สายเปย์เบอร์หนึ่ง - ตอนที่ 339
บทที่ 339 เจอเทพธิดาถ่ายทอดสดอีกครั้ง!
“ครับ” ลูกน้องคนนั้นตอบกลับ แล้วหันหลังสาวเท้าออกไปโดยเร็ว
อวี้ย้งเซวียนก็มองลูกน้องข้างๆ เขา แล้วเอ่ยถาม “ดาบทำถึงไหนแล้ว? ”
“ผมกำลังจะให้อาจารย์ไม่กี่ท่านเร่งรีบหน่อยครับ น่าจะสามารถมาถึงหลังจากที่คุณชายอวี้และท่านผู้อาวุโสไท่ซ่างฉลองเสร็จครับ” ลูกน้องท่านนั้นเอ่ยพูดด้วยความเคารพ
อวี้ย้งเซวียนพยักหน้า ในหัวสมองมีท่านประธานเทพธิดาที่เย่อหยิ่งปรากฏ ภาพที่ถูกตนเองเล่นงานอย่างรุนแรง……จึงพูดด้วยความลุ่มลึก “ไปเตรียมห้องใหญ่หนึ่งห้อง หลังจากงานเลี้ยงผ่านไป แล้วเปิดน้ำร้อนไว้ ในตึกที่ไอ้คนชั้นต่ำนั่นอาศัยอยู่ ส่งคนไปล็อคดาวน์ อย่างให้นางชั้นต่ำนั่น หลุดออกมาฝ่ามือของฉันเด็ดขาด”
อวี้ย้งเซวียนสั่งการขึ้นอย่างต่อเนื่อง ลูกน้องแต่ละคนต่างก็ออกจากห้องชุด ส่วนอวี้ย้งเซวียน มองอาหารอันหรูหราตั้งอยู่เต็มโต๊ะ จึงรู้สึกอารมณ์ดีมาก
พอนึกถึง เฉินเป่ยก็ตบหน้าตัวเองหนึ่งทีต่อหน้าแขกคนใหญ่คนโตมากมายขนาดนั้น จึงทำให้อวี้ย้งเซวียนโมโหเป็นฟืนเป็นไฟ
และตอนนี้ ท่านผู้อาวุโสไท่ซ่างฆ่าเฉินเป่ยแล้ว เกรงว่าก่อนหน้าไอ้หมอนั่นถึงจะรู้ นี่เป็นสิ่งที่ต้องชดใช้เพื่อทำผิดต่อตัวเอง!
“หาที่ตาย” อวี้ย้งเซวียนแสยะยิ้มอย่างเย็นชา แล้วสูบซิการ์
……
ตอนนี้ ซูเหลยออกมาจากในห้อง แล้วเดินมาถึงตรงหน้าห้องของหลีชิงเยียน พลางกดกริ่ง
ไม่นาน หลีชิงเยียนที่สวมใส่ชุดอาบน้ำสีขาว ก็ปรากฏอยู่ตรงหน้าประตู
“ซูเหลย มีอะไรหรอ? ” หลีชิงเยียนมองซูเหลย แล้วเอ่ยถามด้วยเสียงน่าฟัง
ซูเหลยพยักหน้า แล้วพูดขึ้น “ให้ดิฉันเข้าไปพูดหน่อยได้ไหมคะ? ”
“แน่นอนว่าได้สิ” หลีชิงเยียนพยักหน้าโดยไม่ผ่านการครุ่นคิด
หลีชิงเยียนหมุนตัว แล้วเดินเข้าไปในประตู ซูเหลยและหลีชิงเยียนเดินเข้าไปในห้องรับแขก แล้วนั่งอยู่บนโซฟา หลังจากที่ดื่มน้ำ สีหน้าก็ดูหนักใจขึ้นมา “ท่านประธานคะ เราถูกควบคุมแล้ว”
“ถูกควบคุม หมายความว่าอะไร? ” หลีชิงเยียนนิ่งงันเล็กน้อย แล้วไม่เข้าใจว่าทำไม
ซูเหลยพูดขึ้น “เมื่อกี้ฉันสังเกตเห็นระเบียงกับหน้าประตูลิฟต์มีคนไม่กี่คนเพิ่มขึ้น คนพวกนี้เฝ้าอยู่ตรงลิฟต์และระเบียง ไม่ให้ฉันจากไป” ซูเหลยจึงพูดตามความจริงที่เห็น
“นี่…….” หลีชิงเยียนครุ่นคิดสักพัก แล้วเงยหน้ามองเธอ สีหน้าดูแย่เล็กน้อย แล้วพูดขึ้น “ฉันรู้ว่าเป็นใคร โรงแรมนี้ คนที่สามารถลงมือกับพวกเรา ก็คงมีแค่อวี้ย้งเซวียน”
ซูเหลยพยักหน้า หลีชิงเยียนคิดเหมือนเธอ
“งั้นเราจะทำยังไงต่อดี? ” หลีชิงเยียนเอ่ยถามด้วยเสียงเข้ม
“ทุกอย่างฟังท่านประธานค่ะ” ซูเหลยพูดขึ้น
“เดินไปหนึ่งก้าวนับหนึ่งก้าวเถอะ อย่างน้อยตอนนี้เราต้องรู้ก่อนว่าอวี้ย้งเซวียนอยากทำอะไร” หลีชิงเยียนครุ่นคิดแล้วพูดขึ้น
“เฉินเป่ยยังไม่กลับมาอีกหรอ? ” หลีชิงเยียนถามด้วยเสียงเข้ม
ซูเหลยส่ายหัว “ฉันโทรหาเขา เขาไม่รับสาย”
“ไอ้หมอนี่” หลีชิงเยียนได้ยินเฉินเป่ยก็รู้สึกเครียดขึ้นมา และโมโหเป็นฟืนเป็นไฟ เธอพึมพำด้วยเสียงเย็นชา “ฉันไม่สนใจเขาแล้ว ยังไงเขาก็คงไม่ตายหรอก รอเขากลับมาค่อยว่ากัน”
ซูเหลยมองสีหน้าที่ไม่เป็นมิตรของหลีชิงเยียน สีหน้าดูแปลกประหลาด หลีชิงเยียนในตอนนี้ เหมือนแฟนสาวที่กำลังหึง ทำให้เธออดไม่ได้ที่จะครุ่นคิดถึง…….
…….
ไม่นาน ลูกน้องที่ยืนอยู่ตรงหน้าประตูก็เดินเข้าใจอย่างเร่งรีบ แล้วรายงานสถานการณ์ด้วยความเคารพ “รถที่ท่านผู้อาวุโสไท่ซ่างนั่งใกล้จะถึงโรงแรมแล้วครับ”
“ไปตามคนต้อนรับ แล้วพาท่านผู้อาวุโสไท่ซ่างมาที่นี่ ฉันจะเซอร์ไพรส์เขา” อวี้ย้งเซวียนยิ้มจางๆ สีหน้าเคล้าด้วยความมั่นหน้าอย่างพูดไม่ออก
ลูกน้องคนนั้นตอบกลับ แล้วออกจากโรงแรมอย่างเร่งรีบ
……..
ตรงหน้าประตูโรงแรม รถไมบัคคันหนึ่งขับมาอย่างว่องไว แล้วจนกว่าใกล้จะถึงโรงแรม ก็ค่อยลดความเร็วลง จากนั้นก็จอดลงตรงหน้าประตูโรงแรม
ลูกน้องไม่กี่คนของอวี้ย้งเซวียนเห็นรถไมบัค จึงมุ่งไปด้านหน้าพร้อมกัน พร้อมพูดด้วยความพร้อมเพรียง “ยินดีด้วยกับท่านผู้อาวุโสไท่ซ่างครับ”
ประตูรถเปิดออก ลูกน้องที่ขับรถคนนั้นทำสีหน้าที่ขาวซีดแล้วลงมาจากตำแหน่งคนขับ พร้อมกวาดสายตามองลูกน้องไม่กี่คนของอวี้ย้งเซวียน และพูดด้วยเสียงเร่งรีบ “เร็วเข้า ท่านผู้อาวุโสไท่ซ่างต้องการรับการรักษา! ”
รักษา?!
ลูกน้องไม่กี่คนนิ่งงัน แล้วมองหน้ากัน คุณชายอวี้บอกว่าท่านผู้อาวุโสไท่ซ่างกลับมาด้วยชัยชนะ……ตามความสามารถที่ลุ่มลึกจนไม่สามารถคาดเดา กลับได้รับบาดเจ็บสาหัสจนต้องได้รับการรักษา?! นี่เป็นไปได้ยังไง!
ลูกน้องคนนั้นเปิดประตูรถ ลูกน้องเหล่านั้นจึงจับจ้องไปยังด้านในรถ จู่ๆ ก็เห็นคนที่นอนอยู่ในรถ ท่านผู้อาวุโสไท่ซ่างที่ทั้งเรือนร่างเต็มไปด้วยเลือด ทั้งร่างกายนอนอ่อนแออยู่บนโซฟา และหายใจอย่างไม่มีแรง!
ท่านผู้อาวุโสไท่ซ่างก้าวออกจากในรถด้วยความลำบาก แล้วเหยียดเท้าข้างหนึ่งลงพื้น แล้วจะดูน่าเกรงขามเหมือนตอนจากไปได้ยังไง เท้าข้างหนึ่งเหยียบลงบนพื้น ทั้งเรือนร่างกำลังจะล้มลง!
โชคดีที่ลูกน้องไม่กี่คนเป็นคนที่ว่องไว ไม่กี่คนเดินหน้าเข้าไป แล้วพยุงท่านผู้อาวุโสไท่ซ่าง
“อวี้ย้งเซวียนอยู่ไหน? ” ท่านผู้อาวุโสไท่ซ่างมีลมหายใจแค่ไม่มีแรง นัยน์ตาเย็นชา แล้วเต็มไปด้วยความอาฆาตหนึ่งหนึ่งที่ทำให้วิญญาณของคนสั่นเทา!
“คุณชายอวี้กำลังจัดงานฉลอง……เขาบอกว่า เขากำลังรอข่าวดีจากท่าน แล้วฉลองที่ท่านกลับมาด้วยชัยชนะ! ” ลูกน้องคนนั้นจึงมองนัยน์ตาของท่านผู้อาวุโสไท่ซ่างไม่หยุด แล้วพูดอย่างระมัดระวัง
“ดูสายตาของฉัน” ท่านผู้อาวุโสไท่ซ่างพึมพำ แล้วจู่ๆ ก็หัวเราะเย็นชา ความยิ้มนี้ เคล้าด้วยการดูหมิ่น
“พาฉันไปเจอเขา” ท่านผู้อาวุโสไท่ซ่างค่อยๆ พูดขึ้น…..น้ำเสียงลุ่มลึกมาก
“ครับ”
ลูกน้องไม่กี่คนพยุงท่านผู้อาวุโสไท่ซ่างไว้ แล้วเดินเข้าไปในโรงแรม…….พวกเขาช่วยพยุงท่านผู้อาวุโสไท่ซ่าง ขณะเดียวกันก็อดไม่ได้ที่จะครุ่นคิดในใจ…….ท่านผู้อาวุโสไท่ซ่างมีความสามารถที่เก่งกาจขนาดนี้…….กลับได้ผลบาดเจ็บหนักขนาดนี้…….นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่!
และตอนนี้ ในห้องชุดของอวี้ย้งเซวียน เขากำลังกระตุกยิ้มขึ้น แล้วยิ้มยิ่งอยู่ยิ่งเจ้าเล่ห์ ไม่มีใครรู้ว่าภายในใจของเขากำลังคิดอะไรบ้าง
“หลีชิงเยียน…….ไม่นานแกก็จะขอมารับใช้ฉัน แล้วอุทิศตัวให้ฉันเป็นเจ้าของอย่างเชื่อฟัง……” อวี้ย้งเซวียนมองโน๊ตบุ๊คที่อยู่ตั้งอยู่หน้าโต๊ะ ทุกใบของหลีชิงเยียนนั้นเหมือนจริงมาก ทุกๆ ใบแสดงให้เห็นถึงรูปความมีเสน่ห์และหยิ่งในศักดิ์ศรีอันเพอร์เฟคของท่านประธานเทพธิดา มีรูปร่างสัดส่วนที่โค้ง ยิ่งเป็นที่ยั่วยวนจริงๆ ……ต่อให้อวี้ย้งเซวียนที่เคยมองผู้หญิงมามากจนนับไม่ถ้วน พอเห็นหลีชิงเยียนในพริบตาแรกก็ยังอดไม่ได้ ภายในใจของตนเอง เหมือนถูกสาวงามทำให้เสียที!
ตอนนั้นที่เขาเห็นหลีชิงเยียน ก็ตัดสินใจว่าจะต้องเสียทีให้กับสาวงามที่หายากแบบนี้ ทำให้คนๆ นี้ที่อยู่เป็นเทพธิดาอยู่ต่อหน้าทุกคน ทุกๆ คืนให้เธอมาอยู่ในห้องของตัวเอง ทำให้เธอหลงใหลและเชื่อฟัง…….สัตว์ป่าที่เขาชื่นชอบตั้งแต่แรก แม้กระทั่งภายในใจยังมีเป้าหมาย…….ใครจะไปรู้ว่าการปรากฏของเฉินเป่ย จะทำให้แผนการทั้งหมดของเขาล้มเลิกไป ทำให้เขาโมโหเป็นฟืนเป็นไฟ!
ดังนั้น เฉินเป่ยต้องตาย……ส่วนหลีชิงเยียนสัตว์ป่าหนึ่งตัว……จะเป็นของเขาคนเดียว”
และในเวลานี้ ระเบียงนอกประตูห้องชุด มีเสียงสาวเท้าดังขึ้นเป็นชุด
อวี้ย้งเซวียนจึงทำสีหน้าเปล่งประกายความดีใจ แล้วรีบลุกขึ้นทันที ภายในใจดูเบิกบานและตื่นเต้น!
ไม่นาน ท่านผู้อาวุโสไท่ซ่างก็ถูกทุกคนพยุงไปปรากฏอยู่ตรงหน้าประตู
อวี้ย้งเซวียนทำนัยน์ตาที่ใจร้อนแล้วกำลังจับท่านผู้อาวุโสไท่ซ่างไว้ แววตาดูเกร็งขึ้นมาทันที
“ท่านผู้อาวุโสไท่ซ่าง…….” อวี้ย้งเซวียนพูดขึ้น สีหน้าที่ตื่นเต้นดีใจก็ชะงักไป รอยยิ้มตรงมุมปากหายไป แล้วเบะปากลงอย่างแรง!
เขาเห็นอะไร?
ชุดคลุมยาวสีเขียวที่ไม่เปื้อนฝุ่น ทว่ากลับเปื้อนเลือด คราบเลือดเป็นจุดๆ ขณะที่ท่านผู้อาวุโสไท่ซ่างเดินเข้ามา แล้วได้กลิ่นคาวเลือดอย่างแรง และฟุ้งกระจายไปทั่วห้องชุด
ทีแรกท่านผู้อาวุโสไท่ซ่างที่สูงสง่า ตอนนี้กลับกลายเป็นสภาพที่ย่ำแย่มาก ลมหายใจเข้าน้อย แต่หายใจมาก เหมือนกำลังจะตาย!
นี่มันเป็นไปได้ยังไง อวี้ย้งเซวียนขึงตาโตอย่างไม่น่าเชื่อ หัวสมองเหมือนมีเสียงอะไรบางอย่างกระทบ ทำให้ยากที่จะยอมรับ!
“ท่านผู้อาวุโส……” อวี้ย้งเซวียนเอ่ยพูด แล้วสาวเท้าเดินไปหาท่านผู้อาวุโสไท่ซ่าง ภายในใจยากที่จะสงบสุข!
บรรยากาศ จึงนิ่งสงบอย่างผิดปกติ ลูกน้องทุกคนยืนล้อมรอบ ทุกคนต่างก็เงียบไม่กล้าออกเสียง ไม่กล้าแม้แต่จะหายใจแรงออกมา!
แค่ตอนนี้คนที่ไม่ได้คนโง่ ต่างก็สัมผัสได้ ต่อจากนี้ ก็จะเกิดลมแรง!
“ท่านผู้อาวุโส……ท่านไม่ใช่ว่าไปฆ่าเฉินเป่ยหรอ…..ทำไม ถึงเป็นสภาพแบบนี้! ” อวี้ย้งเซวียนเอ่ยพูดอย่างตกใจ
ท่านผู้อาวุโสไท่ซ่างหลับตาลง หลังจากฟังคำพูดของอวี้ย้งเซวียนแล้ว ถึงจะค่อยๆ ลืมตาขึ้น แล้วมองอวี้ย้งเซวียน นัยน์ตาเลือดเย็นจนเสียวกระดูก ทำให้อวี้ส้งเซวียนอดไม่ได้ที่หันหลังไปด้วยความเลือดเย็น
“นายบอกกับฉันว่า เขาเป็นแค่เขยแต่งเข้าบ้านตระกูลหลี เป็นไอ้สวะที่รักสบาย แล้วเอาแต่เกาะท่านประธานสาว? ” ท่านผู้อาวุโสไท่ซ่างพูดด้วยความนิ่งสงบ ทว่าตอนนี้กลับสงบจนน่าแปลกเล็กน้อย น้ำเสียงเลือดเย็นเหมือนส่งออกมาจากเหวลึก
“แน่นอน” อวี้ย้งเซวียนพยักหน้า ภายในใจของเขาสงสัย ไม่เข้าใจว่าท่านผู้อาวุโสไท่ซ่างจะถามแบบนี้ทำไม
“นายยังบอกว่า นายได้ติดต่อกับตระกูลหลีเยี่ยนจิง……รับประกันว่าตอนที่ฉันฆ่าเอ๋อตงเฉิน จะไม่มีปัญหาอะไรมาขัดขวาง” ท่านผู้อาวุโสไท่ซ่างเอ่ยพูดอีกครั้ง นัยน์ตายิ่งอยู่ยิ่งเย็นชาแล้วมองอวี้ย้งเซวียน ทำให้เขาสัมผัสได้ถึงความเย็นชาที่น่าแปลก
อวี้ย้งเซวียนพยักหน้าอีกครั้ง ท่านผู้อาวุโสไท่ซ่างทำนัยน์ตาที่ค่อยๆ เลือดเย็น แล้วเอ่ยถามเป็นคำๆ อย่างเย็นชา “งั้นนายบอกฉัน…..”
“ทำไมเขาถึงเป็นวรยุทธ์ของอู่ตัง?! ”
ท่านผู้อาวุโสไท่ซ่างตวาดขึ้นมาทันที แล้วขึงตาโต เรือนร่างของเขาแผ่ซ่านความน่ากลัวออกมาทันที
อากาศจึงสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง…..ทั้งเรือนร่างของอวี้ย้งเซวียนสั่นสะเทือนอย่างแรง เขากำลังกลัว……ท่านผู้อาวุโสไท่ซ่างระเบิดความน่าเกรงขามนี่น่ากลัวเกินไปแล้ว……ทำให้เขารู้สึกแม้กระทั่งหายใจลำบาก!
และตอนนี้ อวี้ย้งเซวียนเอ๋อไปทันที แล้วถลึงตาโต หัวสมองว่างเปล่า!
สิ่งที่ทำให้เขาตกตะลึงที่สุด เป็นคำพูดนั้นของท่านผู้อาวุโสไท่ซ่าง มดตัวนั้น กลับเป็นวรยุทธ์อู่ตัง!
นี่เป็นไปได้ยังไง! หัวสมองของอวี้ย้งเซวียนมีท่าทางนักเลงของเฉินเป่ยผุดขึ้นมา ทำไมอวี้ย้งเซวียนถึงยากที่จะเชื่อมโยงระหว่างเขากับอู่ตังล่ะ!
“จะเป็นไปได้ยังไงที่เขาจะรู้วรยุทธ์ของอู่ตัง! ค่าครองชีพทุกๆ เดือนของเขายังเป็นผู้หญิงเป็นคนให้เขา! ” อวี้ย้งเซวียนส่ายหัวอธิบายขึ้น
เขาได้บอกให้คนไปสืบเรื่องนี้อย่างละเอียด แม้กระทั่งความละเอียดนี้ยังรู้ ทว่าเขากลับนึกไม่ถึง คำพูดต่อไปของท่านผู้อาวุโสไท่ซ่าง ยิ่งทำให้เขานิ่งงันไป!
“เขาเข้าใจในวรยุทธ์อู่ตัง แล้วยังเข้าใจลึกซึ้งกับฉัน…….เขยแต่งเข้าตระกูลคนนี้ ไอ้สวะ จะเป็นไปได้ยังไงที่จะมีทักษะอู่ตัง? ” ท่านผู้อาวุโสไท่ซ่างจับจ้องอวี้ย้งเซวียนไว้อย่างเย็นชา ทั้งเรือนร่างเคล้าด้วยความอาฆาตอันเลือดเย็น
เขามองอวี้ย้งเซวียนเชิงสืบสวน ภายใต้ดวงตาดูสัพยอก และเคล้าด้วยการดูหมิ่น
อวี้ย้งเซวียนสั่นเทาไปทั้งเรือนร่าง ใบหน้าซีดขาว! ทำยังไงเขาก็ไม่เชื่อในคำพูดของท่านผู้อาวุโสไท่ซ่าง!
“ปัง! ”
ท่านผู้อาวุโสไท่ซ่างโมโหแต่ไม่สามารถระบายที่ไหนได้ เขายกมือ แล้วตบลงบนโต๊ะไม้ประดู่แดงอันหรูหราที่สามารถนั่งห้าหกคน! เกิดเสียงดังสนั่น ของใช้ในครัวบนโต๊ะ ต่างก็แตกกระจายไปทั่วทิศ เหมือนดั่งกระสุนที่ยิงไปทั่วทั้งสี่ทิศของฝาผนัง!
และโต๊ะๆ นั้น มีรอยฝ่ามือที่เป็นหลุมฝึกลงไป……แม้กระทั่งลายฝ่ามือก็เห็นได้อย่างชัดเจน! และทั้งโต๊ะไม้ประดู่แดงอันหรูหรา จากนั้นก็มีรอยแตกกระจายไปทั่วโดยเร็ว ทั้งโต๊ะไม้ประดู่แดง จึงแยกเป็นสองชิ้น!
“ปัง! ”
อาหารต่างๆ ไปสาดทั้งเรือนร่างของอวี้ย้งเซวียน คุณชายอวี้ผู้สง่าผ่าเผยและหล่อเหลานี้ จึงกลายเป็นไก่ที่ตกลงไปในน้ำแกง!
อวี้ย้งเซวียนสั่นงันงก เรือนร่างสั่นเทาอย่างรุนแรง เขาอยากจะขยับตัวไปที่อื่น ทว่าสองขาของเขาก็อ่อนแรง……ตอนที่ตกใจในธาตุแท้ที่ยากที่จะจินตนาการออกและพออยู่ตรงหน้าตอนที่ท่านผู้อาวุโสไท่ซ่างโมโห เขาแม่งถูกทำให้ตกใจจนฉี่ราด!
ใบหน้าของอวี้ย้งเซวียนเหมือนกระดาษสีทอง ทำให้ตกใจจนใกล้จะคุกเข่าลง!
ท่านผู้อาวุโสไท่ซ่างค่อยๆ ดึงฝ่ามือกลับมา แล้วกวาดสายตามองอวี้ย้งเซวียนอย่างเลือดเย็น จู่ๆ ก็มีฝ่ามือหนึ่งเหมือนดั่งฟ้าแลบฟาดมา!
“เพี๊ยะ! ”
ทั้งตัวของอวี้ย้งเซวียนจึงกระเด็นออกไปทันที เหมือนดั่งระเบิด เกิดเสียงดังสนั่น เรือนร่าของอวี้ย้งเซวียนทำให้ผนังกระแทกจนกลายเป็นหลุมรูปทรงของคน
ลูกน้องของอวี้ย้งเซวียนที่อยู่ในเหตุการณ์มากมายต่างก็ตะลึงงัน พวกเขานึกไม่ถึงว่าคุณชายอวี้จะสามารถถูกตบด้วยฝ่ามือนี้!
พวกเขาอยากจะช่วยอวี้ย้งเซวียนออกมา ทว่าเวลานี้ความอาฆาตและเลือดเย็นนั้นปกคลุมพวกเขาไว้ พวกเขาเรือนร่างสั่นเทา กลับไม่กล้าขยับเลย!
ทุกคนต่างก็เห็นถึงความหวาดกลัวของท่านผู้อาวุโสไท่ซ่าง ต่อให้ท่านผู้อาวุโสไท่ซ่างจะบาดเจ็บสาหัส ทว่าความน่าเกรงขามของเขา กลับไม่ควรไปท้าทาย เขายิ่งไม่ยอมให้ใครโกหกปิดบัง!
ท่านผู้อาวุโสไท่ซ่างกวาดสายตามองไปรอบทิศ จากนั้นก็หันไปยังผนัง แล้วมองหลุมรูปร่างคนนั้น แล้วพูดขึ้น “จำไว้ ครั้งนี้เป็นการสั่งสอน ไม่หวังว่าจะมีครั้งหน้าเกิดขึ้น”
พูดจบ ท่านผู้อาวุโสไท่ซ่างถึงจะถูกลูกน้องพวกนั้นพยุงขึ้น แล้วค่อยๆ ออกจากห้องชุด เพื่อไปรักษา
ลูกน้องพวกนั้นของอวี้ย้งเซวียน ต่างก็รีบวิ่งไปตรงข้างผนัง
คุณชายอวี้ที่หล่อเหลาและสง่าตอนนี้ตกอยู่ในสภาพที่ย่ำแย่มาก เขาติดอยู่ในผนัง จุดจบแทบจะเหมือนลูกน้องคนนั้น!
เขาฝันก็ยังฝันไม่ถึง ตัวเองจะได้เจอแบบนี้!
เมื่อลูกน้องพวกนั้นของอวี้ย้งเซวียนเอาบันไดมา ก็รีบดึงอวี้ย้งเซวียนออกจากผนัง เสื้อผ้าของคุณชายอวี้นั้นฉีกขาด ทั้งตัวเขียวช้ำ ใบหน้าเขียวช้ำและบวมแดง เหมือนดั่งหัวหมู!
“เฉินเป่ย! ฉันจะให้แกตาย! แกต้องตาย! ถ้าแกไม่ตาย! ฉันจะไม่มีแซ่ว่าอวี้! ” ปฏิกิริยาแรกที่อวี้ย้งเซวียนตอบสนองคือ ตะโกนลั่นฟ้า แล้วเกลียดเฉินเป่ยเข้ากระดูกดำ!