สายเปย์เบอร์หนึ่ง - ตอนที่ 407
บทที่407 หยอกเย้า!
ร่างกายของหลีชิงเยียนสั่นเทาไม่หยุด ก่อนหน้านี้เธอพยายามดิ้นรนสุดชีวิต แต่เดิมทีไร้ประโยชน์ จนกระทั่งสุดท้าย ในที่สุดเธอจึงเลิกดิ้นรนแล้ว ในดวงตามีความหมายหมดหวังแวบผ่าน
และหลีชิงเยียนที่เหมือนแกะน้อยกำลังจะโดนฆ่า ทำให้เต๋อกุลายิ่งเพิ่มความฮึกเหิม เขากดหลีชิงเยียนไว้บนโต๊ะ ตามองเห็นผิวพรรณขาวดุจหิมะที่บอบบางของหลีชิงเยียนจะฉีกขาด เขี้ยวแหลมคมนั้นดูดเลือดที่หวานหอมนั้นอย่างละโมบ…
ดวงตาเต๋อกุลาเปล่งประกายแสงรุ่งโรจน์ที่เร่าร้อนอยู่ ภายในร่างกายของเขาเหมือนมีสัญชาตญาณอย่างหนึ่งฟื้นขึ้นแล้ว กระตุ้นความปรารถนาของเขาต่อเลือด ทำให้ในลำคอของเขาส่งเสียงคำรามที่อัดอั้นอย่างกับสัตว์ป่าออกมา
ร่างกายของเต๋อกุลาสั่นเทาอย่างแรง ในแววตาของเขาเปล่งประกายความหมายที่ตื่นเต้น หัวเซี่ยไม่ได้สับสนวุ่นวายเหมือนที่ต่างประเทศ ช่วงเวลาที่เขาเข้ามาหัวเซี่ย จึงมีระยะหนึ่งที่ไม่ได้เคยดื่มด่ำเลือดสดที่หอมหวาน แต่ตอนนี้ หลีชิงเยียนจัดว่าเป็นอาหารมื้อใหญ่ที่มาส่งให้ถึงหน้าประตูเลย
ในที่สุดหลีชิงเยียนก็หลับตาลงอย่างหมดหวัง จากในดวงตางดงามของเธอ น้ำตาที่ระยิบระยับหยดหนึ่งไหลลงจากหางตาแบบช่วยไม่ได้…….
“ปึง!”
และในเวลานี้ เกิดความผิดปกติขึ้นทันใด
มีเสียงหนึ่งดังขึ้นมา ประตูห้องของหลีชิงเยียนถูกถีบออกเสียงดังด้วยแรงมหาศาล
ตามองเห็นว่าเขี้ยวแหลมคมของเต๋อกุลากำลังจะฉีกผิวพรรณขาวดุจหิมะของหลีชิงเยียนขาดแล้ว ชั่วขณะนั้นมีเสียงหนึ่งดังขึ้นมา จากนั้นจึงหยุดลงมา
การกระทำของเต๋อกุลาหยุดชะงัก พอหันหน้า แวบหนึ่งก็มองเห็นภาพคนรูปทรงสวยงามยืนอยู่ที่หน้าประตู
รูปร่างของภาพคนนั้นสมบูรณ์แบบ ราวกับเสือชีตาร์ เต็มไปด้วยพลังที่น่าตกใจ ดวงตาหล่อนมองเต๋อกุลาอยู่ ในแววตาเปล่งประกายความหนาวเหน็บ
“ปล่อยหล่อนออก!”
ซูเหลยตะโกนบอก
“วอนหาที่ตาย!” เต๋อกุลาพึมพำอย่างเย็นชา ในแววตาเผยความหมายเหยียดหยาม เขาสะบัดมือตามชอบใจ หลีชิงเยียนจึงชนบนผนังอย่างแรง ราวกับรถไฟความเร็วสูง
“ตึง!”
หลีชิงเยียนล้มลงที่พื้น ผมยาวที่ยุ่งเหยิงกระจายสยายลง ใบหน้าที่สวยหยาดเยิ้มยังอึ้งค้างอยู่ในสภาพที่ตระหนกตกใจแบบก่อนหน้านี้อยู่
เธอปีนขึ้นมาด้วยความตื่นตระหนก ขดอยู่ที่มุมผนังห้อง มองเห็นซูเหลยที่ปรากฏตัวอยู่หน้าประตู ดวงตาเบิกโตมาก ท่าทางอย่างกับเจอผู้ที่ช่วยชีวิตเข้าให้
เต๋อกุลาก้าวใหญ่ๆ เดินไปทางซูเหลย เขาแลบลิ้นออกมา เลียๆ ริมฝีปากแดงสดดุจเลือดของตนเอง มองทางซูเหลย ภายในแววตามีความโหดเหี้ยมที่หนาวเหน็บแวบผ่าน
“งั้นจะลองชิมก่อนว่าเลือดของเธอรสชาติเป็นยังไง” เต๋อกุลาพูดกับตนเอง ก้าวเท้าออกมา ชั่วขณะหนึ่งสีหน้าของซูเหลยเปลี่ยนไป มีพลังน่าเกรงขามมหาศาลปล่อยออกมาจากบนตัวของเต๋อกุลา ปกคลุมมาทางซูเหลยอย่างกับภูเขาจะพังครืนลงและน้ำทะเลจะไหลทะลักเข้ามา
ซูเหลยยืนอยู่ที่เดิม ทำเสียงอึดอัดออกมา ท่าทางโงนเงน เกือบจะยืนไม่ไหว
และเวลานี้เต๋อกุลาได้ปรากฏตัวตรงหน้าของซูเหลยแล้ว
เต๋อกุลากุมหมัดแน่น หมัดที่เหมือนกระสอบทรายลูกใหญ่สองอันแฝงด้วยพลังสยองขวัญ โจมตีไปทางด้านหน้าของซูเหลยอย่างแรง
ถึงแม้มองขึ้นมาเต๋อกุลาจะหน้าตาซีดขาว แต่พลังของเขาช่างมากเหลือเกิน ถือโอกาสทำให้ซูเหลยขยับไม่ได้ พลังแบบนี้ ถ้าโจมตีมาที่ใบหน้าของซูเหลย ยังไม่กล้าจินตนาการผลลัพธ์อย่างยิ่ง
สีหน้าของซูเหลยฝืดค้าง ทันใดนั้นร่างกายหล่อนเอียงอย่างผิดปกติ หลบหลีกหมัดคู่นั้นของเต๋อกุลาได้พอดี
“ประธานหลี รีบออกไปจากที่นี่เร็ว!”
ซูเหลยตอบสนองเข้ามา ตะโกนบอกเสียงดุ
ส่วนซูเหลยพยายามจะปีนขึ้นมา แต่ในเวลานี้หลีชิงเยียนกลับพบเข้าด้วยความตกใจ ขาทั้งของเธออ่อนยวบ เดิมทีลุกไม่ขึ้น
“หัวเซี่ย ยังเหมือนเมื่อก่อนอยู่เลย ทุกที่ต่างมีแต่สัตว์เลือด” เต๋อกุลาค่อยๆ เอ่ยปาก ในแววตามีความเย็นชาและการดูถูกเต็มที่
ดวงตาของซูเหลยเป็นประกาย หล่อนดึงมีดเล่มหนึ่งออกมาจากด้านข้างต้นขาอย่างคาดไม่ถึง แทงไปทางเต๋อกุลาอย่างรุนแรง
“ฝีมือพวกกระจอก!”
บนหน้าของเต๋อกุลามีการเยาะเย้ยปรากฏขึ้นฉับพลัน ร่างกายของเขาถอยไปด้านหลังอย่างประหลาด…ซูเหลยแทงไปติดๆ แต่พบเพียงความว่างเปล่าครั้งแล้วครั้งเล่า
ซูเหลยจิตใจสั่นเทาอย่างบ้าคลั่ง ความเร็วของเต๋อกุลาไวดุจสายฟ้าแลบ แม้กระทั่งทำให้หล่อนสามารถมองเห็นภาพวืดที่เหลือไว้กลางอากาศได้
“ฉันบอกแล้ว สัตว์เลือดอย่างพวกเธอหนีไม่รอดสักคนเดียว!” เต๋อกุลายิ้มพูดอย่างชั่วร้าย “ไม่ว่าพวกเธอจะมีความเกี่ยวข้องอะไรกับเจ้าผู้ชายคนนั้น พวกเธอต้องตายทั้งหมด!”
“แกอย่าคิดว่าจะทำสำเร็จ!” ซูเหลยกัดฟัน จากในแววตาของหล่อนเผยความแน่วแน่ที่ยากจะจินตนาการออกมา
เต๋อกุลาเกินกว่าการรับรู้ของหลีชิงเยียนไปอีก แต่ซูเหลยเดิมคือคนในทีมรบพิเศษ เคยเจอเรื่องแปลกประหลาดมามากมาย เมื่อเผชิญหน้ากับความสามารถสยองขวัญของเต๋อกุลา ยังสามารถยืนหยัดอย่างลำบากเช่นนี้ได้อยู่
“คนทั่วไปสามารถหลบหมัดหนึ่งของฉันได้ ตายไปก็ไม่มีอะไรน่าเสียดายแล้ว” เสียงของเต๋อกุลาหนาวเย็นเมินเฉย ในลูกตาของเขามีสีเลือดกำลังสูบฉีดไม่ขาดสาย
และจากกลิ่นอายที่ส่งออกมาจากบนตัวของเต๋อกุลา ยิ่งน่าสยดสยอง กำลังปีนขึ้นมาไม่หยุด
ทันใดนั้น เต๋อกุลาก้าวเท้าออกมา พื้นที่ใต้เท้าค่อยๆ เริ่มร้าวบิดเบี้ยว รูปร่างทั้งตัวของเต๋อกุลาเหมือนสูงใหญ่ไม่น้อย ครั้งนี้ ซูเหลยกับหลีชิงเยียนยังมองไม่เห็นแม้แต่ภาพวืด ความรวดเร็วของเต๋อกุลาไวถึงขั้นที่ภาพวืดยังไม่ทันปรากฏขึ้นมาเลย
ทั้งที่ซูเหลยมองเห็นเต๋อกุลายืนอยู่ที่เดิม ไม่มีการเคลื่อนไหวใดๆ แวบต่อมาเต๋อกุลาอีกคนหนึ่งก็ปรากฏตัวอยู่ตรงหน้าของหล่อนแล้ว ปล่อยหมัดหนึ่งโจมตีที่หน้าอกของซูเหลย
“ปึง!”
เสียหนึ่งดังกระหึ่ม ทั้งตัวของซูเหลยลอยกระเด็นออกไป ชั่วพริบตาเดียวลอยออกไปจากในห้องแล้ว
“ซูเหลย! อย่า!”
มือทั้งคู่ของหลีชิงเยียนกอดเข่าไว้ เธอที่ใส่เพียงชุดนอนตัวหนึ่ง และยังโดนเต๋อกุลาฉีกขาดไปไม่น้อยด้วย เวลานี้เผยผิวพรรณขาวดุจหิมะที่ทำให้คนใจเต้นอย่างแรงออกมาเยอะเลย บวกกับเวลานี้ท่าทางที่หมดหวังไร้หนทางของเธอยิ่งดูน่าสงสารอย่างชัดเจน ไม่ว่าผู้ชายคนไหนล้วนทนไม่ไหวเกิดความเห็นใจนิดๆ ออกมา
ส่วนตอนที่มองเห็นซูเหลยลอยออกไปราวกับลูกกระสุนปืนใหญ่ที่ยิงออก หัวใจของหลีชิงเยียนกังวลขึ้นมาในทันใด
“ตึง!”
ซูเหลยนอนคว่ำลงบนพื้น พ่นเลือดสดออกมาทีหนึ่ง ปีนขึ้นมาอย่างกระเซอะกระเซิง
แต่ซูเหลยพึ่งปีนขึ้นมา แวบหนึ่ง เต๋อกุลาก็ปรากฏตัวอยู่ตรงหน้าของซูเหลยอีกครั้งหนึ่ง
เต๋อกุลายกร่างกายของซูเหลยขึ้น สูงกว่ายอดศีรษะ สุดท้ายตะโกนอย่างเย็นชาอีกทีหนึ่ง ทุ่มซูเหลยไปบนพื้นอย่างแรง
“เฮือก!”
ซูเหลยกระอักเลือดออกมาชั่วขณะนั้นสีหน้าซีดเซียวหมองหม่นไม่น้อย
เต๋อกุลามองซูเหลยที่ล้มอยู่บนพื้น เขาก้มหน้าจ้องมองอย่างอยู่สูงกว่ามวลชน สีหน้าเต็มไปด้วยความหมายเหยียดหยาม
“ร่างกายนี้ของเธอก็ไม่เลวดี ต้านทานได้ถึงตอนนี้ยังไม่ตาย ถือว่าดวงแข็งเหมือนกัน”
เต๋อกุลาย่อมไม่รู้เป็นธรรมดาว่าร่างกายของซูเหลยสามารถต้านทานมาได้เช่นนี้ ไม่เพียงเป็นเพราะความยืดหยุ่นของหล่อนดีมาก พลังส่วนหนึ่งสลายไปแล้ว แต่เป็นเพราะหลังจากครั้งก่อนที่ซูเหลยบาดเจ็บหนัก ยาสีม่วงหลอดนั้น ทำให้ร่างกายของซูเหลยเกิดการเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่ขึ้นแล้ว