สายเปย์เบอร์หนึ่ง - ตอนที่ 444
แต่บางเรื่องเราก็ไม่มีไฟล์แล้วเหมือนกัน
บทที่444 การแข่งขันเริ่มต้น!
“ไม่ต้องการโควตาผู้แข่งขัน?” ปี้หย่วนตะลึง เขานึกไม่ถึงโดยสิ้นเชิงว่าเฉินเป่ยไม่อยากได้โควตาผู้เข้าแข่งขัน
งั้นเขาวิ่งมาทำอะไรกัน?
ในใจปี้หย่วนมึนงง แต่เฉินเป่ยราวกับมองความสงสัยที่อยู่ในใจปี้หย่วนออกภายในแวบเดียว จึงบอกขึ้นมาโดยตรง “ที่ฉันต้องการไม่ใช่โควตาผู้แข่งขัน”
“งั้นคุณต้องการ…..” ปี้หย่วนเอ่ยปากอย่างสงสัย เขายังพูดไม่ทันจบ คำพูดครึ่งประโยคที่เหลือก็กลืนกลับไปดื้อๆ
สายตาที่เขามองทางเฉินเป่ยชั่วขณะนั้นเปลี่ยนไป ตกตะลึงลนลานขึ้นมา
ผ่านไปสักพักหนึ่ง เขาถึงเอ่ยปากถามด้วยความระมัดระวัง “เป็นโควตาของกรรมการเหรอครับ?”
เฉินเป่ยไม่ได้พูดตอบ เพียงแค่พยักหน้าเงียบๆ
ปี้หย่วนสีหน้าฝืดแข็ง รีบหัวเราะกระอักกระอ่วน พูดอธิบาย “ไม่ใช่ว่าผมไม่อยากให้นะครับ เพียงแต่โควตากรรมการไม่ใช่ผมกำหนดคนเดียว ใจผมอยากช่วยแต่ความสามารถไม่พอน่ะสิครับ”
ไม่นานปี้หย่วนก็อธิบายอีก บอกว่ากรรมการของการแข่งขันสำคัญมาก และไม่ใช่เขาคนเดียวที่กำหนดได้ เขาช่วยเฉินเป่ยไม่ได้
“งั้นให้โอกาสเลือกกับนายอีกครั้ง ช่วยหรือไม่ช่วย” เฉินเป่ยขี้เกียจฟังคำพูดพวกนี้ของปี้หย่วน ถามอีกครั้งด้วยความเกียจคร้าน
“เรื่องนี้ผมช่วยคุณไม่ได้จริงๆ…” ปี้หย่วนยังพูดไม่จบ ทันใดนั้น เสียง”ปึง”ของกาน้ำชาใบนั้นแตกกระจายทันใด เศษของกาน้ำชาสีม่วงมากมายแตกละเอียดไปทั่ว
“กึกๆๆ!”
ที่ว่างกลางอากาศบิดเบี้ยวสั่นสะท้าน เศษของกาน้ำชาแต่ละชิ้นนั้น พลังสยองขวัญราวกับลูกกระสุน ปี้หย่วนหนังศีรษะชา เมื่อสักครู่นี้ มีเศษกาน้ำชาหลายชิ้นเกือบจะแนบถูผ่านหนังศีรษะของเขา แทบจะปอกหนังศีรษะของปี้หย่วนหลุดไปผืนใหญ่
น้ำชาสาดกระเซ็น สาดไปบนตัวปี้หย่วน ทำให้ทั้งตัวปี้หย่วนเปียกเหมือนลูกหมาตกน้ำ
“เฮ้อ!” ปี้หย่วนพ่นลมหายใจยาวๆ ทีหนึ่ง เขาในเวลานี้ ดูขึ้นมากระเซอะกระเซิงแค่ไหน ก็ดูกระเซอะกระเซิงแค่นั้น
“อย่าขยับ ขอเพียงนายขยับสักนิดเดียว ชีวิตของนายคงจะไม่รอด”
ทันใดนั้น เสียงที่เย็นชาลอยเข้าในหูของปี้หย่วน
ปี้หย่วนสั่นไปทั่วตัว จากนั้นเขายิ่งรู้สึกถึงความเย็นเสียดกระดูกที่มาจากลำคอทำให้เย็นยะเยือกพูดลำบาก ทำให้เขารู้สึกเหมือนตกลงไปในหลุมน้ำแข็ง
ปี้หย่วนหนังศีรษะชา เขาค่อยๆ ก้มหน้าลง ถึงได้มองเห็นมีดเล่มหนึ่งที่เฉินเป่ยถือไว้ กำลังจ่อที่ลำคอของเขา
มีดเล่มนี้เย็นเฉียบเสียดกระดูก ตอนที่ปี้หย่วนสัมผัสกับเขาที่มีผิวหนังกล้ามเนื้อ ยิ่งเป็นความรู้สึกซาบซึ้งตื้นตันใจ
ปลายแหลมของมีดหลงหยาจี้ไปที่ลำคอของปี้หย่วน ปรากฏรอยเลือดจางๆ ขึ้นแถวหนึ่ง ทำให้ปี้หย่วนเย็นยะเยือกไปทั้งตัว รู้สึกถึงแรงอาฆาตหนาวเย็นมหาศาลที่ลอยมาจากปลายมีดที่แหลมคมเล่มนั้น ทำให้เขารู้สึกขนลุกขนพองแล้ว
ปี้หย่วนหันหน้า มองทางเฉินเป่ย เขาสั่นเทาไปทั้งตัว เพราะเขาพบเข้าอย่างตกใจ การกระทำของเฉินเป่ยไวเหลือเกิน เดิมทีเขาไม่มีทางคาดเดาได้
ความเร็วของเฉินเป่ยเร็วถึงขั้นทำให้ปี้หย่วนหนังศีรษะชา เกือบจะเป็นเพียงเรื่องชั่วพริบตาเดียว เฉินเป่ยก็นำมีดมาจ่อบนคอของเขาเรียบร้อย
ปี้หย่วนหวาดผวา ผู้ชายตรงหน้าคนนี้ ความสามารถแกร่งจนทำให้คนคนเดือดดาล เขาคาดไม่ถึงโดยสิ้นเชิง ตำนานของวงการพนันเพชรพลอยคนหนึ่ง จะมีความสามารถสยองขวัญเช่นนี้
“ตอนนี้เพิ่มโควตาเข้าได้หรือยัง?” เสียงที่หนาวเย็นของเฉินเป่ยประหนึ่งลอยมาจากเหวลึก ทำให้ปี้หย่วนสั่นเทาไปหมด
ปี้หย่วนรีบร้อนพยักหน้าไม่เลิก เขาไม่ลังเลสักนิดเดียว ถ้าตนเองไม่ทำให้ข้อเรียกร้องของชายหนุ่มคนนี้เป็นจริง เขาจะปาดคอของตนเองทันทีหรือเปล่า
“ถ้าก่อนที่ฉันเดินออกจากห้องทำงานแห่งนี้ยังไม่ได้เพิ่มโควตาเข้าไป หลังฉันเดินออกไป ที่นี่จะเหลือเพียงศพเดียวเอาไว้ ฉันไม่มีความอดทนมากเสียด้วย……” เฉินเป่ยบอกเรียบๆ น้ำเสียงของเขาไม่มีอารมณ์หวั่นไหวใดๆ สักนิด ทว่าดุจเสียงของปีศาจร้าย ทำให้ปี้หย่วนสั่นเทิ้มสุดๆ พยักหน้าไปแบบสั่นไม่หยุด
“ซู่!”
ของแข็งกับเหล็กที่เสียดสีดังวังวานขึ้นมา ทันใดนั้นมีดหลงหยากลับเข้าฝัก ปี้หย่วนรู้สึกถึงปลายมีดเย็นเฉียบที่กดบนลำคอของตนเองหายไปโดยฉับพลัน
ส่วนเฉินเป่ยไม่รู้ว่ากลับไปยังที่นั่งตั้งแต่เมื่อไร ภายใต้ผ้าคลุมหน้าสีดำมีดวงตาคู่นั้นออกมา เผยความหนาวเหน็บลุ่มลึกแบบไร้ขอบเขต
เขามองปี้หย่วนอยู่แบบนี้ ทำให้ปี้หย่วนไม่กล้าชักช้าแม้แต่น้อย หลังรีบร้อนเทน้ำให้เฉินเป่ยแก้วหนึ่ง หยิบโทรศัพท์ที่วางอยู่บนโต๊ะขึ้น ต่อสายไปที่หมายเลขหนึ่ง ตะคอกขึ้นมาด้วยเสียงดุ “ตอนนี้ฉันอยากเพิ่มโควตาหนึ่งเข้าไป ฉันไม่สนว่าเธอจะใช้วิธีอะไร ยังไงก็บอกรองหัวหน้าพวกนั้นไป นี่คือการตัดสินใจของฉัน ห้ามพวกเขาก้าวก่าย ตอนนี้รีบไปเรียกคนให้ไปเพิ่มโต๊ะเก้าอี้ของกรรมการ!”
ปี้หย่วนตะคอกเสร็จ ตัดสายไปแล้ว และหันหน้ามา กลั้นความกระสับกระส่ายไม่สงบในใจไว้ ฝืนฉีกรอยยิ้มออกนิดๆ ให้เฉินเป่ย หลังเห็นเฉินเป่ยจ้องตนเองด้วยดวงตาที่เย็นเฉียบคู่นั้น รีบก้มหน้าลงทันที ในใจแอบภาวนา ให้รองหัวหน้าสมาคมพวกนั้นอย่าทำเรื่องโง่ๆ ถ้าพวกเขาไม่เห็นด้วยกันขึ้นมา งั้นชีวิตของตนเอง เกรงว่าคงไม่เหลือแล้ว
ตามเวลาที่เคลื่อนไป เฉินเป่ยค่อยๆ รอจนทนไม่ไหว วินาทีที่เฉินเป่ยลุกขึ้นยืนนั้น ทั้งตัวของปี้หย่วนสั่นเทาทันทีเพราะความหวาดกลัว
ในใจของปี้หย่วนเต้นแรงตุบๆ อัตราการเต้นของหัวใจเพิ่มขึ้น แม้กระทั่งในใจเกิดความรู้สึกวิกฤติถึงชีวิตขึ้นด้วย
เฉินเป่ยเดินไปยังปี้หย่วนทีละก้าว ปี้หย่วนกลืนน้ำลายอึกใหญ่ สายตาที่มองทางเฉินเป่ยเผยความหวาดผวาออกมา
เฉินเป่ยสีหน้าหนาวเหน็บ ตอนที่เขาเดินมาถึงตรงหน้าปี้หย่วน ทันใดนั้น โทรศัพท์ที่วางบนโต๊ะทำงานนั้นดังขึ้นกะทันหัน เสียงกริ่งโทรศัพท์ที่เร่งด่วนทำให้ฝีเท้าเฉินเป่ยชะงัก
และปี้หย่วนหยิบขึ้นแบบกระวีกระวาดอย่างกับคว้าฟางชีวิตเส้นหนึ่งไว้ กดปุ่มเปิดลำโพงทันใด “มีอะไรรีบพูดมา อย่าไร้สาระ!”
รับโทรศัพท์สายนี้ขึ้น ทั้งหัวใจของปี้หย่วนดันขึ้นมาถึงคอหอย ประหม่าเหลือเกิน
“หัวหน้าสมาคมคะ รองหัวหน้าสมาคมหลายท่านเห็นด้วยค่ะ พวกเขาบอกว่าอีกสักพักคุณไปบอกเหตุผลกับพวกเขาสักหน่อยก็ได้แล้วค่ะ” ในสายโทรศัพท์อีกทาง มีเสียงผู้หญิงอ่อนหวานลอยมา กลับทำให้ทั้งตัวปี้หย่วนผ่อนคลายลง เหมือนยกภูเขาออกจากอก
“ฉันรู้แล้ว” ปี้หย่วนวางสายโทรศัพท์ มองทางเฉินเป่ย ยิ้มพูดแบบเอาใจ “ทุกอย่างจัดการเรียบร้อยแล้วครับ ท่านรีบไปเถอะครับ เวลานี้เดาว่ากรรมการกับทั้งงานกำลังรอท่านอยู่แล้ว”
ห
ปี้หย่วนพูดเร่งด้วยความหวังดี ทำให้เฉินเป่ยมองเขาอย่างมีเลศนัยแวบหนึ่ง ถามขึ้นทันใด “ก่อนหน้านี้ที่เอาโควตาสุดยอดดาบสามเล่มมาให้ฉัน เป็นความคิดของใคร?”
ปี้หย่วนตะลึง จากนั้นในสมองปรากฏบุคคลลึกลับท่านนั้นขึ้น คำสั่งของผู้นำเมืองแห่งนี้ ส่ายๆ หน้า “ผมไม่เข้าใจว่าท่านกำลังพูดอะไรครับ?”
ปี้หย่วนย่อมไม่บอกเฉินเป่ยเป็นธรรมดา แม้ว่าเขาต้องเสี่ยงอันตรายถึงชีวิต เพราะเทียบกับเฉินเป่ยที่ฆ่าคนไม่กะพริบตา และท่วงท่าน่ากลัวเช่นปีศาจร้ายนี้ จิงแทบจะไม่สามารถเห็นเป็นมนุษย์ได้เลย
ในสายตาของปี้หย่วนและผู้คนมากมาย จิงเหมือนรู้ไปหมดทุกอย่าง สิ่งใดๆ เดิมทีปิดบังเขาไม่ได้
ต่อให้ปี้หย่วนต้องตาย ก็ไม่ยอมผิดใจจิง นั่นเป็นการประสบหายนะขั้นสุดโดยแท้
เฉินเป่ยมองปี้หย่วนแบบแฝงด้วยความหมายลึกซึ้งแวบหนึ่ง หาได้น้อยมากที่ไม่ได้ถามอะไรอีกต่อไป หลังเฉินเป่ยบรรลุเป้าหมายของเขา จึงค่อยๆ หมุนตัวออกไปอย่างสง่างาม
ปี้หย่วนฝืนกลั้นเดินไปถึงหน้าประตูห้องทำงาน หลังมองส่งภาพเงาของเฉินเป่ยเดินออกไปไกล เขาถึงถอนหายใจยาวๆ ทั้งที่ในใจมีความหวาดกลัวอย่างหนึ่ง ทั้งร่างกายชั่วขณะนั้นอ่อนยวบหมดแรงลงกองที่พื้น
หลังเฉินเป่ยจากไป ปี้หย่วนหายใจแรงเฮือกใหญ่ ในใจยังมีความหวาดผวามองไปยังทิศทางที่เฉินเป่ยออกไป ในใจยากจะสงบลง
รอให้ปี้หย่วนฟื้นกำลังกลับมา กลับมาที่ห้องทำงาน ต่อสายโทรศัพท์ไปอีกครั้งหนึ่ง
“หัวหน้าสมาคม มีอะไรอยากสั่งหรือเปล่าคะ?” ในสายนั้น เสียงผู้หญิงอ่อนหวานลอยมาอีกครั้ง
“จ้องกรรมการที่ใส่ชุดดำในคณะกรรมการคนนั้นไว้ มีอะไรแปลกๆ ให้บอกฉันทันที” ปี้หย่วนพูดกำชับ