สายเปย์เบอร์หนึ่ง - ตอนที่ 375
บทที่ 375 เสแสร้งอะไรอยู่?
ทันทีที่ท่านผู้อาวุโสไท่ซ่างพูดคำนี้ออกมา ก็เหมือนฟ้าผ่าลงบนดิน ทุกคนที่อยู่ในนั้นทั้งหมดเงียบลงทันที ในห้องส่วนตัวทั้งห้อง ถูกประโยคนี้ของท่านผู้อาวุโสไท่ซ่างทำให้ช็อกไปในทันที
อวี้ย้งเซวียนที่นั่งอยู่หน้าโต๊ะกลม รอยยิ้มบนใบหน้าแข็งค้างไปในทันที ความว่างเปล่า เหมือนถูกแช่แข็งในพริบตานั้น
ท่านผู้อาวุโสที่เหลือได้ยินคำพูดของท่านผู้อาวุโสไท่ซ่าง สีหน้าก็ไม่น่าดูในทันที ราวกับกินแมลงวันตายเข้าไป หัวใจเหมือนกับจะหยุดเต้นไป ณ ตอนนั้น!
บรรยากาศเงียบงันขึ้นมาทันที ท่านผู้อาวุโสไท่ซ่างถอนหายใจหนักหน่วงออกมาเฮือกหนึ่ง สีหน้ามืดมน พลันดื่มไวน์หมดแก้วในรวดเดียว จากนั้นก็วางแก้วไวน์ลงบนโต๊ะเสียงดัง “ปัง”
ท่านผู้อาวุโสไท่ซ่างกวาดตามองคนที่เหลือ กล่าวช้าๆ ว่า “ในตอนที่ฉันประมือกับเขา ก็พบว่า เขาไม่เพียงแต่เป็นศิลปะการต่อสู้อู่ตัง ยังเข้าใจในความสำเร็จของวิทยายุทธ์ ลึกกว่าฉันเสียอีก นอกจากคนสำนักอู่ตัง ฉันก็ไม่มีคำอธิบายอื่นอีกแล้ว”
ท่านผู้อาวุโสไท่ซ่างกวาดตามองอวี้ย้งเซวียน สายตาเยือกเย็นดุจน้ำแข็งตกไปอยู่บนร่างของอวี้ย้งเซวียน ถามเบาๆ ว่า “แกไม่ได้บอกว่าเขาไม่ได้เป็นเรียนเรื่องพวกวิทยายุทธ์หรอกรึ?”
อวี้ย้งเซวียนรู้สึกว่าสายตาที่ท่านผู้อาวุโสไท่ซางมองตนเองนั้น หัวใจเต้นกระโจนโลดโผนออกมาทันที วินาทีเดียวท่ามกลางความกดดันที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เขาได้แต่กลืนน้ำลายลงคอ จนรู้สึกได้ว่าขนหัวลุกตาม!
ท่านผู้อาวุโสไท่ซ่างพูดอย่างนี้แล้ว สายตาของผู้อาวุโสท่านอื่นๆ ก็ค่อยๆ ตกไปบนร่างของอวี้ย้งเซวียนเช่นกัน
“ท่านผู้อาวุโส ผมไม่รู้มาก่อนจริงๆ ว่าเขาจะเป็นศิลปะการต่อสู้อู่ตังด้วย…” อวี้ย้งเซวียนอธิบายอย่างรวดเร็ว สีหน้าของท่านผู้อาวุโสไท่ซ่างในขณะนี้ไม่น่าดูอย่างยิ่ง อวี้ย้งเซวียนถูกท่านผู้อาวุโสไท่ซ่างจดจ้องอยู่ตลอด แรงกดดันมหาศาลสายหนึ่งแทบจะทำให้อวี้ย้งเซวียนหายใจไม่ออก!
หลังจากถูกท่านผู้อาวุโสไท่ซ่างมองอวี้ย้งเซวียนอยู่ครู่หนึ่ง ทำให้หน้าผากของอวี้ย้งเซวียนผุดเหงื่อเย็น ทั่วทั้งร่างเริ่มสั่นขึ้นมา
หลังจากนั้นชั่วครู่ ในที่สุดท่านผู้อาวุโสที่ครุ่นคิดอยู่นานก็กล่าวออกมา “ท่านซู เรื่องนี้อวี้ย้งเซวียนย่อมไม่รู้เรื่องแน่นอน กล้องวงจรปิดของโรงแรมในช่วงนี้พวกเราก็เห็นกันแล้ว เห็นได้ชัดว่าไม่มีความสามารถด้านอู่ตังเลย จนต้องพูดได้ว่าเขาปกปิดไว้ได้ดีมาก”
ผู้อาวุโสไท่ซางถึงได้เบนสายตาไปจากตัวของอวี้ย้งเซวียน จนทำให้อวี้ย้งเซวียนปลดปล่อยที่ต้องแบกรับความกดดันเอาไว้ จนถอนหายใจออกมา
“พลังที่แท้จริงของเขาอยู่เหนือกว่าฉันมาก แล้วทำไมเขาจะได้หนีไปด้วย?” ผู้อาวุโสไท่ซางขมวดคิ้วไว้ พร้อมทั้งอาการคิดหนัก
“มีพลังที่แข็งแกร่งแบบนี้แล้วยังไงล่ะ ครั้งนี้ที่พวกเรามาที่เยี่ยนจิง ก็เพื่อมาลงขันฆ่าล้างแค้นมัน!” หนึ่งในผู้อาวุโสกล่าวออกมา
ผู้อาวุโสท่านนี้พูดออกมา พลันได้รับการสนับสนุนจากผู้อาวุโสท่านอื่นๆ ด้วย
“ถึงแม้ว่าพวกเราจะหายไปหนึ่งคน แต่ว่าท่านซูยอมร่วมด้วย ก็เหมือนได้รับผลลัพธ์ที่ดี” ผู้อาวุโสอีกคนพูด
หลายคนเริ่มพูด จนทำให้ความกล้าเพิ่มมากขึ้น
อวี้ย้งเซวียนเห็นว่าอารมณ์ของผู้อาวุโสเหล่านี้เริ่มปะทุขึ้นเรื่อยๆ พลันยิ้มให้อย่างเก้อเขิน “ผู้อาวุโสทุกท่านไม่ต้องรีบ อย่างน้อยพวกเราต้องหาไอ้หมอนั่นที่ไม่รู้จักที่ต่ำที่สูง ให้เจอเสียก่อน แค่รู้ว่ามันหนีไปอยู่ที่ไหน ถึงจะสามารถจัดการกับมันได้”
ท่ามกลางบรรยากาศที่กำลังครึกครื้นอยู่นั้น เวลานั้นเอง ลูกน้องคนหนึ่งก็วิ่งเข้ามาในห้องรับรอง
“รายงาน—”
“มีอะไร?” อวี้ย้งเซวียนกำลังพูดคุยหยอกล้อกับเหล่าผู้อาวุโส แต่ดันมาถูกลูกน้องพูดดักคอเอาไว้แทน จนทำให้สีหน้าไม่พอใจอย่างมาก
ลูกน้องของอวี้ย้งเซวียนคนนั้นเหลือบตามองผู้อาวุโสทุกท่าน จนเกิดอาการลังเลขึ้นมา จนอยากจะกระซิบข้างหูอวี้ย้งเซวียนแทน
ทว่าอวี้ย้งเซวียนพูดออกมาตรงๆ เลย “มีอะไรก็พูดมาได้เลย ผู้อาวุโสที่นั่งอยู่ที่นี่เป็นคนในตระกูลอวี้ของฉัน มีอะไรที่ต้องปิดบังพวกเขากัน?”
ลูกน้องคนนั้นมองผู้อาวุโสเหล่านั้นอีกรอบ จนต้องพูดความจริงออกมา “เมื่อครู่ข้าน้อยเห็นเอ๋อตงเฉินคนนั้นกลับมาที่โรงแรมพร้อมกับหลีชิงเยียน”
“เพล้ง!”
มืออวี้ย้งเซวียนที่ถือแก้วไว้ในมือสั่นทันที แก้วไวน์นั้น หล่นลงพื้น จนแตกละเอียด กระจัดกระจายไปทุกทิศทุกทาง จนเปรอะเปื้อนกางเกงของตนเอง
ส่วนสีหน้าของผู้อาวุโสเปลี่ยนไปทันที จนเห็นได้ชัด
สีหน้าของผู้อาวุโสไท่ซางเคร่งขรึมลงทันที พลันหันไปทางลูกน้องคนนั้น แล้วถามกลับ “แกมั่นใจไหม?”
ลูกน้องคนนั้นพยักหน้า จนหัวใจเต้นโครมคราม พร้อมทั้งพยักหน้าไม่หยุด “ผระผมเห็นเต็มสองตา ไม่มีทางมองผิดไป”
“เป็นไปได้ยังไง… สองวันก่อนมันไม่ได้อยู่ที่เยี่ยนจิง ถ้าอยู่ในเยี่ยนจิง ฉันก็ต้องรู้ข่าวแล้ว มันกลับมาหาหอกอะไร!” อวี้ย้งเซวียนกัดฟันพูด
ส่วนผู้อาวุโสไท่ซางที่นั่งอยู่ตรงนั้น สีหน้าเงียบนิ่ง ดวงตาฉายความเย็นยะเยือกออกมา “ดีมาก มันกลับมารนหาที่ตาย งั้นก็ให้มันสมหสวัง!”
ผู้อาวุโสไท่ซางย่ำเท้าลงจากนั้นก็ลุกขึ้นยืน บนตัวของเขา รังสีอำมหิตเจตนาฆ่าคน แผ่กระจาย ได้ฟุ้งไปเรื่อยๆ จนปกคลุมทั้งห้อง
“มันกล้ากลับมา งั้นพวกเราก็ให้มันมาแต่ไม่มีทางกลับไปได้! มันไม่ตาย ตระกูลอวี้ก็นอนตายตาไม่หลับ!” แววตาของผู้อาวุโสไท่ซางแผ่รัศมีที่แน่วแน่ เย็นยะเยือกดั่งป่าลึกจนน่าหวาดกลัว!
ด้านนอกของโรงแรม ท้องฟ้ามืดครึ้ม ทว่าคำพูดของผู้อาวุโสไท่ซาง มันแผ่ออกไปนอกหห้อง จนทำให้ท้องฟ้าอันดำมืดอยู่แล้วยิ่งกดหนักกว่าเก่า ขนาดพระจันทร์ครึ่งเสี้ยว ยังได้รับผลความหนาวเย็นดั่งฤดูเหมันต์ที่ต้องการฆ่าคนปกคลุมไปด้วย!
…………
อีกห้องหนึ่งในโรงแรมเดียวกัน เฉินเป่ยจามอยู่หลายครั้ง จนต้องบ่นออกมา “แม่ง ไอ้เหี้ยตัวไหนมันกำลังบ่นคิดถึงกูวะ?”
เฉินเป่ยลูบจมูกไปมา พร้อมทั้งบ่นถึงเรื่องศัตรูของตนเองที่อยู่ต่างประเทศ จนทำให้ตนเองต้องมานั่งจามไม่หยุด
เขากำลังสงสัยว่า ถ้าให้Dragon Prison เริ่มขยับตัวแล้ว เพื่อที่จะได้ประกาศศักดาเล็กน้อย เพื่อที่ทำให้คนบางคน สนใจเรื่องตนเองดีไหม
เวลานั้นเอง โทรศัพท์ของเฉินเป่ยพลันส่งเสียงร้องดัง
เฉินเป่ยควานหาโทรศัพท์ หลังจากที่รับสายแล้ว ก็ยิ้มให้ทันที “ชิงเยียน มีเรื่องอะไรก็มาคุยกันที่ห้องมันก็จบแล้วนี่ ทำไมต้องโทรศัพท์มาหาให้เปลืองค่าโทรศัพท์ด้วย”
เสียงปลายสาย พลันส่งเสียงไพเราะเสนาะหูดังขึ้นมา “หายไปจากงานการพนันเพชรพลอยไม่กี่วัน สัญญาปากเปล่าของคุณ เหมือนว่าจะไม่ได้เป็นความจริงเลย”
เฉินเป่ยตะลึง จนคิดออกว่า ก่อนหน้านี้ตนเองเคยตบหน้าอกแถมพูดโม้ ต่อหน้าหลีชิงเยียนเอาไว้
“หลายวันมานี้หัวหน้าสมาคมจางได้รับเงินห้าสิบล้านไปจากบริษัทตระกูลหลีกรุ๊ป….เป้าหมายเล็กๆ ของคุณ เมื่อไหร่จะได้เห็นสักที?” เสียงปลายสาย เป็นเสียงท่านประธานเทพธิดาที่มากับการดูถูกเยาะเย้ย
หัวคิ้วของเฉินเป่ยเลิกขึ้นทันที หลีชิงเยียนกำลังลบหลู่เขาอย่างแจ่มแจ้งอยู่นี่! เวรแล้วนี่มันไม่ใช่การยั่วยุอยู่หรอกเหรอ?!
ช่างแม่งไปสิ ชื่อเสียงดังกระฉ่อนไปทั่ว แถมเป็นราชาหลงผู้ทรงพลังที่สุดในโลก แถมมีทรัพย์สินมหาศาล ในมือมีบริษัทต่างชาติอันทรงอิทธิพลอีกมากมาย ทว่าเวลานี้ดันมาโดนท่านประเทศสาวคนหนึ่งพูดเยาะเย้ยใส่ แถมวันหนึ่งยังหาเงินเข้ากระเป๋าไม่ถึง 100 ล้านด้วยซ้ำ!
“คุณวางใจได้เลย สองสามวันนี้ ฉันจะให้คำตอบคุณ” เฉินเป่ยค่อยๆ พูด
หลังจากที่เฉินเป่ยพูดจบแล้ว ก็ไม่ได้พูดอะไรต่อกับหลีชิงเยียน จากนั้นก็กดวางสายทันที แล้วยืนอยู่ตรงขอบเตียง แววตามองออกไปด้านนอกหน้าต่างไปเรื่อยๆ ไม่มีที่สิ้นสุด
ทว่าหลีชิงเยียนที่อยู่ห้องข้างๆ เมื่อได้ยินว่างปลายเสียงกำลังพักสายอยู่ ใบหน้าพลันตกตะลึงทันที ผ่านไปสักพักเธอถึงได้สติกลับมา ดวงตาทอประกายความโกรธแค้นให้เห็นอยู่ในเวลานี้ …. เฉินเป่ยกล้าตัดสายเธอทิ้ง! นับวันยิ่งจองหองขึ้นเรื่อยๆ หน้าด้านหน้าทนจริงๆ
หลีชิงเยียนส่งเสียงพึมพำในลำคอ จากนั้นก็กอดอก ริมฝีปากเชอร์รี่อ่อนๆ อันงดงาม พลันกระตุกรอยยิ้มหยอกล้อขึ้นมาแทน จนเป็นรอยยิ้มที่เซ็กซี่จนน่ามอง
ราวกับว่าเธอคิดเรื่องอะไรออก ใบหน้างดงามพลันเกิดรอยยิ้มได้ใจอะไรสักอย่างออกมา
เธอคอยรอคอย ที่จะได้เห็นเฉินเป่ยถูกตบหน้าอย่างจัง ถึงเวลานั้น จะดูว่าอีตาหมอนี่จะจัดการยังไง!