สายเปย์เบอร์หนึ่ง - ตอนที่ 382
บทที่382 จิตใจดั่งเหล็กกล้า!
เยี่ยนจีน บ้านตระกูลหลี
ตอนนี้ รถเก๋งคันหนึ่งขับมาจอดหน้าบ้านตระกูลหลีอย่างเร็ว ประตูรถเปิดออก ลูกน้องคนหนึ่งลงจากรถอย่างเร็ว เดินเข้าบ้านตระกูลหลี เดินตลอดไปจนถึงด้านในบ้าน มองแผ่นหลังหนึ่งและคุกเข่าลงไปทันที
“คุณชายหลี ผมมีเรื่องสำคัญมารายงานครับ” ลูกน้องคนนั้นดูจะเคารพมาก
“พูดมา” หลีเช่าเทียนพูดอย่างใจเย็น ยากจะฟังออกว่าในน้ำเสียงนั้นดีใจหรือเศร้าใจ นั่นเป็นเสียงที่ไม่มีอารมณ์ใดๆเลย
“เมื่อกี้สมาคมการพนันเพชรพลอยเกิดเหตุจลาจลครั้งใหญ่ครับ” ลูกน้องพูดไปตามความจริง “ผมไปตรวจสอบมาแล้ว เฉินเป่ยกับท่านอาวุโสตระกูลอวี้ ต่างก็อยู่ในนั้นทั้งหมดเลยครับ”
“ฉันรู้แล้ว” หลีเช่าเทียนพูดอย่างใจเย็น และยังคงไม่มีอารมณ์ใดๆอีกเหมือนเดิม
ในตอนที่ลูกน้องคนนั้นกำลังจะออกไป ทันใดนั้นก็มีเสียงหนึ่งดังจากด้านนอกเข้ามา “มีเรื่องมารายงานครับ”
ลูกน้องอีกคนรีบเดินเข้ามาในบ้านตระกูลหลี พูดกับหลีเช่าเทียนว่า “คุณชายหลี เมื่อกี้คุณชายอวี้หย่งเซวียนจากตระกูลอวี้โทรมาว่า…ท่านอาวุโสไท่ซ่างของตระกูลอวี้พาคนไปฆ่าเฉินเป่ยกัน อาจจะมีเหตุอะไรเกิดขึ้น หวังว่าเราจะช่วยตระกูลอวี้ปกปิด และเก็บเรื่องนี้ไว้ครับ”
“รู้แล้ว” หลีเช่าเทียนพยักหน้า และพูดไปว่า “ถ้าเดี๋ยวมีสายจากตำรวจเยี่ยนจีน รู้ว่าต้องทำยังไงนะ?”
“ทราบครับ ผมจะทำเหมือนครั้งก่อน บอกคำพูดของท่านไป ให้พวกเขาไม่ต้องสนใจเรื่องนี้ ตระกูลหลีจะจัดการเรื่องนี้เอง พวกเขาจะไว้หน้าท่านแน่นอนครับ”
หลีเช่าเทียนหัวเราะ “ไว้หน้าฉันงั้นเหรอ คงไม่ไว้หน้าเยอะขนาดนั้นหรอกนะ ถ้าไม่ใช่เพราะอวี้หย่งเซวียนอยากจะฆ่าเฉินเป่ย ฉันอยากจะรู้ความสามารถที่แท้จริงของนักเลงนั่น ฉันจะยอมให้คนของตระกูลอวี้มาทำเรื่องแบบนี้ในพื้นที่ของฉันได้ยังไง ครั้งนี้ถ้าไม่สามารถวัดความสามารถของเขาได้ งั้นก็เปิดศึกกับตระกูลอวี้แล้วกัน”
“ครับ” ลูกน้องคนนั้นตอบ ทันใดนั้น เขาเหมือนนึกอะไรขึ้นมาได้ มองไปที่หลีเช่าเทียน ถามว่า “คุณชายหลี งั้นทางด้านเจ้าบ้านละครับ”
หลีเช่าเทียนสีหน้าปกติ “เจ้าบ้านปกติก็ยุ่งมากแล้ว เรื่องเล็กแค่นี้ ก็ไม่ต้องไปรบกวนเขาแล้วล่ะ”
พอลูกน้องคนนั้นออกไปแล้ว หลีเช่าเทียนก็แสยะยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์……
และในตอนนี้เอง ภายในสมาคมการพนันเพชรพลอย เต็มไปด้วยคนตาย กลิ่นคาวเลือดฟุ้งไปทั่ว เฉินเป่ยจับมีดหลงหยาเอาไว้ มองท่านอาวุโสไท่ซ่างด้วยสีหน้าเรียบเฉย
ร่างกายของท่านอาวุโสไท่ซ่างเย็นเฉียบไม่รู้ว่าเป็นตั้งแต่เมื่อไหร่ นอนอยู่ท่ามกลางเลือดเงียบๆ ใบหน้าของเขายังคงไม่อยากจะเชื่ออยู่ และยังมีความกลัวอย่างมาก!
คอของเขา มีรอยเลือดที่ชัดเจน เห็นได้ว่าถูกมีดที่แหลมคมปาดเอา
เฉินเป่ยยืนอยู่ตรงหน้าท่านอาวุโสเงียบๆ มองดูท่านอาวุโสไท่ซ่างสักพัก ต่อมาก็กลับหลังหัน เดินไปทางประตูสมาคมการพนันเพชรพลอย
หน้าประตูสมาคมการพนันเพชรพลอย รถเก๋งสีดำจอดต่อกันยาวเป็นทอดๆ จอดอยู่ริมถนน คนของตระกูลอวี้ที่เป็นเจ้าของรถเก๋ง ต่างยืนอยู่ใต้ต้นไม้ แต่ละคนกำลังสูบบุหรี่และพูดคุยกัน
และในตอนที่เฉินเป่ยเดินออกมา คนพวกนั้นก็มองไปที่เฉินเป่ยทันที และทุกคนก็ต่างอึ้งกันไปหมด!
สีหน้าของคนตระกูลอวี้แข็งทื่อหมด พวกเขาอึ้งมาก พวกเขาจ้องมองไปที่เฉินเป่ยอย่างนั้น สีหน้านั้นอย่างกับเจอผีไม่มีผิด!
เป็นไปได้ยังไง! ท่านอาวุโสที่พวกเขาพามา เพื่อฆ่าเฉินเป่ยโดยเฉพาะ……สุดท้ายพวกเขาไม่เห็นท่านอาวุโสออกมา กลับเห็นเฉินเป่ยเดินออกมาแทน!
สายตาของคนตระกูลอวี้มองไปที่ตัวเฉินเป่ย เขาในตอนนี้ เทียบกับเมื่อก่อนแล้ว ดูจะหมดแรงแล้ว ผมเพร่ารุงรังเสื้อผ้ายุ่งเหยิง ปากยังคาบบุหรี่มวนหนึ่ง ทั้งตัวเต็มไปด้วยกลิ่นบุหรี่ ดูจากทรงและโทรมมาก
คนตระกูลอวี้พวกนั้นมองหน้ากัน ทันใดนั้น เฉินเป่ยกวาดสายตามอง เดินไปที่รถของคนตระกูลอวี้คนหนึ่ง
คนพวกนั้นอึ้งเล็กน้อย รีบวิ่งเข้าไป ขวางทางเฉินเป่ยไว้
“ถอยไป”เฉินเป่ยกวาดสายตามองคนพวกนั้น และพูดอย่างเรียบเฉย
“ท่านอาวุโสของพวกเราล่ะ?” คนตระกูลอวี้คนหนึ่งมองเฉินเป่ยด้วยสายตาที่เย็นชา น้ำเสียงดูไม่เป็นมิตร พูดด้วยน้ำเสียงที่โมโห
“พวกนายตาบอดเลยไง ไม่เข้าไปดูเองล่ะ?” เฉินเป่ยมองคนพวกนั้น และพูดออกมา
“ฉันถามนายอยู่นี่ไง ท่านอาวุโสพวกเราไปไหนแล้ว” หนึ่งคนในนั้นก้าวไปข้างหน้า และถามด้วยน้ำเสียงเย็นชา
คนตระกูลอวี้คนนั้นมองเฉินเป่ยด้วยสายตาเย็นชา และเต็มไปด้วยสายตาที่ดูถูก
เขาไม่เอาเฉินเป่ยไว้ในสายตาด้วยซ้ำ เขาสนใจแค่ว่า ท่านอาวุโสทำไมยังไม่ออกมาอีก คนที่ออกมา ทำไมเป็นเฉินเป่ย
เฉินเป่ยมองคนนั้น เขาหรี่ตาลง พูดว่า “ทำไมฉันต้องบอกนายด้วย?”
“นายกล้าดียังไง มาพูดแบบนี้กับคุณชายอวี้ของพวกเรา ยังอยากจะมีชีวิตกลับไปอีกไหม!” อีกคนก็รีบพูดขึ้น
เฉินเป่ยมองไปที่ลูกน้องคนนั้น ขี้เกียจทะเลาะกับคนพวกนี้แล้ว ก็จึงพูดว่า “ไสหัวไป”
“รนหาที่ตายเองนะ!”
ลูกน้องคนนั้นดูจะโกรธมาก เขาตะคอกเสียงดัง และล้อมตัวเฉินเป่ยไว้!
มือของเฉินเป่ยกำลังจะยื่นมือไปเปิดประตูรถเก๋ง มีแสงหนึ่งกระทบมา!
ลูกน้องคนหนึ่งในมือจับมีดไว้ แสยะยิ้มเย็นชา โจมตีไปทางเฉินเป่ย!
และในตอนที่มีดในมือของลูกน้องคนนั้นกำลังจะฟันไปที่ข้อมือของเฉินเป่ย ทันใดนั้นเอง สายตาของเฉินเป่ยก็แหลมคมทันที พริบตาเดียว เฉินเป่ยเตะออกไปเหมือนดั่งสายฟ้าผ่า!
“พลั่ก!”
เฉินเป่ยเตะไปที่อกของคนตระกูลอวี้คนนั้นทันที พริบตาเดียวเขาก็ถูกเตะออกไปไกล น่าจะสามสิบเมตรได้ ร่างกายสั่นเทา เจ็บปวดอย่างมาก!
คนที่เหลือ สองตาอึ้งตะลึง เบิกตาโพลงโต ทำเหมือนกับว่าเห็นผี! สายตาเต็มไปด้วยความกลัว ไม่อยากจะเชื่อเลยจริงๆ!
เฉินเป่ยตั้งแต่เริ่มจนจบ ก็เตะไปแค่ครั้งเดียว คนของตระกูลอวี้พวกเขา ก็แทบจะพิการหรือตายได้ทันที!
เจ้าหมอนี่ ยังเป็นคนอยู่ไหม?
เฉินเป่ยมองดูคนตระกูลอวี้ที่ยังคงอยู่ในอาการตกใจอย่างเย็นชา และพูดว่า “พวกนายยังไม่ไสหัวไปอีก หรือจะให้ฉันช่วยพวกนายหรือไง?”
คนของตระกูลอวี้พวกนั้น สองขาสั่นเทา พอได้ยินเฉินเป่ยพูดแบบนี้ ก็รีบกลับหลังหัน รีบวิ่งไปทางคนที่พึ่งโดนเตะออกไปเมื่อกี้
ไม่เพียงเท่านี้ พอพวกเขาพยุงคนที่โดนเตะขึ้นมา เฉินเป่ยพูดเสียงดังเหมือนดั่งเสียงคำรามของปีศาจว่า “บอกคุณชายอวี้ของพวกนายด้วยว่า นี่เป็นแค่การเตือนครั้งแรกของฉัน ถ้าเขาไม่บอกว่าใครเป็นคนปกป้องเขา……ฉันจะทำให้ทั้งตระกูลอวี้ต้องชดใช้ในเรื่องนี้!”
พูดจบ เฉินเป่ยชกไปที่กระจกรถ เปิดประตูออก หลังจากที่ขึ้นไปนั่งบนรถเก๋งแล้ว ไม่นานก็ขับออกไปทันที
จนกระทั่งเฉินเป่ยจากไปไกลแล้ว สุดท้ายหายไปไม่เห็นอีก คนตระกูลอวี้พวกนั้นถึงรวบรวมความกล้า เดินเข้าสมาคมการพนันเพชรพลอย
พอท่านอาวุโสพาท่านอาวุโสทั้งสิบสามมาก่อเรื่อง เขตพื้นที่พนันต่ำสุดของสมาคมการพนันเพชรพลอย พื้นที่ใหญ่ว่างเปล่า โต๊ะตั่งเก้าอี้ล้มทั้งหมด ภาพตรงหน้าอนาถมาก เหมือนผ่านสงครามศึกครั้งใหญ่มา
คนตระกูลอวี้รวบรวมความกล้าเดินตามรอยร้าวไป หัวใจเต้นตึกตักไม่หยุด!
ทันใดนั้น คนตระกูลอวี้เดินช้าลง มองเห็นภาพตรงหน้า ใจกระตุกอย่างแรง เหมือนจะหยุดเต้นไปทันที!
พวกเขาเห็นภาพเลือดตรงหน้า……ท่านอาวุโสที่พวกเขานับถือ ตายอย่างอนาถข้างถนน!
“ท่านอาวุโส……” คนหนึ่งในตระกูลอวี้ก้าวเท้าออกมา เดินไปทางศพของท่านอาวุโส สีหน้าซีดขาว สองขาสั่นเทา!
พวกเขาไม่คิดเลยว่า ท่านอาวุโสที่เป็นความแข็งแกร่งของตระกูลอวี้ กลับมาตายแบบนี้ ขนาดท่านอาวุโสไท่ซ่างก็ไม่เว้นเลย!
“คนร้าย……คือใคร!” หนึ่งในคนตระกูลอวี้พูดขึ้นเสียงสั่น รู้สึกหัวชาไปหมด
“เขา นอกจากเขาแล้ว ยังมีใครอีก!” คนตระกูลอวี้พูดขึ้นอีกคน
คนตระกูลอวี้ที่พูดขึ้นนั้น ทำเอาทุกคนขนลุกกันไปหมด! พวกเขาพอนึกถึงตอนที่เข้าใกล้เฉินเป่ย ก็รู้สึกขนลุกขึ้นมา!
โดยเฉพาะก่อนหน้านั้นคำพูดที่พูดไม่ดีต่อเฉินเป่ย……สีหน้าซีดกว่าเดิมอีก และน่ากลัวมากอีกต่างหาก!
ทั้งสองขาสั่นอย่างควบคุมไม่ได้ ร่างกายเหมือนตกลงไปในลานน้ำแข็ง!
“เขา ทำไมถึงแข็งแกร่งแบบนี้ได้!” หนึ่งในคนตระกูลอวี้พูดขึ้นเสียงสั่น เขารับไม่ได้เลยจริงๆ นักเลงกระจอกก่อนหน้านั้น กลับมีความสามารถที่น่ากลัวเช่นนี้เชียวเหรอ ฆ่าท่านอาวุโสทั้งสิบสี่คนแล้ว กลับเดินออกไปเหมือนไม่มีเรื่องอะไรเกิดขึ้นได้ยังไง……ไม่เห็นอารมณ์ใดๆบนสีหน้าเขาเลย สงบจนน่ากลัวมาก!
…………
หน้าประตูโรงแรม รถเก๋งคันหนึ่งขับมาจอดช้าๆ เปิดประตูรถออก มีคนหนึ่งเดินออกมาจากรถ เดินเข้าโรงแรมไปอย่างสงบ
เฉินเป่ยสวมเสื้อกันหนาวใหญ่ไว้ ปิดเสื้อด้านหลังที่เต็มไปด้วยเลือด สองมือยัดเข้ากระเป๋ากางเกง จากภายนอกดูสีหน้าเขาไม่ออกเลย รู้สึกแค่ว่าสองมือของเฉินเป่ยใส่ไว้ในกระเป๋า ดูทรงนับเลง ดูแล้วเหมือนนักเลงกระจอกที่น่าหมั่นไส้
พอกลับมาถึงห้องของโรงแรม เฉินเป่ยถอดเสื้อกันหนาวและเสื้อเชิ้ตออก ร่างกายเปลือยเปล่า เดินตรงเข้าห้องอาบน้ำไป
ภายในห้องอาบน้ำ กระจกบานใหญ่ หุ่นแข็งแรงมีกล้ามเนื้อเป็นมัดๆของเขา ยังมีรอยแผลใหญ่ที่น่าตกใจ และเห็นได้อย่างชัดเจนอยู่
เฉินเป่ยมองตัวเองในกระจกสักพัก ทันใดนั้นก็กลับหลังหัน เผยรอยแผลหลายรอยที่แผ่นหลังที่น่ากลัวกว่าอีก!
รอยแผลใหญ่แต่ละที่แทบจะเต็มหลังเฉินเป่ยอยู่แล้ว ตั้งแต่ไหล่จนถึงด้านล่าง…แต่ละรอบแผลลึกมาก เลือดไม่รู้ว่าไหลออกเท่าไหร่แล้ว และยังเห็นกระดูกขาวรางๆอีก