สายเปย์เบอร์หนึ่ง - ตอนที่ 398
บทที่398 โควต้าสุดท้าย!
แขกวีไอพีหลายคนในที่นั้น ต่างไม่รู้ว่าท้ายที่สุดจะเกิดอะไรขึ้น คาดไม่ถึงว่าประธานจางจะหมดสติไปอย่างอธิบายไม่ได้
ทันใดนั้นก็เกิดความวุ่นวายขึ้นในฝูงชน ส่วนหลีชิงเยียนที่อยู่ใกล้ประธานจางที่สุดนั้น ใบหน้าสวยเปลี่ยนสีหน้าเล็กน้อย ก่อนเข้าช่วยพยุงจางเป่าเฉิงขึ้นมา
ในที่สุดซูเสี่ยวหยุนที่นิ่งเงียบมาตลอดก็เริ่มขยับ เธอพาจางเป่าเฉิงขึ้นบนเก้าอี้ แล้วตรวจดูการเต้นของหัวใจและลมหายใจ เธอพูด “ความโกรธกระทบหัวใจ เขาควรขจัดอารมณ์โมโหออกไป จังหวะการเต้นของหัวใจผิดปกติเล็กน้อย ไปเอายารักษาหัวใจกับน้ำมา”
ซูเสี่ยวหยุนพูดกับเป้าอวี่ น้ำเสียงของเธอในตอนนี้มุ่งมั่นและแน่วแน่
ยังถือว่าเป้าอวี่ไหวพริบดีเยี่ยม เธอได้ยินความเคร่งขรึมในน้ำเสียงของซูเสี่ยวหยุน ก็รีบวิ่งเหยาะไปจากที่นั่นทันที หลังจากนั้นไม่นานเป้าอวี่ก็นำถ้วยน้ำร้อนและยารักษาหัวใจเดินเข้ามา
หลังจากซูเสี่ยวหยุนประคองจางเป่าเฉิงลงแล้ว หลีชิงเยียนจึงหันไป ดวงตาคู่สวยมองเฉินเป่ยอย่างดุเดือด ดูเหมือนเธอจะไม่พอใจอย่างมาก ไม่นึกว่าเฉินเป่ยจะทำให้จางเป่าเฉิงถึงกับหมดสติไป
ท่าทีสงบนิ่งของเฉินเป่ยในทีแรก หลังจากเห็นใบหน้าเย็นชาของหลีชิงเยียน ก็เริ่มรู้สึกหมดคำพูด….ในใจรู้สึกเจ็บปวดเล็กน้อย…แม่ง ยอมให้เขาเยาะเย้ยฉัน แต่ไม่ยอมให้ฉันสู้กลับ? ตัวเองหัวใจไม่ดีก็โทษใครไม่ได้นะ
เฉินเป่ยแอบพูดในใจว่าการยอมรับความพ่ายแพ้ในการเดิมพันเป็นเหตุผลธรรมดาสุด ๆ แต่เขาไม่นึกมาก่อนว่าจางเป่าเฉิงจะหมดสติไปแบบนั้น
ผ่านไปไม่นาน จางเป่าเฉิงก็ฟื้นขึ้นมา ผู้คนรอบ ๆ ที่ไม่ได้แยกย้ายไปไหน พากันเข้ามาดูจางเป่าเฉิง ในฐานะประธานแห่งสมาคมการพนันเพชรพลอย หากจางเป่าเฉิงมีอันเป็นไป พาดหัวข่าวหลังจากนี้อีกหลายวัน ต้องไม่พ้นจางเป่าเฉิงอย่างแน่นอน
หลังจางเป่าเฉิงตื่นขึ้น เห็นรอบข้างยังคงมีคนไม่น้อย กระทั่งหลายคนที่เขารู้จัก ล้วนเป็นบุคคลที่มีหน้ามีตาทั้งนั้น
นั่นทำให้สีหน้าของจางเป่าเฉิงก็ย่ำแย่อีกครั้ง
ผ่านไปนาน จางเป่าเฉิงจึงถอนหายใจ ทันใดนั้นก็ราวกับแก่ลงไปอีกห้าปี เขามองไปที่เฉินเป่ย เอ่ยเสียงเบา “กล้าทำกล้ารับ ฉันแพ้แล้ว”
ตอนที่จางเป่าเฉิงพูดออกมา น้ำเสียงของเขาเต็มไปด้วยความเศร้าที่อธิบายไม่ได้ ทำให้ผู้คนต่างพากันตกจ มองไปยังเฉินเป่ยด้วยสายตาแปลก ๆ
คนมากมายต่างไม่คาดคิด ว่าเฉินเป่ยเด็กหนุ่มคนนี้จะเดิมพันกับจางเป่าเฉิง และไม่นึกว่าประธานจางผู้โด่งดัง….จะพ่ายแพ้ให้กับเฉินเป่ย!
ในขขณะที่หลายคนต่างประหลาดใจ หลีชิงเยียนที่อยู่ข้าง ๆ ก็เอ่ยปลอบ “ประธานจาง คุณไม่ได้แพ้หรอกค่ะ ครั้งนี้เองก็ถือว่าไม่ถูกต้องนัก”
เฉินเป่ยได้ยินหลีชิงเยียนพูดเช่นนั้น ดวงตาก็เบิกกว้าง….รู้สึกตะลึงและโกรธ เขาไม่คิดเลยสักนิด ตัวเองชนะแล้วแท้ ๆ แต่จากปากหลีชิงเยียนที่พูดออกมา กลับแปรเปลี่ยนเป็นแพ้ไปซะแล้ว!
นี่มันกลับดำเป็นขาวชัด ๆ ไม่ยุติธรรมเกินไปแล้ว!
“นี่สาวน้อย ทำไมลำเอียงนักล่ะ”เฉินเป่ยเอ่ยช้า ๆ
แต่หลังจากที่หลีชิงเยียนได้ยินคำพูดของเฉินเป่ย ราวกับได้ยินความขี้เล่นในน้ำเสียง ดวงตาคู่สวยสัมผัสของความโกรธเกรี้ยวและเย็นชาฉายออกมา เธอหันกลับมาอย่างกะทันหันและมองเฉินเป่ยอย่างดุร้าย “สาวน้อยอะไรของนาย เจ้าบ้า!”
หลีชิงเยียนตะคอกอย่างเย็นชา เธอมองไปที่แววตาของเฉินเป่ย เปล่งประกายเย็นเยือกจาง ๆ ถ้าที่นี่เป็นบ้านที่หู้ไห่ เธอไม่มีวันละเว้นเฉินเป่ยแน่!
แต่ตอนนี้ ภายใต้สถานการณ์ที่มีฝูงชนแออัดแบบนี้ นอกจากการเตือนด้วยสายตาแล้ว หลีชิงเยียนก็ทำอะไรเฉินเป่ยไม่ได้
เฉินเป่ยเหยียดปากคว่ำ หลีชิงเยียนปกป้องกันแบบลำเอียงชัด ๆ !
“ช่างเถอะ แพ้แล้วก็คือแพ้ ฉันไม่ใช่คนที่ไม่รักษาคำพูด”ในตอนนั้นเอง จางเป่าเฉิงก็ถอนหายใจแล้วค่อย ๆ เอ่ยขึ้น
ในจังหวะนั้น จางเป่าเฉิงเงยหน้าขึ้นมองไปที่เฉินเป่ย ดวงตาขุ่นชราก็ฉายประกายสว่างขึ้น เขามองเฉินเป่ยแล้วถาม “ฉันแค่ไม่เข้าใจ ทำไมนายถึงหยิบจับหินหยกธรรมชาติราวกับรู้หยกที่อยู่ข้างในได้แบบนั้นกัน”
จางเป่าเฉิงมองเฉินเป่ย แต่เดิมเขาคิดว่าเฉินเป่ย ไม่รู้อะไรเลยเกี่ยวกับการพนันเพชรพลอยไม่มีประสบการณ์ในการเดิมพันและเป็นเพียงคนหยิ่งผยองเท่านั้น
แต่ตอนนี้ เจ้าคนหยิ่งผยองนั่น ก็เอาชนะเขาไปแล้ว!
จางเป่าเฉิงสงบลงสงบลง เขานึกอย่างรอบคอบก่อนหน้านี้เฉินเป่ยแสดงให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงที่น่าอัศจรรย์ครั้งแล้วครั้งเล่า โดยเฉพาะการเดิมพันเป็นตาย กระทั่งทำให้เขาได้เปิดโลกทัศน์
ในวันนี้ การกระทำของเฉินเป่ย ยิ่งทำให้เขาตกตะลึง
ในที่สุดจางเป่าเฉิงก็เชื่อว่า เฉินเป่ยไม่ใช่คนที่ไม่มีประสบการณ์ในการเดิมพัน สิ่งนี้ไม่ได้เกิดจากโชค แต่ด้วยเหตุนี้จางเป่าเฉิงจึงรู้สึกงงงวยมากยิ่งขึ้น เฉินเป่ทำยังไงกันแน่ เขาถึงรู้แทบทุกส่วนรางกับเป็นหลังมือตัวเอง!
สายตาแบบนั้น แม้แต่จางเป่าเฉิงเองก็ทำไม่ได้ ช่างเป็นสายตาและการคาดการณ์ที่ร้ายกาจมาก!
ข้อสงสัยของจางเป่าเฉิง ทำให้ดวงตาสวยของหลีชิงเยียนวาบประกาย อยู่ ๆ เธอก็นึกถึงกริชมังกรที่เฉินเป่ยถือตอนที่อยู่ในเขตพนันระดับต่ำก่อนหน้านี้ ทำให้เธอจมอยู่ในความนึกคิดทันที
เฉินเป่ยมองจางเป่าเฉิง มุมปากยกขึ้นเล็กน้อย เขาพูดอย่างสบาย ๆ “ทำไมผมต้องบอกคุณ?”
เฉินเป่ยไม่ได้พูดดัง แต่หูของทุกคนกลับได้ยินอย่างชัดเจน ทำให้สีหน้าของพวกเขาเปลี่ยนไปเล็กน้อย แล้วพากันกระซิบวิพากษ์วิจารณ์ขึ้น
พวกเขาไม่นึกว่าเฉินเป่ยจะกล้าพูดแบบนั้นกับจางเป่าเฉิง….ที่นี่เป็นถิ่นของจางเป่าเฉิง แต่เฉินเป่ยกลับดูราวกับมั่นอกมั่นใจไม่เกรงกลัวอะไรทั้งสิ้น
จางเป่าเฉิงจ้องมองเฉินเป่ยครู่หนึ่ง ผ่านไปไม่นาน จางเป่าเฉิงก็ถอนหายใจ พูดอย่างช้า ๆ “ถ้าอย่างนั้น ฉันขอคำชี้แนะด้วย”
“ฮะ!”
จางเป่าเฉิงเอ่ยออกมาเช่นนั้น ราวกับก้อนหินกระทบวงคลื่น เกิดความโกลาหลขึ้นในหมู่แขกวีไอพี ไม่มีใครคาดเดาว่าจางเป่าเฉิงจะกลายเป็นนอบน้อมถ่อมตนเมื่อเผชิญหน้ากับชายหนุ่มคนนี้!
ยอมจำนนงั้นเหรอ? จางเป่าเฉิงยอมรับการแพ้พนัน นี่เขาจำนนให้กับเฉินเป่ยอย่างนั้นเหรอ?!
แขกวีไอพีหลายคนรู้สึกประหลาดใจและสงสัย มีการคาดเดาต่าง ๆ นานาปรากฏขึ้น พวกเขาไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นระหว่างเฉินเป่ยและจางเป่าเฉิง แต่พวกเขาไม่คาดคิดว่าจางเป่าเฉิงซึ่งเป็นปรมาจารย์ในยุคนั้น เมื่อเผชิญกับเฉินเป่ย จะถึงกับสูญเสียความเย่อหยิ่ง หมดคราบประธานสมาคมการพนันเพชรพลอยโดยสิ้นเชิง!
……
ขณะฝูงชนอยู่ในความโกลาหลและผู้คนนับไม่ถ้วนสั่นสะท้าน ไม่ไกลนัก ร่างรูปหล่อสง่างามก้าวเดินเข้ามาทางเฉินเป่ย
ร่างนั้นสูงโปร่งสง่างามราวกับหยก และดวงตาของเขาลึกล้ำราวกับท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาว ราวกับว่ามีพลังประหลาด เพียงแค่แวบเดียวมันก็ราวกับว่าจิตใจกำลังจะจมดิ่งลงไปในนั้น
ทุกย่างก้าวของเขาก้าวไปอย่างมั่นคง ควบคุมระยะห่างของแต่ละก้าวอย่างละเอียด ราวกับว่าการเปลี่ยนแปลงเล็ก ๆ น้อย ๆ ของเรื่องต่าง ๆ นั้นอยู่ภายใต้การควบคุมของเขา
ร่างนั้นรายล้อมไปด้วยคนตัวสูงหลายคน ชายร่างกำยำสีหน้าเย็นชาเกาะติดกับร่างนี้อย่างใกล้ชิด การเปลี่ยนแปลงทั้งหมดรอบ ๆ จะอยู่ในสายตาของพวกเขา
ทันใดนั้นร่างหนึ่งก็หันหน้ามาและพูดด้วยเสียงเรียบนิ่ง “คุณชายหลี ข้างหน้ามีกลุ่มคนรวมกัน ผมจะไปดูก่อนเพื่อกำจัดอันตราย”ชายฉกรรจ์คนหนึ่งเร่งฝีเท้าเดินเข้าไปทางนั้น
แต่เขาก้าวไปเพียงไม่กี่ก้าว ก็ได้ยินเสียงทุ้มนุ่มของหลีเช่าเทียน “ไม่ต้องหรอก ที่นี่คงไม่มีอันตรายอะไร พวกนายไปรังแต่จะรบกวนคนอื่นเขา”
หลี่เช่าเทียนพูดเบา ๆ ร่างนั้นหยุดชะงัก หลังจากได้ยินเสียงของหลี่เช่าเทียนเขาก็ถอยกลับอย่างเคารพ
“พวกนายตามมาข้างหลังฉัน ปกป้องผู้อาวุโสสองท่านนี้ ฉันจะไปดูคนเดียว”หลีเช่าเทียนเอ่ยเรียบ ๆ พลางมองไปที่ชายชราสองคนที่เดินตามมาพร้อมกับแสดงความเคารพและรอยยิ้มที่อ่อนโยน “ทั้งสองท่าน หากเบื่อก็สามารถเดินเล่นรอบ ๆ ได้นะครับ””
ชายชราหนึ่งในนั้นส่ายหัว พูดขึ้น “เรามาที่นี่ตามคำเชิญของท่านหลีหง เพื่อช่วยให้คุณขึ้นมาที่นี่ เพื่อสร้างชื่อเสียงให้กับเยี่ยนจิง สุดยอดดาบสามเล่มเป็นยอดที่ดีที่สุดแล้ว ได้ตามจำนวนมาแล้ว ที่นี่ก็ไม่มีอะไรน่าสนใจอีก พูดถึงการพนันหิน คุณภาพของหินหยกธรรมชาติที่นี่ก็ต่ำเกินไป เว้นแต่สุดยอดดาบสามเล่มนั้นที่น่าสนใจอยู่บ้าง”
หลังจากนั้นชายชราอีกคนหนึ่งตอบว่า “ใช่แล้ว สุดยอดดาบสามเล่มรวบรวมแก่นแท้ของการประชุมพนันไว้แล้ว มีเพียงสุดยอดดาบสามเล่มเท่านั้นที่มีคุณสมบัติพอจะแข่งขัน ขยะพวกนี้ไม่อยู่ในสายตาของเรา”
หลีเช่าเทียนพยักหน้า “งั้นทั้งสองท่านรอผมสักครู่ เดี๋ยวผมจะกลับมา”
หลังจากที่หลี่เช่าเทียนเข้าใกล้ฝูงชน เขาก็เห็นจางเป่าเฉิงเผชิญหน้ากับเฉินเป่ยในพริบตาเดียว
หลังจากได้ยินคำพูดของจางเป่าเฉิง เขาก็อึ้งไปเล็กน้อย ก่อนมุมปากจะยกขึ้น แววตาที่มองเฉินเป่ยก็ล้ำลึกขึ้นเรื่อย ๆ
อากาศนิ่งสงบ เฉินเป่ยจ้องมองจางเป่าเฉิง ส่ายหน้าอย่างช้า ๆ แฝงคำประชดประชันในคำพูดเย็นชา “นี่เป็นความลับของผม ทำไมต้องบอกคุณด้วย?”
จางเป่าเฉิงอ้าปาก แต่สุดท้ายก็ไม่ได้เอ่ยอะไรออกใส เขาในตอนนี้ ไม่มีแรงบันดาลใจอีกต่อไป แต่ดูเหมือนคนแก่ที่หลงทางมากกว่า
และในตอนนั้นเอง ทันใดนั้นก็เกิดความปั่นป่วนด้านนอกฝูงชน!