนถอยกรูด!
นี่มันคือพลังที่น่ากลัวอะไรขนาดไหนกันแน่ ถึงทำได้?
เงาสองร่างนั้น แววตาที่มองเฉินเป่ยจริงจังขึ้นมา…เฉินเป่ย ไม่ใช่คนธรรมดาแน่!
“กล้ายั่วโมโหคุณชายอวี้ ไม่มีใครเคยมีชีวิตรอดเดินออกจากที่นี่!” หนึ่งในนั้นเอ่ยปาก น้ำเสียงแฝงความโหดเหี้ยมน่ากลัว!
เฉินเป่ยไม่ได้พูดอะไร กุมมือนุ่มๆ ของหลีชิงเยียน สีหน้าเรียบเฉย “ใครบ้างที่เสแสร้งไม่เป็น ฉันก็ยังพูดได้ว่าอีกเดี๋ยวจะจัดการพวกแก และยังวิ่งไปฆ่าอวี้ย้งเซวียนด้วย!”
หลีชิงเยียนอยู่ข้างหลังเฉินเป่ย ดวงตาคู่สวยจองไปที่ด้านหลังเฉินเป่ย เธอกะพริบตาดวงตาที่เย้ายวนชวนหลงใหล มองเฉินเป่ย
เธอแปลกใจเล็กน้อย วินาทีนี้ เฉินเป่ยกลับออกมายืดตัวตรง อันธพาลที่ปกติได้แต่พูดตลกโปกฮากลับกล้าหาญชาญชัย ยืนข้างหน้าเธอ ปกป้องพร้อมทั้งเอาตัวเธอเอาไว้ข้างหลัง!
“รนหาที่ตาย!” พอร่างนั่นพุ่งตัวออกมา ก็ปล่อยหมัดมาที่หน้าของเฉินเป่ยอย่างแรง!
พลังหมัดนั้นรุนแรงมากเหลือเกิน เสียงลมพายุท้องฟ้าร้องคำราม!เสียงคลื่นซัดสาด นำมาซึ่งพลังที่น่ากลัวอย่างที่สุด พลังที่น่ากลัวนี้หากโจมตีเฉินเป่ย……ไม่อยากจะคิดถึงผลที่ตามมา!
หลีชิงเยียนตกใจ ใบหน้าขาวซีด ร่างสั่นเทิ้ม หัวใจที่อยู่ภายในร่างเต้นอย่างบ้าคลั่ง มองหมัดนั้น มองเห็นว่าใกล้จะกระแทกบนหน้าเฉินเป่ยแล้ว
ใบหน้าของเฉินเป่ยไม่มีทางจะเอาหมัดนี้อยู่ หมัดนี้ สามารถทำให้คนปกติทั่วไปไม่ตายก็พิการ!
“เฮ้ย——” ร่างทั้งสองตะโกนเสียงดังราวฟ้าร้อง รัวกระสุนออกมาด้วยท่าทางน่ากลัว!
ตอนที่สองร่างนั้นมองหมัดที่กำลังจะตกลงบนใบหน้าเฉินเป่ย คนชั่วไม่มีที่สิ้นสุดอย่างเฉินเป่ย ก็เกิดรอยยิ้มดูถูกเยาะเย้ยขึ้นทันที
วินาทีต่อมา ขาเฉินเป่ยโจมตีออกมาอย่างรุนแรง ราวกับแส้เหล็ก สะบัดออกอย่างรวดเร็วปานสายฟ้าแลบ โจมตีไปที่หน้าอกของร่างทั้งสอง!
“พลั่ก พลั่ก พลั่ก!”
เสียงที่กลัดกลุ้มดังขึ้นมาพร้อมกัน หากไม่ตั้งใจฟังให้ดี ก็จะคิดว่ามีเพียงเสียงเดียว!
ส่วนหลีชิงเยียน ยิ่งมองเห็นทั้งสองเสียงปลิวออกไปอย่างแรง ลูกถีบเมื่อครู่นั้น ยิ่งทำให้หลีชิงเยียนตกตะลึง เธอได้ยินเสียงกระดูกแตกออกอย่างชัดเจน!
ห่างออกไปหลายสิบเมตร ร่างทั้งสอง พยายามอยากจะลุกขึ้น … ร่างของพวกเขาสั่นสะท้าน เครื่องแบบสีดำบนตัวของพวกเขาขาด มีรอยรองเท้า ชัดเจนเป็นอย่างยิ่ง!
บนรอยรองเท้านี้ แม้แต่ลายเส้นบนรองเท้าก็ยังเห็นได้อย่างชัดเจน !
ทั้งสองร่างนั้นสั่นเทาคิดจะลุกขึ้น…แต่สุดท้ายก็พ่นเลือดสดๆ ออกมา…หัวใจหยุดเต้น ถูกเตะครั้งเดียวชีวิตก็ถูกพรากไปแล้ว!
เฉินเป่ยหมุนตัว เดินไปที่ด้านหน้าหลีชิงเยียน หลีชิงเยียนมองร่างทั้งสองอย่างตื่นตกใจ ค่อยๆ ยกมือขึ้น ชี้ไปที่ร่างของทั้งสอง ถามว่า “พวกเขา……”
หลีชิงเยียนมองสองคนที่นอนอยู่บนพื้นไม่ขยับแม่แต่น้อย ในใจก็เกิดลางสังหรณ์ที่ไม่ดีบางอย่างขึ้นทันที…ดวงตาคู่สวยของเธอเบิกโต ครั้งแรกที่เห็นเฉินเป่ยลงมือ!
เธอเห็นเฉินเป่ยลงมือครั้งแรกก็เด็ดขาดดุเดือดเช่นนี้ แทบไม่เหมือนอันธพาลต่อยตีในช่วงปกติเลย “บทลงโทษที่สมควรได้รับ” เฉินเป่ยคลำเอาบุหรี่ออกมา หลังจากจุดแล้ว ก็ค่อยๆ พ่นควันบุหรี่ออกมา กลิ่นบุหรี่อบอวลอยู่ในอากาศ เกิดเป็นหมอกควันบางๆ ลอยขึ้นมา
เฉินเป่ยหรี่ตาคู่นั้นเอ่ยเรียบเฉย หลีชิงเยียนไม่เข้าใจความหมายของประโยคนั้นที่เขาพูดเมื่อครู่นี้เย……บทลงโทษที่ควรได้รับ หมายความว่าอะไร?
หลีชิงเยียนไม่มีทางเข้าใจ ตอนที่ลงมือ แค่แวบเดียวเฉินเป่ยก็สัมผัสได้ถึงแสงดุร้ายที่อยู่ในแววตาทั้งสองคนนั้น
ลำแสงที่ดุร้ายนี้ คนธรรมดาไม่มีทางมีแน่…มีเพียงคนชั่วร้ายที่ในมือเปื้อนเลือดหลายชีวิต…จึงจะมีความกระหายเลือดแบบนี้!
และสองคนนี้เห็นชัดว่าคือลูกน้องของอวี้ย้งเซวียนเป็นสุนัขรับใช้ให้อวี้ย้งเซวียน จะขัดขวางความชั่วส่งเสริมความดีได้อย่างไร ชีวิตบริสุทธิ์ที่อยู่ในมือของพวกเขาสองคน อย่างน้อยสิบกว่าชีวิต!
เฉินเป่ยเดินผ่านจากข้างตัวหลีชิงเยียนไป และเทพธิดามองไปที่ศพของสองคนนั้น ด้วยความตกตะลึง
เธอไม่เข้าใจ ทำไมเฉินเป่ยถึงมองออกว่าสองคนนี้ควรได้รับบทลงโทษ เธอมองอยู่พักใหญ่ ก็มองไม่ออกถึงความสมเหตุสมผลอะไร
“เพล้ง!”
สองมือของซูเหลยกำหมัด ใบมีดแหลมคมที่มีลำแสงห้าสายฟันออกมาจากทั่วทุกทิศทาง ปิดกั้นเส้นทางการล่าถอยของซูเหลย !
หลีชิงเยียนมีสีหน้าสงสัย ขมวดคิ้วแน่น สำหรับเธอ ซูเหลยกำลังเผชิญหน้ากับวิกฤติความเป็นความตาย!
“วางใจเถอะ เธอไม่มีทางเป็นอะไร” ทันใดนั้น เฉินเป่ยที่อยู่ข้างๆ เอ่ยปาก หลีชิงเยียนอึ้ง มองไปยังเฉินเป่ย
เฉินเป่ยมองซูเหลย สีหน้านิ่งเฉย “พวกเศษสวะพวกนี้ เธอไม่เห็นพวกมันอยู่ในสายตาหรอก”
“ชิงเยียน คุณออกไปรอข้างนอกก่อนเถอะ อีกเดี๋ยวมีกลิ่นคาวเลือดมากเกินไป จะไม่ดีต่อคุณ” เฉินเป่ยหันหัวมา กุมมือเล็กๆ ของหลีชิงเยียน พูดอย่างอ่อนโยนผิดปกติ
หลีชิงเยียนชะงักไปเล็กน้อย หลังจากนิ่งไปพักหนึ่ง เหลือบมองไปยังซูเหลยที่กำลังต่อสู้อยู่กับคนทั้งห้า พยักหน้า เดินผ่านจากด้านข้างไปอย่างระมัดระวัง
หลังจากหลีชิงเยียนเดินออกมาจากโรงแรม เฉินเป่ยก็หมุนตัว เดินไปทางชายหนุ่มผู้อ่อนโยนที่ขาสองข้างสั่นเทาคนนั้น
ความจริงแล้ว หลังจากตอนที่ผู้ชายสุภาพบุรุษคนนั้นเห็นเฉินเป่ยและซูเหลยลงมือแล้ว เขาก็สติแตกเลย
“ในเมื่อแกบอกฉันว่าฉันไม่มีทางมีชีวิตรอดเดินออกจากประตูโรงแรมนี้ไปได้ อย่างนั้นผมก็จะบอกแกให้ แม้แต่ห้องโถงแกก็ยังหนีให้รอดชีวิตออกไปไม่ได้ เชื่อมั้ย?” เฉินเป่ยเดินไปตรงหน้าชายสุภาพบุรุษ พูดอย่างเรียบเฉยใจเย็น
ชายสุภาพสุภาพบุรุษตัวสั่นเทา มองเห็นเพียงดวงตาสงบนิ่งคู่นั้นของเฉินเป่ยที่กำลังจ้องมองเขา “แกเชื่อมั้ย?”
“ฉัน…” ชายผู้สุภาพอ่อนโยนยังไม่ทันได้พูดออกมา ทันใดนั้นก็ถูกเฉินเป่ยจับเอาไว้แน่น ทำให้ชายสุภาพบุรุษเหงื่อเย็นผุดออกมาไม่หยุด รีบร้องเสียงดังว่า “ท่านผู้กล้าไว้ชีวิตด้วย ผมเชื่อ…ผมเชื่อ!”
“ห้องนั้น พวกเรามีคุณสมบัติพอที่จะเปิดมั้ย” เฉินเป่ยมองไปยังอวี้ย้งเซวียนถามอย่างมีนัยว่า
“นี่…คำสั่งของคุณชายอวี้ ฉันก็ทำอะไรไม่ได้……” อวี้ย้งเซวียนเผยให้เห็นสีหน้าอึดอัดลำบากใจ
“ทำอะไรไม่ได้เหรอ” เฉินเป่ยค่อยพ่นควันบุหรี่ออกมา เขายิ้มแล้ว
…………
ห้านาทีหลังจากนั้น ช่องว่างตรงกลางระหว่างห้องน้ำ เฉินเป่ยเอาหัวของชายผู้สุภาพอ่อนโยนดึงออกมาจากชักโครก มองชายสุภาพบุรุษที่เปียกโชกไปทั้งหัว เอ่ยอย่างเย็นยะเยือกว่า “ตอนนี้ทำได้หรือยัง?”
ชายสุภาพบุรุษพยักหน้า เตรียมจะอ้าปากพูด กลับไม่คิดว่าเฉินเป่ยจะออกแรง เอาหัวเขากดลงไปในกลางชักโครกอีก!
ผู้ชายคนนั้นใกล้จะร้องไห้แล้ว ตนเองก็รู้ดีอยู่แก่ใจว่ายอมศิโรราบแล้ว ทำไมผู้ชายคนนี้……ยังจะกดหัวตนเองเข้าไปในน้ำของชักโครกอีก
รอจนกระทั่งตอนที่เฉินเป่ยดึงหัวชายสุภาพบุรุษออกมาอีกครั้ง เฉินเป่ยโน้มตัวลงข้างหูของชายผู้สุภาพอ่อนโยนพูดข้างหูอย่างแผ่วเบา “ฉันไม่คาดหวังว่า สิ่งที่ฉันเคยพูดฉันจะพูดซ้ำอีกเป็นครั้งที่สอง……”
หลังจากเฉินเป่ยพูดจบ ก็เอาหัวของชายสุภาพบุรุษกดเข้าไปในน้ำกลางชักโครกอีก เกือบจะทำให้ชายสุภาพบุรุษแทบทรุด!
“ฉันเห็นว่าแกกับอวี้ย้งเซวียนมีความสัมพันธ์ที่ดีมาก ก็เลยรู้สึกไม่พอใจ”
เฉินเป่ยเอ่ยเรียบเฉย หลังจากพูดจบ ก็กดหัวของเขาลงไปอีก……
…………
ภายในห้องชุดเพรสซิเดนเชียล สวีท (Presidential suite) โซฟาที่หรูหรา วัสดุหุ้มด้วยหนังแรดทั้งหมด สะดวกสบายเป็นอย่างยิ่ง โซฟาทั้งสองด้าน ตกแต่งด้วยไม้แกะสลักล้ำค่า
อวี้ย้งเซวียน มองที่หน้าจอโทรทัศน์ มุมปากกระตุกขึ้นเป็นรอยยิ้มที่ลึกลับ
หลังจากที่เขาเห็นร่างหนึ่งปรากฏตัวจากทั่วทุกสารทิศ พุ่งไปยังเฉินเป่ยและซูเหลย ก็ยิ้มอย่างโหดเหี้ยมเยือกเย็นอย่างไม่มีสาเหตุ พลันพูดว่า “เฉินเป่ย ครั้งนี้ฉันจะดูสิว่าแกจะทำยังไง!”
แต่ก็วินาที่ต่อมา จู่ๆ สีหน้าของเขาก็แน่นิ่ง!
อวี้ย้งเซวียนจ้องมองที่หน้าจอ ดวงตาทั้งคู่เบิกโต!
“อวี้ย้งเซวียนดื่มค่ะ” เลขานุการสาวทรงเสน่ห์ที่อยู่ด้านข้างรินเหล้าหนึ่งแก้ว ส่งให้อวี้ย้งเซวียน
อวี้ย้งเซวียนรับแก้วเหล้ามา ทันใดนั้นสายตาของเขาก็มองเห็นการโจมตีด้วยลูกถีบของเฉินเป่ยภาพนั้น!
“เพล้ง!”
แก้วเหล้าในมือของอวี้ย้งเซวียนแตกละเอียดในทันที มุมปากอวี้ย้งเซวียนกระตุก หน้าถอดสี จ้องมองภาพนี้นิ่งๆ
ภาพนี้!
ร่างของเลขานุการผู้ทรงเสน่ห์ทั้งสองที่อยู่ข้างๆ ซ้ายขวาสั่นเบาๆ ในแววตาที่สวยงามแฝงด้วยความตื่นตกใจ!
พวกเธอไม่เคยเห็นว่ามีใคร ที่จะสามารถทำให้คุณชายอวี้โกรธขนาดนี้มาก่อน!
ในมือของอวี้ย้งเซวียน เต็มไปด้วยเศษแก้วและเลือดสดๆ ผสมปนเปกัน ไหลชุ่มออกมา
อวี้ย้งเซวียนมองไปที่จอโทรทัศน์ ราวกับว่าแผลในมือ ไม่มีค่าพอที่จะเอ่ยถึง…มีเพียงภาพในจอโทรทัศน์ ที่จะสามารถดึงดูดความสนใจเขาได้
“เอาโทรศัพท์ดาวเทียมให้ฉัน” ผ่านไปพักใหญ่ อวี้ย้งเซวียนค่อยเอ่ยปาก น้ำเสียงแฝงด้วยความดุร้ายหมายจะเอาชีวิต