สายเปย์เบอร์หนึ่ง - ตอนที่ 342
แต่บางเรื่องเราก็ไม่มีไฟล์แล้วเหมือนกัน
บทที่ 342 ตีให้พิการ!
“เอ๋อตงเฉิน…….” อวี้ย้งเซวียนกัดฟัน แล้วตะโกนชื่อของเฉินเป่ยออกมาอย่างตื่นตูม เขานึกไม่ถึงว่า เฉินเป่ยถูกผู้ประกาศข่าวหญิงคนหนึ่งสัมภาษณ์ กลับยังโด่งดังในเยี่ยนจิง!
ตัวเองถึงจะเป็นทายาทของตระกูลพนันพลอยโด่งดังที่องอาจผึ่งผาย ใต้หล้านี้ โลกพนันพลอย ใครบ้างไม่ได้เคารพนับถือตัวเอง ใครกล้าตั้งชื่อแบบนี้ให้ตัวเอง!
เขาเกิดมาหน้าตาหล่อ ทำให้ผู้หญิงไม่รู้เท่าไหร่ลุ่มหลิง ทำให้พวกเธอหลงจนเหมือนคนโง่ ตัวเองเป็นดาวเด่นในคนรุ่นหลังของโลกพนันพลอย……เคยเป็นพรีเซ็นเตอร์ของเพอร์เฟคคำนี้……เป็นผู้ที่อ่อนโยนและสง่าผ่าเผย ทั้งหล่อและมีความสามารถ……ทว่าตอนนี้กลับถูกเรียกว่าเป็นหล่อหนุ่มไร้สมอง?
การข่มเหงแบบนี้ เฉินเป่ยท้าทายอย่างซึ่งๆหน้า!
“ไอ้มด! แกต้องตาย! ” อวี้ย้งเซวียนจับดาบสั้นนั้นไว้ เครียดจนเรือนร่างสั่นเทา!
เขาเกลียดที่คนอื่นเรียกเขาว่า “หนุ่มหล่อไร้สมอง” ที่สุด เขามีความสามารถและความรู้ แล้วยังมีหน้าตาหล่อเหลา……ส่วนเฉินเป่ย ไม่มีสักอย่าง เป็นเพียงเขยแต่งเข้าบ้านผู้หญิง แม้กระทั่งหากไม่มีท่านประธานเทพธิดา เฉินเป่ยก็คงไม่สามารถมีชีวิตอยู่……เขามีสิทธิ์อะไรมาเยาะเย้ยตัวเอง? เขามีสิทธิ์อะไร?!
อวี้ย้งเซวียนกัดฟันกรอด เขารู้สึกเครียดมาก…….ไอ้หนุ่มหล่อไร้สมอง คำๆ นี้ถือว่าเป็นจุดอ่อนของเขา และถูกเฉินเป่ยกระตุ้นโดยไม่เจตนา และกำลังโรยเกลือบนแผลของเขา!
“แกนี่แหละไร้สมอง ทั้งตระกูลของแกไร้สมองหมด! ” อวี้ย้งเซวียนมองจอแท็บแล็ต แล้วฟังเฉินเป่ยพูดขึ้นอย่างเกินจริงด้วยความเย่อหยิ่ง แม้กระทั่งยังทำให้เขาเครียดจนเกือบจะเป็นลม!
เขาไม่สนใจความสง่าผ่าเผยและความสุภาพเรียบร้อยอีกต่อไป…….ตอนนี้เขาเหมือนฟ้าผ่า และโมโหเป็นฟืนเป็นไฟ!
ลูกน้องที่อยู่ตรงหน้าอวี้ย้งเซวียน เห็นเขาโมโหดั่งฟ้าผ่า และโมโหเป็นฟืนเป็นไฟ ทั้งร่างสั่นเทา เรือนร่างสั่นงันงก……นี่เป็นครั้งแรกที่เขาเห็นคุณชายอวี้ผู้อ่อนโยนและสง่าโมโหเป็นฟืนเป็นไฟแบบนี้!
อุณหภูมิในห้องยิ่งอยู่ยิ่งต่ำลง ลูกน้องคนนั้นไม่กล้าแม้แต่จะหายใจ แม้กระทั่งตรงหน้าคุณชายอวี้ที่กำลังโมโหเลือดพล่าน เขาแทบจะอดไม่ได้ที่จะโขกหัวก้มกราบ!
“รอให้ท่านผู้อาวุโสไท่ซ่างฟื้นขึ้นมา ก็ถึงเวลาที่แกต้องตาย! ” อวี้ย้งเซวียนกัดฟันกรอด แล้วสาปแช่งอย่างร้ายกาจที่สุด
…….
และในเวลานี้ ในบ้านหลีแห่งเยี่ยนจิง มีรถคันหนึ่งค่อยๆ จอดลง หลีเช่าเทียนเดินเข้าไปในบ้านสุดหรู บังเอิญเจอหลีหงกำลังทานอาหารในห้องอาหารอย่างด่ำดื่ม
บนโต๊ะยาวที่หรูหราและใหญ่ มีอาหารเลิศรสวางอยู่เป็นชั้นๆ หลีเช่าเทียนมองหลีหง สีหน้าเคล้าด้วยความเคารพทันที แล้วพูดขึ้น “คุณปู่”
หลีหงพยักหน้า ถึงแม้เขาจะทานอาหารไปด้วย ทว่ากลับมองจออย่างจดจ่อ
“คุณปู่ไม่ใช่ว่ามีธุรกิจทางราชการต้องสะสางหรอ วันนี้ทำไมถึงกลับมาก่อน? ” ใบหน้าหล่อเหลาของหลีเช่าเทียนกำลังเผยให้เห็นถึงความสงสัย
หลีหงพูดขึ้น “ช่วงนี้เยี่ยนจิงไม่ค่อยสงบสุข ฉันกลับมาเฝ้าระวังไว้ก่อน จะไม่ได้ต้องเกิดเรื่องวุ่นวายอะไร”
“มีผู้ใหญ่ท่านนั้นอยู่ จะเกิดอะไรได้? ผู้นั้นถึงแม้จะอยู่ในหัวเซี่ย ทว่าความสามารถก็ยอดเยี่ยม” หลีเช่าเทียนนั่งอยู่ข้างหลีหง แล้วเอามีดส้อมขึ้นพลางเลือกสเต๊กหนึ่งชิ้น
“ผู้ใหญ่คนนั้นดูแลงานของเยี่ยนจิง แต่ตอนนี้ มีอำนาจจากต่างประเทศมากมาย กำลังจับตามองงานพนันพลอยอยู่ คนใหญ่คนโตฝั่งตะวันตกก็มา……เยี่ยนจิง ต้องเกิดเรื่องขึ้นแน่นอน” หลีหงค่อยๆ พูดขึ้น น้ำเสียงเคล้าด้วยความลุ่มลึกอย่างมาก
หลีเช่าเทียนเข้าใจขึ้นมาทันที หลีหงมองหลีเช่าเทียนแล้วเอ่ยถาม “รายชื่อของสุดยอดดาบสามเล่มเอามาได้หรือยัง? ”
“ใกล้แล้วครับ” หลีเช่าเทียนยิ้มจางๆ แล้วพูดอย่างมั่นใจ “คนของผมช่วงนี้สืบเจอแล้วครับ ฝ่ายงานพนันพลอยกำลังส่งคนมาตรวจสอบพวกเรา อีกไม่นาน พวกเขาก็คงหาผมเจอ”
หลีหงพยักหน้า แล้วสายตาที่มองหลีเช่าเทียนมีความปลอบโยน “ครั้งนี้แกทำได้ไม่เลว”
“ต้องขอบคุณคุณปู่ที่เชิญผู้อาวุโสสองท่านนั้นมา ไม่ได้ความช่วยเหลือจากพวกเขา ผมที่อยู่ในเขตการพนันพรีเมียม ก็คงไม่ราบรื่นขนาดนี้ น่าจะเดินต่อยากครับ” หลีเช่าเทียนคลี่ยิ้ม
“ฉันเชิญพวกเขามา ก็เพื่อปูทางให้แก แต่ก่อนฉันไม่ได้สังเกตเห็นว่าแกมีพรสวรรค์…..ทำให้แกเจอกับความยากลำบากที่มันไม่สมควรเป็นของแก…..ตั้งแต่ตอนนี้ จะไม่ให้สถานการณ์แบบนี้เกิดขึ้นอีก” หลีหงยิ้มอ่อนโยน แล้วมองไปยังนัยน์ตาของหลีเช่าเทียน พร้อมกับเอ่ยชม
หลีหงและหลีเช่าเทียนพูดกันอย่างรื่นเริง ทั้งสองคุยกันไปด้วย หลีหงก็มองทีวีไปด้วย
“สนุกสิเนอะ” จู่ๆ หลีหงทำนัยน์ตาชะงักงันไป แล้วทำสีหน้าที่ผ่อนคลายและดูเจ้าเล่ห์ออกมา เขาจับจ้องทีวีไว้ ข่าวที่รายงานในตอนนี้ รู้สึกน่าสนใจมาก
หลีเช่าเทียนมองไปตามสายตาของหลีหง แล้วเห็นข่าวที่รายงานในทีวีเกี่ยวกับบทสนทนาของเย่เชี่ยนหราน
หลีเช่าเทียนมองเฉินเป่ยที่ปรากฏในทีวี นัยน์ตานิ่งงันไปเล็กน้อย ทว่าไม่นาน สีหน้าก็กลับมาดูนิ่งเฉยเหมือนดั่งปกติทันที มองจากใบหน้าของเขา ก็มองไม่ออกว่ามีความรู้สึกที่แปลกพิลึกยังไง
อารมณ์ความรู้สึกเมื่อกี้นี้ แวบผ่านไป ไม่นานหลีเช่าเทียนก็เก็บกดไว้เป็นอย่างดี
“ฉันคาดไว้ไม่มีผิด เขาต้องไม่ใช่คนธรรมดา” หลีหงมองเฉินเป่ยที่อยู่ในจอทีวี นัยน์ตาเผยความชื่นชมออกมา แล้วพยักหน้าไม่หยุด จึงพูดกับหลีเช่าเทียน “เช่าเทียน ฉันรู้ว่าแต่ก่อนพวกแกอาจจะเคยมีเรื่องเสียดสีกันบ้าง แต่ว่านั่นมันผ่านไปแล้ว หลังว่าแกจะไม่เจ้าคิดเจ้าแค้น เพราะว่าแกเป็นคนที่กระทำการใหญ่ ไม่จำเป็นต้องถือสาในเรื่องเล็กๆ น้อยๆ เหล่านั้น”
หลีเช่าเทียนพยักหน้า แล้วดูเชื่อฟังและทำตามมาก “รู้แล้วครับ นายท่าน”
หลีหงพยักหน้า แล้วมองไปยังทีวีต่อ เขาไม่ได้สังเกตเห็น ใต้ดวงตาของหลีเช่าเทียนเปล่งประกายความเลือดเย็นออกมาอย่างว่องไว แล้วก็หายไปในพริบตาเดียว
…….
หลีชิงเยียนที่หลังจากกลับถึงโรงแรม ทำให้ทั้งกายและใจของเธอเหนื่อยเพราะงาน เธอนั่งลงบนโซฟา แล้วเปิดทีวีขึ้นมาดู
ไม่นาน ท่านประธานเทพธิดาก็ถูกข่าวที่ฉายในทีวีทำให้ดึงดูด ท่านประธานเทพธิดาใช้ดวงตาคู่สวยจับจ้องภาพบนจอไว้ นัยน์ตายิ่งอยู่ยิ่งเลือดเย็นและย่ำแย่!
และตอนที่ท่านประธานเทพธิดาเปิดมือถือ หลังจากที่เห็นข่าวอีกมากมาย ใบหน้าก็ดูเลือดเย็นและโมโห เรือนร่างผอมบางสั่นเทา!
“หน้าไม่อาย หน้าด้าน! ” ท่านประธานเทพธิดากัดฟันกรอด เรือนร่างของเธอ แผ่ซ่านความยิ่งใหญ่ของเทพธิดา เหมือนกลายเป็นท่านประธานที่วางอำนาจ!
ท่านประธานเทพธิดาปิดทีวีลงด้วยความโมโห แล้วดื่มน้ำเย็นคำใหญ่ๆ เข้าไปรัวๆ ทำให้ตัวเองนิ่งสงบลง
หลังจากผ่านไปสักพัก ประตูห้องของท่านประธานเทพธิดาดังขึ้น หลีชิงเยียนไม่ได้สนใจ จนกว่ามีเสียงของซูเหลยส่งมา “ท่านประธานคะ อย่าเครียดเลย……!
หลีชิงเยียนทำหน้าจับตัวเป็นก้อน แม้แต่ซูเหลยก็รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น! ข่าวที่ใหญ่ขนาดนี้ ถ้าส่งไปถึงหู้ไห่ หน้าของตัวเองคงถูกทำให้เสียจนเพราะไอ้หมอนี่!
หลีชิงเยียนยิ่งคิดก็ยิ่งเครียด แล้วตะโกนเสียงเย็นชาออกไปนอกประตู “เฝ้าไว้ข้างนอก ฉันไม่อยากให้ไอ้หมอนั่นปรากฏตัวตรงประตูห้องของฉัน! ”
ท่านประธานเทพธิดาในตอนนี้ ไม่อยากจะเห็นเฉินเป่ยแม้แต่สักนิด เธอไม่กล้ารับประกัน เธอเห็นเฉินเป่ยแล้วจะไม่ยกมีดขึ้นมา!
“ค่ะ” ซูเหลยยืนอยู่ตรงหน้าประตูห้อง สีหน้าแปลกประหลาด เธอยิ้มอย่างขมขื่น และไม่รู้ตัว หรือว่าท่านประธานเทพธิดาเองก็ไม่รู้ เธอเหมือนจะยิ่งอยู่ยิ่งแคร์ผู้ชายคนนั้น…….