สายเปย์เบอร์หนึ่ง - ตอนที่ 394
บทที่394 บวกเพิ่มอีกห้าล้าน
………
ภายในงานการพนันเพชรพลอย จิงเดินอยู่ภายในเขตการพนันระดับสูง ราวกับว่ากำลังเดินเล่นอยู่ สายตาลึกซึ้ง ดวงตาคู่นั้นประกายราวกับดวงดาว เหมือนกับว่าจะส่องเข้าถึงจิตใจคนได้เลย
ทันใดนั้น จิงก็หยุดเดิน เดินเข้ามุมที่คนอื่นยากจะสังเกตเห็นได้
จิงเดินเลี้ยวเข้าไป ผ่านทางเดินยาวเหยียด ทันใดนั้น เขาก็หยุดลง มองไปที่ห้องหนึ่ง ทันใดนั้นก็กระตุกยิ้มมุมปากเล็กน้อย
ต่อมา จิงดันประตูเข้าไป เดินเข้าห้องทำงานหนึ่ง
ภายในห้องทำงานนั้น มีท่านอาวุโสคนหนึ่งกำลังก้มหน้าทำงานอยู่ ทันใดนั้น เสียงที่มีความลึกซึ้งดังขึ้นภายในห้องทำงาน
“เรื่องที่ฉันให้นายทำ เป็นยังไงบ้าง?”
ท่านอาวุโสเงยหน้าขึ้น พอเขาเห็นจิงปรากฏตัวอยู่ภายในห้องทำงาน สายตาก็อึ้งชะงักทันที!
สายตาท่านอาวุโสนิ่งไปชั่วขณะ เขาจ้องมองจิงอยู่อย่างนั้นด้วยสีหน้าที่ไม่อยากจะเชื่อ!
ต่อมา ตัวของท่านอาวุโสก็สั่นเทา เขามองจิงอย่างไม่อยากจะเชื่อ และพูดอย่างระมัดระวังว่า “ท่าน…คือจิงตัวจริงงั้นเหรอ?”
“ฉันไม่ใช่จิง แล้วจะเป็นใครได้อีก?” จิงถามขึ้นช้าๆ สายตาเขาดูเรียบเฉยมาก ทำเอาหัวใจท่านอาวุโสเต้นรัวไม่หยุด!
“เจ้านาย…ผมรนหาที่ตายเองครับ!” พอท่านอาวุโสรู้จักจิงแล้ว สีหน้าก็ดูดีใจอย่างมาก…ทันใดนั้น เขารีบลุกพรวดขึ้นมา พุ่งไปหาจิงอย่างรวดเร็ว คุกเข่าลงและคำนับ!
น้ำเสียงเมื่อกี้ของจิงดูจะเรียบเฉยมาก แต่แรงบีบบังคับที่เขานำมาให้ท่านอาวุโสคนนี้ ยากที่จะคาดเดาได้!
นี่ก็คืออำนาจของผู้ครอบครองเยี่ยนจีน ช่างน่ากลัวเสียจริง!
ท่านอาวุโสตื่นเต้นอย่างมาก…เขารู้ดีมาก ชายผู้ที่ยืนอยู่ตรงหน้าตัวเองเป็นใคร…นั่นก็คือจิง! เป็นผู้ครอบครองของเยี่ยนจีนทั้งหมด!
เขาเป็นเจ้าของเมืองแห่งนี้…และตัวเอง อย่างมากก็เป็นแค่หัวหน้าสมาคมการพนันเพชรพลอยเท่านั้น เทียบกับจิงผู้ลึกลับแล้ว ท่านอาวุโสช่างตัวเล็กกระจี๊ดเดียวเท่ามดจริงๆ!
และตอนนี้ จิงกลับปรากฏขึ้นตรงหน้าตัวเองในตอนนี้!
ท่านอาวุโสคุกเข่าคำนับที่พื้น เขาไม่ได้เงยหน้าขึ้นมา เสียงดังขึ้นมาจากในหัวของเขา “เจ้านาย ผมไม่คิดเลยว่า ท่านจะมาที่นี่เอง…ผมเสียมารยาทเองครับ!”
ท่านอาวุโสตื่นเต้นอย่างมาก เขาไม่เคยเห็นใบหน้าจริงของจิงเลย เพียงแค่ไม่กี่ครั้งที่ได้ยินเสียงของจิงจากในโทรศัพท์ เสียงนั้นเต็มไปด้วยความเป็นเอกลักษณ์และเป็นเสียงที่หนักแน่นมาก
เวลาส่วนใหญ่ ก็เป็นเลขาหญิงของจิงที่มาสั่งงาน
และความจำของท่านอาวุโสดีมาก รีบแค่เพียงไม่กี่สาย ก็จำเสียงของจิงติดหัวแล้ว
ปากของจิงกระตุกยิ้มเล็กน้อย เดินเข้าไปนั่งเก้าอี้โซฟาตรงหน้าท่านอาวุโส เก้าอี้โซฟาหมุนไปช้าๆ หันหลังเก้าอี้ให้กับท่านอาวุโส เขาตัวสั่นเกรงเงยหน้าขึ้นช้าๆ มองดูคนที่หลังเก้าอี้นั่นและพูดว่า “ไม่ทราบว่าที่เจ้านายถามคือความคืบหน้าทางด้านในเหรอครับ?”
“นายคิดว่าไงล่ะ?” จิงพูดขึ้น แม้เสียงที่ยังเรียบเฉย แต่น้ำเสียงนั้นก็มีความไม่พอใจอยู่เล็กน้อย
“เจ้านายขออภัยครับ ผมก็อยากเอาตำแหน่งนี้ให้กับเขา สุดท้ายวันก่อนสั่งคนไปจับตาดู เห็นว่าเขาเดินเล่นภายในงานการพนันเพชรพลอย ไม่ได้ทำอะไรเลย ให้ผมหาเหตุผลให้เขาไม่ได้เลยครับ” ท่านอาวุโสรีบอธิบาย
“น่าสนใจจริงๆ……”
จิงที่นั่งอยู่บนเก้าอี้เจ้านาย ได้ยินท่านอาวุโสพูดแล้ว ก็แสยะยิ้มโค้ง ยิ่งรู้สึกน่าสนุกขึ้นกว่าเดิมมาก
“ฉันไม่สนว่านายจะทำยังไง วันนี้…วันนี้ฉันจะต้องเห็นเขาเข้ารอบสุดยอดดาบสามเล่มให้ได้” จิงพูดขึ้นช้าๆ น้ำเสียงของจิงเรียบสงบ แต่กลับมีความบีบบังคับปนเปไปด้วย ไม่ให้ใครต้องสงสัยได้
“ครับ” ท่านอาวุโสก้มหน้าตอบตกลง ชิงเหนียนมองดูบรรยากาศกลางคืนของเมืองเยี่ยนจีน แสยะยิ้มออกมากว้าง
…………
หน้าประตูห้องการพนันระดับชั้นล่าง เป้าอวี่ยิ้มแนะนำให้กับเฉินเป่ย หลีชิงเยียนกับคนอื่น “ที่นี่ก็คือห้องการพนันระดับล่างในเขตการพนันระดับสูง แม้จะไม่หรูหราเท่าห้องการพนันระดับสูง แต่ก็ไม่ใช่ระดับที่คนในเขตการพนันระดับชั้นล่างจะจ่ายไหวได้”
“จะชอบมีเหตุการณ์เกิดขึ้น ก็คือพวกเถ้าแก่ในเขตการพนันระดับล่าง เข้ามาภายในห้องการพนันระดับล่างในเขตการพนันระดับสูง ไม่นานก็ต้องเดินออกไป โดยเงินในกระเป๋าหมดเกลี้ยง” ในตอนที่เป้าอวี่พูดอยู่ข้างๆ จะมองไปทางเฉินเป่ยอยู่ตลอดเวลา เหมือนว่าเธอตั้งใจพูดให้เฉินเป่ยได้ยิน
“เป็นไปได้ว่าการใช้จ่ายในเขตการพนันระดับล่าง พอมาถึงเขตการพนันระดับสูง ก็เพิ่มศูนย์มาแค่ไม่กี่ตัว ดังนั้นทุกท่านถ้ามาที่นี่เป็นครั้งแรก ต้องใช้ตามกำลังที่ตนมีนะคะ” เป้าอวี่พูดถึงประโยคสุดท้าย ก็หันไปมองเฉินเป่ย
เธอจำได้อย่างชัดเจนเลยว่า ตอนนั้นหลังจากที่เธอพาเฉินเป่ยมาถึงห้องการพนันระดับสูง ไม่นาน เฉินเป่ยก็เดินออกไปทันที ไม่ได้เข้าร่วมการประมูลเลยด้วยซ้ำ เห็นได้ชัดว่าคงไม่มีความสามารถนั้น
คนแบบนี้ เป้าอวี่ไม่เชื่อว่าเขาจะเป็นเถ้าแก่ที่เพื่อนบอกได้ และยังหาเงินเก้าล้านจากเขตการพนันระดับล่างได้อีก
นี่เป็นเรื่องที่เป็นไม่ได้เด็ดขาด ในสายตาเป้าอวี่แล้ว เรื่องนี้ถ้าอยู่ในเขตการพนันระดับสูงเธอยังจะเชื่ออยู่ แต่เขตการพนันระดับล่างน่ะเหรอ…อย่าได้คิดเลยเชียว!
อีกอย่างการพูดจาและท่าทางของเฉินเป่ย ยังไงก็ไม่เหมือนคนรวยอยู่ดี
เฉินเป่ยพยักหน้า กวาดสายตามองคนที่เหลือ ยิ้มอ่อนๆพูดว่า “ไปเถอะ เข้าไปดูกัน”
หลีชิงเยียนพยักหน้า ตามติดเฉินเป่ยเข้าไป
พอเธอเห็นเฉินเป่ยหาเงินเก้าล้านได้ภายในครั้งเดียวโดยเป็นเรื่องที่น่าเหลือเชื่อมาก สายตาที่เธอมองเฉินเป่ยก็เปลี่ยนไปมากอย่างไม่รู้ตัว แม้เธอจะยังไม่เชื่อว่าเฉินเป่ยจะทำตามสำเร็จได้จริงๆ
เฉินเป่ยเดินเข้าไปในห้องพนัน ทุกคนต่างก็หาที่นั่งนั่งลง การพนันเพชรพลอยกำลังเริ่มต้นการประมูลอยู่
หนึ่งในพิธีกรแนะนำรายละเอียดของหินหยาบเสร็จแล้ว ภายในห้องการพนันระดับล่าง แขกเหรื่อทุกคนต่างก็พากันพูดราคา
หินหยาบก้อนนี้ไม่มีแรกดึงดูดมากเท่าไหร่ ทางงานก็ออกราคาต่ำเพียงแค่ห้าแสน
และแขกพวกนั้นก็ไม่ค่อยอยากได้หินหยาบก้อนนี้เท่าไหร่ ต่างก็บวกเพิ่มไปแค่ไม่กี่หมื่น ความหวังที่จะประมูลมามีไม่มาก เห็นได้ชัดว่าไม่ค่อยสนใจเท่าไหร่
และในตอนนี้เอง เฉินเป่ยก็ชูป้ายขึ้น ตะโกนว่า “เจ็ดแสน!”
“บ้าหรือเปล่า หินหยาบก้อนนี้ราคามากสุดก็หกแสน นายกลับใช้เงินเจ็ดแสนซื้อมันมางั้นเหรอ?” จางเป่าเฉิงข้างๆก็อึ้งไปทันที ไม่นานก็หัวเราะเย็นชาขึ้นมา
และพอจางเป่าเฉิงพูดออกไปแบบนี้ ก็ดึงความสนใจของผู้คนมาทันที
ไม่นาน ก็มีแจกคนหนึ่งพูดว่า “เป็นหัวหน้าสมาคมจางใช่ไหม?”
จางเป่าเฉิงพยักหน้า ขณะนั้นก็มีแขกซุบซิบขึ้นมาทันที จางเป่าเฉิงเป็นหัวหน้าสมาคมการพนันเพชรพลอย เขาตัดสินราคาหินหยาบก้อนนี้แล้ว พวกเขาจะเพิ่มราคาไปทำไมกัน?
และพิธีบนเวทีก็ดูจะลำบากใจมาก เขาไม่คิดเลยว่าจางเป่าเฉิงจะอยู่ในห้องการพนันระดับล่างได้ เห็นได้ชัดว่าตั้งใจมาทำลายงานของเขา!
“ต่อเถอะ” เฉินเป่ยซื้อหินหยาบนั้นมาในราคาเจ็ดแสนอย่างรวดเร็ว
“หินหยาบก้อนนี้แม้จะไม่ใหญ่มาก แต่ห้องพนันไม่ดูขนาดของหินหยาบ คุณภาพของหินหยาบก้อนนี้ดูยังไงก็ไม่ได้ มากสุดก็มีราคาแค่หกแสน” จางเป่าเฉิงพูดขึ้นอย่างเรียบเฉย
ด้วยประสบการณ์ของจางเป่าเฉิง ไม่นานก็ทำให้แขกคนอื่นๆพยักหน้ากันหมด เห็นด้วยกับความคิดเห็นของจางเป่าเฉิงอย่างมาก
และเฉินเป่ยก็ไม่สนใจจางเป่าเฉิง พอประมูลมาแล้ว ก็ไปห้องพนันระดับล่างสองต่อ เหมือนกัน ประมูลหินหยาบมาด้วยราคาที่มากกว่าสองแสน
ต่อมา เฉินเป่ยก็เดินเข้าห้องที่สาม ห้องที่สี่……จนกระทั่งเขาเดินออกมาจากห้องพนันระดับสูงห้องสุดท้าย สีหน้าก็ดูจะสบายใจมาก ยิ่งไปกว่านั้นยังฮัมเพลงเดินออกมาอีก!
ด้านหลังของเฉินเป่ย มีหลีชิงเยียนที่มีสีหน้าแปลกๆ กับจางเป่าเฉิงและคนอื่นที่มีสีหน้าเย็นชา
ใบหน้าสวยของประธานสาวมีความสงสัยหนักมาก เธอไม่เข้าใจเลยว่าเฉินเป่ยจะทำอะไรกันแน่
และหลังจากที่จางเป่าเฉิงที่มีสีหน้าเย็นชาเดินตามเฉินเป่ยออกมาจากห้องพนันห้องสุดท้าย ในที่สุดก็ทนไม่ไหว ถามด้วยสีหน้าตึงๆว่า “ทุกครั้งที่เข้าห้องพนันไป นายก็ประมูลแต่หินหยาบที่มีราคาต่ำ นายอยากจะทำอะไรกันแน่? เรื่องนี้เหมือนจะไม่เกี่ยวกับที่นายจะหาเงินร้อยล้านเลยนะ?”
จางเป่าเฉิงถามด้วยน้ำเสียงเย็นชา เขาไม่พอใจอย่างมาก รู้สึกอึดอัดไปหมด เขาเป็นถึงหัวหน้าสมาคมการพนันเพชรพลอย กลับต้องมาเดินไปมากับเฉินเป่ย ตัวเองไม่เอาหน้าแล้วหรือไง?
เขตการพนันระดับล่างก็ยังดี และภายในเขตการพนันระดับสูง มีคนมีอำนาจไม่น้อย ถ้าพวกเขาเอาข่าวที่ตัวเองเดินตามนักเลงแพร่ออกไปละก็ เขาจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน?
“ก็ต้องเกี่ยวกันอยู่แล้วสิ เกี่ยวกันมากด้วยนะ” เฉินเป่ยมองจางเป่าเฉิงตาขวาง และตอบกลับอย่างขี้เกียจ นี่ทำให้จางเป่าเฉิงโกรธมากกว่าเดิม ความรู้สึกที่ถูกต้องว่าและดูถูกแบบนี้ ทำให้เขาไม่พอใจเป็นอย่างมาก!
จางเป่าเฉิงมองแผ่นหลังของเฉินเป่ยด้วยสายตาที่เย็นชา เขาตัดสินใจแล้วว่า รอตอนที่เฉินเป่ยทำไม่สำเร็จและต้องหน้าแตก ตัวเองจะไม่ปล่อยเขาไปง่ายๆแน่! จะต้องทำให้เขาอับอายให้ถึงที่สุด ถึงจะทำให้เขาสาสมใจได้!
หลังจากที่เฉินเป่ยเดินเข้าเขตการพนันระดับสูง และพูดกับเป้าอวี่ที่เดินตามข้างๆตลอดเวลา “ไปเอาหินหยาบของฉันมา”
“หินหยาบของนายจะเอาไว้ไหนนะ?” เป้าอวี่อึ้งเล็กน้อย ตอนแรกยังไม่ทันรู้ตัว
“จะเอาไว้ไหนได้อีก ก็ต้องไว้ตรงนี้สิ” เฉินเป่ยแสยะยิ้ม และตอบกลับไป
“ที่นี่คือเขตพักผ่อน เป็นสถานที่ที่แขกมากมายพักผ่อน จะใช้มาเป็นที่ให้นายวางหินหยาบได้ยังไง!” เป้าอวี่ขมวดคิ้ว ส่ายหน้าและพูด
“หัวหน้าสมาคมการพนันเพชรพลอยแห่งประเทศจีนข้างๆก็ไม่ได้ไม่อนุญาต ทำไมเธอถึงไม่อนุญาตล่ะ รีบไปหาคนหารถและเข็นมาเลย” เฉินเป่ยขมวดคิ้ว น้ำเสียงนั้นแฝงไปด้วยอย่าได้สงสัยอีก
เป้าอวี่กอดอกไว้ มองเฉินเป่ยและหัวเราะเย็นชาออกมา
เธอติดตามพวกเขาข้างๆมาตลอด ผ่านการตรวจสอบอย่างละเอียดของเธอ แม้จะไม่เข้าใจเหตุการณ์ที่ผ่านมาทั้งหมด แต่ก็ทราบแล้วบ้างเล็กน้อย
เงินเก้าล้านก่อนหน้านี้ของเฉินเป่ย เมื่อกี้นี้เอง ก็หายวับไปกับตา
เขาในตอนนี้ ไม่มีความสามารถในการประมูลหินอีกแล้ว
“ไปเถอะ ไปเอาหินหยาบมา” ในตอนนี้เอง จางเป่าเฉิงก็พูดขึ้น เขาจ้องมองเฉินเป่ยอย่างเย็นชา สายตากระสับกระส่ายไม่นิ่ง
เขาอยากจะรู้มาก เฉินเป่ยมั่นใจขนาดนี้ ต้นตอความมั่นใจนี้ของเขามาจากไหนกันแน่!
ใครกัน ทำให้เขามั่นใจขนาดนี้ได้!