สายเปย์เบอร์หนึ่ง - ตอนที่ 338
บทที่ 338 ตบเข้าไปในกำแพงด้วยฝ่ามือเดียว!
ท่านผู้อาวุโสไท่ซ่างจับจ้องเรือนร่างนั้นที่อยู่กลางฝุ่นควันไว้ ภายในใจเหมือนมีคลื่นโหมกระหน่ำ แล้วผ่านไปพักใหญ่ก็ยังไม่สามารถนิ่งสงบลง!
“เหอะๆ ……”
กลางฝุ่นควัน เรือนร่างนั้นลุกขึ้นและเดินส่ายไปมา แล้วตบฝุ่นบนเรือนร่าง และท่าทางแบบนี้ ทำให้ท่านผู้อาวุโสไท่ซ่างเหมือนเห็นผี ภายในใจไม่สามารถสงบสุข
ฝุ่นควันค่อยๆ จางหายไป เสียงๆ นั้นก็ออกจากท่ามกลางฝุ่นควัน แค่เห็นครึ่งตัวของเฉินเป่ยคลานออกมาจากหลุมลึก ใบหน้าแปดเปื้อน แม้กระทั่งดูๆ น่าแย่มาก
และหลังจากฝุ่นควันหายไป เฉินเป่ยมองท่านผู้อาวุโสไท่ซ่างเพียงพริบตาเดียว นัยน์ตาเคล้าด้วยการเยาะเย้ย “สามท่า ฉันให้แกสามท่าแล้ว”
ท่านผู้อาวุโสไท่ซ่างรู้สึกหวาดหวั่นในใจ ถึงแม้สีหน้าของเขายังคงนิ่งเฉย ทว่าเขาก็รู้สึกตกตะลึงอย่างมากแล้ว……ที่แท้ เขาตั้งใจไม่เผยความสามารถออกมา……ให้ตนเองสามท่า?
“หลังจากสามท่า ก็ตาฉันแล้ว” เฉินเป่ยพูดขึ้น
ภายในใจของท่านผู้อาวุโสไท่ซ่างสั่นสะเทือน ภายในใจเกิดความรู้สึกไม่ดี
“แกต้องตาย! ” ท่านผู้อาวุโสไท่ซ่างมองเฉินเป่ย สีหน้าโหดเหี้ยม ต่อให้เขาตวาดน่ากลัวและร้ายกาจแค่ไหน ก็ยากที่จะปิดบังความรู้สึกกระวนกระวายในใจ!
“ยังมีสี่นาที”เฉินเป่ยไม่สนใจท่านผู้อาวุโสไท่ซ่าง แล้วก้มหน้าวางนาฬิกา!
“เหอะ……” ท่านผู้อาวุโสไท่ซ่างกัดฟันกรอด แล้วมุ่งมายังเฉินเป่ย
“สามนาทีครึ่ง” ร่างของเฉินเป่ยแวบผ่าน แล้วหลบหนึ่งหมัดของท่านผู้อาวุโสไท่ซ่าง จากนั้นก็พูดขึ้นอีกครั้ง แค่ครั้งนี้ เฉินเป่ยทำสีหน้าที่เย็นชามากขึ้น
“ไอ้มด วันนี้ฉันต้องสังหารแก! ” ภายในใจของท่านผู้อาวุโสไท่ซ่างเต้นแรง เฉินเเป่ยทำสีหน้าที่สบายๆ และเรือนร่างแผ่ซ่านความมีเสน่ห์ออกมา จากความเป็นนักเลงตอนแรก ตอนนี้กลับเปลี่ยนไปอย่างพลิกฟ้าคว่ำดิน
ถ้าพูดถึงเฉินเป่ยเมื่อกี้นี้เหมือนดั่งนักเลงอันธพาล……เฉินเป่ยในตอนนี้ และเมื่อครู่นี้ ต้องเป็นคนละคน!
แม้กระทั่งตอนนี้เฉินเป่ยจะมีลมหายใจแบบนั้น ทำให้เขาสามารถสัมผัสได้ถึงความอันตรายอันน่ากลัว ทว่าแค่ว่ามดที่เขาเคยดูหมิ่น กลับสามารถทำให้เขากลิ่นอาบภัยอันตรายที่ทั้งเป็นทั้งตาย!
นัยน์ตาของเฉินเป่ยดูเย็นชาขึ้นมา เขานับถอยหลังไม่หยุด การนับเวลาถอยหลังแบบนี้ คือการรับให้ท่านผู้อาวุโสไท่ซ่างฟัง เหมือนกำลังแทนว่าย่างก้าวของการตายยิ่งอยู่ยิ่งใกล้ขึ้นแล้ว!
“ผีสางเทวดา! ” ท่านผู้อาวุโสไท่ซ่างอดกลั้นความรู้สึกไม่สบายใจในใจ แล้วแค่นเสียงเย็นชา
“สองนาที”
และตอนสองนาทีสุดท้าย เฉินเป่ยขยับทันที
สองขาของเฉินเป่ยเขย่งขึ้น ทำให้พื้นส่งเกิดแคร่กๆ!
ท่านผู้อาวุโสไท่ซ่างเงยหน้าจึ้น แล้วมองเฉินเป่ยที่อยู่กลางอากาศสูง กลับสามารถยกเท้ายาวๆ แล้วขึ้นสูงลงต่ำ และเกิดเสียงคำราม!
ท่านผู้อาวุโสไท่ซ่างทำหน้าจับตัวเป็นก้อน เพิ่งจะได้สติกลับมาทันที นี่เฉินเป่ยใช้ต่อต้านโดยทักษะทางเท้าของเขาเมื่อครู่นี้!
นี่มันเป็นการดูหมิ่นเขามากๆ!
ไม่นาน ใบหน้าอันเลือดเย็นและโมโหของท่านผู้อาวุโสไท่ซ่างเปลี่ยนไปทันที จู่ๆ ก็สังเกตเห็นว่าเฉินเป่ยไม่เหมือน
ความเร็วของเฉินเป่ยว่องไวเกินไป……ไปไกลกว่าเขามาก! พลังอันน่าเกรงขามนี้ ไม่สามารถจินตนาการออกได้!
ท่านผู้อาวุโสไท่ซ่างถอยหลังไป……พลังของขาข้างนี้……ท่านผู้อาวุโสไท่ซ่างขนหัวลุก นี่ทำให้ไม่กล้าจินตนาการ!
กลางอากาศ มีเสียงร้องคำรามสะท้อน เสียงคำรามอันยิ่งใหญ่ เหมือนสัตว์ดุร้ายที่กำลังคำราม……ทำให้ภายในใจรู้สึกหวาดหวั่นมากยิ่ง!
คลื่นเสียงส่งมา ท่านผู้อาวุโสไท่ซ่างทำสีหน้าที่เปลี่ยนแปลงไม่หยุด……ทำไมเขาถึงคิดไม่เข้าใจ……มดตัวนี้……ข้อมูลของอวี้ย้งเซวียน จริงๆ เขียนไว้ว่าเป็นไอ้สวะที่รักสบาย……แต่เขามีวรยุทธ์อู่ตังได้ยังไง!
ท่านผู้อาวุโสไท่ซ่างมองออกเพียงพริบตา…..ฝ่ามือสยบพยัคฆ์อันนั้นของเฉินเป่ย……มีพลังอันน่าเกรงขามและแกร่งจนน่ากลัว!
กังฟูของขาข้างนี้ก็น่ากลัวเหมือนไปแล้ว!
ท่านผู้อาวุโสไท่ซ่างอยากจะหลบ ทว่าก็ไม่ได้หลบได้!
“เฮือก…….” ท่านผู้อาวุโสไท่ซ่างทำสีหน้าที่แย่มาก เขาแค่นเสียงดังออกมา แล้วพยายามทนกับการจู่โจมครั้งนี้!
“ปัง! ”
เสียงๆ หนึ่งดังสนั่นขึ้นอย่างสะเทือนหู เฉินเป่ยลงมาบนพื้น แล้วตบฝุ่นบนเรือนร่างของตนเองพลางมองไปที่ไกลๆ
ท่านผู้อาวุโสไท่ซ่างถูกพลังสั่นสะเทือนอย่างน่าน่ากลัว สะเทือนจนถอยไปด้านหลังอย่างไม่สามารถควบคุมได้ ทุกๆ ก้าวมีเลือดพล่านออกมาจากปาก และถอยไปห้าหกสิบก้าวเต็ม ถึงจะหยุดลง!
“ปัง! ”
ท่านผู้อาวุโสไท่ซ่างน่าเวทนามาก สองขาของเขาสั่นเทาอ่อนล้าอ่อนแรงจนไม่สามารถควบคุมได้……สองขาอ่อนแอ คุกเข่าอยู่บนพื้น!
ทั้งร่างของท่านผู้อาวุโสไท่ซ่างสั่นงันงก ตั้งแต่ปากจมูก หู……และตา มีเลือดหลั่งออกมา! เลือดออกเจ็ดทวาร!
“ท่านมีที่มาที่ไปยังไงกันแน่? “ท่านผู้อาวุโสไท่ซ่างกลัวจนไม่กล้าจินตนาการ เขามองเฉินเป่ยเหมือนกำลังมองผีสางเทวดา!
ท่านผู้อาวุโสไท่ซ่างเรือนร่างสั่นเทาอย่างแรง ถ้าเครื่องวัดที่ทันสมัยที่สุดอยู่ที่นี่ ต้องตรวจสอบได้ว่าอวัยวะภายในของเขาต้องได้รับบาดเจ็บ และกำลังจะเลือดหลั่ง!
เขาในตอนนี้ ไม่ได้เย่อหยิ่งทระนงตัวเหมือนตอนที่เพิ่งมาตรงนี้ เขาในตอนนี้ ชุดคลุมเขียวนั้นแปดเปื้อนด้วยเลือดสีแดง ทั้งเรือนร่างเกือบจะนอนอย่างอ่อนแรงอยู่บนพื้น!
“แค่บุคคลต่ำต้อยไร้ชื่อเสียงใต้หล้า” เฉินเป่ยพูดอย่างเรียบเฉย
……..
ในห้องชุดเพรสซิเดนของโรงแรม ลูกน้องคนหนึ่งเดินเข้ามาในห้อง แล้วพูดด้วยเสียงต่ำกับอวี้ย้งเซวียน “คุณชายอวี้ครับ ห้องเหมาที่ไว้จัดงานเลี้ยงจองไว้แล้วครับ แค่ขาดข่าวดีของท่านผู้อาวุโสไท่ซ่าง”
อวี้ย้งเซวียนพยักหน้า แล้วค่อยๆ ขยับแก้วเหล้าที่อยู่ในมือ สีหน้าเคล้าด้วยความนิ่งสงบและลุ่มลึก “รู้แล้ว นี่ก็แค่ปัญหาของเวลาเท่านั้น”
อวี้ย้งเซวียนดื่มลาฟีตในแก้วไปหนึ่งคำ แล้วถึงจะค่อยๆ วางมันลงบนโต๊ะกระจก สายตาจับจ้องไปข้างนอก ผ่านไปสักพัก ถึงจะลุกขึ้นพลางพูด “พวกเราไปรอท่านผู้อาวุโสที่โต๊ะงานเลี้ยงเถอะ”
“ครับ”
“ดาบสั้นนั้นทำไปถึงไหนแล้ว? ” อวี้ย้งเซวียนเดินออกจากห้องชุด แล้วถามขึ้น
“เชิญอาจารย์สิบท่านในงานพนันพลอย กำลังร่วมกันทำอยู่ครับ ผ่านไปอีกไม่กี่ชั่วโมง ก็คงจะทำเสร็จแล้วครับ” ลูกน้องพูดขึ้นด้วยความเคารพ
อวี้ย้งเซวียนกระตุกมุมปากเผยยิ้มอันเย็นชา “สั่งให้พวกเขาเร็วอีกหน่อย รอให้ได้รับข่าวการตายของเอ๋อตงเฉินนั่น ฉันจะให้คนที่มีแซ่ว่าหลี ค่อยๆ ถูกทรมานจนตาย”
“ครับ” ลูกน้องตอบกลับ ทว่าเหมือนจะคิดอะไรเลย สีหน้าจึงดูสงสัยขึ้นมาเล็กน้อย
ลูกน้องลังเลไปสักพัก แล้วพูดขึ้น “คุณชายอวี้ครับ หลีชิงเยียนผู้นั้น ตอนก่อนหน้านี้ที่ผมไปตรวจสอบ เหมือนจะมีความสัมพันธ์กับตระกูลหลีแห่งเยี่ยนจิงครับ……ที่นี่ส่วนใหญ่เป็นถิ่นของตระกูลหลี พวกเราลงมือที่นี่ จะเป็นอันตรายเกินเกินไปหรือเปล่า? ”
อวี้ย้งเซวียนแสยะยิ้มอย่างเย็นชา “ก่อนหน้านี้ฉันไปเจอหลีเช่าเทียนมา ก็เพราะว่าสิ่งนี้ หลีชิงเยียนไอ้คนชั้นต่ำ ถูกเนรเทศออกไปแล้ว ตระกูลหลีไม่ต้องการเธอ หลีเช่าเทียนกำลังกลัดกลุ้มอยู่เลยว่าไม่มีโอกาสให้ไอ้หนุ่มสาวชั้นต่ำนั่นตายเพราะว่าอุบัติเหตุ……ฉันแค่บังเอิญยอมช่วยพวกเขาทำเรื่องที่ไม่อยากทำเท่านั้น”
“คุณชายหลีในตอนนั้น……เคยให้คำมั่นสัญญากับฉัน……แค่ฉันฆ่าทั้งครอบครัวเฉินเป่ยในเยี่ยนจิง……เขาจะไม่ทำให้ฉันเจอกับปัญหาอะไร……หลีเช่าเทียน ก็คือร่มที่คอยปกป้องฉัน” น้ำเสียงของอวี้ย้งเซวียนลุ่มลึกมาก ทำให้ลูกน้องที่อยู่ข้างๆ อวี้ย้งเซวียน ทันใดนั้นก็นิ่งเงียบไป ความจริงเรื่องนี้น่ากลัวจนพูดอะไรไม่ออก!
นี่เป็นกับดักที่อวี้ย้งเซวียนและหลีเช่าเทียนวางแผนไว้แล้ว กำลังรอให้หลีชิงเยียนกระโดดลงไปเอง! เป็นกับดักที่ต้องฆ่า มีผู้ที่มีอำนาจมาร่วมมือ……หลีเช่าเทียนมีหลีหงเป็นข้อจำกัด จึงทำอะไรหลีชิงเยียนไม่ได้……กลับสร้างโอกาสให้กับอวี้ย้งเซวียน…….ความคิดอันละเอียดนี้น่ากลัวมาก พอครุ่นคิดอย่างละเอียด ทำให้คนรู้สึกขนหัวลุก!
ท่านประธานเทพธิดา ภายใต้สถานการณ์ที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลย แล้วต้องตกลงไปในกับดักการสังหารนี้โดยไม่รู้ตัว!
หลังจากอวี้ย้งเซวียนนั่งลง แล้วมองนาฬิกาเพียงพริบตาเดียว จากนั้นก็พูดขึ้นด้วยเสียงเรียบ “ท่านผู้อาวุโสบอกกับฉันแล้ว ถ้าไม่เกิดอุบัติเหตุอะไร อีกห้านาทีก็จะได้รับข่าวดีจากเขา……รอให้เขากลับมาแล้วฉลองเสร็จ ดาบสั้นก็เสร็จพอดี……ไอ้คนชั้นต่ำนั่น ก็คือตอนที่ต้องจบชีวิต”
“ทุกอย่างให้ทำตามแผน สมบูรณ์แบบขนาดนั้น……นี่คือสิ่งที่เอ๋อตงเฉินและนางชั้นต่ำนั่นต้องชดใช้ที่มันเหยียดหยามฉัน! ”
อวี้ย้งเซวียนกระตุกมุมปากขึ้นเล็กน้อย รอยยิ้มลุ่มลึกอย่างมาก
…….
“บุคคลชั้นต่ำไร้ชื่อเสียงใต้หล้า…….” สีหน้าของท่านผู้อาวุโสไท่ซ่างขาวซีด คำพูดนี้ของเฉินเป่ย มันตบหน้าเขาเกินไปแล้ว!
เขาเป็นตั้งลูกศิษย์อู่ตัง…….กลับยังเทียบไม่ได้กับคนรุ่นหลังที่อายุยี่สิบกว่าคนนี้…….ชื่อเสียงอันน่าเกรงขามตลอดชีวิตนี้ของเขาต้องพังพินาศไปหมด!
“นอกจากลูกศิษย์ของอู่ตังแล้ว ไม่มีใครมีความสามารถในการฝึกวรยุทธ์ของอู่ตังแล้ว! ” ท่านผู้อาวุโสไท่ซ่างพูดด้วยเสียงสั่น
“อู่ตัง……เหอะ” เฉินเป่ยยิ้ม รอยยิ้มลุ่มลึก ไม่มีใครสามารถมองออกถึงรอยยิ้มลุ่มลึกนั้นของเขา สังเกตเห็นอะไร
และไม่มีใครรู้ ตอนนั้น มีคนสามารถจู่โจมเขาอู่ตัง ลูกศิษย์และผู้อาวุโสของอู่ตังนับไม่ถ้วน จิตใจที่กระฉับกระเฉงและมีชีวิตชีวา ทำให้กระทบทั้งอู่ตัง……แม้กระทั่งท่านผู้อาวุโสอู่ตังยังหวาดกลัวมาก ท่านผู้อาวุโสไท่ซ่างที่เป็นเพียงศิษย์นอกสำนักคนหนึ่ง จะมีสิทธิ์รู้ได้ยังไง?
ตำนานตอนหนึ่งที่ไม่สามารถยืนยันหลักฐานนั้น ในทั้งอู่ตัง ไม่มีใครสามารถทบกับประวัติศาตร์ช่วงนี้…….ทว่าในหัวสมองของเฉินเป่ย ค่อยๆ ผุดออกมา
“แม้แต่เขาอู่ตังกูยังกล้าโจมตี แกคิดว่าแค่วรยุทธ์อู่ตังนั่นของแก ฉันแม่งจะสนใจหรอ? ” เฉินเป่ยกวาดสายตามองท่านผู้อาวุโสไท่ซ่างเพียงชั่วพริบตา น้ำเสียงเย่อหยิ่ง และครอบงำมาก
ท่านผู้อาวุโสไท่ซ่างนิ่งงันไปสักพัก แล้วพูดขึ้น “หากแกฆ่าฉัน ตระกูลอวี้ต้องไม่ปล่อยแกไปแน่”
เฉินเป่ยแสยะยิ้ม “ไสหัวกลับไปบอกคนแซ่อวี้ หลังจากงานพนันพลอย ประหารหลังใบไม้ร่วง สิ่งที่ต้องคิดบัญชี ฉันต้องคิดกับเขาเป็นอย่างๆ ไปแน่นอน!
เฉินเป่ยทำเสียงเย็นชา หลังจากพูดจบ ก็ถีบหน้าอกของท่านผู้อาวุโสไท่ซ่าง จนทำให้เขาตัวปลิวไปไกล!
ท่านผู้อาวุโสไท่ซ่างล้มลงบนพื้นอย่างแรงอีกรอบ เขาพยายามพยุงร่างที่สั่นเทาขึ้น แล้วได้ยินเสียงๆ หนึ่งส่งมาจากที่ไกลๆ “แกก็เหมือนกัน หนีไม่พ้นแม้แต่คนเดียว! ”
และหลังจากรอให้ท่านผู้อาวุโสไท่ซ่างจากไป แววตาของเฉินเป่ยฉายแววเลือดเย็นออกมา
เขาไม่ได้จัดการกับท่านผู้อาวุโสไท่ซ่าง แน่นอนว่าต้องอยากจะรอยตามไปสืบหาความจริง อวี้ย้งเซวียนกล้าลงมือกลางงานพนันพลอย……แน่นอนว่าต้องมีคนหนุนหลัง……ที่นี่คือเยี่ยนจิง และแตกต่างจากหู้ไห่ เหนือบนราชาแผ่นดิน ตระกูลอวี้ไม่ใช่ตระกูลในเยี่ยนจิง ทำเรื่องที่น่าหวาดผวาแบบนี้…….และอวี้ย้งเซวียนกลับช่างกล้าแบบนี้ ต้องได้รับการสนับสนุนจากใครแน่นอน
เฉินเป่ยคาดเดาถึง ที่นี่เป็นน้ำที่ลึกมาก ต้องไม่ได้ง่ายขนาดนั้นแน่นอน!
……..
ท่านผู้อาวุโสไท่ซ่างจึงลากสังขารที่บาดเจ็บ แล้วเดินทีละก้าวด้วยความยากลำบาก……จากนั้นก็เข้าไปใกล้รถไมบัคที่จอดอยู่ข้างทาง ลูกน้องที่รออยู่ตรงนั้นเห็น สีหน้าจึงดูตกตะลึง
เขานึกไม่ถึงเลยท่านผู้อาวุโสไท่ซ่างกลับบาดเจ็บหนักถึงขั้นนี้!
ลูกน้องคนนั้นพยุงท่านผู้อาวุโสไท่ซ่างเข้าไปในรถ ท่านผู้อาวุโสไท่ซ่างหายใจหอบ น้ำเสียงเคล้าด้วยความหดหู่ “ไปโรงแรม เร็ว”
และตอนนี้ อวี้ย้งเซวียนกำลังอยู่ในห้องชุด แล้วรออย่างเงียบๆ
หลังจากห้านาทีผ่านไป ลูกน้องคนหนึ่งก็เข้ามาในห้องชุด แล้วพูดด้วยความเคารพ “คุณชายอวี้ ท่านผู้อาวุโสไท่ซ่างออกมาจากงานพนันพลอยแล้วครับ”
“จัดการแล้ว ดูๆ แล้วครั้งนี้เอ๋อตงเฉินคงจะได้ไปทำตัวครอบงำในนรกแล้ว……คืนนี้ ถึงเวลาหลีชิงเยียน นางคนชั้นต่ำแล้ว” อวี้ย้งเซวียนกระตุกมุมปากขึ้น แล้วยิ้มอย่างเลือดเย็น และเคล้าด้วยความโหดเหี้ยมอย่างไม่แสดงออกมา
“ไป ไปเอาแชมเปญที่ดีที่สุดในฉันสะสมออกมา ฉันรอให้ท่านผู้อาวุโสกลับมา แล้วเฉลิมฉลองกับเขา! “