สายเปย์เบอร์หนึ่ง - ตอนที่ 336
บทที่ 336 คนที่ไม่มีที่มาที่ไป?
หลีชิงเยียน!
หัวสมองของอวี้ย้งเซวียนมีผู้หญิงสะสวยไร้ที่ติคนหนึ่งผุดขึ้น เรือนร่างเพอร์เฟค เป็นหุ่นที่เซ็กซี่ ทำให้ไฟแห่งความโมโหในใจของเขาดุเดือดขึ้น
เขาจำได้อย่างดี ตัวเองเคยให้โอกาสผู้หญิงคนนี้ ให้เธอรับใช้ตัวเอง ทว่าเธอไม่เพียงแต่ปล่อยโอกาส แล้วยังสมคบกับไอ้กระจอกแซ่เฉินคนนั้น
เขาคุณชายของตระกูลอวี้เห็นเธอในสายตา เป็นวาสนาของเธอ เป็นโอกาสของเธอ เธอกลับไม่ได้ซาบซึ้ง กลับยังกลายเป็นผู้หญิงของผู้ชายคนนั้น!
มีสิทธิ์อะไร ไอ้สวะที่เอาแต่เกาะคนอื่นกินคนนั้นคู่ควรหรือ? นี่เป็นสัตว์ป่าที่ตัวเองชื่นชอบ เขายังคู่ควรที่จะแตะต้องหรอ?
อวี้ย้งเซวียนสืบหาเสร็จ ก็รู้ว่าเฉินเป่ยเป็นเพียงเขยแต่งเข้าบ้านตระกูลหลีเท่านั้น ยิ่งไปกว่านั้นคือต้องการออกหน้าออกตาอย่างโจ่งแจ้ง
อวี้ย้งเซวียนรู้สึกได้ถึงการถูกเหยียดหยาม สัตว์ป่าที่ตนเองชอบ กลับไม่เชื่อฟังตัวเองเพื่อไอ้สวะที่ไม่เอาการเอางานคนนี้…….ผู้หญิงที่ไม่สามารถควบคุมได้ ยังเทียบไม่ได้กับคนตาย!
อวี้ย้งเซวียนหันไป แล้วมองร่างของคนๆ นั้นจมเข้าไปใจผนังอย่างลึกๆ ลูกน้องคนนั้นถูกฝ่ามือเดียวของท่านผู้อาวุโสไท่ซ่างทำให้ตัวกระเด็นเข้าไปในผนัง แล้วพูดด้วยเสียงเรียบ “รนหาที่ตายเอง ทำให้ท่านผู้อาวุโสไม่พอใจ ปล่อยให้เขาแขวนอยู่ข้างบนเถอะ จนกว่าตัวเองจะตกลงมา”
ลูกน้องคนนั้นที่อยู่ข้างๆ อวี้ย้งเซวียนก็ตอบกลับ จากนั้นก็มองอย่างเห็นอกเห็นใจ ลูกน้องที่จมเข้าไปในผนังอย่างลึกนั้น ทั้งเรือนร่างเขียวช้ำและบวมแดง ดูน่าเวทนามากๆ ทำให้เขาอดไม่ได้ที่จะรู้สึกหวาดหวั่น
ตอนนี้ รถไมบัคคันหนึ่งขับมายังงานพนันพลอย ลูกน้องคนนั้นของอวี้ย้งเซวียนขับรถไปด้วย แล้วมองในรถผ่านกระจกหลังอย่างระมัดระวัง จากนั้นก็สังเกตมองท่านผู้อาวุโสไท่ซ่างที่อยู่เบาะหลัง
เกิดเป็นลูกน้องของอวี้ย้งเซวียน ติดตามอวี้ย้งเซวียนและอยู่ในตระกูลอวี้มาหลายปี แน่นอนว่าเขาต้องฟังออกถึงชื่อเสียงอันโด่งดังของท่านผู้อาวุโสไท่ซ่าง และตอนนี้ ท่านผู้อาวุโสไท่ซ่างกำลังนั่งพักผ่อนสายตาอยู่เบาะหลังอย่างสบายใจ จะไม่ทำให้เขารู้สึกไม่ใจร้อนได้อย่างไร?!
“ขับรถดีๆ ” ตอนที่เขากำลังสังเกตมองอย่างระมัดระวัง จู่ๆ ท่านผู้อาวุโสไท่ซ่างที่นั่งหลับตาพักผ่อนสายตาอยู่ก็พูดขึ้นทันที ทำให้เขาสะดุ้งตกใจอย่างมาก
ลูกน้องคนนั้นทำสีหน้าที่หวาดผวาทันที…….ตั้งแต่ต้นจนจบเขาไม่เห็นท่านผู้อาวุโสไท่ซ่างลืมตาเลย……ท่านผู้อาวุโสไท่ซ่างหลับตาทั้งสองข้างไว้ ก็ยังสามารถสัมผัสได้ว่าตัวเองกำลังมองเขาอยู่……นี่เป็นไปได้ยังไง?!
ลูกน้องคนนั้นแทบไม่กล้าสังเกตมองอีก ความหวาดกลัวที่น่ากลัวทำให้เขาทำได้เพียงมองไปข้างหน้าอย่างเชื่อฟัง แล้วขับรถไมบัคต่อ และขับอยู่บนถนนในเมืองเยี่ยนจิงอย่างว่องไว
ผ่านไปครึ่งชั่วโมง รถไมบัคค่อยๆ จอดลง คนๆ นั้นสูดลมหายใจเข้าลึกๆ แล้วระมัดระวัง น้ำเสียงเคล้าด้วยการเชิงลอง “ท่านผู้อาวุโสครับ เรา…….ถึงแล้วครับ”
“รู้แล้ว” ท่านผู้อาวุโสไท่ซ่างตอบกลับสองพยางค์สั้นๆ ลูกน้องคนนั้นลงจากรถ แล้วเปิดประตูรถให้กับท่านผู้อาวุโส
“ปัง! ”
ลูกน้องคนนั้นเพิ่งจะเปิดประตูออก ก็มีขาข้างหนึ่งที่เหมือนดั่งฟ้าแลบอันเลือดเย็นจู่โจมออกมา แล้วเหยียบลงบนพื้นปูน!
“แคร่กๆๆ! ” พื้นปูนที่ทนทานนั้น กลับมีรอยแตกร้าวไม่หยุด!
ลูกน้องคนนั้นม่านตาหดลงอย่างรุนแรง ใบหน้าเคล้าด้วยความไม่น่าเชื่อ ท่าทางเหมือนเห็นผี!
“นี่……” ลูกน้อยคนนั้นจับจ้องเรือนร่างด้านหลังของท่านผู้อาวุโสไท่ซ่างไว้ไม่คลาดสายตา ทุกๆ ก้าว กำลังมุ่งหน้าไปยังที่ไกล!
“ปังๆๆ ……” จากนั้นก็มีเสียงคำรามดังสนั่นขึ้นไม่หยุด ทุกๆ ก้าวที่ท่านผู้อาวุโสไท่ซ่างเหยียบลงบนพื้นปูน ต่างก็ทำให้เห็นรอยร้าวที่เหมือนลายแมงมุมที่เห็นแล้วรู้สึกหวาดกลัว!
พื้นปูนจึงจึงแตกร้าวไม่หยุดตามฝีเท้าของท่านผู้อาวุโสไท่ซ่าง ทำให้ภายในใจของลูกน้องจึงมีหวาดหวั่นไม่หยุด รู้สึกหวาดผวามาก!
สีหน้าที่ดูอึ้งทึ่งของลูกน้องคนนั้นมองท่านผู้อาวุโสไท่ซ่างเดินไปที่ไกลๆ แต่ละก้าว ภายในใจยากที่จะสงบสุข จนกว่าเรือนร่างของท่านผู้อาวุโสไท่ซ่างหายไปในสายตาของตน เขาก็ยังไม่ได้สติกลับมา!
“ไอ้มด รอตายเถอะ” ท่านผู้อาวุโสไท่ซ่างทำนัยน์ตาที่เลือดเย็น แล้วเดินไปที่ไกลๆ สาวเท้าก้าวไปแต่ละก้าว!
งานพนันพลอย ในเขตการพนันชั้นต่ำ ตอนพระอาทิตย์ตกยามเย็น แขกพนันยิ่งอยู่ก็ค่อยๆ จากไปมากขึ้น ในซุ้มต่างๆ ของเขตการพนันชั้นต่ำ มีแค่ไม่กี่คนที่อยู่ต่อ บรรยากาศที่ครึกครื้นตอนกลางวัน แม้กระทั่งตอนนี้ทำให้รู้สึกเงียบกริบไปหน่อย
จู่ๆ กลางอากาศจึงสั่นสะเทือนเล็กน้อย แขกนับไม่ถ้วน ต่างก็มองไปที่ไกลๆ โดยไม่ได้นัดหมาย
ตรงสุดสิ้นสุดของที่ไกลๆ มีเรือนร่างหนึ่ง ค่อยๆ สาวเท้าเดินมา
เรือนร่างนั้นเหมือนจะช้าลงอย่างมากไปทุกๆ ก้าว ทว่าความเร็วกลับว่องไวอย่างอัศจรรย์อย่างมาก
และตอนที่เขาเข้ามาใกล้ บนพื้นก็มีความสั่นสะเทือนเล็กน้อย!
“เขาคือใคร? ” แขกมากมายไม่เข้าใจ แค่ภายในใจรู้สึกมีลางสังหรณ์ที่ไม่ดี
ภาพที่โหดร้ายที่มัวพร่าไม่ชัดเจนดังโครมครึมขึ้น ทำให้แขกมากมายมองหน้ากัน ต่างก็เผยความแปลกใจออกมานัยน์ตา
พวกเขาทำสีหน้าที่หวาดกลัวอย่างมาก ต่างก็ร้องอย่างตกใจ บนพื้นมีรอยแตกที่กว้างราวๆ เมตรกว่ารอยหนึ่ง และเรือนร่างของคนๆ นั้น ก็หายไปในพริบตา
เขาอยู่ด้านบน”! ก็ไม่รู้ว่าใครตะโกนเสียงดังขึ้น แล้วสายตาของแต่ละคนจึงมองไปกลางอากาศ แค่เห็นเรือนร่างนั้นกระโดดสูง เหมือนเป็นเทพเจ้าในตำแหน่งที่อยู่ที่สูง และไม่เคยแยแสปวงมนุษย์!
“นี่เป็น…….เทพเจ้ามั้ง! ” มีคนพร่ำบ่น พอเห็นเรือนร่างนั้นกระโดดขึ้นไปบนกลางอากาศ คนมากมายจึงรู้สึกขาอ่อนแรง แม้กระทั่งยังอดไม่ได้ที่จะน้อมก้มกราบ!
คนธรรมดาจะสามารถทำแบบนี้ได้ไง?! แค่เป็นเหนือมนุษย์ในตำนานเท่านั้น เทพเจ้า!
“ที่มันไม่ได้คนชัดๆ! นี่มันสัตว์ป่า! ” มีคนพึมพำ
“ตูม! ”
และเสียงของคนๆ นั้นเพิ่งจะพูดจบ เรือนร่างนั้นที่อยู่กลางอากาศสูง ก็ลงมาอย่างว่องไว จากนั้นก็ถีบคนๆ นั้นอย่างรุนแรง!
“พู่ว! ”
คนๆ นั้นเหมือนว่าวที่ขาดสาย จากนั้นก็ปลิวไปที่ไกลๆ ในปากพุ่งกระฉูดเลือดออกมาอย่างรุนแรง!
“มด” คนๆ นั้นพูดด้วยเสียงเรียบ น้ำเสียงแผ่วเบา กลับทำให้คนนับไม่ถ้วนเรือนร่างสั่นงันงก! ต่างก็วิ่งหนีอย่างแตกตื่น
นี่แม่งต้องเป็นปีศาจร้ายแน่นอน! นี่ไม่ใช่คนแน่นอน!
แต่ละท่านต่างก็ทิ้งพลอยในมือของตนเอง แล้ววิ่งหนีด้วยสีหน้าที่ตื่นตกใจ แล้วซุกซ่อนไว้!
ภายในใจทุกคนสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง ในนัยน์ตากลับมีความหวาดกลัวอย่างรุนแรง!
งานพนันพลอย เขตการพนันชั้นต่ำนั้นใหญ่มาก ซุ้มแต่ละอันตั้งอยู่ เรือนร่างนั้นสาวเท้าเข้าไปในเขตพนันชั้นต่ำ สีหน้าเคล้าด้วยความน่ากลัว
จู่ๆ เขาก็ขมวดคิ้ว แล้วยืนอยู่ที่เดิมไปสักพัก จากนั้นก็ก่นด่าด้วยเสียงเย็นชา “เฉินเป่ย ออกมารอตายเดี๋ยวนี้! ”
ครึ่มๆๆ
เรือนร่างนั้นก่นด่าอย่างโมโหเหมือนดั่งฟ้าผ่าอันน่ากลัว ทำให้เสียงสะท้อนไปทั่วงานพนันชั้นต่ำ! แล้วส่งไปยังทุกมุมของเขตพนันชั้นต่ำนี้อย่างชัดเจน!
อาการสั่นคลอน และเคล้าด้วยความอาฆาต แล้วกระจายไปทั่วเขตพนันชั้นต่ำนี้!
แขกนับไม่ถ้วนตัวสั่นไปหมด แล้วเงียบกริบ! ไม่กล้ามีใครออกเสียง แม้กระทั่งมีคนใช้มือปิดปากของตัวเองไว้……แล้วกลั้นหายใจ แม้กระทั่งหายใจก็ยังไม่กล้า!
ตอนนั้น ในจุดๆ หนึ่งของเขตการพนันชั้นต่ำนี้ เฉินเป่ยกำลังดูการประมูลอันหนึ่งอย่างน่าสนใจ จนกว่าได้ยินเสียงฟ้าผ่าอันน่าตกใจส่งมา ถึงจะทำให้สีหน้าของเขาเปลี่ยนไปเล็กน้อย แล้วเงยหน้ามอง ก็มองไปยังกลางอากาศ ภายใต้สีหน้าที่นิ่งเฉย มีความอาฆาตอันเลือดเย็นที่ยากจะสังเกตเห็น แล้วค่อยๆ ปกคลุม…….
มุมปากเฉินเป่ยกระตุกขึ้นเล็กน้อย ทำให้เห็นถึงทรงโค้งที่ลุ่มลึก และเปล่งประกายทันที…….
หลังจากที่เรือนร่างก่นด่าเสร็จ ก็ยืนอยู่ที่เดิมไม่ขยับไปไหน เหมือนเป็นประติมากรรมอันหนึ่ง
ผ่านไปสักพัก เรือนร่างของคนๆ นั้นเหมือนจะอดไม่ไหวเล็กน้อย แล้วก่นด่าอีกครั้ง “ไอ้สวะ ยังไม่ออกมาอีก ทุกๆ สิบวินาที ฉันก็จะฆ่าคนหนึ่งคน จนกว่าจะถึงตำแหน่งของแก”
คนๆ นั้นพูดจบ ก็หันหลังเดินไปตรงโต๊ะที่มีแขกหลบอยู่
ไม่นาน เรือนร่างนั้นก็บีบคอของแขก สีหน้าเลือดเย็น และเริ่มนับเวลา
แขกคนนั้นเรือนร่างสั่นงันงก……นั่นเป็นท่าทางที่หวาดกลัวมาก เขาไม่รู้ว่าตัวเองทำผิดอะไร และกำลังเสี่ยงต่อการตาย!
เขาดิ้นรนสุดชีวิต ทว่ากลับไม่เกิดประโยชน์อะไรเลย!
ลมหายใจของเขายิ่งอยู่ยิ่งอ่อนแรงลง และกำลังจะสิ้นชีวิต……
และในตอนนี้ มีเสียงๆ หนึ่งส่งมาจากที่ไกล “ลังเลคนที่ไม่เกี่ยวข้างถือว่ามีปัญญาอะไร ใครกันแน่ที่เป็นไอ้สวะ? ”
“ไสหัวออกมาแล้วหรอ ฉันจะทำให้แกรู้สึกโคตรได้ใจ”
เฉินเป่ยปรากฏอยู่ตรงท้ายสุดของถนน แล้วกำลังมองเรือนร่างที่มีเสียงส่งมาอย่างเลือดเย็น สีหน้าเลือดเย็น และเคล้าด้วยความอาฆาต
“ไอ้มด” เรือนร่างนั้นเห็นเฉินเป่ยปรากฏ ก็ยิ้มอย่างเลือดเย็น จากนั้นมือที่บีบแขกคนนั้นไว้ก็ใช้แรงขึ้นมาทันที!
“แกรก! ”
สายตาที่ไม่รู้เรื่องของแขกท่านนั้นเบิกกว้าง เขานึกไม่ถึงเลย หลังจากเฉินเป่ยปรากฏ เขากลับต้องตายด้วย!
ภายในใจของเขาเพิ่งจะรู้สึกผ่อนคลาย และยังดีใจที่ตนเองจะมีชีวิตอยู่ต่อ กลับนึกไม่ถึงว่าจะมีจุดจบแบบนี้!
เขาตายไปโดยไม่หลับตา!
เฉินเป่ยทำสายตาเลือดเย็น แล้วพูดอย่างเย็นชา “ฆ่าคนที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องตาย แกมันไม่คู่ควรแม้แต่จะเป็นไอ้สวะ”
“ตระกูลอวี้ ท่านผู้อาวุโสไท่ซ่าง แกรังแกคนในตระกูลอวี้ของฉัน วันนี้ฉันจะเอาหัวของแก กลับไปให้ย้งเซวียน” ท่านผู้อาวุโสไท่ซ่างค่อยๆ สาวเท้ามา ทุกๆ ก้าวของเขา ทำให้พลังบนร่างของเขาเพิ่มขึ้น แล้วกำลังเดินมาที่เฉินเป่ย บรรยากาศเปลี่ยนแปลงไป เหมือนมีภูเขากำลังกลบทับอย่างน่ากลัว แล้วกำลังจะพลังมาหาที่โหมถล่มทลายเสมือนพลังขุนเขาที่จะล้มครืนลงและมหานทีที่จะไหลทะลักเข้ามา!
“ท่านผู้อาวุโสไท่ซ่าง? ” เฉินเป่ยคล้ายยิ้มคล้ายไม่ยิ้ม “พวกแกตระกูลอวี้มีคนที่ยังอายุน้อย แล้วให้ผู้เฒ่ามาคือประเพณีอย่างหนึ่งหรอ? ”
น้ำเสียงของเฉินเป่ยเคล้าด้วยการดูหมิ่น และเฉยเมยกับท่านผู้อาวุโสไท่ซ่างมาก แล้วเขาก็มองเฉินเป่ย “เหยียดหยามตระกูลอวี้ของฉัน ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์”
“เหยียดหยามตระกูลอวี้ของแก? ” เฉินเป่ยหัวเราะ จู่ๆ ก็ถามขึ้น “อวี้ย้งเซวียนบอกแกไหมว่าฉันทำอะไรกันแน่? ”
ท่านผู้อาวุโสไท่ซ่างค่อยๆ ส่ายหัว แล้วเฉินเป่ยก็เอ่ยถามต่อ “เขาขาดแขนขาดขาหรือขาอะไรไป? ”
ท่านผู้อาวุโสไท่ซ่างจับจ้องเฉินเป่ยโดยตรง กลับไม่ตอบสนองอะไร
“ไอ้สวะคนนั้นของบ้านแกกินในถ้วยก็มองในถ้วย กล้ามาคิดถึงเมียฉัน แล้วยังพูดจาไม่ดีกับกู ฉันไม่ได้ตีจนมันพิการก็ถือว่าให้เกียรติตระกูลอวี้ของแกมากพอแล้ว ตระกูลอวี้ของแกยังกล้ามาหาถึงที่? เฉินเป่ยยิ้มอย่างเยาะเย้ย
“หาที่ตาย! ” ท่านผู้อาวุโสไท่ซ่างทำสีหน้าที่เย็นชา ความเลือดเย็นนั้นระเบิดออกมาทันที!
ร่างของท่านผู้อาวุโสไท่ซ่างแวบผ่าน จู่ๆ ก็มุ่งมายังเฉินเป่ยเหมือนฟ้าแลบ!
“รนหาที่ตาย! ” ท่านผู้อาวุโสไท่ซ่างกำหมัดแน่นทันที แล้วเขวี้ยงมาตรงหน้าของเฉินเป่ย!
บรรยากาศสั่นสะเทือน มีลมพัดผ่านและเสียงร้องคำราม กำลังของหมัดอันน่ากลัวนี้ใกล้จะระเบิดออกมา!
กลับนึกไม่ถึงว่าเฉินเป่ยไม่ได้หลบ กลับยืนอยู่ที่เดิม แล้วมองหมัดๆ นั้นของท่านผู้อาวุโสไท่ซ่าง รอยยิ้มยิ่งดูหมิ่น แล้วพูดอย่างเหยียดหยาม “มวยของภูเขาอู่ตัง แม้กระทั่งปลายขนยังควบคุมไม่ได้! “