สายเปย์เบอร์หนึ่ง - ตอนที่ 384
บทที่384 ตระกูลหลีปิดปาก!
“ไป ไปขวางเขาไว้ ใช้ทุกวิถีทาง ขวางเขาเอาไว้ให้ได้!” ทันใดนั้น อวี้หย่งเซวียนตั้งสติได้ ก็ตะโกนสั่งด้วยสีหน้าซีดเซียว
“รีบออกจากโรงแรม พาฉันไปสนามบิน ออกจากเยี่ยนจีน เดี๋ยวนี้!” อวี้หย่งเซวียนตะโกนสั่ง
“ครับ!” ลูกน้องตอบกันทีละคน และพอพวกเขาพุ่งออกจากห้อง ในตอนนี้เอง ประตูห้องเหมือนมีพลังหนึ่งผลักออกอย่างแรง!
นาทีต่อมา มีเงาหนึ่งคล้ายกับระเบิด พังประตูเข้ามาทั้งอย่างนั้น! ทำเอาคนตระกูลอวี้ที่กำลังจะออกไปทำตามคำสั่งของอวี้หย่งเซวียน!
“เผิ้ง!”
ร่างนั้นกระทบลงพื้นอย่างแรง ดูท่าจะไม่ไหวแล้ว!
เขารีบคลานลุกจากพื้นขึ้นมา ตัวและหน้าระบมไปหมด บวมจนคล้ายหน้าหมูแล้ว!
“คุณชายอวี้ รีบหนีครับ!” พอคนคนนั้นลุกขึ้น ก็มองไปที่อวี้หย่งเซวียนที่ตอนนี้สีหน้าดูแย่มาก เขาออกมาตะโกนอย่างหวาดกลัว
“เผิ้ง!” พอเขาพูดจบ ก็มีอีกคนลอยเข้ามา กุมหน้าอกล้มลงพื้นไป ร่างกายสั่นเทา เขาพยายามลุกขึ้นมา แต่ทำยังไงก็ทำไม่ได้!
อวี้หย่งเซวียนเห็นแบบนี้แล้ว ม่านตาหดลง ตัวสั่นเทาไปหมด!
และในตอนที่สองคนนี้ลอยเข้ามา อวี้หย่งเซวียนรู้จักสองคนนี้ พวกเขาสองคนเป็นการ์ดสองคนที่เฝ้าหน้าประตูเขา สุดท้ายกลับไม่ได้เรื่องแบบนี้ ถูกคนเตะเข้ามาได้ยังไงกัน!
อวี้หย่งเซวียนเงยหน้าขึ้น จ้องมองไปที่ประตูห้อง ใจเขาเต้นไม่เป็นจังหวะ มีความรู้สึกทำอะไรไม่ได้ในชั่วขณะ!
บอดี้การ์ดของตัวเองขัดขวางเขาไม่ได้เลยด้วยซ้ำ! ขนาดท่านอาวุโสยังตายด้วยน้ำมือของเขา! ทำไมเขาแข็งแกร่งแบบนี้กันนะ
ตอนแรกอวี้หย่งเซวียนยังคิดว่าเฉินเป่ยเป็นแค่นักเลงที่ต่อสู้เก่งเล็กน้อยเท่านั้น แต่ตอนนี้ เฉินเป่ยแสดงความสามารถที่แท้จริงของตัวเองออกมา ทำเอาอวี้หย่งเซวียนไม่อยากจะเชื่อเลย!
เฉินเป่ยเปิดเผยความสามารถที่เก็บซ่อนไว้ ทำเอาอวี้หย่งเซวียนต้องเกิดความสิ้นหวัง! ใจสั่นไม่หยุด!
ท่านอาวุโสตระกูลอวี้ที่แข็งแกร่งที่สุด สุดท้ายก็ถูกเฉินเป่ยสังหารไปจนหมด!
ยิ่งไปกว่านั้น ตอนนี้เฉินเป่ยยังมาหาเขาอีกด้วย!
แต่เขาเป็นถึงคุณชายตระกูลอวี้! ในเยี่ยนจีน กลับต้องมาตกอยู่ในสถานการณ์แบบนี้ได้!
สีหน้าอวี้หย่งเซวียนซีดขาว เขาจ้องมองไปที่หน้าประตู ร่างกายไม่มั่นคง!
เขายืนไม่ไหวแล้วจริงๆ สุดท้ายยังต้องมีคนตระกูลอวี้คอยประคองเขาเอาไว้ ให้เขายืนนิ่งๆได้
“ตึกๆๆ……”
เสียงเท้าเดินดังขึ้นตรงทางเดินเท้า อวี้หย่งเซวียนใจเต้นตึกตัก เสียงรองเท้ากระทบพื้น เป็นเสียงที่ชัดเจนมาจากทางเดิน ดังเข้ามาถึงภายในห้อง!
เสียงติดต่อกันแบบนี้ เป็นเหมือนกับเสียงจอมมาร ทำเอาอวี้หย่งเซวียนหนังหัวชาไปหมด!
ทันใดนั้น ประตูห้องก็มีร่างหนึ่งปรากฏขึ้น เป็นร่างที่อวี้หย่งเซวียนคุ้นเคยดี ถ้าเป็นเมื่อก่อน อวี้หย่งเซวียนคงจะมองเฉินเป่ยอย่างดูถูก และเหยียดหยาม
แต่ว่าอวี้หย่งเซวียนในตอนนี้ ไม่กล้าทำแบบนั้นเลย! สองขาเขาสั่นพั่บๆ มองดูเฉินเป่ย แม้จะพยายามทำหน้านิ่งไม่กลัวอะไร แต่ใจเขาก็เต้นตึกตักไม่หยุด สองขายังเริ่มอ่อนระทวยลงอีก!
อวี้หย่งเซวียนในเมื่อก่อนเป็นเด็กที่ไม่รู้เรื่องอะไร ก็ต้องหยิ่งผยองเป็นธรรมดา แต่ตอนนี้ ทุกอย่างเปลี่ยนไปแล้ว ท่านอาวุโสทั้งสิบสี่ที่คอยสนับสนุนเขา ก็ยังต้องมาตายในมือเฉินเป่ย ทำให้เขาเสียความมั่นใจที่จะสู้กับเฉินเป่ยอีก!
“ให้พวกเขาไสหัวออกไป!” อวี้หย่งเซวียนกวาดสายตามองคนตระกูลอวี้ที่กอดขาตัวเองไว้ และพูดอย่างเรียบสงบ
คนตระกูลอวี้พวกนั้นที่เห็นเฉินเป่ย หน้าก็ซีดเผือดไปทันที และเข้าใจความหมายของอวี้หย่งเซวียนได้ในทันที จากนั้นก็รีบวิ่งออกไป ยิ่งไปกว่านั้นก่อนหน้านี้ในการพนันเพชรพลอยพวกคนที่จะลงมือกับเฉินเป่ย ก็หนีออกไปเร็วกว่าใครอื่น
ให้ตายสิเหมือนกับจอมมารเป็นบ้า! ยมทูตตัวจริง! พวกเขาจะกล้าได้ยังไงกัน!
พวกเขาตอนนี้รู้สึกเสียใจเป็นอย่างมาก ถ้าพวกเขารู้ว่าที่นั่นเกิดอะไรขึ้น พวกเขาคงจะพูดดีทำดีกับเฉินเป่ยแน่ ไม่มีทางกล้าพูดจาแบบนั้นกับเขา และไม่เอาเขาไว้ในสายตาอีก!
หลังจากที่คนตระกูลอวี้พวกนั้นถูกอวี้หย่งเซวียนไล่ออกไปแล้ว ไม่นาน อวี้หย่งเซวียนก็ไล่สาวรับใช้ออกไปด้วยเหมือนกัน
มีเพียงเฉินเป่ยที่สองมือเสียบกระเป๋ากางเกงไว้ ปากยังคาบบุหรี่ไว้อีก เดินเข้ามา ท่าทางคล้ายกับนักเลงเป็นอย่างมาก
“คุณชายอวี้ ได้ยินว่าท่านอาวุโสพวกนั้นของนายตายกันหมดแล้วเหรอ เสียใจด้วยนะ ฉันเสียดายจริงๆ” เฉินเป่ยเดินเข้ามา หยิบเก้าอี้ตัวหนึ่งนั่งลง ไขว่ห้างกระดิกเท้า และยิ้มอ่อนๆ
สีหน้าของอวี้หย่งเซวียนนิ่งเฉย มองดูเฉินเป่ย เขาบ่นและด่าในใจไม่หยุด หน้าไหว้หลังหลอก คิดมุ่งร้าย…นายนั่นแหละที่ฆ่าคน ยังทำเป็นเสียใจตรงนี้อีก อวี้หย่งเซวียนจะเชื่อคำพูดลมๆแล้งๆของเขาได้ยังไง!
“เฮ้อ ฉันได้ยินมาแล้ว ท่านอาวุโสไท่ซ่างน่ะเป็นคนดีมาก น่าเสียดายจริงๆ ท่านอาวุโสตระกูลอวี้ตายกันหมด ตระกูลอวี้คงสูญเสียครั้งใหญ่สินะ” เฉินเป่ยหรี่ตาลง มองดูอวี้หย่งเซวียน ตอนนี้ทุกคำพูดของเขาที่ดังเข้าหูอวี้หย่งเซวียน เป็นคำพูดที่แทงใจดำ ทำเอาอวี้หย่งเซวียนแทบจะทนไม่ไหว!
อวี้หย่งเซวียนยืนอยู่ที่เดิม ไม่ขยับตัวเลยสักนิด เขาจ้องมองเฉินเป่ย สายตาเต็มไปด้วยความเย็นชา เขาเกลียดเฉินเป่ยมาก ตอนนี้เขาทั้งเกลียดและทั้งกลัวเฉินเป่ยในเวลาเดียวกัน!
ตอนนี้เฉินเป่ยแค่นั่งอยู่ตรงนั้น ก็ทำให้เขารู้สึกถึงแรงกดดันมหาศาลแล้ว ยิ่งไม่ต้องพูดถึงเดินไปนั่งข้างเขาเลย
“คุณชายอวี้ ยืนอยู่อย่างนั้นเหนื่อยมากนะ นั่งๆ เข้ามานั่งตรงนี้สิ……” เฉินเป่ยเรียกอย่างเป็นมิตร ความเป็นมิตรนั้น ทำเอาอวี้หย่งเซวียนต้องโกรธจัด เหมือนห้องนี้เขาเป็นเจ้าของ อวี้หย่งเซวียนเป็นแขก
อวี้หย่งเซวียนก้าวเดินอย่างยากลำบาก พอเดินไปถึงตรงหน้าเฉินเป่ยแล้ว นั่งลงก็พยายามฝืนยิ้มให้มากที่สุด “คุณเฉิน คุณอย่าเกรงใจมากเลย มีเรื่องอะไรก็พูดมาตามตรงเถอะ……”
อวี้หย่งเซวียนเกลียดเฉินเป่ยมาก แต่เขาก็ทำอะไรเฉินเป่ยไม่ได้อยู่ดี ตอนนี้ยังต้องเคารพเขาอีก ไม่กล้าที่จะทำอะไรผิดต่อหน้าเขาเลยจริงๆ!
เฉินเป่ยหัวเราะเสียงดัง และพูดว่า “ไม่มีอะไร แค่มาหานายน่ะ”
หัวใจอวี้หย่งเซวียนเต้นไม่หยุด ความเป็นจริงแล้ว ถ้าเฉินเป่ยบอกขอเรียกร้องมาเลย เขาก็คงไม่มีอะไรต้องเป็นห่วง แต่ตอนนี้ เฉินเป่ยไม่พูดอะไรเลย คนแบบนี้ยุ่งยากที่สุดแล้ว!
“ช่วงนี้เป็นยังไงบ้าง?” เฉินเป่ยจ้องมองอวี้หย่งเซวียน และพูดขึ้นช้าๆ
“ยังดี” อวี้หย่งเซวียนปากกระตุก เขาในตอนนี้ ไม่มีความหยิ่งผยองเหมือนครั้งก่อนๆอีก
“ท่านอาวุโสพวกนั้นของนายล่ะ?” เฉินเป่ยยิ้มอ่อนๆ
อวี้หย่งเซวียนหัวเราะขำขันด้วย แต่ในใจเหมือนถูกมีดกรีดเป็นพันๆครั้ง ให้ตายสิ! อวี้หย่งเซวียนแอบสบถในใจ……จุดจบของท่านอาวุโสตระกูลอวี้ เฉินเป่ยจะไม่รู้ได้ยังไง!
เห็นได้อย่างชัดเจนเลยว่า เฉินเป่ยตั้งใจกระตุ้นอวี้หย่งเซวียน! นี่เป็นการประชดที่รุนแรงที่สุดแล้วก็ว่าได้!
อวี้หย่งเซวียนจ้องมองเฉินเป่ย เขาโกรธจนกัดฟันกรอด แต่สุดท้ายพอเห็นเฉินเป่ย ก็พยายามฝืนยิ้มออกมาให้มากที่สุด……คนอยู่ในห้องแล้ว ไม่ก้มหัวให้ก็ไม่ได้!
นี่เป็นเรื่องที่ทุกคนทราบกันดี อวี้หย่งเซวียนจะไม่รู้ได้ยังไง?
ความสามารถของเฉินเป่ยน่ากลัวมาก ขนาดท่านอาวุโสไท่ซ่างยังตายไปแล้ว ที่นี่ เท่ากับไม่ใช่พื้นที่ของเขาอวี้หย่งเซวียนอีกแล้ว ที่นี่น่ะเป็นพื้นที่ของเฉินเป่ยไปแล้วต่างหาก ให้ตายสิ!
“คุณเฉิน ท่านอาวุโสของพวกเราไปไหนแล้ว คุณไม่มีทางไม่รู้หรอกนะ……” อวี้หย่งเซวียนเป็นถึงคุณชายตระกูลอวี้ ตอนนี้ยืนอยู่ตรงหน้าเฉินเป่ย ไม่กล้าหายใจเสียงดังด้วยซ้ำ พยายามฝืนยิ้มไว้ ไม่กล้าทำตัวสูงส่งเหมือนครั้งก่อนอีก
ทันใดนั้น เฉินเป่ยสีหน้าเย็นชาลง มองอวี้หย่งเซวียนด้วยสายตาเย็นเฉียบ พูดเน้นๆชัดๆว่า “นายรู้ว่าพวกเขาไปสมาคมการพนันเพชรพลอย ก็มีนายที่สั่งการสินะ?”
“พรึ่บ!” สายตาเฉินเป่ยเปลี่ยนไปกะทันหัน จากสายตาของเขา มองเห็นได้ถึงการนองเลือด!
ความเย็นชาและนองเลือดปรากฏขึ้น อุณหภูมิในห้องก็เหมือนลดลงตามไปด้วย!
อวี้หย่งเซวียนนั่งตัวตรงหน้าตรงหน้าเฉินเป่ย กลับรู้สึกถึงความกดดันที่น่าเกรงขาม หล่นทับลงมา!
ความกดดันที่น่าเกรงขามนั้น เป็นเหมือนกับภูเขาหนัก ล่มลงมารอบๆทั้งสี่ด้าน หล่นทับตัวอวี้หย่งเซวียนเอาไว้ เหมือนจะทับตัวเขาจนแบนราบได้เลย!
สีหน้าอวี้หย่งเซวียนเปลี่ยนไปทันที เขารู้สึกถึงความกดดันและน่าเกรงขามแบบนี้ครั้งแรก ตอนแรกเขายังคิดว่าท่านอาวุโสไท่ซ่างน่าเกรงขามแล้ว แต่เขาไม่คิดเลยว่า ความกดดันจากเฉินเป่ย ทำเอาเขาแทบจะหยุดหายใจได้ ดวงตาที่เย็นชาและดุร้าย ทำเอาเฉินเป่ยคล้ายกับสัตว์ที่แทนดุร้าย อวี้หย่งเซวียนหัวใจเต้นตึกตัก ยิ่งไปกว่านั้นยังแทบจะควบคุมไม่ได้……กระเด็นออกมากันเลยทีเดียว!
“อวี้หย่งเซวียน ฉันทนนายมา ไม่ใช่แค่ครั้งนี้แล้ว……” เฉินเป่ยพูดขึ้นอย่างเรียบเฉย
น้ำเสียงเฉินเป่ยเรียบเฉย แต่กลับทำให้อวี้หย่งเซวียนต้องขนหัวลุกซู่!
อวี้หย่งเซวียนเงยหน้าขึ้นช้าๆ มองไปที่เฉินเป่ย ใบหน้าแดงระเรื่อ เขามองดูเฉินเป่ย สายตาของเฉินเป่ยเย็นชาและกดดันมาก นั่นเป็นสายตาของสัตว์ร้ายชัดๆ!
“ผลัก!”
อวี้หย่งเซวียนลุกขึ้นมาอย่างยากลำบาก เดินไปตรงหน้าเฉินเป่ยทีละก้าวๆอย่างยากเย็น ทันใดนั้น เข่าสองข้างของเขาก็กระทบลงพื้นอย่างแรง!
อวี้หย่งเซวียนคุกเข่าลงต่อหน้าเฉินเป่ย!
“ขอท่าน……โปรดอภัยให้ผมด้วย…….” อวี้หย่งเซวียนพูดอย่างลำบากใจ เฉินเป่ยรอบตัวล้อมรอบไปด้วยแรงอาฆาต ทำให้เขาไม่สงสัยเลยว่า เฉินเป่ยจะต้องฆ่าตัวเองอย่างแน่นอน
อวี้หย่งเซวียนแม้จะสูงส่งเท่าไหร่ เหนือกว่าเท่าไหร่ ก็แยกแยะออก เขายังอยากรักษาชีวิตตัวเองไว้อยู่ เขาไม่อยากจบเหมือนท่านอาวุโสไท่ซ่าง!
“คุกเข่า มีประโยชน์เหรอ?” เฉินเป่ยมองอวี้หย่งเซวียน การคุกเข่าของเขา ไม่ทำเอาจิตใจเฉินเป่ยสะทกสะท้านเลย
“ทุกอย่างเป็นความผิดของผมเอง ผมไม่ควรทะเลาะกับท่าน……ท่านเฉิน ผมตาบอดไปเองครับ รนหาที่ตายเอง! ขอร้องท่านโปรดอภัย ไว้ชีวิตผมด้วยนะครับ ผมมีตาหามีแววไม่เองครับ!!” อวี้หย่งเซวียนกัดฟัน และตัดสินใจคำนับลงพื้นเสียงดังฟังชัด
อวี้หย่งเซวียนคำนับอย่างเต็มที่ คำนับไปแค่ไม่กี่ครั้ง หน้าผากเขาก็มีเลือดซึมออกมาแล้ว ยิ่งไปกว่านั้นหนังยังถลอกออกมาอีก!
อวี้หย่งเซวียนมองดูเฉินเป่ย ตอนนี้เขาดูกระเซอะกระเซิงมาก เขาไม่คิดเลยว่า เวลาสั้นๆไม่กี่วัน คนที่แข็งแกร่งมากที่สุดในตระกูลอวี้ต้องมาตายทั้งหมด……ตัวเองยังต้องคุกเข่าให้นักเลงตรงหน้านี้ ขอร้องให้เขาไว้ชีวิตของตัวเองอีก!
น่าอับอายมาก เมื่อก่อน คนที่ยืนเป็นเขา……แต่ตอนนี้ กลับเป็นเขาที่คุกเข่าลงพื้น!