สายเปย์เบอร์หนึ่ง - ตอนที่ 347
บทที่ 347 มีทางไปสวรรค์แกกลับไม่เดิน!
เฉินเพิ่งจะพูดจบ ทั่วทุกสารทิศของเขา ต่างก็มีความเคลื่อนไหวที่แปลกพิลึกปรากฏ!
ประตูห้องในวิลล่าถูกแรงอันใหญ่หลวงหนึ่งกระแทกจนแตกเป็นเสี่ยงๆ เรือนร่างหนึ่งกำลังเข้ามาสังหารเฉินเป่ย!
ส่วนด้านหลังโซฟาหนังวัวอันกว้างใหญ่ในห้องรับแขก มีเรือนร่างหนึ่งผุดออกมา แล้วกำลังใช้มีดแทงข้างหลังของเฉินเป่ย!
ไม่เพียงแต่แบบนี้ บันไดชั้นสอง……ในม่านหน้าต่างของระเบียง…….ในหลายๆ มุมในวิลล่า ต่างก็มีเรือนร่างแต่ละคนพุ่งมาจากรอบทิศ แล้วกำลังจะพุ่งมาฆ่าเฉินเป่ยด้วยความอาฆาต!
คนพวกนี้ถูกเฉินเป่ยเปิดโปง จึงได้เปิดเผยใบหน้าออกมา พอลงมือปุ๊บก็คือนักฆ่าที่แกร่งที่สุด!
ในวิลล่าหลังนี้ที่เคล้าด้วยสถานการณ์ที่เสี่ยงตาย กระดาษก้อนนั้นที่อยู่บนโต๊ะชากระจก ก็ถูกหั่นจนกลายเป็นเสี่ยงๆ ขึ้นมาทันที!
เรือนร่างแต่ละร่างปรากฏในทุกทิศ ทำให้ทุกทางออกของเฉินเป่ยถูกล็อค! ทำให้เฉินเป่ยไม่มีที่ไป แล้วหนีออกจากที่นี่ไม่ได้!
“ตาย! ” เรือนร่างหนึ่งในนั้นตะโกนด้วยเสียงเย็นชา แล้วอาฆาตยิ่งนัก ไม่มีแม้แต่จะปิดบังอะไรเลย!
เฉินเป่ยยืนอยู่ตรงที่เดิม สีหน้านิ่งเฉยไม่ได้แสดงอารมณ์ใดๆ ท่าทางทุกอย่างของแต่ละเรือนร่าง เข้ามาในตาของเฉินอย่างชัดเจน!
มีดเล่มหนึ่งกำลังจะแทงข้างหลังของเฉินเป่ย! มุมและองศานั้นโหดเหี้ยมมาก แทบจะแทงแล้วตายได้เลย!
จู่ๆ เรือนร่างของเฉินเป่ยแวบผ่าน เหมือนด้านหลังของเขามีตา ทำให้สามาารถหลบมีดอันแหลมคมได้โดยบังเอิญ!
จากนั้น หลายทิศทางที่อยู่ตรงหน้า มีมีดแหลมคมที่เปล่างประกายแสงหลายเล่มแทงมา!
“ปังๆๆ ”
หลายๆ คนที่กำลังจะจู่โจมเขาตรงหน้าต่างก็ถูกถีบจนทำให้สูญเสียน้ำหนักที่ในทรงตัว แล้วล้มลงบนพื้น
และคนๆ นั้นที่อยู่ข้างหลังเฉินเป่ย หลังจากที่ตกตะลึงไปสักพัก ก็ได้สติกลับมาทันที สีหน้าบนใบหน้ายิ่งอยู่ยิ่งโหดเหี้ยม มีดแหลมในมือแทบมาดั่งฟ้าแลบ!
และตอนที่เขาเห็นมีดแหลมคมกำลังแทงโดนตรงกลางอกของเฉินเป่ย จู่ๆ มีดเฉียบคมนี้จึงหยุดลงกลางอากาศ!
คนๆ นั้นเงยหน้าขึ้นด้วยความตกตะลึง แค่เห็นเฉินเป่ยมองเขาอย่างเย็นชา นิ้วมือสองนิ้วของเฉินเป่ยกำลังหนีบมีดแหลมนั้นอยู่ ไม่ว่าคนๆ นั้นจะออกแรงแค่ไหน ก็ไม่สามารถทำให้มีดขยับเข้าไปใกล้อีกแม้แต่นิดเดียว!
“มีแรงเท่านี้เองหรอ? ” เฉินเป่ยเอ่ยพูด นั่นเป็นการเหยียดหยามที่เลือดเย็น!
คนๆ นั้นมองเฉินเป่ยอย่างตกตะลึง ดวงตาของเฉินเป่ย ทำให้เขารู้สึกเย็นยะเยือกไปทั้งตัว เหมือนตกลงไปในถ้ำน้ำแข็ง!
“ปัง! ”
เฉินเป่ยจึงถีบขาออกอย่างแรง ทำให้คนๆ นั้นปลิวไปไกลหลายเมตร แล้วกระแทกลงบนผนังอย่างแรง จนทำให้ผนังถูกกระแทกจนมีรอยแตก!
หลายๆ คนทำสีหน้าที่ตกตะลึง พวกเขาพยุงลำตัวขึ้นมาด้วยความยากลำบาก หลายๆ คนจับจ้องเฉินเป่ยไว้ พวกเขานึกไม่ถึงว่าภารกิจเป้าหมาายนี้กลับแกร่งขนาดนี้ แกร่งจนเหนือการคาดหมายของพวกเขา!
เวลาสั้นๆ เพียงไม่กี่วินาที เฉินเป่ยสามารถทำให้พวกเขาล้มคว่ำอย่างผ่อนคลาย แม้กระทั่งมีหลายๆ คน ก็ได้ขาดความสามารถในการเคลื่อนไหว!
“พวกแกเป็นตระกูลตู้หรือว่าตระกูลจาง? ” เฉินเป่ยมองไม่กี่คนนี้ด้วยความเย็นชา นัยน์ตาเลือดเย็น แล้วเคล้าด้วยการดูหมิ่น เหมือนดูมดไม่กี่ตัวอยู่
ไม่กี่คนนั้นไม่ได้เอ่ยพูด แต่กำลังกำมีดแหลมไว้ในมือ แล้วมองเฉินเป่ย สีหน้าดูระมัดระวังมาก!
พอเห็นคนพวกนี้ไม่พูด เฉินเป่ยกระตุกมุมปากเผยความเลือดเย็นออกมา ขาข้างหนึ่งก้าวออก ใช้ทักษะไหวพริบ ปรากฏอยู่ตรงหน้าคนไม่กี่คนพวกนี้ในชั่วพริบตา!
และตอนที่ไม่กี่คนได้สติกลับมา เป็นเวลาที่สายไปแล้ว!
เฉินเป่ยจู่โจมโดยการถีบดั่งฟ้าแลบไปไม่กี่ครั้ง ความเร็วนั้นว่องไวมาก ยากที่จะจับตามองด้วยตาเปล่า!
เสียงกระดูกหักส่งเข้าหูอย่างชัดเจน!
การจู่โจมด้วยเท้านี้ของเฉินเป่ย น่าเกรงขามและหวาดกลัวเกินไปแล้ว แค่ถีบก็สามารถทำให้ซี่โครงของเขาหัก แล้วหน้าอกแบนอย่างแรง หน้าอกของคนๆ นั้นปรากฏรอยรองเท้าอย่างชัดเจน แล้วตัวกระเด็นออกไปโดยตรง!
บรรยากาศ เงียบกริบอย่างผิดปกติ คนพวกนั้นมองหน้ากัน ภายในใจเหมือนมีคลื่นโหมกระหน่ำถาโถมเข้ามา!
พวกเขาทำนัยน์ตาที่นิ่งงัน ต่างก็เอ๋อไป พวกเขานึกไม่ถึงว่าตัวเองกลับเจอกับบุคคลเป้าหมาย กลับแกร่งขนาดนี้?!
นี่แม่งยังเป็นคนอยู่หรอ?
ภารกิจที่ตระกูลให้ตนเอง จะให้ตัวเองมารนหาที่ตายหรอ?!
“ตอนนี้สามารถบอกได้หรือยัง? ” เฉินเป่ยกวาดสายตามองไปไม่กี่คน เอ่ยถามด้วยเสียงเรียบ
“นายท่านจากตระกูลตู้ให้พวกเรามา” ดังนั้นมีคนจึงทนไม่ไหว แล้วพูดออกมา
“ตระกูลตู้? ” เฉินเป่ยยิ้มอย่างเย็นชา แล้วค่อยๆ พูดขึ้น “งั้นก็เริ่มจากตระกูลตู้ก่อนเถอะ”
และรอให้พวกเขาไม่กี่คนเงยหน้าขึ้น เฉินเป่ยก็ออกจากวิลล่าด้วยก้าวเท้าใหญ่ คนไม่กี่คนพวกนั้นเห็นเฉินเป่ยจากไป เหมือนเพิ่งจะได้รับการปลดปล่อยจากภาระที่หนักหน่วง แล้วหายใจคำใหญ่ๆ
ตอนที่เฉินเป่ยอยู่ พวกเขาไม่ได้สัมผัสถึง แต่จนกว่าเฉินเป่ยจากไป พวกเขาถึงจะได้สติกลับมา แล้วสังเกตเห็นว่าแผ่นหลังของตนเปียกโชกไปหมด
คนพวกนั้นมองไปที่ไกลๆ เรือนร่างของเฉินเป่ย ภายในใจขึ้นๆ ลงๆ นัยน์ตาของพวกเขาเคล้าด้วยความตกตะลึง……เฉินเป่ยแกร่งสักแค่ไหนกันแน่ สามารถจู่โจมพวกเขา เหมือนไม่ได้ทำให้เฉินเป่ยสู้อย่างตั้งใจ
“เร็วเข้า โทรหานายท่าน! ” หนึ่งในคนของตระกูลตู้จึงได้สติกลับมาก่อน แล้วพูดด้วยเสียงเข้ม
……..
หู้ไห่ ในสวนของบ้านสุดหรูตระกูลตู้ บนโต๊ะน้ำชากระจก มีถาดวางอยู่ แล้วยังมีเหยือกชาและแก้วชา
ในห้องรับแขก ชายวัยกลางคนและผู้เฒ่าชุดดำกำลังนั่งอยู่บนโซฟา บรรยากาศเงียบสงบอย่างผิดปกติ แค่มีสาวสวมใส่ชุดกี่เพ้า กำลังอยู่ตรงหน้าชายวัยกลางคนและผู้เฒ่าชุดดำ แล้วกำลังบิดคอดเอวที่เรียวบาง กำลังเทน้ำ ชงชา แล้วรินน้ำชา
ผู้เฒ่าชุดดำจับจ้องไปยังสาวสวยที่มีรูปร่างเพอร์เฟคตลอดเวลา ถึงแม้เขาจะแก่ ทว่ายังคงอายุมากแต่ก็ยังแข็งแรง พอเห็นดอกไม้ที่เบ่งบาน ยังคงมีการตอบสนอง
นัยน์ตาของผู้เฒ่าชุดดำ ค่อยๆ เผยความเร่าร้อนออกมาอย่างซึ่งๆ หน้า
และผู้เฒ่าชุดดำจับจ้องไปยังนัยน์ตาของชายวัยกลางคน ชายวัยกลางคนรู้ดีแก่ใจ แล้วพูดกับผู้เฒ่าชุดดำ “เอาไหม ถ้าจะเอาจะส่งให้คุณ”
“นี่ไม่ค่อยดีมั้ง” ผู้เฒ่าชุดดำถึงแม้จะเกรงใจมาก ทว่านัยน์ตากลับจับจ้องไปยังสาวสวย เหมือนลูกตากำลังจะแทบชิดกับเรือนร่างที่สมบูรณ์แบบ
“ที่นี่ผมมีเยอะมาก ส่งให้คุณ” ชายวัยกลางคนยิ้มอ่อนๆ มือใหญ่ๆ โบกขึ้น “สองเดือนก่อนผมเล่นเธอจนเบื่อแล้ว คุณชอบผมสามารถแนะนำโรงน้ำชาหนึ่งร้านกับคุณ ที่นั่นมีสาวในใจเร่าร้อนอย่างนี้เยอะมาก”
สาวสวยคนนั้นได้ยินบทสนทนาของชายวัยกลางคนและผู้เฒ่าชุดดำ เรือนร่างจึงสั่นเทาเล็กน้อย ชายวัยกลางคนและผู้เฒ่าชุดดำไม่เห็นเธอเป็นคน ก็ได้พูดคุยอย่างไม่เกรงกลัว ในสายตาของพวกเขา ตัวเองอาจจะเทียบไม่ได้กับสัตว์ด้วยซ้ำ!
สาวน้อยก็เข้าใจดี ในตระกูลร่ำรวย ไม่มีอะไรที่ถูกหลักทำนองคลองธรรม มีแค่ความมืดมัว เหตุใดนี้ หลังจากที่เธอเข้าตระกูลตู้มา ก็เพิ่งจะรู้ว่าตระกูลตู้นั้นโหดเหี้ยมและอาบเลือดแค่ไหน!
ทุกคนในนี้ แทบจะทุกคนที่หน้าเนื้อใจเสือ ถลกหนังคนก็คือสัตว์ดุร้าย!
หรือว่าสัตว์ดุร้ายยังไม่โหดเหี้ยมเท่าพวกเขา
หลังจากที่สาวน้อยรินน้ำตาเสร็จ จู่ๆ มือใหญ่ๆ ก็จับเอวเรียวบางไว้ เรือนร่างของสาวสวยสั่นเทาเล็กน้อย แค่นั่งลงข้างผู้เฒ่าชุดดำด้วยความระมัดระวัง ภายในใจเต้นแรง
ผู้เฒ่าชุดดำมองเธออย่างเจ้าเล่ห์ มือใหญ่ๆ ลูบไล้ไปมาไม่หยุด ทำให้ใบหน้าที่มีผิวพรรณขาวและสวยงามของสาวสวย แทบจะมีน้ำตาไหลออกมา และแทบจะเป็นบ้า!
ผู้เฒ่าชุดดำนี้กำลังลวนลามเธอ แล้วกำลังฝ่าฝืนขีดจำกัดของเธออย่างไม่เกรงกลัว!
และในตอนนี้ ชายวัยกลางคนก็ได้ยินเสียงดังขึ้นอย่างเร่งรีบจากโทรศัพท์บ้านที่ทำจากทองคำแท้ที่อยู่ข้างๆ
ชายวัยกลางคนจึงรับสาย ไม่นาน สีหน้าก็เปลี่ยนไปทันที!
“แกแน่ใจแล้วหรอ? ” ชายวัยกลางคนทำสีหน้าที่อึมครึมแล้วเอ่ยถาม
“ไอ้สวะ! แม้แต่คนๆ หนึ่งยังจับไม่อยู่! ” ผ่านไปไม่นาน ชายวัยกลางคนก็ตวาดด้วยความโมโห สีหน้าโมโหยิ่งนัก
หลังจากวางสายลง ชายวัยกลางคนทำสีหน้าที่เขียวคล้ำ ดูแย่มาก เขาใช้สายตามองไปยังผู้เฒ่า แล้วค่อยๆ พูดขึ้น “เขาหนีแล้ว”
ผู้เฒ่าที่กำลังใช้มือลูบไล้ไปมาไม่หยุด มองได้ยังชายวัยกลางคน แล้วถาม “ใคร? ”
“ไม่ใช่ทีมดูแลความปลอดภัยในประเทศ คือคนที่ทีมดูแลความปลอดภัยในประเทศไปรับที่สนามบิน” ชายวัยกลางคนพูดขึ้น สีหน้าดูหม่นหมองลง
“เขา? แม้แต่คนๆ เดียวยังจับไม่ได้ คนของพวกคุณ ความสามารถในการทำงานไม่โอเครนี่? ” ผู้เฒ่าชุดดำตกตะลึงเล็กน้อย สีหน้าจึงดูไม่พอใจขึ้นมา
ชายวัยกลางคนทำเสียงเย็นชา “หนีไม่พ้นพระหนีไม่พ้นวัดหรอก คนของทีมดูแลความปลอดภัยในประเทศอยู่ในมือของพวกเรา ยังจะกลัวเขาอีกหรอ? ”
“ถ้าเขาคือเบื้องบนส่งมา รู้ว่าถูกคุณจับไป ก็ไปขนกำลังเสริมมาก่อนหรือเปล่า? ” ผู้เฒ่าชุดดำพูดขึ้น “ล็อคดาวน์เมืองเดี๋ยวนี้! ”
…….
ช่วงนี้อากาศหู้ไห่ไม่ดี มีเมฆเยอะ และฝนตกติดต่อกันหนึ่งอาทิตย์ และในตอนนี้ มีเรือนร่างหนึ่ง ปรากฏอยู่ที่ไม่ไกลของบ้านสุดหรูตระกูลตู้ และกำลังเดินไปยังบ้านสุดหรูของตระกูลตู้ด้วยก้าวเท้าใหญ่ๆ
เรือนร่างนี้ปรากฏตัวอย่างแปลกประหลาด…..ชุดคลุมแดงและหน้ากาก……ตอนเขาก้าวเข้ามา ทำให้รู้สึกถึงความกดขี่
“หยุดเดี๋ยวนี้ บ้านตระกูลตู้ บุคคลไม่มีธุระไม่สามารถเข้าไปได้! ” ประตูบ้านสุดหรู มีคนตระกูลตู้ที่ยืนอยู่สองคนแล้วกำลังขวางทางเรือนร่างนี้ไว้
“ฉันไม่ได้เป็นคนที่ไม่มีธุระ ฉันมาตระกูลตู้ มีเรื่องสำคัญ” เรือนร่างสวมใส่หน้ากากคนนั้น กำลังพูดด้วยเสียงแหบพร่า
“มีเรื่องสำคัญอะไร? ” คนในตระกูลตู้คนนั้นโบกมืออย่างไร้ความอดทน แล้วถามขึ้น
“ฆ่าล้างตระกูล” เรือนร่างนั้นพูดด้วยเสียงเรียบ น้ำเสียงนิ่งสงบ ทว่าในความนิ่งสงบนี้ กลับเคล้าด้วยความเลือดเย็นที่ทำให้คนขนลุก!
“ฆ่าล้างตระกูล? ” คนในตระกูลตู้ที่เฝ้าเวรก็ทำสีหน้าที่เกร็งไปเล็กน้อย แล้วแสยะยิ้ม “แกแม่งเป็นคนบ้าที่เพิ่งออกจากโรงพยาบาลบ้าใช่ไหม? แต่งตัวไม่ใช่คนแล้วไม่ใช่ผีแล้วยังมาฆ่าเผ่าพันธุ์ รนหาที่ตาย รีบไสหัวไปเถอะ! ”
คนในตระกูลตู้คนนั้นเหยียดหยามขึ้นอย่างไร้เยื่อใย เท่าที่เขาดูแล้ว เรือนร่างนี้ คือป่วยทางสมอง!
และเรือนร่างนั้นได้ยินคำพูดของคนในตระกูลตู้ จึงนิ่งเงียบไป แล้วยืนอยู่ที่เดิม ไม่ขยับไปไหน เหมือนดั่งหุ่นแกะสลัก
“แม่ง จะให้กูลงไม้ลงมือ ตีไอ้โง่อย่างแกให้พิการ! ”
สุดท้าย คนในตระกูลตู้เห็นเฉินเป่ยไม่ยอมจากไป ดังนั้นจึงโมโห แล้วก่นด่าพลางเดินไปหาเฉินเป่ย แล้วกำลังเตรียมใช้เท้าถีบเฉินเป่ยให้พลิกคว่ำ
และตอนที่ขาที่เขาถีบออก จู่ๆ! เรือนร่างนั้นก็เหมือนฟ้าแลบที่ชกหมัดออกมาหนึ่งหมัด ชุดคลุมยาวสีแดง เรือนร่างนั้นใช้หมัดโจมตีหน้าอกของคนในตระกูลตู้ ทำให้ได้ยินเสียงกระดูกแตก จากนั้นหน้าอกของคนๆ นั้นก็แฟบลงไป แล้วตัวปลิวไปอย่างแรง!
“หยุดเดี๋ยวนี้!
คนของตระกูลตู้อีกคนก็ได้สติกลับมา สีหน้าแปลเปลี่ยนไป แล้วควักปืนและก่นด่าด้วยเสียงเข้ม
และใต้หน้ากาก นัยน์ตาคู่นั้นกวาดมองคนในตระกูลตู้ ทำให้หัวสมองของเขาว่างเปล่าไปทันที
นัยน์ตาที่แดงก่ำ เหมือนดั่งสัตว์ดุร้าย ทำให้เขารู้สึกหวาดกลัวอย่างน่าแปลก!
“ปัง! ”
เสียงปืนดังขึ้นอย่างชัดเจน และกำลังฝ่าผ่านอากาศ กระสุนพุ่งไปยังเฉินเป่ย!
กระสุนมีความว่องไวมาก เหมือนดั่งฟ้าแลบ กลับเคล้าด้วยลมแรงที่เลือดเย็น!
และตอนที่ปืนดังขึ้น เรือนร่างของเฉินเป่ยแวบหลบเหมือนฟ้าแลบ แล้วกำลังกลิ้งอย่างได้มาตรฐานของทักษะการรบ!
“นี่ไม่มีทาง! ” คนในตระกูลตู้ขึงตาโต ใบหน้าเคล้าด้วยความไม่น่าเชื่อ! เขาคิดไม่ถึงจริงๆ ……คิดไม่ถึงว่าหลบกระสุนได้ยังไง?!
เขายังเป็นคนไหม?!
และตอนที่คนๆ นั้นกำลังรู้สึกตกตะลึง เฉินเป่ยจึงทักษะความว่องไว ปรากฏอยู่ตรงหน้าเขาในพริบตา!
“ปัง! ”
คนตระกูลตู้นั้นรู้สึกกระวนกระวายทำตัวไม่ถูก แล้วยิงปืนไม่หยุด เสียงกระสุนก็พุ่งออกมา!
จู่ๆ! ข้อมือของเฉินเป่ยสั่นขึ้น แล้วมีความมืดมัวพุ่งออกมามือของเขา แล้วกำลังพุ่งไปยังกระสุน แค่สามารถเห็นถึงแสงสีดำด้วยตาเปล่าเท่านั้น
“ติ้ง! ”
แสงสีดำเปล่งประกาย แล้วกระสุน กลับถูกแสงสีดำตัดครึ่ง แล้วแตกเป็นสองเสี่ยง!
“ติ้ง! ”
เสียงกระสุนหล่นลงอย่างชัดเจน กระสุนหล่นลงบนพื้น และคนในตระกูลตู้นั้น ยังคงอยู่ที่เดิม แล้วขึงตาโต เขาอ้าปาก หว่างคิ้วยังมีหลุมเลือดหนึ่งรู!