สายเปย์เบอร์หนึ่ง - ตอนที่ 386
บทที่386 ก็แค่ร้อยล้าน!
ลูกน้องคนนั้นใจสั่น เขาเงยหน้าขึ้น เห็นหลีเช่าเทียนกำลังจ้องมองตัวเองนิ่งๆ จิตใจเขาสั่นไม่หยุด
“แล้วยังไง?” หลีเช่าเทียนก้าวเท้าออกไป เดินไปตรงหน้าลูกน้องคนนั้น และถาม
ลูกน้องกลืนน้ำลายเอื๊อก ไม่กล้าพูดอะไรเลย รู้สึกกลัว ตื่นเต้นจนถึงขั้นสุด
“เขตเฉาเป่ย……” หลีเช่าเทียนน้ำเสียงลึกล้ำ ทันใดนั้น เขาก็หัวเราะขึ้นมาพูดว่า “ถือรองเท้าให้ปู่ฉันยังไม่กลัวเลย นกแค่ตัวเดียวแล้วยังไง?”
ลูกน้องรีบคุกเข่าลงพื้น คำนับและพูดว่า “ผมสมควรตาย ผมมีตาหามีแววไม่ ขอคุณชายหลียกโทษให้ด้วยครับ”
หลีเช่าเทียนไม่มองลูกน้องคนนั้นเลยด้วยซ้ำ และกลับหลังหันเดินออกไปทันที ก้มหน้ามองสะพานเล็กในบ่อปลา พูดขึ้นช้าๆว่า “คิดเสียว่านายภักดีต่อฉันมาตลอด คิดเพื่อฉันจริงๆ ครั้งนี้ ฉันไม่ลงโทษนายก็ได้”
“ครับ” ลูกน้องคนนั้นถอนหายใจยาว เกิดในตระกูลหลี เขารู้บทลงโทษของตระกูลหลีดี มันทั้งน่ากลัวและเหมือนตายทั้งเป็นได้เลย!
หลีเช่าเทียนก้มหน้า มองดูฝ่ามือที่เต็มไปด้วยคราบเลือด สายตามีความเย็นชาประกายขึ้น และพูดอย่างเย็นชาว่า “ไปบอกเอ๋อตงเฉิน…หลังจากที่เสร็จจากสุดยอดดาบสามเล่มแล้ว ฉันจะทำให้เขามีชื่อเสียงโด่งดังให้ได้!”
“ถ้านักฆ่าพวกนั้นทำภารกิจไม่สำเร็จ ปล่อยให้คนตระกูลอวี้หนีรอดไปได้แม้แต่คนเดียว ก็อย่ามีชีวิตกลับมาเลย” หลีเช่าเทียนสั่ง
“ครับ” ลูกน้องคนนั้นตอบ ไม่กล้าขัดคำสั่งเลย
สาวรับใช้สองคนเดินเข้ามา ถือผ้าเช็ดมือเล็กที่มีคุณภาพดี มีกลิ่นหอมกระจายออกมาเล็กน้อย เช็ดคราบเลือดในมือให้หลีเช่าเทียนอย่างระมัดระวัง
ลูกน้องคนนั้นถอยออกไปด้วยจิตใจที่สั่นเทา เขารู้สึกตื่นตระหนกกับคำสั่งของหลีเช่าเทียน เขาประวัติของนักฆ่าทีมสองอย่างดี……ต่างก็ผ่านการคัดสรรพิเศษมาจากตระกูลหลีทั้งนั้น คัดมาแต่คนที่แข็งแกร่งที่สุด แต่กลับเป็นพวกคนที่ชั่วร้าย…พวกเขาแต่ละคนก่ออาชญากรรมรุนแรงกันทั้งนั้น ควรจะถูกลงโทษประหารชีวิตไปแล้ว แต่กลับถูกตระกูลหลีใช้เงินจำนวนมากประกันตัวออกมา เลี้ยงดูด้วยของกินอย่างดีที่อยู่เพรียบพร้อม ก็เพื่อมาช่วยตระกูลหลีจัดการเรื่องที่ตระกูลหลีคิดว่ายุ่งยากที่สุด!
เรื่องราวของพวกเขาไม่มีที่สิ้นสุดเลย ดังนั้นลูกน้องคนนี้จึงกังวลว่าถ้าปล่อยนักฆ่าชั่วร้ายพวกนี้ออกไป จะเป็นภัยต่อเมืองเยี่ยนจีนได้!
และหลีเส่าเทียนกลับไม่ใช่วิธีอื่น คิดจะทำแต่วิธีนี้ ทำให้เขาตอนนี้ไม่มีหนทางอื่นแล้วจริงๆ
ไม่นาน จากโรงรถบ้านตระกูลหลี รถเก๋งสีดำเงาแต่ละคัน ก็ขับเคลื่อนออกจากโรงรถไป! พวกเขาขับเร็วปานสายฟ้าผ่า!
รถเก๋งสีดำเงาแต่ละคันของพวกเขา ขับเข้าเมืองไปอย่างดุเดือด เต็มไปด้วยแรงสังหาร
ทางที่พวกเขาขับไปทั้งหมดนั้น ตรงดิ่งไปสนามบินเยี่ยนจีน!
………
หนึ่งทุ่ม ความมืดเริ่มคืบคลานเข้ามา หลังจากที่เฉินเป่ยบาดเจ็บจากการโดนฟัน ร่างกายอ่อนแรงมาก หลับตานอนอยู่บนเตียงสงบ
เฉินเป่ยไม่เคยนอนจากกลางวันถึงทุ่มกว่าเลย เขาไม่รู้สึกตัวเลยสักนิด จนกระทั่งประตูห้องถูกเคาะ เขาลืมตาขึ้นมาทันที มองไปที่นอกหน้าต่างโรงแรม ท้องฟ้าได้มืดลงแล้ว
เฉินเป่ยเดินตรงไปเปิดประตู ก็เห็นประธานสาวสวมชุดเดรสสีขาวยาว หลีชิงเยี่ยนยืนอยู่ตรงหน้าเขา ใบหน้าสละสลวยได้รูป เหมาะกับหุ่นที่เพรียวบาง สามารถเอาชนะเน็ตไอดอลทุกคนได้เลยด้วยซ้ำ
หลีชิงเยียนดวงตาคู่นั้น คล้ายกับดวงตาคู่งามดั่งน้ำใส มองเฉินเป่ยด้วยสายตาขวาง ตั้งแต่หัวจรดเท้า เต็มไปด้วยเสน่ห์ที่น่าหลงใหล
สายตาของประธานสาวมองเฉินเป่ยตั้งแต่ต้นคอลงไป สายตาที่เรียบสงบเปลี่ยนไปทันที สายตาตะลึง มองตาค้าง!
พอเฉินเป่ยเห็นประธานสาวมาแล้ว เหมือนจะพอใจอย่างมาก เขาแสยะยิ้ม และหัวเราะพูดว่า “ที่รัก หุ่นของฉัน เธอไม่ได้เห็นเป็นครั้งแรกนี่”
ประธานสาวได้ยินเฉินเป่ยพูดแบบนี้แล้ว ก็อึ้งเล็กน้อย ต่อมาก็มองเฉินเป่ยอย่างเย็นชา ปากสีแดงก็เอ่ยพูดขึ้นมาว่า “ในที่สาธารณะแบบนี้ ใครสอนให้นายไร้มารยาทแบบนี้กัน?”
ต่อมา ประธานสาวก็กลับหลังหันเดินออกไป ก่อนไปก็พูดทิ้งท้ายไว้ว่า “ซูเหลยอยากรอนายไปกินข้าวด้วยกันน่ะ”
เฉินเป่ยได้ยินประธานสาวพูดแบบนี้ก็อึ้งไปชั่วขณะ มองดูแผ่นหลังที่เซ็กซี่ของหลีชิงเยียน ถึงรู้สึกตัว เขาแสยะยิ้มและหัวเราะอย่าเจ้าเล่ห์ มองดูแผ่นหลังของประธานสาว และพูดพึมพำว่า “ซูเหลยอย่างเรียกฉันไปกินข้าวด้วย ซูเหลยมาเรียกก็ได้แล้วนี่ เกี่ยวอะไรกับเธอกัน?”
เฉินเป่ยรู้สึกน่าสนุกขึ้นมา สายตาที่ลึกซึ้งมองดูแผ่นหลังของหลีชิงเยียน เดินห่างออกไปมากขึ้นเรื่อยๆ
ครึ่งชั่วโมงหลังจากนั้น เฉินเป่ยที่สวมเสื้อเชิ้ตสีขาวเรียบง่ายปรากฏขึ้นภายในภัตตาคาร เขาในตอนนี้ปากยังคาบบุหรี่ไว้ กำลังมองรอบๆ สีหน้าดูคล้ายกับนักเลงมาก
มองรอบๆภัตตาคารอยู่นาน เฉินเป่ยถึงเจอหลีชิงเยียนและซูเหลยที่นั่งกินอาหารอยู่มุมภัตตาคารเงียบๆ เขากระตุกยิ้ม เดินไปหาหลีชิงเยียนก้าวใหญ่
พอเดินไปถึงข้างๆ เฉินเป่ยก็นั่งลงไปคนเดียว และหลีชิงเยียนต้องขมวดคิ้วทันที ปิดจมูกไว้ และมองเฉินเป่ยด้วยสายตาที่เย็นชา
และเฉินเป่ยไม่รู้ตัวเลยว่าหลีชิงเยียนกับมองตัวเองอยู่ เขาหยิบขาไก่จากจานขาวบนโต๊ะมาหนึ่งน่อง และเทไวน์แดงให้ตัวเองเต็มๆ กัดกินน่องไก่และดื่มไวน์โดยไม่สนใจใคร
หลีชิงเยียนมองเฉินเป่ยด้วยสายตาที่เย็นชาอยู่นาน ในที่สุด เธอก็ทนไม่ไหว พูดขึ้นมาว่า “ดับบุหรี่หน่อยได้ไหม?”
เฉินเป่ยมือที่จับขาไก่ก็หยุดลงกลางอากาศ เขาเงยหน้าขึ้น มองหลีชิงเยียนด้วยอาการมึนงง ยังไม่รู้ตัว
หลีชิงเยียนเห็นเฉินเป่ยมีสีหน้ามึนงง ก็ยิ่งโมโหขึ้นมาทันที “ตอนนี้นายไม่ฟังฉัน คิดจะกบฏก็ช่างเถอะ นายยังจะสูบบุหรี่ในที่ที่ห้ามสูบอีก ขนาดกฎของภัตตาคารนายก็ไม่ทำตามงั้นเหรอ!”
หลีชิงเยียนโมโหจัดแต่ก็ยังยิ้มออกมาได้ เธอพูดเสียงดังฟังชัด ดวงตางามคู่นั้นโกรธมาก เห็นได้ชัดว่า เธอโกรธแล้วจริงๆ
เฉินเป่ยมองรอบด้าน เป็นจริงดั่งว่า เห็นพนักงานคนหนึ่งกำลังเดินมาทางเฉินเป่ยอย่างเร็ว
เฉินเป่ยหัวเราะ รีบดับบุหรี่ในมือทันที หันไปมองหลีชิงเยียน และพูดด้วยรอยยิ้มว่า “ชิงเยียน ฉันไม่ฟังคำพูดเธอเมื่อไหร่กัน ฉันฟังเธอคนเดียวมาตลอดเลยนะ!”
หลีชิงเยียนมองเฉินเป่ย เธอไม่เชื่อคำพูดเหลวไหลพวกนี้ของเฉินเป่ยอยู่แล้ว
หลีชิงเยียนกินอีกสักพัก ก็ไม่อยากกินอีกแล้ว ก็จึงชิมรสไวน์ทีละคำเล็กๆ และมองดูเฉินเป่ยที่กินคำโตเหมือนกลัวมีใครมาแย่ง ดวงตางามเผยอาการที่ช่วยไม่ได้
“อยู่ในที่แบบนี้ ท่ากินของนายดูดีกว่านี้หน่อยไม่ได้หรือไง?” หลีชิงเยียนพูดขึ้นโมโห และสายตาที่ดูไม่พอใจอย่างมาก
เฉินเป่ยไม่ได้เงยหน้าขึ้น “กินอร่อยท่าทางดูดีมีประโยชน์อะไรกัน ในโลกนี้คนที่กินสวยที่สุด ไม่ไปเข้าห้องน้ำเลยหรือไง ท่าทางที่เขาเข้าห้องน้ำดูสวยมากหรือไงกัน?”
เพียงแค่คำพูดเดียวของเฉินเป่ย ก็ทำเอาหลีชิงเยียนต้องเก็บคำพูดเมื่อกี้ของตัวเองกลับคืนได้ทันที ดวงตางามมองค้อนเฉินเป่ย กำลังจะระเบิดความโกรธออกมา แต่สักพักก็ทำได้เพียงทำเสียงฮึอย่างเย็นชา และพูดบ่นพึมพำว่า “คนหยาบ”
คิดไม่ถึงเลยว่า ประธานสาวสุดสวยที่เพอร์เฟคคนนี้ ท่าทางบุคลิกก็ดูดีจนหาที่ติไม่ได้ สุดท้ายมาวันหนึ่ง กลับถูกต้องมาโกรธผู้ชายคนหนึ่งจนสีหน้าเปลี่ยนแบบนี้ได้!
เฉินเป่ยเป็นคู่กัดของเธอจริงๆ เฉินเป่ยทำตัวนักเลงขึ้นมา ไม่ว่าหลีชิงเยียนจะนิสัยดีแค่ไหน ก็คงโมโหเขาจนต้องกัดฟันกรอดได้!
หลีชิงเยียนก็จึงไม่สนใจเฉินเป่ยต่อ และเล่นโทรศัพท์ตัวเองไป
สุดท้ายไม่นาน หลีชิงเยียนก็เลื่อนไปเจอข่าวหนึ่ง ทันใดนั้นก็ต้องตาโต สายตาจับจ้องข่าวนั้น และพูดเสียงดังว่า “เกิดเรื่องแล้ว”
“ทำไมเหรอ?” ซูเหลยถามหลีชิงเยียน
“สมาคมการพนันเพชรพลอยเกิดคดีฆาตกรรมใหญ่ มีสิบสี่ศพ……คนร้ายฆ่าได้อย่างโหดเหี้ยมอำมหิต เล่าว่าอาจจะเป็นคนร้ายที่หนีมาจากหู้ไห่” หลีชิงเยียนขมวดคิ้วและพูดว่า “หู้ไห่ตระกูลทองถูกสังหารฆ่าล้างทั้งตระกูลไปไม่นาน ตระกูลตู้ก็ตายไปหลายศพ ต่างก็ถูกฆ่ากันหมด เรื่องนี้ฉันก็ไม่มีเบาะแสอะไรมาก”
ซูเหลยครุ่นคิด ทันใดนั้น เธอก็นึกถึงก่อนหน้านี้ที่เฉินเป่ยหายไปทั้งวันและปรากฏตัวขึ้นในโรงแรม
ซูเหลยคิดอยู่นั้น สายตาก็มองไปที่เฉินเป่ย เธอมองเฉินเป่ย และถามขึ้นว่า “เฉินเป่ย เรื่องนี้นายคิดว่ายังไงเหรอ?”
มือที่จับน่องไก่ของเฉินเป่ยต้องชะงักค้างกลางอากาศ ไม่นาน เฉินเป่ยก็เงยหน้าขึ้น อาหารที่เต็มปาก ตอบไม่ชัดเจนว่า “เกี่ยวกับอะไรกับฉันล่ะ ฉันไม่รู้”
หลีชิงเยียนเห็นท่าทีที่ไม่พอใจของเฉินเป่ย ประธานสาวมองเฉินเป่ยอย่างไม่สนใจ และพูดกับซูเหลยว่า “ไม่ต้องถามความเห็นเขาหรอก เขาจะรู้เรื่องอะไรกัน? ไม่รู้อะไรหรอกนะ”
ซูเหลยพยักหน้า สายตากลับมองไปที่เฉินเป่ย ไม่ขยับออกไป ซูเหลยจ้องมองเฉินเป่ยอยู่อย่างนั้น สายตาก็เริ่มวุ่นวายขึ้นมาแล้ว
และในตอนนี้เอง ภายนอกร้านอาหาร รถเบนท์ลีย์สีดำก็ขับมาจอดช้าๆ ประตูรถถูกเปิดออก มีคนหนึ่งที่เดินออกมาจากรถเบนท์ลีย์ หลังจากที่เดินเข้าโรงแรมไปแล้ว ก็เดินตรงดิ่งเข้าห้องอาหารทันที
ร่างนั้นมองไปที่ตำแหน่งของหลีชิงเยียน และเดินตรงดิ่งมาทางหลีชิงเยียนทันที
“ต้องขอโทษด้วย ประธานหลี พอดีว่าระหว่างทางที่มารถติด ผมเลยมาช้าน่ะครับ” ร่างนั้นปรากฏขึ้นตรงหน้าหลีชิงเยียน โค้งคำนับและพูด
หลีชิงเยียนมองเห็นคนที่มา ใบหน้างามนั้นก็ยิ้มกว้างทันที ประธานสาวมีรอยยิ้มที่น่าหลงใหลมาก เธอพูดทักทายว่า “หัวหน้าสมาคมจาง มาสักทีนะคะ นั่งค่ะ นั่ง”
หลีชิงเยียนดูจะกระตือรือร้นกับจางเป่าเฉิงมาก ต่างกับที่ปฏิบัติกับเฉินเป่ยเลย
ทำให้เฉินเป่ยอึ้งไปชั่วขณะ เขาเห็นประธานสาวลุกขึ้นมา ลากเก้าอี้ให้จางเป่าเฉิงนั่ง
เฉินเป่ยมือจับขาไก่ไว้ มองจางเป่าเฉิงที่นั่งบนเก้าอี้นิ่ง ลิ้มลองถึงการปฏิบัติที่อ่อนโยนของประธานสาว
เฉินเป่ยเห็นท่าทีที่ประธานสาวมีให้กับจางเป่าเฉิง ก็แทบจะบ้าคลั่งตายอยู่แล้ว!
ให้ตายสิ ตอนอยู่หู้ไห่เขาดูแลหลีชิงเยียนมาตลอด เขายังไม่เคยได้รับการปฏิบัติแบบนี้เลย เพื่ออะไรกัน! ทำไมตาแก่นี่ถึงได้กันล่ะ!
ไม่ยุติธรรมเลย ให้ตายสิ! เขาเป็นถึงราชาหลง กลายเป็นชายที่แต่งเข้าตระกูลหลียังไม่พอ ตอนนี้ผู้หญิงของเขา กลับเป็นมิตรกับตาแก่นั่นได้!
เฉินเป่ยมือจับขาไก่ไว้ เขาทนไม่ได้ ศักดิ์ศรีราชาหลงของเขาจะหายไปหมดแล้ว!
“ตาแก่ ใครใช้ให้นายนั่งกัน ฉันยังไม่อนุญาตเลย”